เรื่องสั้นนี้เป็นแฟนฟิกนิยายเรื่อง พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง(SOTUS) ของคุณ Bitter Sweet เขียนเพราะคิดถึงพี่อาทิตย์ มากถึงมากที่สุด เมื่อไหร่จะมาคะ
แฟนฟิก นิยายเรื่อง SOTUS พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง ของ Bitter Sweet
วันลอยกระทง
ก้องภพยืนมองพระจันทร์นวลสว่างกลมโตที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า ก่อนลดตาลงมองนาฬิกาข้อมือ พอเห็นเวลาบนหน้าปัด เขาก็ถอนใจออกมาเบาๆ
สองทุ่มแล้ว
ก้องภพคิดในใจก่อนหมุนศีรษะหันมองรอบตัว ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่บนลานซีเมนต์กว้างริมแม่น้ำเจ้าพระยา รอบตัวมีฝูงชนกำลังเดินไปมากันขวักไขว่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นหนุ่มสาวที่เดินเคียงคู่จูงมือกัน หรือไม่ก็ถือกระทงคนละใบ
ใช่แล้ว คืนนี้คือวันลอยกระทง เขาจึงถือโอกาสนัดพี่อาทิตย์ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทีแรกอีกฝ่ายโวยวายแถมบ่นไม่หยุดว่าเขาเลิกงานดึก แต่พอโดนก้องภพหยอดคำออดอ้อนสุดท้ายก็ใจอ่อนตอบตกลง โดยมีข้อแม้ว่าอาจมาถึงช้าหน่อย ซึ่งก้องภพเองก็ไม่ว่าอะไร เขารอพี่อาทิตย์ได้เสมอ ขอเพียงแค่ได้เจอ ได้พูดคุยกัน ได้มองหน้าจ้องดวงตาดุที่มีความใจดีซ่อนไว้ แค่นั้นก็สามารถทำให้ก้องภพอิ่มสุข มีแรงทำงานได้อีกหลายวัน
ก้องภพเรียนจบแล้ว และกลับไปช่วยกิจการครอบครัว ส่วนพี่อาทิตย์ก็งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ ทั้งสองจึงหาโอกาสพบหน้ากันได้น้อยครั้ง อย่างเช่นช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก้องภพไม่มีโอกาสเจอพี่อาทิตย์เลยแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งที่ช่วยปลอบประโลมใจให้หายเหงาได้ก็คือ ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว ที่กินทุกวันจนคนในบ้านแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆ คนไม่กินเผ็ดอย่างก้องภพจึงร้องหาแต่เมนูนี้ ยังไม่นับนมเย็นชมพูที่เจ้าตัวต้องชงตั้งไว้บนโต๊ะ พกใส่กระติกติดตัวตลอดเวลา ในครัวก็มีน้ำหวานเฮลส์บลูบอยแดงตั้งเป็นลังคู่กับนมสด เยอะจนแม่อดแซวไม่ได้ว่า ท่าทางก้องภพจะทำนมชมพูขายแข่งกับเซเว่น
อีกสิ่งที่ก้องภพมักทำก่อนนอนเสมอคือหยิบเกียร์ของใครบางคนขึ้นมาจ้องแล้วถอนใจออกมาด้วยความเหงา ซึ่งแม้จะสุขใจกับสิ่งที่ทำ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เขาคลายความคิดถึงพี่อาทิตย์ลงได้เลย
หลายครั้งที่ก้องภพเป็นฝ่ายโทร.ไปหาพี่อาทิตย์ ตอนเช้าเพื่อปลุกและกล่าวอรุณสวัสดิ์ บางทีอาจพ่วงช่วงกลางคืนที่เขาแน่ใจว่าพี่อาทิตย์เคลียร์งานเสร็จแล้ว พูดคุยซักถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจบท้ายด้วยคำว่าราตรีสวัสดิ์ เป็นแบบนี้มาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม ยิ่งทำก็ยิ่งคิดถึงแถมเพิ่มทวีมากยิ่งขึ้น จนบางครั้งก้องภพอยากขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าแล้วตะโกนออกมาดังๆ ว่า คิดถึงพี่อาทิตย์นะครับ!
