เรื่องมันมีอยู่ว่าผมได้นำรถไปใช้บริการที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่ง (ยังไม่ขอเอ่ยนามแล้วกัน) เข้าตั้งแต่ประมาณวันที่ 20 ตุลาคม 2556 และได้รับรถยนต์วันที่ 9 พฤศจิกายน 2556 ก็เลยไปตามนัดหมายตามปกติ พอไปถึงก็ทำเรื่องรับรถแล้วรอรถมาจอดให้เช็ครายละเอียด พอรถมาถึงก็เช็ครายละเอียดตามปกติทั่วไปก็เห็นว่าเรียบร้อยดี แต่พอจ้องดูดีๆพบว่ากระจังหน้ารถมีรอยกาวติดอยู่และใส่ไม่เข้ารูปจึงได้แจ้งกับทางพนักงาน
ผม : พี่ๆ ทำไมเหมือนมันมีรอยกาวติดอยู่เลย แถมผมเอามือลูบๆดูแล้วเหมือนมันจะใส่ไม่เข้ารูปนะ
พนักงาน : ไม่ใช่คราบกาวค่ะเป็นเนื้อของพลาสติกเองที่มันเริ่มเก่าแล้วแล้วที่ไม่เข้ารูปมันเป็นแบบนี้แหละ
ผม : ................

ผมจึงลองเอาเล็บขูดๆดูปรากฏว่ามันออกแฮะ เลยบอกไปว่า
ผม : พี่เอาเข้าไปให้ช่างดูหน่อยล่ะกันเพราะว่ามันยังใส่ไม่เข้ารูปด้วย
พนักงาน : ได้ค่ะ รอซักครู่ค่ะ
พนักงานก็นำรถเข้าไปแล้วผมก็นั่งรอแป๊บนึง พอรถออกมาก็พบว่ามันไม่ได้ต่างไปจากเดิมซักท่าไรเลยดูดีขึ้นมานิดนึง แต่เรื่องใส่ไม่เข้ารูปนี่ก็ยังเหมือนเดิม พนักงานบอกว่าช่างบอกว่ามันเป็นแบบนี้แหละ ผมนี่ขี้เกียจเถียงเลยครับเลยบอกพนักงานว่ายืมผ้าหน่อยครับ นั่งเช็ดมันตรงนั้นเลย พอเสร็จแล้วก็จะกลับบ้านกะเอาไปรื้อแล้วใส่เองใหม่ที่บ้านเพราะมันเริ่มจะเย็นแล้วรถมันจะติด
แต่มันยังไม่จบครับ !!!
เดินไปเปิดประตูกำลังจะขับออกไปหันไปดูเบาะหลังเจอคราบสกปรกดำๆ ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ฝีมือผมแน่นอนเพราะว่ารถที่ผมใช้ปกติใช้นั่งกันแค่ 2 คน ไม่ผมกับแม่ ก็ผมกับแฟนผม ด้านหลังนี่บอกเลยให้อากาศนั่งไปมันคงไม่น่าจะเลอะได้ขนาดนี้ แถมด้านข้างคนขับก็มีรอยเลอะซึ่งมากว่าปกติที่มันเคยเลอะ จึงได้แจ้งพนักงานว่ามีคราบเลอะที่เบาะ พนักงานก็เอาไปดูแลแล้วพอกลับออกมาก็เลยให้ผมตรวจเช็คอีกรอบ พอเปิดดูด้านหลังมันก็ดีขึ้นเยอะแต่ยังไม่สะอาดหมดยังมีคราบหลงเหลืออยู่ พนักงานบอกว่าช่างบอก มันเป็นเบาะกำมะหยี่เวลาลูบขึ้นมันจะสีไม่เท่ากัน (ผมจบช่างยนต์มา ผมรู้สึกตลกกับคำอธิบายนี้จัง) แล้วพอเปิดดูด้านหน้าข้างคนขับก็เลอะเหมือนเดิม ไม่ได้ทำความสะอาดให้ ผมเลยถามเลยว่าที่นี่ไม่มีผ้าคลุมเบาะตอนทำงานหรอครับ พนักงานตอบว่ามี ผมก็เลยยิ้มๆ แต่ในใจนึกอยู่ว่าต่อให้มีผ้าคลุมเบาะแล้วยังไง เบาะหลังกับเบาะข้างคนขับเนี่ยมันไม่จำเป็นต้องไปนั่งหรือไปทำงานเลย มันจึงไม่มีทางที่มันจะเลอะเลย จริงไหม ?
