" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 14 : เสียงเรียกแห่งความทะเยอทะยาน กับฟางเส้นสุดท้าย ✈️✨ "

สวัสดีค่ะ วันนี้เจ้าของกระทู้ขอมาอัพเดทภาคต่อเรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 14 นะคะ ครั้งนี้ ด้วยความที่เราคนไทยทั้งประเทศได้เพิ่งผ่านกับเหตุการณ์อันเศร้าสลดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้มาเมื่อเดือนก่อน เจ้าของกระทู้จึงเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่รู้สึกเสียศูนย์ไปพักใหญ่ จึงได้หายหน้าหายตาไปนานเลย

สำหรับคุณผู้อ่านที่ยังรอกัน เจ้าของกระทู้ต้องขอขอบคุณมากๆเลยนะคะ เรามาถึงตอนที่ 14 กันแล้ว (ลิงค์ตอนที่ 13 : "อวสานโลกสวย" นะคะ http://www.pantip.com/topic/35564701) เชื่อว่าคงจะลืมตอนจบของตอนที่ 13 กันไปแล้วล่ะ T.T
สำหรับตอนที่ 14 นี้มีชื่อว่า
" เสียงเรียกแห่งความทะเยอทะยาน กับฟางเส้นสุดท้าย ✈️✨ " ต่อจากตอนที่แล้วค่ะ

"ตอนนี้เราคือกบนอกกะลาสินะ!
จากเมื่อก่อนที่เอาแต่นั่งแช่เปิดซีดีละครไทยดูเป็นแผ่นๆ เราก็หันมาติดอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องเป็นราว และหาเรื่องแชทกับเพื่อนๆที่เมืองไทยเพื่อหาลู่ทาง

ที่บริษัท บัดนี้ พนักงานชั้นพรีเมียมเกือบทุกคนต่างทยอยได้รับการเทรนเฟิร์สคลาสระบบใหม่กันหมดแล้ว เราจึงได้ย้ายไปทำงานที่ชั้นธุรกิจมากขึ้น และได้ไปไฟลท์อื่นๆมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการเริ่มต้นแผนการกลับเมืองไทยถาวร เราจึงได้รีเควสแต่ไฟลท์ไปเกาหลีมันทุกเดือน เพื่อจัดเต็มทั้งเครื่องสำอาง เสื้อผ้า และนิตยสารมาดูแนวการแต่งตัว

เรียกได้ว่าทุ่มทุนสร้างเพื่อความเป๊ะปังอลังสมวัย โละใหม่มันยกเซ็ต
พอกันที! กับชุดกากเพชร รองเท้าแตะลายเสือคาดหนังสีเขียว และเสื้อตัวโคร่งกับกางเกงลายๆ พร้อมกำไลคล้องเต็มมือ
บัดนี้ เราจะเป็นเกิร์ลเจนเนอเรชั่น! 55555

ด้วยความที่เริ่มจะดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น เราจึงยิ่งหมกมุ่นกับการแต่งตัวและดูแลตัวเองเป็นอย่างยิ่ง วันหยุดทั้งหมดที่มี จึงหมดไปกับการเปิดดูมิวสิควิดีโอเพลงเกาหลี แล้วลุกขึ้นมาเต้นฮูล่าฮูล่าฮุบ พอสักพัก ก็จะเริ่มพอกหน้า หมักผม อบไอน้ำ และทำเล็บ

สิ่งที่ถูกกลืนหายไปชั่วขณะจิต กลับเป็นแผนการหางานใหม่เพื่อจะได้ย้ายกลับไทยอย่างสง่างาม
ลืมสนิทใจจริงๆ! เอาแต่เต้นฮูล่าฮูล่าฮุบไปมา

แต่ก็ใช่ว่า.. เสียงลึกๆในใจมันจะถูกกลืนหายไปได้ตลอดรอดฝั่ง

สำหรับผู้หญิง เมื่ออายุได้ย่างเข้าสู่วัยใกล้ 30 นั้น ฮอร์โมนกลัวแก่มันจะเริ่มพุ่งพล่าน จะเริ่มมองหาแต่ความมั่นคงให้กับชีวิต และมีความกลัวขึ้นคานมาครอบงำจิตใจ

หากอยู่ที่นี่ต่อไป จะเลือกแต่งงานกับต่างชาติก็ได้ แต่ก็คงต้องทิ้งพ่อแม่ให้ดูแลกันเองในวัยชรา ซึ่งก็คงไม่ดีมั้ง! แต่ถ้าตัดสินใจจะกลับบ้านแล้วยื้อไปจนอายุ 30 กว่าเยอะ โอกาสที่จะไปตั้งตัวใหม่และหาคนโดนใจมาแต่งงาน มันก็คงจะยากเป็นเงาตามตัว