เสียงปะทัดดังข้างตัวทำให้ก้องภพหลุดจากภวังค์ เขาหันไปมองวัยรุ่นที่กำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ถึงจะนึกตำหนิอยู่ในใจว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร แต่คำว่า ประเพณีทำให้เขาไม่มีสิทธ์ห้ามใคร แม้จะรู้ดีว่าแท้ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ก็ตาม
“ก้องภพ” เสียงใครบางคนดังมาจากทางด้านหลัง พอหันไปมองก็เห็นอาทิตย์กำลังยืนตีหน้าขรึมขมวดคิ้วยุ่งก่อนปล่อยประโยคต่อมา “ขอโทษที่ผมมาช้า คุณมานานแล้วหรือยัง?”
“ไม่ครับ ผมเองก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” ก้องภพปดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดมาก ซึ่งดูเหมือนพี่อาทิตย์จะไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ไม่ซักอะไร ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายบ่น
“รถติดเป็นบ้าเลย เนี่ยผมต้องนั่งมอร์เตอร์ไซด์มา ไม่งั้นป่านนี้คงติดแหงกอยู่บนสะพานปิ่นเกล้า ว่าแต่คุณนัดผมมาที่นี่ทำไม มีธุระอะไรเหรอ”
จบท้ายด้วยคำถามแถมยังจ้องด้วยดวงตาที่แสดงความสงสัย ก้องภพยิ้มในหน้าก่อนแกล้งส่งคำพูดกวน
“ต้องมีธุระเท่านั้นหรือครับถึงจะเจอพี่อาทิตย์ได้”
“วะ! คนอุตส่าห์ถามดีๆ ยังมาเล่นลิ้น งั้นผมกลับละ” ทำท่าจะเดินหนีไปจริงๆ ก้องภพรีบคว้าแขนอีกฝ่ายทันที
“เดี๋ยวครับพี่อาทิตย์” เขาเรียก พอเห็นอีกฝ่ายหันมาจ้องตาดุก็รีบปล่อยมือ “ขอโทษครับ”
ทำหน้าจ๋อยเหมือนลูกหมาหลงทางจนอาทิตย์ใจอ่อน แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นยืนกอดอกวางมาดเข้ม
“เอ้า มีอะไรก็ว่ามา” ท่าทางเหมือนสมัยที่เป็นเฮดว้ากไม่มีผิด ก้องภพคิดพลางแอบอมยิ้มแต่พอเห็นดวงตาคมฉายแววหงุดหงิด เขาก็รีบเปลี่ยนท่าทีเพราะรู้ดีว่าถ้าขืนยังแกล้งอีกต่อไป มีหวังพี่อาทิตย์ได้งอนจริงๆ
“พี่อาทิตย์งานยุ่งไหมครับ”
ไม่ได้ตอบ แต่เป็นการตั้งคำถามย้อนกลับ อาทิตย์จ้องเหมือนพยายามหยั่งว่าอีกฝ่ายมีแผนอะไรกันแน่ก่อนตอบเรียบๆ
“ยุ่งสิ มากด้วย”
น้ำเสียงห้วนฟังดูจริงจังแถมยังจ้องคนถามเขม็งเชิงตำหนิที่เรียกเขาออกมากะทันหันแบบนี้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ก้องภพรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย
“ถ้ายุ่งขนาดนั้นคงเครียดน่าดู ผมว่าพี่อาทิตย์น่าจะลองเจียดเวลาหาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายบ้างนะครับ”
“ก็แล้วจะให้ผมทำอะไร” อาทิตย์ย้อนถาม วินาทีเดียวกันนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกตัวว่า กำลังตกหลุมพรางรุ่นน้องเมื่อเห็นก้องภพยิ้ม
“วิธีพักมีตั้งหลายอย่างนี่ครับ อย่างเดินเล่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง กินกาแฟเย็น”
“อันนั้นผมกินประจำอยู่แล้ว” อาทิตย์โพล่งสวนกลับมาทันทีและหยุดเมื่อนึกได้ว่าเขากำลังหลุดความลับของตัวเอง เลยรีบแกล้งทำเป็นโมโหใส่เพื่อกลบความอาย “มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม”