พอดีมีหัวหน้างานเดินมา พนักงานจึงมอบเรื่องให้หัวหน้าทำต่อครับ หัวหน้าถามว่าเป็นยังบ้างค่ะ ผมก็ชี้แจงไปว่าเหลือเบาะหลังที่ยังทำความสะอาดไม่หมด แถมเบาะหน้านี่ยังไม่ได้ทำเลย หัวหน้าเลยบอกเดี๋ยวจัดการให้ค่ะเชิญนั่งรอด้านในซักครู่ ผมก็รู้สึกโอเคขึ้นเพราะว่าอย่างน้อยหัวหน้าก็ลงมาดูเองแล้ว พอซักพักเดินมาหาผม ผมนี่ดีใจเลยครับจะได้กลับบ้านซักที แต่ว่าได้ยินคำนี้ออกมาผมความคิดเปลียนเลย
หัวหน้า : ต้องขอโทษลูกค้าด้วยนะค่ะ พอดีตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานของทางช่างแล้ว การทำความสะอาดเบาะต้องใช้เวลาทำให้มันแห้งด้วย ยังไงรบกวนลูกค้าสะดวกมาพรุ่งนี้ไหมค่ะ
ผม : เอิ่ม....... ที่นี่เลิกงานกี่โมงครับ
หัวหน้า : 5 โมงเย็นค่ะ
ผม : ก็ได้ครับ (จะให้ทำไงได้ก็ช่างเริ่มเดินออกมากันแล้ว)
ในความคิดของผมนะ อาจจะดูเห็นแก่ตัวไปบ้าง ผมคิดว่ายังไงศูนย์นัดมารับรถแล้วแต่ว่ารถเกิดปัญหาเพิ่มเติมซึงมันเป็นปัญหาที่แก้ได้โดยไม่ยากเย็นนัก เพราะว่าการซักเบาะน่าจะกินเวลาไม่เกิน 1-2 ชม. ทำไมหัวหน้าไม่สั่งลูกน้องให้ทำต่อให้เสร็จ ตอนที่คุยกับผมมันเวลา 4.40 ซึ่งถ้าให้ลูกน้องทำล่วงเวลาก็ให้โอทีไปก็ได้ ลองคิดดูในมุมกลับกันนะครับถ้าลูกค้ามีนัดหมายต้องใช้รถในวันถัดไปจะทำยังไง ลูกค้าเสียค่ารถมาที่ศูนย์บริการกี่บาท อันนี้ต้องลองคิดถึงลูกค้านิดนึงครับ
กำลังจะออกจากศูนย์เหลือบไปเห็นว่าสายกล้องติดรถยนต์ถูกถอดออกจึงเปิดกระจกถามหัวหน้า
ผม :พี่ครับทำไมถึงดึงสายไฟกล้องออกหรอครับ
หัวหน้า : พี่ไม่ได้ดึงออกนะค่ะ ช่างน่าจะดึงออกเพราะอาจจะเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าค่ะ
ผม : ครับ !!! (เกี่ยวด้วยหรอ ?)
