[CRRR] On Weekend @ V A N G V I E N G



-- แต่ละภาพ size ประมาณ 300-600 KB --
-- review นี้จะบอกค่าใช้จ่ายเป็นหน่วย บาทไทย (โดยประมาณ) --
-- ร้านราดหน้ายอดผัก ที่วงเวียนท้ายบ้าน ปากน้ำ อร่อยมาก --

เอาล่ะ.... เริ่ม!!!

................................



หลังจากละลายทรัพย์จนเงินร่อยหรอ แทบจะหมดไปจากบัญชี
คงได้แต่ เดินชมเมืองแบบไร้ budget และนอนเน่าจนมาถึงเช้าของวันกลับ
หอบสังขารขึ้นรถ วังเวียง-อุดร กันด้วยบัตรรถที่ซื้อไว้
และมุ่งหน้าไปสนามบินอุดร บินกลับดอนเมือง

จบทริป...

.................

.....มีใครสนุกกับมุขเมิงไหม ไอ จขกท.....

เอาล่ะ เริ่มกันจริงๆเถอะ

.......
สวัสดีครับ สำหรับผู้ที่สนใจ และเข้ามาเห็นคำว่า "สวัสดี" คำนี้
ทริปนี้ เป็นการ export ตัวเองของ จขกท ที่ไม่เคยเที่ยวนอกประเทศไทยมาก่อน
นัดแนะกับเพื่อนแค่ 1-2คน เที่ยวตามประสาชายโฉดกระโดดตบ
ฤกษ์งามยามเหมาะ 21-25 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมานั่นเอง

การเดินทางจะขอลงรายละเอียดไม่มาก
เชื่อว่าหลายๆกระทู้ที่ review วังเวียง มีข้อมูลมากพอแล้ว
กระทู้นี้ขอแค่คร่าวๆพอ



- รถไฟตู้นอน บางซื่อ-อุดร ออก2ทุ่ม ถึง6โมง ราคา740บาท
- รถตุ้กๆเหมาจากสถานีอุดร ไป บขส อุดร ต่อจาก 60 เหลือ50บาท
- รถอุดร-วังเวียง จองจ่าย online ไว้ ไปถึง บขส ก็เอา passport ไปรับตั๋ว (320บาท)

ตัดภาพมายัง เมืองวังเวียง ช่วงเย็นของวันที่ 22 ตุลาคม 2559



เริ่มต้นด้วยการนำสัมภาระทั้งหลาย เข้า check in ในห้องพักที่ได้จองผ่าน booking
(ห้อง 3 เตียง สำหรับ 3 คน เช่า 3 คืน ทั้งหมด 1800 บาท)
เก็บของ + อาบน้ำ และออกมาเดินจิบเบียร์ลาวในราคาขวดละ 40บาท
พร้อมถ่ายรูปกันที่สะพานไม้ ข้ามแม่น้ำซอง







เดินกันจนตะวันตกดิน ก็หาข้าวกินกัน
จบที่ร้านชายสี่ สนนราคา หัวละ 80บาท แพงกว่าเบียร์ 2 เท่าT_T
ต่อด้วยไปเช่ามอเตอร์ไซค์เป็น Wave จีน 24hrs. คันละ280บาท

หลังจากนั้นเติมน้ำมันคันละ 40บาท แล้วกลับเข้าห้องพัก เตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนนี้
กับร้านเหล้าเล็กๆหน้าที่พัก นามว่า Sakura Bar (เบียร์ขวดละ 80บาท)
และผับท้องถิ่น นามว่า Heartbeat (เบียร์ขวดละ 80บาท)
เปรียบเปรยกันง่ายๆ
feel ข้าวสาร ไป Sakura Bar
feel รัชดา ไป HeartBeat

..... จอดับบ

เข้าสู่เช้าวันที่ 23 ตุลาคม



แผนที่วางไว้คือตื่นและ แว้นซ์ออกจากที่พัก ตี5ครึ่ง เพื่อไปหาทะเลหมอกที่ผาเงิน
แต่เมื่อคืนค่อนข้างสาหัส จึงฉีกแผนทิ้ง แล้ววางใหม่กันหน้างาน

