[CR] หัวใจโดนเท "ไทเป" คือจุดหมาย ไปแบบไม่ต้องวางแผนอะไรเยอะ เพราะเป้าหมายคืองานเกย์ไพร์ด!

สวัสดีครับ  

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมที่ตั้งขึ้น  ผมเคยตั้งใจว่าจะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์การท่องเที่ยวอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักที
อีกอย่างผมเองก็ไม่ได้ถนัดงานเขียนประเภทแนวนี้สักเท่าไร  หากให้พูดตามตรงคือ "ผมเป็นคนที่ไม่ละเอียด"  
การที่จะผมรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวแบบจริงจัง  ประเภทแบบใครมาอ่านกระทู้เราแล้วจะสามารถเดินทางได้นั้น  ผมคงทำไม่ได้แน่ๆ

กระทู้นี้ขอเป็นกระทู้ที่มาแบ่งปันบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ของการท่องเที่ยวของผมก็แล้วกัน
จุดหมายปลายทางของผม คือ "ไต้หวัน"  และเมืองเดียวที่ผมใช้ชีวิตอยู่คือ "ไทเป"  โดยผมจะไม่ออกไปท่องเที่ยวนอกเมือง
อันที่จริงสำหรับผมจะเรียกว่าไปท่องเที่ยวก็คงไม่ถูกนัก  แต่หากการท่องเที่ยวคือการพักผ่อน  นั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวก็ได้

ดังนั้นกระทู้นี้จึงไม่ใช่กระทู้รีวิวแบบครบถ้วนนัก  และอาจมีเนื้อหาบางส่วนที่เป็น 18+ รวมถึงไม่เหมาะสำหรับคนที่มีทัศนคติจำกัดเรื่องเพศ


-เขาช้าง  เป็นภูเขาที่จะสามารถมองเห็นไทเปและตึก 101 ได้ชัด  คืออันที่จริงผมไม่รู้หรอกว่าจะเอาภาพอะไรสวยๆ มาล่อให้คนเข้ามาอ่านกระทู้  แต่ผมเห็นว่าช่วงแรกของกระทู้  ข้อความเกริ่นของผมนั้นเต็มไปด้วยข้อความที่ยืดยาว  เลยเอาภาพมาคั้นเก๋ๆ ครับ-

อันที่จริงผมใฝ่ฝันที่จะไปไต้หวันมานานแล้ว  สาเหตุหลักที่ผมไปไต้หวันคือ "ผู้ชาย"
เพราะผมเคยอ่านผลสำรวจที่ผ่านตามาว่า  ผู้ชายไต้หวันหล่อและหน้าตาดี  ถือเป็นลำดับต้นๆ ของโลก
นั้นแหละคือเป้าหมายหลัก  อันที่จริงผมก็รู้จัก "ไต้หวัน"  มาก่อนบ้างนิดนึง  จากเรื่องราวของผู้ชายที่ผมรู้จักเพียงชั่วข้ามคืน
หลังจากคืนนั้นผมก็มีการติดต่อกันบ้างผ่าน Mail ซึ่งเรื่องราวในอดีตนี้ผ่านมาเกือบ 8 ปีแล้ว  แต่ผมก็ยังจดจำชื่อและหน้าตาเขาได้จนทุกวันนี่

เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป  เรามาเริ่มต้นใหม่กับการเดินทางไต้หวันครั้งนี้ดีกว่า
การเดินทางของผมก็ตามชื่อกระทู้เลยครับ  หัวใจโดนเท "ไทเป" คือจุดหมาย  
ผมพึ่ง "โดนเท" จากคนรักเก่า  ผมไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าคนรักได้หรือเปล่า เพราะเราเคยเป็นแฟนกัน แต่ 4 ปีต่อมาก็ลดฐานะเป็นพี่น้อง
จนเรื่องราวมาพีคตอนที่เขาต้องมีครอบครัวคือแต่งงาน ด้วยสถานะทางสังคมและสภาพแวดล้อม  
แต่ผมก็เคารพในการตัดสินใจของเขา  ผมก็ได้บอกกับตนเองว่า  "ไม่เป็นไร!  เราโอเค  เราอยู่ได้"