พอกลับมาบ้านผมก็เตรียมจะถอดกระจังหน้ามาใส่ใหม่แต่พอก้มลงไปดูกลับเจอน้ำซึมที่ท่อหม้อน้ำตรงจุดที่ออกจากปั๊มตรงเครื่อง ผมนี่อารมณ์เสียเลยครับ ทำไมปัญหามันโผล่ออกมาเรื่อยๆเลย ลองคิดดูถ้าผมเอารถออกไปต่างจังหวัดแล้วค่อยเอากลับมาซักเบาะที่ศูนย์วันอื่นจะเกิดอะไรขึ้น (ศูนย์บอกมาวันที่สะดวกก็ได้ถ้าพรุ่งนี้ไม่ว่าง) ถ้ารถผมไปชนโดยผมไม่รู้ว่ากล้องไม่ทำงานผมจะเอาอะไรเป็นหลักฐาน ถ้าหม้อน้ำแห้งแล้วฝาสูบโก่งใครจะรับผิดชอบ ผมเลยไม่ทำแม่มล่ะ ค่อยไปเจอกันพรุ่งนี้เช้าเลยแล้วกัน (ลืมบอกไป ผมเอารถไปเปลี่ยนคานใต้หม้อน้ำกับไปทำสีกันชนล่าง มันเกี่ยวกับไฟฟ้าตรงไหนถึงต้องถอดสายกล้อง ???)
ตอนเช้าไปที่ศูนย์เลยแจ้งหัวหน้าว่า กระจังหน้าใส่ไม่เรียบร้อยเพราะผมก้มลงไปดูแล้วสลักใส่ไม่ลงล็อกกับกันชนหน้า ท่อหม้อน้ำใส่ไม่ดีมีรอยซึมของน้ำ แล้วแก้มข้างผมดูเมื่อตอนเช้ามีรอยถลอกเพิ่มมาอีก 2-3 ขีดเล็กๆ หัวหน้ารับเรื่องไปแล้วก็นำรถเข้าไปทำ กลับออกมาได้แจ้งกับผมว่ากระจังหน้าทำให้เรียบร้อย ซักเบาะทำให้เรียบร้อยแต่อาจจะไม่เหมือนใหม่เพราะว่าเป็นเบาะกำมะหยี่ (อันนี้ผมรับได้เพราะว่ายังไงมันก็ได้แค่นั้นแหละ) และท่อหม้อน้ำทำให้แล้ว ส่วนเรื่องสีที่ถลอกวันนี้ทำให้ไม่ทันคิวรถทำสีเต็มแล้ว............
ผมนี่แบบ เฮ้อ...... เอาวะยังไงก็เหลือแค่สีทนอีกวันก็คงเสร็จ มาพรุ่งนี้ก็ได้
แต่ยังไม่จบอีกครับ !!!
กลับมาบ้านผมก็เปิดเช็ครถตามนิสัยผมแหละครับ ปรากฏว่าสายยางหม้อน้ำซึมเหมือนเดิม ผมนี่ปรี๊ดแตกเลยครับ ไหนว่าทำให้แล้วผมก็คิดว่านะจะจบแล้วแต่กลับเหมือนเดิม แล้วเมื่อซักครู่ผมได้มานั่งเปิดดู VDO ในกล้องพบว่า ตอนแรกพนักงานนำรถเข้าไปซ่อมยังมี VDO อยู่บ้างแล้วได้หายไปบางช่วงเนื่องจากโดนดึงสายไฟกล้องออกทำให้กล้องแบตหมดไม่ทำงาน เรียงลำดับการซ่อมน่าจะประมาณนี้ครับ
1.ถอดกันชนเก่าออก พร้อมกระจังหน้ารถ
VDO เริ่มหายตั้งแต่ขั้นตอนถัดไป
2.เริ่มซ่อมคานหม้อน้ำ
3.ประกอบแล้วทำสี
4.ส่งมอบรถลูกค้า
คือที่ผมสงสัยว่าจะดึงออกทำไม แล้วทำไมเบาะรถผมเลอะ แล้วทำไมรถถลอกนึดหน่อย ดึงสายออกไปแล้วทำไมไม่ใส่คืน (ถ้าใส่คืนผมคงไม่เอะใจ) แล้วที่สำคัญทำไมไม่ตรวจสอบน้ำซึมจากท่อหม้อน้ำด้วย
ปล. ใน VDO ที่ผมดูมีการขับรถเหมือนจะเหยียบอะไรไม่รู้ คาดว่าน่าจะเป็นสายหรืออะไรจากในห้องเครื่องรถที่หย่อนลงมาหรือเปล่า ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ถ้าอยากดู VDO เดี๋ยวผมเอามาลงให้ดูทีหลังครับ
ทำไมศูนย์บริการต้องถอดสายกล้องติดหน้ารถออกด้วยครับ ??? (แถมทำงานได้สุดติ่งมาก)
ผม : พี่ๆ ทำไมเหมือนมันมีรอยกาวติดอยู่เลย แถมผมเอามือลูบๆดูแล้วเหมือนมันจะใส่ไม่เข้ารูปนะ
พนักงาน : ไม่ใช่คราบกาวค่ะเป็นเนื้อของพลาสติกเองที่มันเริ่มเก่าแล้วแล้วที่ไม่เข้ารูปมันเป็นแบบนี้แหละ
ผม : ................
