หวั๊ดดีคับ พี่ๆน้องๆ
นี่เป็นการรีวิวประสบการณ์การเที่ยวพังงา
- BACKPACK TRIP 4 DAYS -
5_คน_4 วัน
วันที่ 1 : “หลงใต้”ที่...พังงาพาเพลิน”
นั่งเครื่องบินประมาณ 1 ชม. 20 นาที (ดอนเมือง – ภูเก็ต)
_วันเสาร์ ที่ 15 ตุลาคม 2559_
เดินทางโดยสายการบิน Thai Lion Air เครื่องออกตี 4.50
จึงมีอาการง่วงๆอึนๆของผู้เดินทางของเรา 555 (เช้าเกิ๊นนน)
ว๊าป...ภูเก็ต แล้ววว

หลังจากที่เราได้งีบไปแปปเดียว#ความรู้สึก เราก็ต้องตื่นมาเพราะแสงจากจังหวัด ภูเก็ตช่างเตะตาให้เราตื่นซะเหลือเกิน วิวสวยมาก...
หลังจากที่เราออกมาจากสนามบิน ภูเก็ต เวลาประมาณ 6 โมงเช้า เราก็ได้แวะสถานที่สำคัญที่หนึ่งระหว่างจังหวัด ภูเก็ต-พังงา ก็คือ สะพาน “สารสิน” หรือ คนจังหวัดนั้นจะเรียกว่า "สะพานรักสารสิน"
หลายคนสงสัย หรือ อยากรู้ว่าทำไมต้องมีคำว่า “รัก” มาเกี่ยวด้วย?

เพราะ แต่ก่อนเคยมีคู่รักคู่หนึ่ง ทั้งคู่ได้ผิดหวังจากความรัก เพราะครอบครัวของทั้ง 2 ต่างกีดกันซึ่งกันและกัน ทั้ง 2 เลยได้ตัดสินใจขึ้นได้บนสะพานสารสิน และได้ใช้ผ้าเขาม้ามาผูกเอวเข้าด้วยกัน และได้กระโดดลงไปในน้ำด้วยกัน จึงได้ไปอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีวันกลับ...

ล่องไปกับ 5 สิงห์ อุตสาหการ
อากาศดี๊ดี ลมเย็นๆ บนสะพานสารสิน
อ้าว...ยิ้ม
หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไปหาข้าวเช้ากินกันก็มาเจอร้าน เหนียวไก่ทอด และแกงใต้รสเด็ด
แล้วจะรออะไร...กินนน!!! #กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
จากนั้นเราก็ได้เอาของไปเก็บไว้ที่ที่พักของเรา @โรส บูทีครีสอร์ท บ้านสองแพรก อ.เมือง จ.พังงา
ต่อเนื่องกันโดย...ว๊าปไป เดินชมสถานที่หนึ่งใน Unseen Thailand ของเมืองไทย “ถ้ำพุงช้าง” จ.พังงา

ต้องบอกว่าเป็นการเข้าถ้ำที่สนุกและตื่นตามาก เพราะรูปแบบการเข้าไปก็คือ 1.นั่งเรือยาง 2.นั่งแพรไม้ไผ่ ( ทางแคบลง ) 3.เดินลุยน้ำตื้นบ้างลึกบ้าง เข้าชมความงดงามภายในถ้ำ หากใครไป จ.พังงา แนะนำต้องเข้าชมให้ได้ครับ ถือเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งในการท่องเที่ยว
ปล.แนะนำใส่กางเกงขาสั้นนะครับ เพราะจะมีอยู่ช่วงนึงที่เราต้องลงเดินลุยน้ำเอง น้ำสูงประมาณต้นขาได้ครับ ในถ้ำอากาศดีมากๆครับ

ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้างงง น้องเคยเห็นช้างรึป่าว? อิอิ
มหัศจรรย์กับหินที่โดนน้ำกัดเซาะจึงกลายเป็นหัวช้างและมีดวงตา ที่ทุกคนได้เห็นจะต้องทึ่งกับธรรมชาติ
ปล.ถ้ำนี้มีหินหลากหลายรูปแบบอยู่ทีเราจะมอง อาจจะต้องมีจินตนาการนิสนึงนะครับ
หลังจากที่เราได้เหนื่อยและอ่อนเพลียในการพจนภัยไปในถ้ำพุงช้าง เราก็ได้กลับมาเล่นน้ำเย็นๆชื่นใจ ที่รีสอร์ทของเรา

น้ำเย็นสดชื่นสุดๆ
คืนนี้ @บ้านเหลืองหลังใหญ่
หลังจากที่ได้อาบน้ำ ก็ถึงเวลาสำคัญ กินสิครับ! รออะไร
ปล.ขอขอบคุณผู้สนับสนุนอาหารมื้อเย็นแสนอร่อย เจ้าของรีสอร์ทคุณแม่เพื่อน อิอิ
วันที่ 2 : ล่องกันไปที่เกาะ ตาปู – ปันหยี
_วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2559_
มอนิ่งครับ...เช้านี้กับ โรตีแกงเนื้อหอมๆ สูตรคนใต้
ต่อเนื่องด้วย ร่องเรือไปชมทะเลและเกาะแสนสวยในยามเช้า




ร่องเรือชิวๆวนไป มุ่งหน้าสู่เขา ปาตู เอ้ยยย ตาปู

ระหว่างที่เรานั่งเรือและชมทะเลและเกาะไปเรื่อยๆ เราก็ได้หันไปเห็นปฏิมากรรมที่น่าสนใจมาก เพราะว่าใครมาวาดรูปอะไรอยู่ตรงแถวๆปากถ้ำ

เราก็ได้ถามพี่คนขับเรือ พี่เค้าบอกว่า มันคือภาพวาดของคนสมัยก่อนที่เคยมาติดที่ถ้ำแห่งนี้

บ๊ะ!!! มีปลาโลมาด้วย 555+
หลังจากนั้นก่อนที่เราจะร่องเรือถึง เขาตาปู เราก็ได้รอด ถ้ำกลางทะเล
เป็นเกาะที่โดนน้ำทะเลกัดเซาะจึงข้างใต้กลายเป็นถ้ำ (โชคดีที่วันนี้น้ำขึ้นไม่เยอะ เราขึ้นได้รอด) แจ่มแมวสุดๆ


ในที่สุด...

ถึงแว้ววว เขาตาปูวิวสวยมาก (เคยเห็นแต่ในรูป)

เอ้า...แช๊ะภาพกันเป็นที่ระทึกหน่อย


แช๊ะ...เราเหล่า 5 สิงห์
(หล่อลืมมม)

แอบส่องหน่อย อิอิ

(อยากรู้อยากเห็น)
หลังจากที่ได้เดินเล่นอยู่ที่เกาะ ตาปูจนเปื่อยแล้ว เราก็ได้ร่องเรือต่อไป ที่จุดมุ่งหมายของเราคือ เกาะปันหยี

เดินหน้าเต็มกำลัง ถึงกับหน้าหงาย เรือพี่เขาแรงมาก ( เดี๋ยวนี้เรือเขาใส่ Turbo กันแล้วนะครับ ) #เอาไว้หนีคลื่นมั้ง555+

ถึงแว้ว...เกาะปันหยี เกาะที่รอยคอ รอคอย


นั่นไง...สนามบอล ลอยน้ำ


น่าเตะสุดๆ แต่คงจะเลี้ยงบอลยากน่าดูเลย (แพรมันโคลงเคลง)

มาดูประวัติสนามบอลลอยน้ำแห่งนี้กัน

หน่อย

ปะ...ไปทัวร์เกาะ ปันหยีกัน

วันอาทิตย์น้องๆก็เรียนกันนะครับ “น้องบอกเรียนศาสนากัน”