ยิ่งคิดก็ยิ่งเต้นฮูล่าฮุบมันแรงๆ เพื่อจะได้ลืมๆมันไป เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง อยากจะรีบไปใจจะขาดแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปยังไง

ยิ่งเราผัดวันประกันพรุ่งอยู่เท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้ยินเสียงหลอนให้เราสุขได้ไม่สุดอยู่ร่ำไปมากเท่านั้น

เราจึงเริ่มเล่นเป็นน้องพลับถามเพื่อนที่ไทยไป 5 คน ถึงสถานการณ์สมมติ

“สมมตินะครับสมมติ สมมติว่าเราลาออก” :

เพื่อนคนที่ 1 คุณ ก : “แกจะลาออกเหรอ? แล้วแกจะไปทำอะไรต่อ? แกแน่ใจแล้วเหรอวะ?”

เพื่อนคนที่ 2 คุณ ข : “กลับเมืองไทย? คิดให้ดีๆนะ จะหางานที่ให้ค่าตอบแทนเท่านี้มันไม่มีหรอกนะที่บ้านเราน่ะแก”

เพื่อนคนที่ 3 พี่ ค : “เอาจริงๆนะ บ้านเราตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี คนตกงานก็เยอะ พี่ว่าอย่าเพิ่งออกเลย รอให้แน่ใจก่อนดีกว่า”

เพื่อนคนที่ 4 คุณ ง : “อะไร?? จะออกหรอ? เออ.. เอาดิ แล้วมาบอกกูด้วยนะ ไปลองก่อน ถ้าดีเดี๋ยวกูออกตาม 5555”

เพื่อนคนที่ 5 คุณ จ : “ส้ม เราว่านะ ถ้ายังไม่มีงานรองรับอย่าเพิ่งออกเด็ดขาด ทำต่อไปเถอะ เชื่อเรา ออกมานี่ฆ่าตัวตายชัดๆเลย”

“ขอบใจจ้ะ” สำหรับทุกๆกำลังใจ ว่าแล้วเราก็คงจะต้องไปปูเตียงต่อสินะ
ขนาดจิ้งจกทัก เราก็ยังจะต้องฟัง แล้วนี่ทั้ง ก, ข, ค, ง และ จ ทัก เราก็คงได้แต่เต้นฮูล่าฮุล่าฮุบจนพุงแตก และแพคกระเป๋าไปบินต่อไป

พักหลังๆ..

ในขณะที่กำลังวิ่งปูเตียง ชงชา เตรียมชุดนอน และจดออเดอร์อาหารเช้าอยู่นั้น เราก็มักจะเริ่มจับตาดูท่านผู้โดยสารที่อ่านหนังสือตลอดเวลา ไม่ก็เปิด Laptop ทำงานมันทั้งไฟลท์ทุกที บางครั้งเราก็แค่มองเฉยๆ และบางทีก็เข้าไปชวนคุยมันซะเลย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้มาผลักดันชีวิต

จนไฟเราลุกโชนและเริ่มคิด “แล้วถ้าเราลุกขึ้นมาขยันแบบพวกท่าน ..เราจะมีโอกาสได้เป็น CEO แบบท่านไหม?”

ทุกๆวันที่ผ่านไป เราเริ่มชำนิชำนาญกับการทำงานในชั้นพรีเมียมนี้เป็นอย่างมาก แต่ไม่เคยมีสิทธิ์มีเสียงในการเสนอแนะอะไรสักเท่าไหร่ เนื่องจากในชั้นเฟิร์สคลาส ผู้ร่วมงานของเราก็คือเชฟกับหัวหน้าไฟลท์ ซึ่งก็ไม่มีใครตำแหน่งต่ำต้อยไปกว่าเราอีกแล้ว อีกทั้งยังมีกัปตันและผู้ช่วยนักบินที่เราต้องคอยดูแล เสิร์ฟน้ำเสิร์ฟท่า และเช็คเสมอว่าหิวเมื่อไหร่ รายการอาหารวันนี้มีอะไรบ้าง

จนขากลับมาจากลอนดอนในค่ำคืนหนึ่ง

ด้วยความที่เป็นไฟลท์ดึก มหกรรมปูเตียงและชงชาคาโมมายล์จึงได้จัดขึ้นเป็นล่ำเป็นสันอีกเช่นเคย

ทั้งหัวหน้าและลูกน้องต่างวิ่งกันพล่าน ส่วนพี่เชฟก็รัวมือจัดชากับอาหารว่างมือเป็นระวิง

เทียบกับการก้มๆเงยๆปูเตียงน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ตอนต้องมาเก็บเตียงนี่สิ..

