"หลวงปู่พุทธะอิสระ" ติง จนท.สั่งให้แจกอาหารเป็นเวลา ลั่น อย่าเยอะ จนทำให้ประชาชนลำบาก

วันนี้ (11 พ.ย.) พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กความคืบหน้ากิจกรรมจิตอาสา ที่ท้องสนามหลวง ในหัวข้อ “อย่าเยอะ อย่าเยอะ ระวังจะทำให้ประชาชนลำบาก” ระบุว่า เช้าวันที่ ๑๐ ขณะที่กำลังจะลงมือทำพะแนงน่องไก่ใส่นมสด สับปะรด และฟัก ก็มีบรรดาเจ้าหน้าที่หญิงมา เอาป้ายกำหนดเวลาเลี้ยงอาหารและเลิกเลี้ยงอาหารมายื่นให้เจ้าหน้าที่ที่เต้น พอเหลือบไปเห็นเข้า เลยร้องถามไปว่าอะไร เจ้าวารินเลยชี้ให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนเดินเข้ามาพูดคุยกับฉัน เขาอธิบายว่าที่กองอำนวยการมีนโยบายกำหนดเวลาเลี้ยงอาหารให้เป็นเวลา คือ

“ฉันจึงถามว่าประชาชนที่เขามากราบพระบรมศพเดินทางมาไม่พร้อมกัน แล้วพวกคุณจะมากะเกณฑ์ให้พวกฉันแจกอาหารพร้อมกันและเลิกพร้อมกันได้อย่างไร หากพวกคุณจะให้ฉันแจกอาหารและเลิกตามเวลาที่พวกคุณกำหนด พวกคุณก็ต้องไปบอกประชาชนว่าอย่ามายืนออรออาหารที่หน้าเต็นท์ในเวลาที่คุณสั่งงดแจก หรือไม่ก็กล้าที่จะประกาศทางกองอำนวยการออกมาเลยว่า ให้ทุกเต็นท์หยุดแจกอาหารในเวลาที่พวกคุณกำหนด เวลาชาวบ้านที่เขาหิวข้าวแล้วไม่ได้กินข้าว ต้องรอเวลาไปถึง 4 โมงเย็น ทั้งที่ตอนเช้าก็ต้องไปยืนรอเข้าแถว หากออกจากแถวมากินข้าวก็จะเสียสิทธิการเข้าแถว
พอถึงคิวเข้าไปกราบ กว่าจะเดินไปถึงพระบรมมหาราชวัง กราบพระศพพ่อออกมาบ่าย จะเดินมากินข้าว พวกคุณก็มาสั่งให้หยุดแจก พวกเขาหิวข้าว หิวน้ำจนเป็นลม พวกคุณไม่รู้สึกอะไรกันบ้างหรือ พวกเขามาจากต่างจังหวัดจะไปหากินกันที่ไหน” พุทธะอิสระ กล่าว

และว่า “อย่างเมื่อวานมาจากปราจีน เดินมาขอข้าวจากฉัน บอกฉันว่าตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินข้าวเลย เพราะไม่กล้าเดินออกจากแถว ขอแค่ข้าวเปล่าราดน้ำปลาก็ได้ เพราะทุกเต็นท์ไม่ยอมแจกให้
แล้วพวกคุณจะให้ฉันใจดำ ทนเห็นลูกของพ่อหิวข้าวเป็นลมกองอยู่หน้าเต็นท์ได้อย่างไร คนที่สั่งและออกกฎให้แจกข้าวเป็นเวลาเคยได้มาเดินดู มาสัมผัสถึงเหตุการณ์จริงบ้างไหม หรือเอาแต่นั่งอยู่ในห้องแอร์ รับฟังคำรายงานของเจ้าหน้าที่ระดับล่างอยู่อย่างเดียว ลองออกมาเดินตากแดดตากฝนยืนเข้าแถวรอเหมือนกับชาวบ้านเขาดูบ้าง จะได้รับรู้ว่าความหิว ความกระหาย ความเมื่อยล้า มันเป็นอย่างไร พวกคุณกลับไปบอกเจ้านายพวกคุณเลยว่า “อย่าเยอะ อย่าเยอะ อย่ามากำหนดกติกาอะไรมากมายจนทำให้ประชาชนที่มาแสดงความไว้อาลัยในงานพระบรมศพของพ่อลำบาก” เจ้าหน้าที่ทั้งสามพอเห็นฉันพูดด้วยน้ำเสียงเอาจริงดังนั้น จึงรีบลาและเดินออกจากเต็นท์หมายเลข 9 ไปในทันที พุทธะอิสระ ระบุ