พรุ่งนี้ สมาชิก 1 ท่านที่มาแบบปุบปับ ก็จะกลับเมืองกรุงแล้ว (อีก2คน กลับมะรืน)
วันนี้ จึงต้องพยายามจัดทริป ชะโงกทัวร์ ให้รัดกุมและครบครัน

เริ่มต้นด้วย ขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามสะพานไม้ ลัดเลาะริมน้ำซอง แบบไม่เสียเงิน 40บาทค่าข้ามสะพาน
มาพบกับทุ่งข้าวสาลี และกลายเป็นโกโก้ครั้นช์





หลังจากนั้นรีบมุ่งหน้า ผาเงิน วกไปเวียนมา หาทางเข้าไม่เจอ
เข้าผิดออกถูก จนสุดท้ายได้มาเจอ ป้ากับเด็กน้อย คอยเก็บค่าเข้าพื้นที่ ผาเงิน คนละ40บาท



นั่งพักกันแปปนึงแล้วเริ่มเดินขึ้น พรวดเดียวก็มาถึงจุดพัก พักอีกนิด
และรีบยิงยาวจนถึงยอดผาเงิน ที่มองลงไปเห็นทางที่เราเพิ่งจะหลงเข้าไปมะกี้







ด้านบนผาเงิน มีน้ำเย็นๆ โค้ก สปอนเซอ และส้มตำ ขายอยู่
เรียกได้ว่า ครบครัน กันเลยทีเดียว ผู้คนก็ขึ้นมากันเรื่อยๆ และลงไปกันเรื่อยๆ

จนถึงเวลาที่เหมาะสม ทีมเรา3คนก็เดินลงบ้าง พบกลุ่มเด็กน้อยกำลังหอบเสบียง
ลำเลียงไปส่งยังร้านค้าด้านบน ดูแล้วเหนื่อยแทน





ลงมาถึงจุดจอดรถ ก็นั่งพักกันแปปนึง แล้วเดินทางต่อตามประสา ชะโงกทัวร์
เรากำลังมุ่งหน้าไป BlueLagoon3 ที่แยกออกจาก BluLagoon1 ไปอีก 8 กิโล





หลังจากแยกออกจากทางไป BlueLagoon1 ก็เข้าสู่ทางลูกรังเต็มรูปแบบ
ลักษณะมีหลุมบ่อ แล้วต้องข้ามคลองเล็กๆ แต่สะพานคงเพิ่งจะพัง
จึงขี่ลุยน้ำเชี่ยว และขึ้นฝั่ง - ไปต่อ





ทางช่วงสุดท้ายก่อนเข้า BlueLagoon3 เป็นดินเลนที่แข็งตัว
ถ้าฝนตกลงมา คงเละเทะมาก

สุดท้ายเราก็มาถึง BlueLagoon3 Hilight ของทริปนี้จริงๆ
เนื่องเพราะไร้ความวุ่นวายของนักท่องเที่ยว ทำให้ที่นี่สงบเสียจริงๆ (ค่าเข้าคนละ40บาท)









เวลาได้ช่วงเที่ยงพอดี เลยกินข้าวกลางวันกันที่นี่
ราคาพอๆกับในเมือง คือจานละ 80 บาท
และเบียร์ ขวดละ 40-45 บาท

อยู่ที่นี่จนถึงประมาณ บ่ายโมงครึ่ง ก็รีบไป BlueLagoon1 ต่อ
ขาออกจาก Blue3 ก็แวะถ่ายรูป 2 ข้างทางมาให้ชมกันเล็กน้อย





จนมาถึง BlueLagoon1 นักท่องเที่ยวเยอะมากกกกกก
รีบไปโดดน้ำให้รู้ว่า "มาถึงแล้ว" สักหน่อย แล้วไปชิลห่วงยางกัน
ลืมบอกไปว่า จองทริปล่องห่วงยางไว้ตอนบ่าย3 ที่หน้าโรงแรม (คนละ240บาท)





เวลาพอดิบพอดีมาก มาถึงโรงแรม เข้าไปจัดการตัวเองกัน10นาที
แล้วออกมาขึ้นรถเพื่อพาไปจุดเริ่มต้นการล่วงห่วงยาง โซนฝั่งใต้ เมืองวังเวียง

เด่วมาต่อนะจ้ะะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่