ผมจึงลองเอาเล็บขูดๆดูปรากฏว่ามันออกแฮะ เลยบอกไปว่า
ผม : พี่เอาเข้าไปให้ช่างดูหน่อยล่ะกันเพราะว่ามันยังใส่ไม่เข้ารูปด้วย
พนักงาน : ได้ค่ะ รอซักครู่ค่ะ
พนักงานก็นำรถเข้าไปแล้วผมก็นั่งรอแป๊บนึง พอรถออกมาก็พบว่ามันไม่ได้ต่างไปจากเดิมซักท่าไรเลยดูดีขึ้นมานิดนึง แต่เรื่องใส่ไม่เข้ารูปนี่ก็ยังเหมือนเดิม พนักงานบอกว่าช่างบอกว่ามันเป็นแบบนี้แหละ ผมนี่ขี้เกียจเถียงเลยครับเลยบอกพนักงานว่ายืมผ้าหน่อยครับ นั่งเช็ดมันตรงนั้นเลย พอเสร็จแล้วก็จะกลับบ้านกะเอาไปรื้อแล้วใส่เองใหม่ที่บ้านเพราะมันเริ่มจะเย็นแล้วรถมันจะติด
แต่มันยังไม่จบครับ !!!
เดินไปเปิดประตูกำลังจะขับออกไปหันไปดูเบาะหลังเจอคราบสกปรกดำๆ ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ฝีมือผมแน่นอนเพราะว่ารถที่ผมใช้ปกติใช้นั่งกันแค่ 2 คน ไม่ผมกับแม่ ก็ผมกับแฟนผม ด้านหลังนี่บอกเลยให้อากาศนั่งไปมันคงไม่น่าจะเลอะได้ขนาดนี้ แถมด้านข้างคนขับก็มีรอยเลอะซึ่งมากว่าปกติที่มันเคยเลอะ จึงได้แจ้งพนักงานว่ามีคราบเลอะที่เบาะ พนักงานก็เอาไปดูแลแล้วพอกลับออกมาก็เลยให้ผมตรวจเช็คอีกรอบ พอเปิดดูด้านหลังมันก็ดีขึ้นเยอะแต่ยังไม่สะอาดหมดยังมีคราบหลงเหลืออยู่ พนักงานบอกว่าช่างบอก มันเป็นเบาะกำมะหยี่เวลาลูบขึ้นมันจะสีไม่เท่ากัน (ผมจบช่างยนต์มา ผมรู้สึกตลกกับคำอธิบายนี้จัง) แล้วพอเปิดดูด้านหน้าข้างคนขับก็เลอะเหมือนเดิม ไม่ได้ทำความสะอาดให้ ผมเลยถามเลยว่าที่นี่ไม่มีผ้าคลุมเบาะตอนทำงานหรอครับ พนักงานตอบว่ามี ผมก็เลยยิ้มๆ แต่ในใจนึกอยู่ว่าต่อให้มีผ้าคลุมเบาะแล้วยังไง เบาะหลังกับเบาะข้างคนขับเนี่ยมันไม่จำเป็นต้องไปนั่งหรือไปทำงานเลย มันจึงไม่มีทางที่มันจะเลอะเลย จริงไหม ?