พุทธะอิสระ ระบุอีกว่า “พอบ่าย 4 โมง ท่านผู้ว่าพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองและภรรยา พร้อมคณะ เดินทางมาที่เต็นท์มาพบฉัน เขามาอธิบายให้ฉันรับรู้ว่าเจ้าหน้าที่กทม.ที่ทำหน้าที่เก็บขยะเขารายงานว่า มีอาหารที่ทิ้งมากเพราะกินไม่หมด หรือไม่ก็มีพวกที่เข้ามาขนเอาข้าวของที่แจกไปขาย ฉันจึงบอกแก่ท่านผู้ว่าฯ ว่าปัญหาที่คุณว่ามา มันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กทม.ที่ต้องบริหารจัดการกับขยะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่การที่มากำหนดให้คนที่มาร่วมงานศพพ่อควรกินในเวลาไหน ไม่ควรกินในเวลาไหน ทั้งที่พวกเขาก็มาไม่พร้อมกัน นี่มันดูจะตลกไปหน่อย ที่จริงการที่กองอำนวยการกำหนดให้แจกอาหารเป็นเวลา แต่ละเต็นท์ไม่ใช่ไม่ชอบ เพราะพวกเขาจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง แต่ถ้าฉันพักแล้วปล่อยให้พี่น้องมายืนหิวข้าวรอเวลาแจกอาหารอีกครั้งตอน ๔ โมงเย็น ฉันว่าไม่น่าจะถูกต้อง ท่านผู้ว่าก็พยายามอธิบายว่าเป็นมาตรการทดลองดูซักระยะ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ภรรยาท่านผู้ว่าจึงเสริมว่า หากหลวงปู่ทำอาหารเอาไว้แล้ว ก็สามารถแจกได้นะคะ เพราะถือว่าเป็นการแจกต่อเนื่องและยังมีคนหิวต้องการจะกินอาหารจริงๆ ไม่ได้นำเอาไปทิ้ง ฉันจึงอธิบายว่าคนที่เขามายืนเข้าแถวที่เต็นท์ฉันไม่ใช่มาแล้วได้เลย เขาต้องมายืนรอกันเป็นชั่วโมงเพราะแถวยาวมาก ฉันก็เชื่อว่าเขาคงไม่ลงทุนยืนรอเพื่อนำอาหารที่ฉันแจกไปทิ้งดอก เพราะทุกวันฉันจะสั่งให้ลูกน้องออกไปสำรวจดูตามที่ทิ้งขยะว่ามีใครนำอาหารที่เราแจกไปทิ้งบ้างหรือเปล่า หากมีฉันก็จะมาทวนว่าที่เขาทิ้งเพราะอาหารเราไม่อร่อย รสชาติไม่ถูกปาก หรืออาหารไม่ดีพอ พวกเขาไม่ชอบ เราก็จะคิดเปลี่ยนเมนูทันที ท่านผู้ว่าฯและภรรยาพร้อมคณะเมื่อได้ฟังแล้วก็เข้าใจ ฉันจึงร้องขอเต็นท์มากางเพิ่มตรงข้างหน้าอีกซัก ๑ เต็นท์ พี่น้องที่เขามายืนรออาหารจะได้ไม่ต้องตากแดดตากฝนและยืนกินอาหารหน้าเต็นท์ได้อย่างมีความสุข หลังจากท่านผู้ว่าฯพร้อมคณะเดินทางกลับไปแล้ว ครึ่งชั่วโมงต่อมาเจ้าหน้าที่ก็นำเต็นท์มากางให้ทันที ขอบคุณท่านผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครและภรรยาพร้อมคณะ ที่กรุณาสงเคราะห์”

http://www.matichon.co.th/news/356507
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่