ด้วยความที่เป็นคนรักสะอาด ขนาดเสื้อผ้ามือสองซักแล้วเราก็ยังไม่กล้าใส่ แต่ทุกวันนี้ เราเดินอุ้มผ้าห่มผ้าปูเตียงที่เพิ่งใช้ไว้แนบกาย จะเศษถุงเท้า เศษชุดนอน รองเท้าแตะ หรือแม้แต่พื้นห้องน้ำที่เราต้องคอยเช็ด เราก็ไม่รังเกียจที่จะทำและไม่เคยปริปาก

ภายใต้ภาพความสวยสง่ากับเงินเดือนที่มากมายที่ใครต่อใครเห็น แต่เมื่อประตูเครื่องปิดลง ความสง่างามของยูนิฟอร์มก็ดูเหมือนจะถูกบดบังไปด้วยผ้ากันเปื้อนจนแทบจะหมดสิ้น

ทั้งๆที่หน้าที่หลักของแอร์โฮสเตสนั้น คือเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยในไฟลท์ แต่ทำไม? ใครหลายคนกลับยังคอยดูหมิ่น และปฏิบัติกับพวกเราเหมือนกับเป็นคนรับใช้ไปได้


ในขณะที่เรากำลังเก็บเตียงเตียงหนึ่งซึ่งเป็นของคุณแม่และเบบี๋อยู่นั้น คุณลูกชายคนโตของเธอผู้ซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งติดกัน กลับกดไฟเรียกให้เราไปเก็บเตียงให้ด้วย

“สักครู่นะคะ ขอเคลียร์เตียงของคุณแม่ก่อนค่ะ” เราเดินเข้าไปแจ้งและปิดไฟเรียกลูกเรือจากที่นั่งของท่าน

ก่อนหันกลับมาที่เตียงคุณแม่ ที่ซึ่งเต็มไปด้วยของเล่น ดินสอสี สติ๊กเกอร์ และสมุดกระจัดกระจายบานตะไทไปหมด เราจึงก้มลงไปเก็บด้วยความอารมณ์ดี

“น่าเอ็นดูจริงๆ! เด็กเนี่ยชอบเล่นอะไรก็ไม่รู้ เลอะเทอะไปหมด” เราอมยิ้มส่ายหน้าเบาๆด้วยความเอ็นดูเด็กโดยเฉพาะเด็กแขก เพราะช่างจ้ำม่ำน่ารัก น่าฟัดซะเหลือเกิน

พอรีบเก็บเสร็จ ก็วิ่งเอาไปใส่ถุง ก่อนจะหันกลับมาที่ที่นั่งลูกชายคนโตวัยรุ่นของเธอ ผู้ซึ่งบัดนี้ ได้ตัดสินใจไม่รอและปรับจากเตียงเป็นที่นั่ง จนผ้าปู ผ้าห่มและหมอนทุกอย่างลงมากองอยู่กับพื้น

“ขออนุญาตเก็บนะคะ”

............. เสมือนเป็นธาตุอากาศ หรือลม ไม่มีเสียงและสายตาตอบกลับแต่อย่างใด

เราคุกเข่าก้มลงไปดึงผ้าปูที่เกี่ยวอยู่ปลายที่นั่ง ม้วนผ้าห่มที่กองแผละอยู่กับพื้น และเริ่มแยกปลอกหมอนออกจากหมอนเพื่อคืนหมอนให้กับท่าน ก่อนจะหันไปเห็นว่าหัวเราอยู่ระดับขาและสายตาที่ปรายลงมามอง

..............................................

อุ้มมันทุกอย่างที่อยู่ที่พื้นและเดินออกมา ยัดทุกอย่างใส่ในถุงก่อนจะมัดปากถุงให้แน่นมากๆ มัดเสร็จก็แบกเข้าตู้ และล็อคตู้ให้สนิทก่อนแลนด์

หลังเครื่องลง ในระหว่างที่เครื่องยังคงไถลซ้ายขวาอยู่บนรันเวย์รอง ทุกๆคนก็ยังคงต้องนั่งเพื่อความปลอดภัย แต่หน้าที่เรา คือต้องไปเปิดตู้ ยกกระเป๋าออกจากตู้ไปคืนท่านผู้โดยสาร รวมทั้งเสื้อโค๊ตและสูทที่แขวนเก็บเอาไว้ เพื่อคืนให้แต่ละท่านได้ใส่ก่อนประตูจะเปิด

ก่อนจะก้มเก็บหูฟัง ซากที่นอน และอุปกรณ์ต่างๆไปตามเรื่องตามราว หลังจากที่ท่านผู้โดยสารได้ก้าวออกจากเครื่องไป

จบไปอีกหนึ่งไฟลท์!

