ทำงานที่บ้าน หรืองานนอกบ้าน????

สวัสดีค่ะ

เริ่มเลยละกัน ตอนนี้เราทำงานในบริษัทรับเหมาแห่งหนึ่ง ซึ่งในสาขาอาชีพของเรานั้น เขาให้เงินเดือนค่อนข้างต่ำ

บอกเลยว่าในส่วนของงานและคนเรายังทนไหวค่ะ ที่เราทนไม่ไหวคือภาระค่าใช้จ่าย และเงินตอบแทนที่ดูเหมือนว่าจะน้อย

เงินเดือนที่ตกลงกันไว้คือ 15000 หักประกันสังคมเหลือ 14250 หากเราลากกิจ ก็จะหักเงินเรา 500/วัน พอเห็นสลิปก็น่าใจหาย

เงินเราหายไป และมันมิใช่ครั้งแรกค่ะ ตอนนี้เราอยากลาออกแล้ว แต่ลาออกแล้วไปไหน เป็นคำถามที่ยากพอๆกับตายแล้วไปไหน

แม่เสนอว่าให้เรากลับบ้านไปทำงานที่บ้าน ที่บ้านมีร้านขายของชำเล็กๆ ซึ่งตอนนี้พ่อก็กำลังลงทุนปลูกไร่ทำสวนค่ะ และขาดคนช่วย

และถ้าหากเรากลับไปช่วยก็จะมีค่าตอบแทนให้เมื่อขายผลผลิตได้ แต่เราไม่มองแบบนั้นค่ะ

เรามองว่า เราเรียนมาแล้ว เราอยากใช้ในสิ่งที่เราเรียนมา ถ้าเรากลับไปบ้าน

1. ป้าข้างบ้านเป็นห่วงแน่นอนค่ะ พ่อแม่ส่งมาเยอะ สุดท้ายมาขายของชำ

2. รู้สึกยังไงๆก็คือยังแบบมือขอเงินจากพ่อแม่ค่ะ พ่อแม่จัดวางให้ เมื่อได้รับผล เราก็จะได้เงินเป็นตัวตอบแทน แลดูสบาย Comfort Zone

3. ประสบการณ์หลายๆด้านการใช้ชีวิตรวมถึงอิสระหายไปค่ะ...
ถ้ากลับไปบ้าน การมาเดินเซเว่นตอน 1 ทุ่มจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน การนั่งร้านน้ำชาร้านนมเปิดเพลงคลอเบาๆนี่หายไปเลยค่ะ
เรามีแฟนอยู่ค่ะ เรากับแฟนจะไม่ได้เจอกันเลยจนกว่าจะแต่งงาน แต่ใครมันจะแต่งงานกับคนที่ไมได้ศึกษาอะไรกันเลย
ตอนนี้เรากับแฟนทำงานคนละจังหวัดกัน แค่เราบอกว่า เราจะไม่กลับบ้าน พ่อกับแม่ก็ขนกันมานอนที่เราเพื่อกีดกันไม่ให้เราได้อยู่กับแฟนค่ะ

4.เราอยากสร้างสิ่งของด้วยเงินที่เราหามาเอง ไม่ใช่ใครมาพูดว่า ก็ใช่สิ พ่อแกมีเงิน แกจะสร้างจะซื้อพ่อแกก็ช่วยอยู่แล้ว
เห็นพ่อทำงานเป็นตัวอย่างมาตลอดค่ะ พ่อทำงานเป็นข้าราชการ แต่ก็ยังหาโน้นหานี่มาขาย
แรกๆก็ซื้อข้าวสารมาขาย ทำถุง 5 กิโล ใส่มอไซต์เร่ขายในหมู่บ้าน คนเซ็นคนค้างก็ยอม ต่อมาขายอยู่แต่ที่บ้านอย่างเดียวเพราะลูกค้าเริ่มรู้จัก
จากเมื่อก่อนกระสอบเดียว ก็ซื้อมาเพิ่มเยอะขึ้น หลากหลายยี่ห้อขึ้น เอานู้นเอานี่มาขายเพิ่ม จนเป็นร้านของชำ
๕๕๕ อยากมีสตอรี่แบบนี้ค่ะ ในชีวิตคิดว่า จะรวยได้ต้องทำมากกว่า 1 อย่าง

การที่เราไม่กลับเข้าไปบ้านจึงเป็นไปตามเหตุผลหลากประการตามด้านบนค่ะ

แต่กระนั้นเราก็ยังไม่สามารถไปทำงานที่ไกลๆได้ เพราะเนื่องจาก

เป็นห่วงพ่อกับแม่ค่ะ เคยมีครั้งหนึ่งพ่อไม่สบาย  แม่บอกว่าอาการเหมือนชัก(เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์) สติพ่อตอนนั้นก็หลุดแล้วค่ะ
แต่โชคดีที่วันนั้นพี่กลับมาจากที่ทำงานพอดี จึงได้มีคนนำไปส่งรพ.ได้ทันเวลาค่ะ

เป็นเหตุผลข้อเดียวที่เราไม่กล้าที่จะไปทำงานไกลบ้านค่ะ เราอยากไปทำงานที่กทม.เพราะจะได้เงินเยอะกว่า ถึงแม้ว่าจะต้องแข่งกับคนอีกหลายชีวิต
แต่เมื่อเงินเดือนออก เราก็ยังสามารถใช้จ่ายอะไรที่เราอยากได้ อยากซื้อบ้าง เพราะที่เราทำงานอยู่ตอนนี้ ทำงานมาแค่จ่ายค่ากินค่าอยู่ไปวันๆ
ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรที่จรรโลงจิตใจเช่น เที่ยว หรอซื้อของ ลิป กระเป๋าหรืออะไรเทือกๆนั้นเพื่อสนองตันหาตัวเองได้เลย

เห้อออ.....คิดซะว่าเรามาระบายก็ได้ค่ะ ถ้าหากเพื่อนๆมีความเห็นใด หรือข้อเสนอใด ก็ขอบคุณไว้ก่อนล่วงหน้านะคะ

ปล. เราเขียนแบบมึนๆงงๆนะค่ะ สงสัยแค่มาระบายๆบ่นๆจริงๆนั้นแล อิอิ
ปล.2 แท๊กมั่วบ้าง ก็ขอโทษ ณ ที่นี้นะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่