ของขายก็จะมีพวก สร้อยที่ทำมาจาก ไข่มุก

ส่งจดหมายมั้ยครับ 555 มีไปรษณีย์ เกาะปันหยีด้วยนะ...รู้ยัง

ก่อนกลับ...มาแช๊ะภาพกันหน่อย #วิวสวยๆ

น่อววว อย่างกะบอยแบนด์ #วิวสวยๆ

ดึงหน้าทำไม? #วิวสวยๆ

หลังจากที่ได้ หมดแรงกับการท่องเที่ยวไปทั้งวันของพวกเรา เราก็ได้มานอนเก็บแรงเพื่อวันพรุ่งนี้กัน “ Goodnight ”
วันที่ 3 : อากาศที่ล่องลอย และภาพประวัติศาสตร์ที่ทุกคนไม่เคยลืม
_วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2559_
มอนิ่งตอนเช้ากับอากาศดีๆ มีหมอกบางๆ


วันนี้เราก็เดินทางมาในสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าทุกคนยังจำได้ไม่มีวันลืมก็คือ เหตุการณ์ สึนามิครั้งใหญ่ @อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือ ต.813

ไม่น่าเชื่อว่า เรือเหล็กน้ำหนักถึง 60 ตัน หรือ 6,000 กิโลกรัมจะโดนคลื่นยักษ์พัดให้เข้ามาเกยถึงบริเวณเชิงเขาเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ได้

พื่นที่นี้เป็นพื่นที่ที่ใกล้กับ ทะเลมากที่สุด ( หลังจากบูรณะใหม่ )

หลังจากที่เราได้ชมประวัติของเรือเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้ข้ามฝั่งมาอยู่ที่ชายทะเลที่มีประวัติที่ทุกคนไม่เคยลืม ถ้าย้อนรอยไป 11 ปี กับเหตุการณ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดฝั่งอันดามัน

อ้าว...ฝนกำลังมา หลังจากที่เราได้เดินเล่น และนั่งพักผ่อนกันอย่างชิลๆเซ็งครับๆ

ก่อนกลับก็จัดสักหน่อย แช๊ะๆ


พอ...เลิกหมดเวลา กลับมาสู่ถิ่นเราดีกว่า หาไรกิน ลุย!!! และก็แยกย้ายนอน ฝันดีผีรอบเตียง

วันที่ 4 : ลาก่อยความสุขที่แสนล้ำค่า
_วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2559_
หื้มมม หมดเวลาสนุกแล้วสิ

กลับสิครับรออะไร ( ภูเก็ต – ดอนเมือง )
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่านกระทู้ การทัวร์ภาคใต้ของพวกเรา



ถามผิดพลาดประการใด พวกผมก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ปล.สำหรับคนที่คิดว่าการเที่ยวในเมืองไทยมันร้อน ไม่น่าเที่ยวหรือคิดว่าอากาศไม่ค่อยดีเท่าต่างประเทศ ผมว่าคุณลองที่จะเปิดใจและเก็บกระเป๋าชวนคนรักหรือครอบครัวของคุณ และออกไปเที่ยว ทะเล และ ภูเขา ในเมืองไทยเถอะครัช เชื่อผมแล้วคุณจะรู้ว่าเมืองไทยก็มีอะไรดีไม่แพ้ต่างประเทศหรอกครับ