พอดีมีหัวหน้างานเดินมา พนักงานจึงมอบเรื่องให้หัวหน้าทำต่อครับ หัวหน้าถามว่าเป็นยังบ้างค่ะ ผมก็ชี้แจงไปว่าเหลือเบาะหลังที่ยังทำความสะอาดไม่หมด แถมเบาะหน้านี่ยังไม่ได้ทำเลย หัวหน้าเลยบอกเดี๋ยวจัดการให้ค่ะเชิญนั่งรอด้านในซักครู่ ผมก็รู้สึกโอเคขึ้นเพราะว่าอย่างน้อยหัวหน้าก็ลงมาดูเองแล้ว พอซักพักเดินมาหาผม ผมนี่ดีใจเลยครับจะได้กลับบ้านซักที แต่ว่าได้ยินคำนี้ออกมาผมความคิดเปลียนเลย
หัวหน้า : ต้องขอโทษลูกค้าด้วยนะค่ะ พอดีตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานของทางช่างแล้ว การทำความสะอาดเบาะต้องใช้เวลาทำให้มันแห้งด้วย ยังไงรบกวนลูกค้าสะดวกมาพรุ่งนี้ไหมค่ะ
ผม : เอิ่ม....... ที่นี่เลิกงานกี่โมงครับ
หัวหน้า : 5 โมงเย็นค่ะ
ผม : ก็ได้ครับ (จะให้ทำไงได้ก็ช่างเริ่มเดินออกมากันแล้ว)
ในความคิดของผมนะ อาจจะดูเห็นแก่ตัวไปบ้าง ผมคิดว่ายังไงศูนย์นัดมารับรถแล้วแต่ว่ารถเกิดปัญหาเพิ่มเติมซึงมันเป็นปัญหาที่แก้ได้โดยไม่ยากเย็นนัก เพราะว่าการซักเบาะน่าจะกินเวลาไม่เกิน 1-2 ชม. ทำไมหัวหน้าไม่สั่งลูกน้องให้ทำต่อให้เสร็จ ตอนที่คุยกับผมมันเวลา 4.40 ซึ่งถ้าให้ลูกน้องทำล่วงเวลาก็ให้โอทีไปก็ได้ ลองคิดดูในมุมกลับกันนะครับถ้าลูกค้ามีนัดหมายต้องใช้รถในวันถัดไปจะทำยังไง ลูกค้าเสียค่ารถมาที่ศูนย์บริการกี่บาท อันนี้ต้องลองคิดถึงลูกค้านิดนึงครับ
กำลังจะออกจากศูนย์เหลือบไปเห็นว่าสายกล้องติดรถยนต์ถูกถอดออกจึงเปิดกระจกถามหัวหน้า
ผม :พี่ครับทำไมถึงดึงสายไฟกล้องออกหรอครับ
หัวหน้า : พี่ไม่ได้ดึงออกนะค่ะ ช่างน่าจะดึงออกเพราะอาจจะเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าค่ะ
ผม : ครับ !!! (เกี่ยวด้วยหรอ ?)
พอกลับมาบ้านผมก็เตรียมจะถอดกระจังหน้ามาใส่ใหม่แต่พอก้มลงไปดูกลับเจอน้ำซึมที่ท่อหม้อน้ำตรงจุดที่ออกจากปั๊มตรงเครื่อง ผมนี่อารมณ์เสียเลยครับ ทำไมปัญหามันโผล่ออกมาเรื่อยๆเลย ลองคิดดูถ้าผมเอารถออกไปต่างจังหวัดแล้วค่อยเอากลับมาซักเบาะที่ศูนย์วันอื่นจะเกิดอะไรขึ้น (ศูนย์บอกมาวันที่สะดวกก็ได้ถ้าพรุ่งนี้ไม่ว่าง) ถ้ารถผมไปชนโดยผมไม่รู้ว่ากล้องไม่ทำงานผมจะเอาอะไรเป็นหลักฐาน ถ้าหม้อน้ำแห้งแล้วฝาสูบโก่งใครจะรับผิดชอบ ผมเลยไม่ทำแม่มล่ะ ค่อยไปเจอกันพรุ่งนี้เช้าเลยแล้วกัน (ลืมบอกไป ผมเอารถไปเปลี่ยนคานใต้หม้อน้ำกับไปทำสีกันชนล่าง มันเกี่ยวกับไฟฟ้าตรงไหนถึงต้องถอดสายกล้อง ???)