รอรถตู้ออกแล้วกลับที่พักในยามแดดเปรี้ยง ยังคงเป็นตึกลำดับที่ 4 อีกตามเคย เราจึงได้นั่งรถทัวร์อาบูดาบีในช่วงที่ทุกคนกำลังขับออกมาทำงาน และก็ต้องนั่งมันอยู่อย่างนั้นเกือบสองชั่วโมงจึงจะถึงตึก

ระหว่างทางที่นั่งในรถ เราจึงนึกครึ้มเอามือถือขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ตัวเองเก็บไว้เป็นที่ระลึก

อุ๊ย.. “คิ้วขมวด เส้นเลือดปุด และหัวฟู” ขอจัดสัก 3 แชะ!

กลับถึงห้องต้องมีถึง 9 โมงเช้า เราจึงอาบน้ำ และเตรียมนอน

ซึ่งเช่นเคย เรามักจะจดเรื่องราวอะไรเล็กๆใส่ในไดอารี่ และวันนี้ เราก็เขียนเหมือนเดิม

แต่ดูเหมือนหน้ากระดาษนี้เราจะเขียนตัวใหญ๊ ใหญ่ และใส่ลงไปแค่ประโยคเดียวสั้นๆเท่านั้น

“ตูจะต้องลาออกให้ได้!!!”"

ส่วนใครที่อยากอ่านงานเขียนเรื่องเล่าของเจ้าของกระทู้ย้อนหลัง เราลงลิงค์ไว้ให้ด้านล่างนี่เลยนะคะ :
" แกคือคนสุดท้ายในรุ่นที่ชั้นจะคิดว่าได้เป็นแอร์ " ..จากคำสบประมาท สู่ฝันแอร์โฮสเตสสายการบินตะวันออกกลาง
http://www.pantip.com/topic/34273378

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 1 : ฝันที่เป็นจริงหรือภาพลวงตา ✈️✨ "
http://www.pantip.com/topic/34504171?

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 2 : หรือฉันจะไม่ใช่นางฟ้า ?.. ✈️✨ "
http://www.pantip.com/topic/34536596?

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 3 : นี่หรือ.. ที่เขาเรียกกันว่า ชีวิตนางฟ้า ✈️✨ "
http://www.pantip.com/topic/34568986

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 4 : ใครๆก็บอกว่า.. เราบินได้ ✈️✨ "
http://www.pantip.com/topic/34635697

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 5 : สวิสในฝัน ฉันมาถึงแล้ว✈️✨ "
http://www.pantip.com/topic/34675852

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 6 : ความทรงจำสีจางใจกลางกรุงเจนีวา ✈✨ "
http://www.pantip.com/topic/34728863

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 7 : จุดเปลี่ยนแรกชีวิตแอร์ ✈️✨ "
http://www.pantip.com/topic/34785569

" เสียงลือเสียงเล่าอ้าง : ว่าด้วยเรื่องผีในเครื่องบิน "
http://www.pantip.com/topic/34814284

" อยากเป็นแอร์ตอนนี้ยังทันไหม! : 10 ข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้ก่อนเปลี่ยนเส้นทางเดินชีวิต "
http://www.pantip.com/topic/34853513

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 8 : ยุทธการหักปีกครั้งที่ 1 ✈️✨
http://www.pantip.com/topic/34910615

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 9 : ผีในมโนจากมิลาน ✈️✨ "
http://www.pantip.com/topic/34997703?

"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 10 : ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน ✈️✨"
http://www.pantip.com/topic/35164801?

" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 11 : เส้นทางเพื่อความก้าวหน้า (อันแสนขรุขระ) ✈️✨ "
http://www.pantip.com/topic/35241509?

"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 12 : ชีวิตฟ้าหลังฝน ✈️✨"
http://www.pantip.com/topic/35449010?

"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 13 : อวสานโลกสวย ✈️✨"
http://www.pantip.com/topic/35564701?

"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนพิเศษ : ทริปตามรอยรักเมืองหิมะที่เกาหลี ✈️✨"
http://www.pantip.com/topic/35626712?


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่