“ไม่ครับ” ก้องภพตอบ เอนตัวเข้าไปหาอาทิตย์อีกนิด กระซิบข้างหูเบาๆ “ผมคิดถึงพี่อาทิตย์ครับ”
คำสารภาพชนิดจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ความร้อนไล่เป็นริ้วขึ้นหน้า อาทิตย์รีบขยับออกห่างพร้อมกับพูดห้วนๆ
“บ้าหรือเปล่า” เขาเหลือบตามองไปรอบตัว “เกิดใครได้ยินเข้าจะคิดยังไง”
“ผมไม่สน แต่ถ้าพี่อาทิตย์กลัว เราย้ายไปหาที่เงียบๆ คุยกันสองคนก็ได้นะครับ”
ก้องภพยื่นข้อเสนอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พี่อาทิตย์กวาดตามองไปรอบๆ เพื่อมองหา ‘ที่เงียบ’ อย่างที่อีกฝ่ายพูด แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางเป็นไปได้เพราะในเวลานี้ ลานซีเมนต์กว้างแออัดไปด้วยผู้คน ซึ่งดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นทุกวินาที แถมพอสังเกตให้ดีจะพบว่าส่วนใหญ่แล้วคนเหล่านั้นจะมากันเป็นคู่ เดินเกี่ยวก้อยควงแขนคุยกระหนุงกระหนิงกันอย่างมีความสุข ทำให้พี่อาทิตย์ต้องถอนใจออกมาเบาๆ
มันก็ใช่ที่ความรู้สึกที่เขามีต่อก้องภพ มีมากเสียจนไม่อาจหาคำมาบรรยายได้ แต่อาทิตย์ก็พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แม้พวกเขาจะเดินคู่กัน ก็ไม่จำเป็นต้องจูงมือ ขอเพียงได้อยู่ใกล้ ได้พูดคุยสบตา เท่านั้นก็มากเกินพอแล้วสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายสองคน
“พี่อาทิตย์ครับ” เสียงก้องภพเรียกไม่ดังนัก คนที่กำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ หันไปมองหน้า
“อะไร”
“ไปลอยกระทงกันไหมครับ”
“จะบ้าเหรอ ผมไม่ได้มาเดตนะ” อาทิตย์เริ่มโวยวาย ก้องภพเลิกคิ้ว
“ผมชวนพี่ไปลอยกระทง ไม่ได้ไปเดต แต่ถ้าพี่จะคิดแบบนั้นก็ได้นะครับ” ก้องภพพูดพร้อมกับส่งยิ้มที่ทำให้อาทิตย์ต้องใจเต้น เขาเลยแสร้งมองไปทางคู่หนุ่มสาวที่กำลังยกกระทงขึ้นเพื่ออธิษฐาน
“มีแต่คู่รักทั้งนั้น”
“แล้วเราไม่ใช่หรือครับ” ก้องภพพูด “ผมเป็นแฟนพี่อาทิตย์ แล้วพี่อาทิตย์ก็เป็นคนที่ผมรักที่สุด แค่นี้เราก็ลอยกระทงกันได้แล้วครับ”
เหตุผลแบบตรงไปตรงมาของก้องภพทำให้อาทิตย์เถียงไม่ออก ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายดันทุรัง
“แล้วจะให้ผมอธิษฐานอะไร”
คราวนี้ก้องภพยิ้มในแบบที่คนเห็นเข้าใจความหมายได้ในทันที อาทิตย์จึงหันหน้าหนีพร้อมกับพูดพึมพำ
“ตามใจ อยากทำอะไรก็ทำ”
ก้องภพส่งยิ้มให้อย่างดีใจก่อนเดินนำพี่อาทิตย์ไปซื้อกระทงที่วางขายอยู่ในบริเวณนั้น แต่แทนที่จะซื้อมาเป็นคู่ เขากลับเลือกกระทงที่ดูเรียบง่ายมาแค่อันเดียวเท่านั้น ทีแรกอาทิตย์จะแย้งแต่พอเห็นสีหน้าที่ดูจริงจังจึงจำต้องยอมสงบปาก พอไปนั่งริมน้ำ ก้องภพก็จัดแจงจุดธูปเทียนและหันไปทางอาทิตย์
“ขอผมพี่อาทิตย์เส้นหนึ่งครับ”
“คุณจะเอาไปทำอะไร”
เขาถาม ก้องภพแบมือมาข้างหน้าไม่ยอมตอบ และนิ่งอยู่ในท่านั้นจนอีกฝ่ายจำต้องดึงผมของตัวเองออกมาหนึ่งเส้นยื่นส่งให้ ปากก็บ่นพึมพำ
“ยุ่งจังว่ะ”