ตอนเช้าไปที่ศูนย์เลยแจ้งหัวหน้าว่า กระจังหน้าใส่ไม่เรียบร้อยเพราะผมก้มลงไปดูแล้วสลักใส่ไม่ลงล็อกกับกันชนหน้า ท่อหม้อน้ำใส่ไม่ดีมีรอยซึมของน้ำ แล้วแก้มข้างผมดูเมื่อตอนเช้ามีรอยถลอกเพิ่มมาอีก 2-3 ขีดเล็กๆ หัวหน้ารับเรื่องไปแล้วก็นำรถเข้าไปทำ กลับออกมาได้แจ้งกับผมว่ากระจังหน้าทำให้เรียบร้อย ซักเบาะทำให้เรียบร้อยแต่อาจจะไม่เหมือนใหม่เพราะว่าเป็นเบาะกำมะหยี่ (อันนี้ผมรับได้เพราะว่ายังไงมันก็ได้แค่นั้นแหละ) และท่อหม้อน้ำทำให้แล้ว ส่วนเรื่องสีที่ถลอกวันนี้ทำให้ไม่ทันคิวรถทำสีเต็มแล้ว............
ผมนี่แบบ เฮ้อ...... เอาวะยังไงก็เหลือแค่สีทนอีกวันก็คงเสร็จ มาพรุ่งนี้ก็ได้
แต่ยังไม่จบอีกครับ !!!
กลับมาบ้านผมก็เปิดเช็ครถตามนิสัยผมแหละครับ ปรากฏว่าสายยางหม้อน้ำซึมเหมือนเดิม ผมนี่ปรี๊ดแตกเลยครับ ไหนว่าทำให้แล้วผมก็คิดว่านะจะจบแล้วแต่กลับเหมือนเดิม แล้วเมื่อซักครู่ผมได้มานั่งเปิดดู VDO ในกล้องพบว่า ตอนแรกพนักงานนำรถเข้าไปซ่อมยังมี VDO อยู่บ้างแล้วได้หายไปบางช่วงเนื่องจากโดนดึงสายไฟกล้องออกทำให้กล้องแบตหมดไม่ทำงาน เรียงลำดับการซ่อมน่าจะประมาณนี้ครับ
1.ถอดกันชนเก่าออก พร้อมกระจังหน้ารถ
VDO เริ่มหายตั้งแต่ขั้นตอนถัดไป
2.เริ่มซ่อมคานหม้อน้ำ
3.ประกอบแล้วทำสี
4.ส่งมอบรถลูกค้า
คือที่ผมสงสัยว่าจะดึงออกทำไม แล้วทำไมเบาะรถผมเลอะ แล้วทำไมรถถลอกนึดหน่อย ดึงสายออกไปแล้วทำไมไม่ใส่คืน (ถ้าใส่คืนผมคงไม่เอะใจ) แล้วที่สำคัญทำไมไม่ตรวจสอบน้ำซึมจากท่อหม้อน้ำด้วย
ปล. ใน VDO ที่ผมดูมีการขับรถเหมือนจะเหยียบอะไรไม่รู้ คาดว่าน่าจะเป็นสายหรืออะไรจากในห้องเครื่องรถที่หย่อนลงมาหรือเปล่า ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ถ้าอยากดู VDO เดี๋ยวผมเอามาลงให้ดูทีหลังครับ