ล่าแสงเหนือ 5 คืน ด้วยงบไม่เกิน 38,000 บาท นอนสบาย ไม่กินมาม่า ไม่ง้อวีซ่า

เกริ่นก่อน...
เรามาเที่ยวรัสเซีย 15 วัน (ตอนนี้ก็ยังอยู่รัสเซีย) โดยที่ไม่รู้ว่าประเทศนี้มี 'แสงเหนือ' ด้วย
เราทำบันทึกการเดินทางมาได้ 9 วันแล้ว ปกติจะเขียนถึงสิ่งที่เจอมาแต่ละวัน
วันนี้ขอพิเศษหน่อย คุยเรื่องแสงเหนือล้วนๆ จะมาบอกวิธีการล่าแสงเหนือราคาประหยัด

ที่เมือง Murmansk เป็นเมืองที่ปลอดภัยและเงียบสงบ
ธรรมชาติสวย เพื่อนคนรัสเซียและนักเรียนไทยที่นี่แนะนำมา นอนสบาย กินเต็มที่ อาหารอร่อยโคตร
5 วัน เราให้งบไม่เกิน 38,000 บาท
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับไทย-รัสเซีย = 18,000 บาท
2. ค่าที่พัก 5 คืน x วันละ 1,600 บาท / หาร 2 คน = คนละ 4,000 บาท
3. ค่ากิน 5 วัน x 3 มื้อวันละ 500 บาท = 2,500 บาท
4. ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับมอสโค-มูรมัส = 4,000 บาท
5. ค่าทัวร์ 2 คืน 3 วัน = 8,900 บาท
ทั้งหมด = 37,500 บาท

**คนไทยมารัสเซียน้อยกว่า 30 วัน ไม่ต้องมีวีซ่า ยื่นพาสปอร์ตเข้าได้เลย
**ค่าตั๋วถูกสุดตอนนี้เราหาได้ราคานี้
**ที่พักเราไม่นอนแบ็คแพ็คเกอร์ แต่ถ้าใครโอเคราคาก็จะลดลงไปอีก
**กินเรากินเต็มที่ ไม่ได้ทำกินเอง กินร้านอาหาร ใครจะเอาปลากระป๋อง มาม่า มาก็ถูกลงไปอีก
**ควรซื้อทัวร์เพราะเราไม่ชินทาง ขับบนหิมะถนนลื่น
**เรทแลกเปลี่ยนตอนนี้ 1 บาท = 1.7-1.8 RUB (เงินไทยแลกได้มากกว่า)
**ทัวร์เราซื้อของบริษัทนี้มา http://v-leto.ru/ ติดต่อคนชื่อ Oleg Terebenin ภาษาอังกฤษเค้าดีมาก และดูแลดี อีเมล์ terebenin@mail.ru

ความปลอดภัย
เมืองMurmansk เป็นเมืองทางตอนตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซียติดกับฟินแลนด์และนอร์เวย์
ปลอดภัยเวอร์ !! ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส พูดอังกฤษกันก็ไม่ค่อยได้หรอก
แต่พวกเขายินดีช่วยเหลือนักท่องเที่ยวมาก ขโมย(ยัง)ไม่เคยมี
ทำร้ายร่างกายก็(ยัง)ไม่เคยมี

อากาศ
ณ ตอนที่เรานั่งพิมพ์อยู่นี่ -13 องศา แต่ตอนที่ออกไปดูแสงเหนือ -16 องศา
ไม่หนาวมากถ้าไม่มีลม

เสื้อผ้าที่ควรเตรียมมา
ทริปหลักหมื่นพร็อบหลักแสน
1. ลองจอน เสื้อ-กางเกง
2. เสื้อไหมพรมอุ่นๆสักตัว
3. เสื้อมิชลิน (ที่มันพองๆใส่แล้วอ้วนๆอ่ะ)
4. หมวกไหมพรมน่ารักๆสักใบ (ถ้าผู้ชายอาจต้องการแค่ที่ปิดหู)
5. รองเท้าพื้นหนา เพราะเราต้องยืนบนหิมะนาน