ในเบื้องต้นผมเริ่มค้นหาข้อมูลว่าจะไปไต้หวันช่วงไหนดี  ซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่า เป็นช่วง 27 ต.ค. - 1 พ.ย. 2559
เพราะช่วงนี้ที่ไต้หวัน  ที่เมืองไทเปจะมีงานเดินขบวนพาเรดเกย์ไพร์ด ในวันที่ 29 ต.ค. 2559
พูดเลยครับว่า  ตั้งใจว่าจะไปส่องผู้ชาย เกย์ และเก้งไต้หวัน
ผมก็เริ่มจองตั๋วเครื่องบิน  โดยได้จองตั๋วในช่วงประมาณปลายเดือนกันยายน  
ผมเลือกสายการบินไทย เพราะบินตรง  ไม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่อง  แล้วก็รวมค่าโหลดกระเป๋าและอาหารพร้อม  ราคาอยู่ประมาณ 10,000 บาท
พอได้ตั๋วเดินทางเรียบร้อยแล้ว  ผมก็เว้นไปสัก 2 สัปดาห์ให้พอได้มีลมหายใจในการหมุนเงิน  และมีเงินพอที่จะเตรียมค่าที่พัก  รวมถึงเงินสำหรับใช้ในไทเป
ผมเลือกที่พักที่เป็นประเภท ดอร์ม  คือใน 1 ห้อง นอนรวมกัน 8 คน  
เพราะผมไปคนเดียวมันจึงค่อนข้างที่จะสะดวกมาก อีกอย่างราคาไม่แพงมาก
และสาเหตุหนึ่งเวลาที่ผมไปต่างประเทศชอบนอนดอร์ม ก็เพราะว่ามันรู้สึกไม่เหงาดี  
อีกทั้งบางทีเราก็ได้เพื่อนชาวต่างชาติเพิ่ม  ได้พูดคุยได้แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน  ผมว่ามันจึงเป็นอะไรที่มีเสน่ห์มาก  
ราคาที่พักประเภทดอร์มในไทเป  ราคาก็ไม่แพงมาก  มีตั้งแต่ 300 บาท ไปจนถึงราคาประมาณ 700 บาท  
ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งที่ตั้ง  สภาพความเก่า-ใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวก  
ข้อมูลเรื่องที่พักในไทเปค่อนข้างค้นหาได้ง่าย  ตามเว็บนายหน้าต่างๆ หรือแม้จะทั้งในพันทิปเอง
ส่วนผมก็เลือกที่พักใกล้กับย่าน Ximending และใกล้กับสวนสาธารณะ 2/28 peace park
โดยผมสามารถที่จะเดินไปสถานีใต้ดินที่สถานี Ximen หรือสายน้ำเงิน  และสถานี  NTU  hospital หรือสายสีแดง (ซึ่งใกล้กับที่พัก)

พอสัปดาห์ก่อนเดิน 1 สัปดาห์ ผมก็จัดแจ้งกับเรื่องลาพักผ่อน  เพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบของที่ทำงาน
จนวันที่ 27 เป็นวันเดินทาง  ก็เดินทางไปสนามบิน  และผมแวะแลกเงินที่สถานี  BTS พญาไท เอาติดตัวไป 7,000 $ NT พร้อมกับบัตรเครดิตเพื่อสำรอง
เครื่องบินออกตอน 17.40  โดยผมต้องไปขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ช่วงระหว่างรอเครื่องออกทัก Line ไปบอกเพื่อนว่า (ซึ่งต่อไปนี้คือบทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อน)
A (ผม) :  ! กูจะไปไต้หวันน่ะ
B (เพื่อน) : ไปเมื่อไหร่  ไปด้วย
A : วันนี้ ตอนนี้กูอยู่สนามบิน (พร้อมส่งรูปตั๋วเครื่องบินให้ดู)
B : ดอก!  สวยไปอีก
B : แล้วเข้าป่าป่ะ  แบบ In to the wood คือไปไต้หวันต้องมีซีนนี้น่ะ
A : เข้าสิ  เข้าป่าเดียวกัน  กูเข้าแน่ๆ
B : ไปเปิดตลาดที่โน้นช่ายมั้ย
A : ช่ายแล้ว  กูไปล่าผู้(ชาย)ที่โน้น 555
B : ขอให้ได้ขอให้โดน  
A : สาธุ
B : Big bird เหมานกกลับเหมือนตอนญี่ปุ่นน่ะคะ
A : ว้าย!  No Big bird แต่งานนี้ต้อง Big bite
เป็นบทสนสนาตอนหนึ่งที่คุยกับนขำๆ กับเพื่อนน่ะครับ

