พอดีเราไปเจอเรื่องแย่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เมื่อสัปดาห์ก่อน เราเรียนเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมแล้วอาจารย์ก็สอนวิธีเช็ค (ลองเช็คดูนะคะ มีคนมาทำวิธีเช็คไว้ในยูทูปค่ะ) หลังจากนั้น 2-3 วันต่อมา เราก็เลยลองเช็คดู เราเจอก้อนเนื้อข้างซ้าย จริงๆข้างขวาก็มีแต่มันเล็กๆเหมือนกระดูก แล้วข้างซ้ายมันเหมือนใหญ่กว่า เราสงสัยว่ามันปกติหรือเปล่า เลยบอกเพื่อนให้ลองเช็คดู แต่ของเพื่อนไม่มี ความรู้สึกเราตอนนั้น เรามีความกังวลเล็กน้อยแต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นอะไรมาก มันเหมือนเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเรา อายุเรายังน้อยอยู่เลย แค่ 20 และเราก็ยังแข็งแรงดี แต่ตกเย็นคืนนั้น เรารู้สึกเจ็บที่หน้าอก จริงๆก่อนหน้านั้นก็เคยเจ็บ แต่สักพักมันก็หาย แต่อันนี้เราเริ่มกังวล เราเลยตัดสินใจไปหาหมอ และสิ่งที่เริ่มทำให้เรากลัวคือ หมอเองก็พบว่ามันผิดปกติ และพยาบาลก็ถามว่า ญาติมีใครเป็นมะเร็งหรือเปล่า หลังจากนั้น ความกลัวก็ครอบงำและเราก็หยุดคิดแทบจะไม่ได้เลย ไม่มีใครเข้าใจหรอกจนกว่าจะเจอมันด้วยตัวเอง แม้เราเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมเราถึงอยากร้องให้ รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอมากๆเลย ทำไมถึงหยุดคิดไม่ได้เหมือนคุณยิ่งห้ามมันยิ่งผุด พอคิดแล้วก็กลัว ความกลัวจะเกิดขึ้นกับคุณถ้าคุณรู้ว่าสิ่งที่เลวร้ายและคุณไม่อยากให้เกิดมันกำลังจะเกิดขึ้นกับคุณ ความรู้สึกแบบนี้เราเคยสัมผัสมาแล้วตอนที่พ่อแม่เราเลิกกันตอนเราอายุ 11 ตอนที่มันกำลังคืบคลานเข้ามาหาคุณ ในใจคุณรู้แล้วว่ามันคือเรื่องจริง แต่มันยากที่จะยอมรับและคุณก็ได้แต่ภาวนาขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายเมื่อวันนั้นมาถึง คุณก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับความเจ็บปวดทั้งหมดนั้นไปอย่างไม่มีข้อแม้ มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลย แล้วคุณก็ต้องอยู่ในนรกนั้นไปสักพักนึง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของจิตใจคุณ คุณอาจจะเข้มแข็งขึ้นแต่ก็มีแผลเป็นในจิตใจเป็นของแถมตลอดชีวิต เพียงแค่มีอะไรเล็กๆน้อยๆสะกิด ความเจ็บปวดก็จะมาจุกอยู่ที่อก แต่ครั้งนี้มันไม่แย่เท่าครั้งนั้น เพราะเราเองก็เคยคิดถึงความตายอยู่บ่อยๆ บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่เราจะหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานก็ได้ แต่ที่เรากลัวคือ ความเจ็บปวดก่อนความตายและสงสารพ่อแม่ที่เรายังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณเลย อย่างไรก็ตามเราได้เรียนรู้บางอย่างจากเรื่องนี้ หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เราก็ได้รับคำปลอบใจจากเพื่อนๆเรา เรารู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆที่ให้กำลังใจ เราเข้าใจเจตนาของเพื่อนๆดีว่าพวกเค้าหวังดี แม้ว่าวิธีการมันจะทำให้เรารู้สึกแย่กว่าเดิม เราไม่ได้รู้สึกโกรธหรือไม่พอใจอะไรเลย แต่เราแค่อยากเขียนไว้เพื่อบอกเล่าอีกมุมมอง