ก้องภพยังคงยิ้มและส่งกระทงให้คนเป็นพี่ถือ จากนั้นจึงดึงผมของตัวเองออกมา ผูกเข้ากับเส้นผมของอาทิตย์ แล้วบรรจงวางเอาไว้ในกระทง ทุกการกระทำเต็มไปด้วยความตั้งใจและจริงจัง พอจัดแจงทุกอย่างเสร็จเขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาคนที่กำลังยืนมองการกระทำของตัวเองอย่างอยากรู้
“เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปไงครับ”
ข้อเฉลยของก้องภพทำให้อาทิตย์ตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก พอมือของก้องภพช้อนมาประคองกระทง ปลายนิ้วของทั้งคู่ก็สัมผัสกัน ส่งผ่านความรักที่มีต่อกันโดยมีกระทงใบน้อยเป็นสื่อกลาง
“อธิษฐานสิครับ” ก้องภพเตือนด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนผู้ใหญ่บอกเด็ก อาทิตย์ทำหน้าง้ำย้อนถาม
“จะให้อธิษฐานอะไรล่ะ”
“แล้วแต่พี่อาทิตย์เลยครับ หรือถ้านึกไม่ออก จะขอให้ความรักของผมอยู่กับพี่ตลอดไปก็ได้”
“จะบ้าเหรอใครจะไปขอแบบนั้นวะ” อาทิตย์พูดเบาๆ ก่อนหลับตาลง ก้องภพมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาของอีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนพี่อาทิตย์ยังคงน่ารักเสมอ แถมยังไม่เคยลดความใจดีที่มีให้เขา ดูอย่างวันนี้ทั้งที่งานยุ่งและรถติด พี่อาทิตย์ก็ยังอุตส่าห์นั่งมอร์เตอร์ไซด์มา แถมยังยอมสละเส้นผม ละความอายประคองกระทงคู่กับเขาโดยไม่แคร์สายตาใคร
เขารักพี่อาทิตย์ ก้องภพบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่วัน กี่เดือนหรือกี่ปี ความรู้สึกนั้นยังมั่นคงไม่มีวันเปลี่ยน ซ้ำยังเพิ่มพูนขึ้น และหากย้อนเวลาได้เขาอยากถอยกลับไปสู่วันที่ได้ยินคำพูดนั้นเป็นครั้งแรก คำที่ทำให้วันนี้เขามีโอกาสได้มาลอยกระทงกับพี่อาทิตย์
“เสร็จแล้ว” เสียงดุเอ่ยขึ้น ก้องภพยิ้มให้
“งั้นเราปล่อยกระทงพร้อมกันเลยนะครับ”
“ไม่อ่ะ ขืนทำแบบนั้นใครเห็นเข้าอายเขาตาย”
ถึงปากจะพูดไปแบบนั้นแต่มือกลับช่วยกันประคองกระทงใบน้อยลงบนผิวน้ำ อาทิตย์รีบชักมือกลับทันทีส่วนก้องภพกลับใช้มือวักน้ำ ผลักกระทงที่มีเส้นผมของทั้งคู่ให้เคลื่อนออกจากฝั่ง ไหลเรื่อยไปรวมกลุ่มกับกระทงของคนอื่น ลอยละล่องตามกระแสน้ำ ก้องภพกับอาทิตย์ยืนมองจนมันหายไปจากสายตาแล้วจึงหลีกทางให้คนอื่นได้ลงไปบ้าง ส่วนทั้งคู่เดินกลับขึ้นมายังด้านบน ระหว่างนั้นคนเป็นน้องก็เอ่ยถาม
“พี่อาทิตย์อธิษฐานว่าอะไรหรือครับ”
“ผมไม่บอก” อีกฝ่ายตอบสั้นๆ ก่อนเริ่มต้นเดินนำ ก้องภพรู้ดีว่านั่นคือกริยาเขินของพี่อาทิตย์จึงไม่ซักไซ้และเดินตามโดยไม่ถามอะไรอีก พ้นจากท่าน้ำมาได้หน่อยจู่ๆ อาทิตย์ก็พูดขึ้น
“ผมหิว แวะหาอะไรกินกันก่อนดีไหม”
“ครับ” ก้องภพเห็นด้วยเพราะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน ความตื่นเต้นที่จะได้เจอคนที่แสนคิดถึงทำให้ลืมความหิวมาจนถึงตอนนี้ ทั้งคู่เดินต่อไปอีกหน่อยจนกระทั่งเจอร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวที่พอจะมีคนอยู่บ้าง เลือกที่นั่งได้แล้วอาทิตย์ก็สั่ง
“ผมเอาบะหมี่เกี๊ยวต้มยำพิเศษ”