การเดินทางครั้งนี้มีปัญหาเครื่องดีเลย์เล็กน้อย  เนื่องจากต้องรอผู้โดยสายที่ต่อเครื่องจากสายการบินอื่น
แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะไปถึงที่ไทเปตรงตามกำหนดเวลา
เมื่อไปถึงผมก็ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ  เพราะไม่รู้ว่าจะมีปัญหาตรง ตม. มั้ย  
เพราะก่อนหน้านี้เข้ามาห้องบลูแล้ว แทบจิตตก  เห็นหลายคนมาบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ ตม.เกาหลี
แต่ผมก็คิดในแง่ดีว่า  เราไม่ได้หลบหนีเข้าเมืองหรือจะมาทำงานที่นี้  คงผ่านด้วยดีแหละ
เพราะขนาดไปเที่ยวญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนกรกฎาคม  ยังผ่านมาได้ด้วยดี
หากผมโดน ตม. ถาม  แล้วขอดูแพลนนี้นี่ผมคงโดนกักตัวแน่ๆ  เพราะผมไม่มีเอกสารอะไรเลย  แม้แต่ใบจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมยังไม่มีเลย
คิดในใจว่าหากโดนถาม  ก็จะบอกไปตามตรงว่า  "ผมมาไทเป  เพื่อมาร่วมงานเกย์ไพร์ดเท่านั้น" 555+
แต่สุดท้ายผมก็ผ่าน  ตม. มาได้ด้วยดี


-สนามบินเถาหยวน  ไต้หวัน  เป็นสนามบินหนึ่งที่หลายคนมักชอบที่จะถ่ายภาพ  คงด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความดั้งเดิมกับความเป็นสมัยผสมผสานกันอย่างลงตัว-

ด้วยความที่ผมไม่ได้วางแผนอะไรมาเลย  แต่เคยมีที่ผมเข้ามาเก็บข้อมูลในห้องบลูอยู่บ้าง  และเก็บบันทึกเป็นกระทู้โปรด
ผมเชื่อว่ากระทู้ที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันมีเยอะมาก  และค่อนข้างละเอียดพอสมควร  ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับผมด้วยเช่นกัน
ดังนั้นทั้งเรื่องการเดินทาง  การแลกเปลี่ยนเงิน  การใช้บัตรเครดิต  หรือ  ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับไต้หวันก็ค้นหาได้เลยครับ  
ง่ายๆ อยากรู้เรื่องอะไรก็ค้นหาใน google ได้เลย และพิมพ์ต่อท้าย pantip กระทู้ก็จะขึ้นมาเยอะมากๆๆๆ