1. ตอนที่เราออกจากห้องตรวจและบอกเพื่อนไปว่าเรากลัว เราทุกข์ใจ แต่เพื่อนกลับพยายามพูดไปเรื่องอื่นอย่างไม่สนใจ หรือแม้กระทั่งหัวเราะในเวลาที่เรากำลังเป็นทุกข์ มันทำให้เรารู้สึกแย่ แต่เราเข้าใจว่าเค้าคงไม่อยากให้เราคิดมากเลยพูดไปเรื่องอื่น แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหยุดคิดได้ทันทีหลังจากที่เจอเรื่องแย่ๆมา และมันก็ฝืนมากๆที่ต้องทำตัวร่าเริง หัวเราะ เราทำไม่ได้หรอก เราไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น แค่ถามไถ่เราเล็กน้อยหรือฟังที่เราพูดหรือปล่อยให้เราอยู่คนเดียวสักพักก็พอ
2. อย่าพูดว่า อย่าคิดมาก ไม่ต้องคิดมาก มันไม่เป็นไรหรอก เธอคิดมากไปเอง อย่าร้องให้ ร้องทำไม อะไรพวกนี้ได้ไหม มันทำให้เรารู้สึกว่าคนพูดไม่ได้เข้าใจอะไรเราเลย เข้าใจไหมว่าเราเพิ่งเจอกับอะไรมา มันทำให้เรารู้สึกแย่ เรากลัว แล้วจะไม่ให้เราคิดมากเลย ถ้าเป็นคุณ คุณทำได้ไหม? เราทำไม่ได้ เราไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น อย่าบังคับให้เรายิ้มหรือหัวเราะ หรือต้องเป็นปกติเหมือนเดิมในตอนนั้น ให้เวลากับเราหน่อย ส่วนคำว่าไม่เป็นไรหรอก เธอคิดมากไปเอง ฟังแล้วมันเหมือนถูกกล่าวหาว่าโกหกหรือมันรู้สึกว่าโดนโกหก มันจะไม่เป็นไรได้ยังไง ในเมื่อมันมีบางอย่างผิดปกติจริงๆ ซึ่งเราเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เราว่าคำว่า “ใจเย็นก่อนนะ มันน่าจะมีทางออก” น่าจะทำให้รู้สึกดีกว่า หรือไม่ก็แค่ กอด โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรเลย มันอาจจะทำให้รู้สึกดีมากกว่าคำพูดใดๆ
3. ถ้าเราไม่พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนั้นบ่อยๆ เพราะมันเหมือนเป็นการตอกย้ำ ถามแค่ว่า เป็นไงบ้าง ให้เห็นว่ายังสนใจและห่วงใยอยู่ก็พอ อย่าถามหรือสงสัยอะไรมากนักเลย
4. เหนือสิ่งอื่นใด สายตาและการแสดงออกสำคัญที่สุด การพรรณนายกถ้อยคำมามากมาย แต่ในการแสดงออก น้ำเสียง กลับไม่ได้จริงใจเลย ไม่ได้บ่งบอกว่ารู้สึกเสียใจกับเราจริงๆ ถ้าแบบนั้น สู้ไม่ต้องพูดอะไรเลยยังจะดีกว่า ถ้าคุณเข้าใจเราจริงๆ ไม่ต้องพูดอะไร แค่เรามองหน้าเราก็เข้าใจว่าคุณเสียใจกับเราจริงๆแต่อาจจะแค่ปลอบไม่เก่ง มันรับรู้ได้นะ
สุดท้ายเราว่า คนเราคงไม่สามารถเข้าใจคนอื่นได้ทุกเรื่องหรอก แต่ถ้าคุณนึกถึงจิตใจคนอื่นมากๆ มันก็อาจจะทำให้คุณเข้าใจเค้ามากขึ้นนะ แม้ว่าเราจะรู้สึกแย่แต่เราก็เลือกที่จะยิ้มและพยักหน้ารับกับคำปลอบใจของทุกคน เพราะเรารู้ว่าเค้าหวังดีกับเรา เราเลยเลือกที่จะมองข้ามวิธีการและรับเอาเฉพาะเจตนาของพวกเค้า และตรงนั้นมันทำให้เราซึ้งใจ