[CR] [CR] Review ;; “ หลงใต้ ”ที่...พังงาพาเพลิน 5คน_4วัน ชิลๆ ล่องลอยกับเราเหล่า 5 สิงห์ อุตสาหการ
นี่เป็นการรีวิวประสบการณ์การเที่ยวพังงา
- BACKPACK TRIP 4 DAYS -
5_คน_4 วัน
วันที่ 1 : “หลงใต้”ที่...พังงาพาเพลิน”
นั่งเครื่องบินประมาณ 1 ชม. 20 นาที (ดอนเมือง – ภูเก็ต)
_วันเสาร์ ที่ 15 ตุลาคม 2559_
เดินทางโดยสายการบิน Thai Lion Air เครื่องออกตี 4.50
จึงมีอาการง่วงๆอึนๆของผู้เดินทางของเรา 555 (เช้าเกิ๊นนน)
ว๊าป...ภูเก็ต แล้ววว
หลังจากที่เราได้งีบไปแปปเดียว#ความรู้สึก เราก็ต้องตื่นมาเพราะแสงจากจังหวัด ภูเก็ตช่างเตะตาให้เราตื่นซะเหลือเกิน วิวสวยมาก...
หลังจากที่เราออกมาจากสนามบิน ภูเก็ต เวลาประมาณ 6 โมงเช้า เราก็ได้แวะสถานที่สำคัญที่หนึ่งระหว่างจังหวัด ภูเก็ต-พังงา ก็คือ สะพาน “สารสิน” หรือ คนจังหวัดนั้นจะเรียกว่า "สะพานรักสารสิน"
หลายคนสงสัย หรือ อยากรู้ว่าทำไมต้องมีคำว่า “รัก” มาเกี่ยวด้วย?
เพราะ แต่ก่อนเคยมีคู่รักคู่หนึ่ง ทั้งคู่ได้ผิดหวังจากความรัก เพราะครอบครัวของทั้ง 2 ต่างกีดกันซึ่งกันและกัน ทั้ง 2 เลยได้ตัดสินใจขึ้นได้บนสะพานสารสิน และได้ใช้ผ้าเขาม้ามาผูกเอวเข้าด้วยกัน และได้กระโดดลงไปในน้ำด้วยกัน จึงได้ไปอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีวันกลับ...
ล่องไปกับ 5 สิงห์ อุตสาหการ
อากาศดี๊ดี ลมเย็นๆ บนสะพานสารสิน
อ้าว...ยิ้ม
หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไปหาข้าวเช้ากินกันก็มาเจอร้าน เหนียวไก่ทอด และแกงใต้รสเด็ด
แล้วจะรออะไร...กินนน!!! #กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
จากนั้นเราก็ได้เอาของไปเก็บไว้ที่ที่พักของเรา @โรส บูทีครีสอร์ท บ้านสองแพรก อ.เมือง จ.พังงา
ต่อเนื่องกันโดย...ว๊าปไป เดินชมสถานที่หนึ่งใน Unseen Thailand ของเมืองไทย “ถ้ำพุงช้าง” จ.พังงา
ต้องบอกว่าเป็นการเข้าถ้ำที่สนุกและตื่นตามาก เพราะรูปแบบการเข้าไปก็คือ 1.นั่งเรือยาง 2.นั่งแพรไม้ไผ่ ( ทางแคบลง ) 3.เดินลุยน้ำตื้นบ้างลึกบ้าง เข้าชมความงดงามภายในถ้ำ หากใครไป จ.พังงา แนะนำต้องเข้าชมให้ได้ครับ ถือเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งในการท่องเที่ยว
ปล.แนะนำใส่กางเกงขาสั้นนะครับ เพราะจะมีอยู่ช่วงนึงที่เราต้องลงเดินลุยน้ำเอง น้ำสูงประมาณต้นขาได้ครับ ในถ้ำอากาศดีมากๆครับ
ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้างงง น้องเคยเห็นช้างรึป่าว? อิอิ
มหัศจรรย์กับหินที่โดนน้ำกัดเซาะจึงกลายเป็นหัวช้างและมีดวงตา ที่ทุกคนได้เห็นจะต้องทึ่งกับธรรมชาติ
ปล.ถ้ำนี้มีหินหลากหลายรูปแบบอยู่ทีเราจะมอง อาจจะต้องมีจินตนาการนิสนึงนะครับ