อันดับแรกพอผ่าน ตม. ผมก็เปิด WIFI เพื่อหาข้อมูลการเดินทางจากสนามบินเถาหยวนไปไทเป  ว่าจะต้องเดินทางอย่างไร
กว่าผมจะผ่าน ต.ม. ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว  ออกมาได้ก็เลยไปซื้อ SIM ก่อน  เพราะสำหรับผมมันสำคัญมาก  
อินเตอร์เน็ต  ถือว่ามีความสำคัญสำหรับเกย์อย่างผม  แม้ว่าผมจะไม่เล่น Facebook ก็ตาม  แต่ผมก็ยังเล่น Instragram
ไหนจะ Line และ Whatsapp ที่ผมต้องใช้สำหรับติดต่อเรื่องงานอีก  รวมไปถึงการเข้าใช้ Google หรือ Map ต่างๆ อีก
ที่สำคัญเลย app หาคู่เกย์ ทั้ง  Jack'D,  hornet  หรือ Grindr  อีก  ซึ่งอันที่จริงหากอยู่ในเมืองไทยผมไม่ได้เล่นหรอก
เคยมี app เหล่านี้ในมือถืออยู่ แต่ส่วนใหญ่ก็เอาไว้ส่องอย่างเดียว  
สุดท้ายผมก็ได้  SIM มา ในราคา 500$  NT  


-ผมเลือกค่ายนี้  มีประมาณ 3 ค่าย  ก็เลือกเอาตามใจชอบแล้วกัน หรือถูกโฉลกอันไหนก็เลือกอันนั้น  ลงทะเบียนก็ง่าย(พนักงานทำให้เสร็จครับ)  เราแค่จ่ายเงิน  จบน่ะ  คือมันเร็วมาก  จนคิดในใจเราคิดว่า  เรียบร้อยแล้วหรอ!-

หลังนั้นผมก็เดินไปตามป้าย  ตอนแรกผมคิดว่าจะไปรถไฟความเร็วสูง  
แต่เหมือนว่าต้องไปรถบัสก่อนแล้วไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงที่สถานีเถาหยวน  ผมรู้สึกมันยุ่งยากมาก  เลยตัดสินใจไปรถบัส  
ขณะที่เดินลงไปเห็นมินิมาร์ท ก็เลยซื้อบัตร EASY CARD  (ผมจำไม่ได้ว่าค่าบัตรราคาเท่าไร  แต่ผมเติมเงินเข้าไป 1000$  NT)
อันที่จริงผมเคยเห็นอยู่ว่ามีคนตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องบัตรนี้  ซึ่งเขาให้รายละเอียดดีมาก  
แต่สำหรับผมอ่านแล้วก็ผ่านไปจริงๆ  555 ไม่ได้บันทึกข้อมูลอะไรไว้ในหัวเลย
เมื่อได้บัตรมาผมก็ใช้บัตรนั้นในการซื้อตั๋วรถ  จำได้ว่านั่งรถสาย 1819  ไปลงที่สถานนี Taipei Main Station



-บัตร easy card คือพนักงานยื่นบัตรที่มีลายหลายแบบมาก ส่วนใหญ่เป็นการ์ตูน  ซึ่งไม่ถูกจริตกับผม เลยเอาลายนี้มาเห็นเป็นผู้ชายร่างกายกำยำ  คือใช่อ่ะ)-


-ไปครับ  พี่สุชาติ!  หูยยยย  คนนั่งหน้าหล่อจัง  พักโรงแรมไหนเนี้ย  เพี้ยงพักโรงแรมเดียวกับเราเถิดดด(ลืมถ่ายภาพ  หากถ่ายได้คงถ่ายติดแต่ศีรษะส่วนบนอ่ะ)-

ช่วงระหว่างที่ผมอยู่ในพื้นที่สนามบิน  ผมก็เปิดใช้แต่ WIFI ครับ  แต่พอออกมาสักพักเน็ตใช้ไม่ได้  
คิดในใจ  "กูพลาดแล้ว"  คือผมลืมที่ลองปิด WIFI ที่สนามบินแล้วลองใช้เน็ตดู  แล้วอย่างนี้จะแผนที่อย่างไร "ตายๆๆๆๆ  แล้วกู"
แต่เฮ้ยดีใจมาก Iphone ยังดูแผนที่ได้ (บ่นกับตัวเอง)  ตำแหน่งมันเลื่อนไปเรื่อยๆ  ยังโอเค  (คือผมโลว์เทคโนโลยีมากครับ)