อันนี้เป็นกระทู้แรกของเรา หากแท็กผิดหรือผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยค่ะ #กราบ
คำปลอบใจที่ฟังแล้วรู้สึกแย่
1. ตอนที่เราออกจากห้องตรวจและบอกเพื่อนไปว่าเรากลัว เราทุกข์ใจ แต่เพื่อนกลับพยายามพูดไปเรื่องอื่นอย่างไม่สนใจ หรือแม้กระทั่งหัวเราะในเวลาที่เรากำลังเป็นทุกข์ มันทำให้เรารู้สึกแย่ แต่เราเข้าใจว่าเค้าคงไม่อยากให้เราคิดมากเลยพูดไปเรื่องอื่น แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหยุดคิดได้ทันทีหลังจากที่เจอเรื่องแย่ๆมา และมันก็ฝืนมากๆที่ต้องทำตัวร่าเริง หัวเราะ เราทำไม่ได้หรอก เราไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น แค่ถามไถ่เราเล็กน้อยหรือฟังที่เราพูดหรือปล่อยให้เราอยู่คนเดียวสักพักก็พอ
2. อย่าพูดว่า อย่าคิดมาก ไม่ต้องคิดมาก มันไม่เป็นไรหรอก เธอคิดมากไปเอง อย่าร้องให้ ร้องทำไม อะไรพวกนี้ได้ไหม มันทำให้เรารู้สึกว่าคนพูดไม่ได้เข้าใจอะไรเราเลย เข้าใจไหมว่าเราเพิ่งเจอกับอะไรมา มันทำให้เรารู้สึกแย่ เรากลัว แล้วจะไม่ให้เราคิดมากเลย ถ้าเป็นคุณ คุณทำได้ไหม? เราทำไม่ได้ เราไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น อย่าบังคับให้เรายิ้มหรือหัวเราะ หรือต้องเป็นปกติเหมือนเดิมในตอนนั้น ให้เวลากับเราหน่อย ส่วนคำว่าไม่เป็นไรหรอก เธอคิดมากไปเอง ฟังแล้วมันเหมือนถูกกล่าวหาว่าโกหกหรือมันรู้สึกว่าโดนโกหก มันจะไม่เป็นไรได้ยังไง ในเมื่อมันมีบางอย่างผิดปกติจริงๆ ซึ่งเราเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เราว่าคำว่า “ใจเย็นก่อนนะ มันน่าจะมีทางออก” น่าจะทำให้รู้สึกดีกว่า หรือไม่ก็แค่ กอด โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรเลย มันอาจจะทำให้รู้สึกดีมากกว่าคำพูดใดๆ
3. ถ้าเราไม่พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนั้นบ่อยๆ เพราะมันเหมือนเป็นการตอกย้ำ ถามแค่ว่า เป็นไงบ้าง ให้เห็นว่ายังสนใจและห่วงใยอยู่ก็พอ อย่าถามหรือสงสัยอะไรมากนักเลย
4. เหนือสิ่งอื่นใด สายตาและการแสดงออกสำคัญที่สุด การพรรณนายกถ้อยคำมามากมาย แต่ในการแสดงออก น้ำเสียง กลับไม่ได้จริงใจเลย ไม่ได้บ่งบอกว่ารู้สึกเสียใจกับเราจริงๆ ถ้าแบบนั้น สู้ไม่ต้องพูดอะไรเลยยังจะดีกว่า ถ้าคุณเข้าใจเราจริงๆ ไม่ต้องพูดอะไร แค่เรามองหน้าเราก็เข้าใจว่าคุณเสียใจกับเราจริงๆแต่อาจจะแค่ปลอบไม่เก่ง มันรับรู้ได้นะ
สุดท้ายเราว่า คนเราคงไม่สามารถเข้าใจคนอื่นได้ทุกเรื่องหรอก แต่ถ้าคุณนึกถึงจิตใจคนอื่นมากๆ มันก็อาจจะทำให้คุณเข้าใจเค้ามากขึ้นนะ แม้ว่าเราจะรู้สึกแย่แต่เราก็เลือกที่จะยิ้มและพยักหน้ารับกับคำปลอบใจของทุกคน เพราะเรารู้ว่าเค้าหวังดีกับเรา เราเลยเลือกที่จะมองข้ามวิธีการและรับเอาเฉพาะเจตนาของพวกเค้า และตรงนั้นมันทำให้เราซึ้งใจ
อันนี้เป็นกระทู้แรกของเรา หากแท็กผิดหรือผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยค่ะ #กราบ