วิธีเตรียมตัว
1. กินข้าวไปก่อน เพราะเดี๋ยวไปหิวระหว่างรอ กินไปกินมาลืมดูแสงเหนือ
2. เข้าห้องน้ำไปก่อน เพราะส่วนมากที่ที่เค้าพาไปหยุดไม่มีห้องน้ำหรอก
3. ขาตั้งกล้อง เพราะเราต้องตั้ง speed shutter กับ iso ให้ต่ำๆ (ของเราใช้ speed shutter 10 วินาที iso 3200/1600)
4. ก่อนทัวร์มารับให้ใส่ลองจอนกับเสื้อไหมพรมไว้ก่อน ให้ตัวอุ่นๆ
พอรถมาค่อยใส่เสื้อมิชลินแล้วจึงออกไป (เป็นการรักษาความอุ่นของร่างกาย)
5. เตรียมน้ำดื่มไปเองด้วย เราเอาขวดน้ำพับได้ของ Urbi Lifestyle มา ซื้อน้ำถังใหญ่มากรอกใส่ ประหยัดไปเยอะมาก
6. ขอพรพระก่อนออกไปด้วย เราทำจริงๆนะ เพราะดูในพยากรณ์อากาศแล้ว
โอกาสที่จะเจอคือ 0% เพราะค่า KP index ต่ำมากกกก

**ส่วนมากทัวร์จะเป็นคนดูพยากรณ์อากาศให้เราแล้ว

แต่ !!!

บนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน วันที่เราออกไปนี่ค่า KP index มีแค่ 0.33 -*-
ซึ่งถือว่าน้อยมากกกกกก โอกาสที่จะเจอคือ 0%
แต่เป็นไงล่ะ ท๊าดา...in your face KPI Forecast lol

ทัวร์มีอะไรบ้าง?
แล้วแต่เราจะขอเค้าไป ของเราช่วงเช้ามีพาไปหมู่บ้านเล็กๆทางเหนือ
เพื่อไปดูทะเลอาร์ติก ระหว่างทางสวยมากๆ เป็นวิวสีขาวที่เรียกได้ว่า Snow desert (ทะเลทรายหิมะ) จริงๆ
แทบจะไม่มีต้นไม้ขึ้น มีแค่หิน















รถมารับไปดูแสงเหนือตอน 21:00
ระหว่างรอก็ลองกล้อง ถ่ายรูปเล่นไป ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะเห็นตอนไหน



ยืนถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยจู่ๆโอ๊ตก็ตะโกนขึ้นมา
เฮ้ย นั่นใช่หรือเปล่า
หันไปมองอีกฝั่งของถนน
เฮ้ยยยยย ใช่ แก ใช่ๆๆๆๆๆ มันเป็นหมอกควันสีเขียวจางๆ



พวกเราหัวเราะเสียงดังด้วยความดีใจ
และรีบกดชัตเตอร์ให้เร็วที่สุด ด้วยความกลัวที่มันจะหายไป
กดไปได้สี่ห้ารูป ก็หยุดและมอง บันทึกสิ่งที่เห็นตรงหน้าด้วยตาเปล่า
เราอยากจำความรู้สึกตอนนี้ให้ได้มากที่สุด






วันต่อมาพาไปหมู่บ้าน Sami ชนเผ่าพื้นเมืองของทางเหนือ
มีที่ประเทศนอร์เวย์และรัสเซีย





ให้อาหารกวางมูส กวางแรนเดียร์


เล่นกับสนัขไซบีเรียฮัสกี้




เจ้านี่ไม่เกี่ยว เป็นแมวที่เค้าเลี้ยงไว้กับฮัสกี้
แต่เป็นมิตรมากๆ ตัวกลมๆฟูๆ น่ารัก

แถมมีบริการรับส่งที่สนามบินด้วย

**สำคัญมากต้องอ่าน**
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเอง ดังนั้นถึงแม้เราจะมาล่ากี่คืนก็แล้วแต่ ไม่ได้หมายความว่าจะเจอทุกคืน
ของเราอาจจะโชคดี คืนแรก ไปรอประมาณชั่วโมงครึ่งก็มาให้เห็นเลย
ดูพยากรณ์อากาศได้แต่อย่าเชื่อ 100% เพราะของเราก็ดูซึ่งโอกาสเจอคือ 0% อย่างที่บอกไป
แต่โชคดีที่ฟ้าเปิด

ต้องคุยกับทัวร์ก่อนว่าโปรแกรมที่เราซื้อไปพาไปดูแสงเหนือกี่คืน
บางทีราคาถูกจริงแต่พาไปคืนเดียว ถ้าไม่เจอก็คือจบต้องจ่ายเงินเพิ่ม
ต้องละเอียดตรงนี้ด้วย

แนะนำเพิ่มเติม
มารัสเซียควรมี pocket wifi ติดตัวด้วย
เพราะคนรัสเซียกว่า 90% ไม่พูด/ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ
Google translate ช่วยเราไว้หลายครั้งแล้ว
เราแนะนำของ Tripizee เพราะเนตครอบคลุมทั้งรัสเซีย
ขนาดไปยืนอยู่ขอบแผ่นดินติดกับทะเลอาร์คติกยังมีสัญญาณเลย