เพียงแค่ชั่วโมงนิดๆ  ผมก็มาถึงที่ตัวเมืองไทเป ที่สถานี Taipei Main Station
หลังจากนั้นก็เปิดแผนที่เพื่อค้นหาที่ตั้งโรงแรม  
ด้วยความที่เชื่อมั่นตนเองว่าเคยได้คะแนนเกือบเต็มวิชาภูมิศาสตร์ในสมัยมัธยมปลาย คือได้ 58 จาก 60 คะแนน  สูงสุดในระดับชั้นจาก 12 ห้อง (แอบอวดตัวเองนิด 555+)
อีกทั้งเป็นคนที่เวลาเดินทางไม่ค่อยชอบหลับ  ชอบดูข้างทาง  ดังนั้นจึงค่อนข้างจดจำสถานที่ได้ค่อนข้างดีพอสมควร
ผมจึงเลือกที่จะเดินจาก สถานี Taipei Main Station  ไปโรงแรม ท่ามกลางบรรยากาศอุณหภูมิ 20+ องศานิดๆ และความมืดในเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ
พูดตามตรง  เหงื่อเริ่มแตก  คิดในใจ "กูเริ่มเข้าอีหรอบเดิม"  คือชอบประหยัดในส่วนที่จำเป็นที่ควรจะจ่าย (ประสบการณ์เรื่องราวในพม่าเริ่มผุดขึ้นมาในสมอง)
ทั้งๆ ที่หาข้อมูลในเบื้องต้นมาแล้วว่า ค่า TAXI ในไทเป ไม่ได้แพงเหมือนญี่ปุ่น  แต่อาจจะเริ่มต้นที่สูงว่าไทยนิดหน่อยเท่านั้น


-นี่คือตำแหน่งที่โรงแรม  บ่นในใจ "เดินไปค่ะ"-

ในขณะที่เดินลากกระเป๋า (แต่ก็นึกในใจ  เหมือนกูออกจากบ้าน AF ตอนกลางคืนเลย  อะไรมันช่างโดดเดี่ยวเยี่ยงนี้)
สายตาก็พยายามที่จะมองหาและจดจำเส้นทาง  ทั้งระแวดระวัง  กลัวก็กลัว ต่างบ้านต่างเมืองเช่นนี้
จนพูดออกมาว่า "กูจะโดนไรมั้ยเนี้ย  โอ้ยๆๆๆ E-ดอก  ช่างแมร่ง  ขนาดเมืองไทยกูยังรอดมาได้เลย"
เดินไปพูดไปเหมือนคนบ้ามาก  พรึมพรำๆคนเดียวไปตลอดทาง
เดินมาเรื่อยๆ กระทั่งเจอ 7/11  เลยทำทีเข้าไปซื้อน้ำและถามสอบพนักงาน
จนได้ตำแหน่ง  ก็เดินไปนิดเดียวก็ถึงโรงแรม  พอถึงก็เช็คอินเข้าพัก  
และพอดีได้ยินเสียงคนไทย กลุ่มหนึ่ง (3 คน) ก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากเขาเรื่องการใช้เน็ต
ซึ่งคนไทยกลุ่มนั้นก็ช่วยแก้ไขให้  เหมือนปัญหาเกิดจากก่อนหน้านี้ไปญี่ปุ่น แล้วเขาเป็นระบบอะไรไม่รู้ต้องเปลี่ยนค่า ANA ใหม่ คือผมก็บอกไม่ถูก
สำหรับคืนแรกในไทเปก็แค่อาบน้ำนอน  ก่อนนอนก็แค่เช็ค app เกย์ต่างๆ เบาๆ พอเป็นพิธีก่อน


-อันนี้คือสภาพห้องที่ผมนอนครับ  พูดตามตรงว่าค่อนข้างเล็ก คับแคบไปนิด  หากปิดม่านประหนึ่งเหมือนนอนในโลงเลยครับ 555 แต่ที่ดีคือสะอาด-

***เรื่องราวต่อไปจะมาต่อด้านล่างน่ะครับ  อันที่จริงตั้งใจว่าจะเขียนจบในนี้เลย  แต่ดูแล้วจะยาวแน่ๆ  ต้องขอโทษด้วยครับ
ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่