หลังจากที่เราได้เหนื่อยและอ่อนเพลียในการพจนภัยไปในถ้ำพุงช้าง เราก็ได้กลับมาเล่นน้ำเย็นๆชื่นใจ ที่รีสอร์ทของเรา
น้ำเย็นสดชื่นสุดๆ
คืนนี้ @บ้านเหลืองหลังใหญ่
หลังจากที่ได้อาบน้ำ ก็ถึงเวลาสำคัญ กินสิครับ! รออะไร
ปล.ขอขอบคุณผู้สนับสนุนอาหารมื้อเย็นแสนอร่อย เจ้าของรีสอร์ทคุณแม่เพื่อน อิอิ
วันที่ 2 : ล่องกันไปที่เกาะ ตาปู – ปันหยี
_วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2559_
มอนิ่งครับ...เช้านี้กับ โรตีแกงเนื้อหอมๆ สูตรคนใต้
ต่อเนื่องด้วย ร่องเรือไปชมทะเลและเกาะแสนสวยในยามเช้า
ร่องเรือชิวๆวนไป มุ่งหน้าสู่เขา ปาตู เอ้ยยย ตาปู
ระหว่างที่เรานั่งเรือและชมทะเลและเกาะไปเรื่อยๆ เราก็ได้หันไปเห็นปฏิมากรรมที่น่าสนใจมาก เพราะว่าใครมาวาดรูปอะไรอยู่ตรงแถวๆปากถ้ำ
หลังจากนั้นก่อนที่เราจะร่องเรือถึง เขาตาปู เราก็ได้รอด ถ้ำกลางทะเล
เป็นเกาะที่โดนน้ำทะเลกัดเซาะจึงข้างใต้กลายเป็นถ้ำ (โชคดีที่วันนี้น้ำขึ้นไม่เยอะ เราขึ้นได้รอด) แจ่มแมวสุดๆ
ในที่สุด...
(หล่อลืมมม)
แอบส่องหน่อย อิอิ
หลังจากที่ได้เดินเล่นอยู่ที่เกาะ ตาปูจนเปื่อยแล้ว เราก็ได้ร่องเรือต่อไป ที่จุดมุ่งหมายของเราคือ เกาะปันหยี
ถึงแว้ว...เกาะปันหยี เกาะที่รอยคอ รอคอย
วันที่ 3 : อากาศที่ล่องลอย และภาพประวัติศาสตร์ที่ทุกคนไม่เคยลืม
_วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2559_
มอนิ่งตอนเช้ากับอากาศดีๆ มีหมอกบางๆ
วันนี้เราก็เดินทางมาในสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าทุกคนยังจำได้ไม่มีวันลืมก็คือ เหตุการณ์ สึนามิครั้งใหญ่ @อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือ ต.813
พื่นที่นี้เป็นพื่นที่ที่ใกล้กับ ทะเลมากที่สุด ( หลังจากบูรณะใหม่ )
หลังจากที่เราได้ชมประวัติของเรือเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้ข้ามฝั่งมาอยู่ที่ชายทะเลที่มีประวัติที่ทุกคนไม่เคยลืม ถ้าย้อนรอยไป 11 ปี กับเหตุการณ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดฝั่งอันดามัน
วันที่ 4 : ลาก่อยความสุขที่แสนล้ำค่า
_วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2559_
หื้มมม หมดเวลาสนุกแล้วสิ
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่านกระทู้ การทัวร์ภาคใต้ของพวกเรา
ถามผิดพลาดประการใด พวกผมก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ปล.สำหรับคนที่คิดว่าการเที่ยวในเมืองไทยมันร้อน ไม่น่าเที่ยวหรือคิดว่าอากาศไม่ค่อยดีเท่าต่างประเทศ ผมว่าคุณลองที่จะเปิดใจและเก็บกระเป๋าชวนคนรักหรือครอบครัวของคุณ และออกไปเที่ยว ทะเล และ ภูเขา ในเมืองไทยเถอะครัช เชื่อผมแล้วคุณจะรู้ว่าเมืองไทยก็มีอะไรดีไม่แพ้ต่างประเทศหรอกครับ