“ของผมขอเส้นเล็กลูกชิ้นน้ำใส” ก้องภพสั่งเมนูโปรดของตัวเองบ้าง พลางอดหวนนึกถึงความหลังครั้งเก่า ตอนที่เขาและพี่อาทิตย์ออกจากงานเลี้ยง แวะกินบะหมี่ข้างทาง จะต่างกันก็ตรงบรรยากาศที่ตอนนั้นมีทั้งความสับสนและอึดอัด แต่ในตอนนี้มีเพียงความรู้สึกเดียวเท่านั้น
ความสุขใจ
ลอยกระทง [fanfic Sotus พี่อาทิตย์+ก้องภพ]
แฟนฟิก นิยายเรื่อง SOTUS พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง ของ Bitter Sweet
วันลอยกระทง
ก้องภพยืนมองพระจันทร์นวลสว่างกลมโตที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า ก่อนลดตาลงมองนาฬิกาข้อมือ พอเห็นเวลาบนหน้าปัด เขาก็ถอนใจออกมาเบาๆ
สองทุ่มแล้ว
ก้องภพคิดในใจก่อนหมุนศีรษะหันมองรอบตัว ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่บนลานซีเมนต์กว้างริมแม่น้ำเจ้าพระยา รอบตัวมีฝูงชนกำลังเดินไปมากันขวักไขว่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นหนุ่มสาวที่เดินเคียงคู่จูงมือกัน หรือไม่ก็ถือกระทงคนละใบ
ใช่แล้ว คืนนี้คือวันลอยกระทง เขาจึงถือโอกาสนัดพี่อาทิตย์ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทีแรกอีกฝ่ายโวยวายแถมบ่นไม่หยุดว่าเขาเลิกงานดึก แต่พอโดนก้องภพหยอดคำออดอ้อนสุดท้ายก็ใจอ่อนตอบตกลง โดยมีข้อแม้ว่าอาจมาถึงช้าหน่อย ซึ่งก้องภพเองก็ไม่ว่าอะไร เขารอพี่อาทิตย์ได้เสมอ ขอเพียงแค่ได้เจอ ได้พูดคุยกัน ได้มองหน้าจ้องดวงตาดุที่มีความใจดีซ่อนไว้ แค่นั้นก็สามารถทำให้ก้องภพอิ่มสุข มีแรงทำงานได้อีกหลายวัน
ก้องภพเรียนจบแล้ว และกลับไปช่วยกิจการครอบครัว ส่วนพี่อาทิตย์ก็งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ ทั้งสองจึงหาโอกาสพบหน้ากันได้น้อยครั้ง อย่างเช่นช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก้องภพไม่มีโอกาสเจอพี่อาทิตย์เลยแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งที่ช่วยปลอบประโลมใจให้หายเหงาได้ก็คือ ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว ที่กินทุกวันจนคนในบ้านแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆ คนไม่กินเผ็ดอย่างก้องภพจึงร้องหาแต่เมนูนี้ ยังไม่นับนมเย็นชมพูที่เจ้าตัวต้องชงตั้งไว้บนโต๊ะ พกใส่กระติกติดตัวตลอดเวลา ในครัวก็มีน้ำหวานเฮลส์บลูบอยแดงตั้งเป็นลังคู่กับนมสด เยอะจนแม่อดแซวไม่ได้ว่า ท่าทางก้องภพจะทำนมชมพูขายแข่งกับเซเว่น
อีกสิ่งที่ก้องภพมักทำก่อนนอนเสมอคือหยิบเกียร์ของใครบางคนขึ้นมาจ้องแล้วถอนใจออกมาด้วยความเหงา ซึ่งแม้จะสุขใจกับสิ่งที่ทำ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เขาคลายความคิดถึงพี่อาทิตย์ลงได้เลย
หลายครั้งที่ก้องภพเป็นฝ่ายโทร.ไปหาพี่อาทิตย์ ตอนเช้าเพื่อปลุกและกล่าวอรุณสวัสดิ์ บางทีอาจพ่วงช่วงกลางคืนที่เขาแน่ใจว่าพี่อาทิตย์เคลียร์งานเสร็จแล้ว พูดคุยซักถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจบท้ายด้วยคำว่าราตรีสวัสดิ์ เป็นแบบนี้มาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม ยิ่งทำก็ยิ่งคิดถึงแถมเพิ่มทวีมากยิ่งขึ้น จนบางครั้งก้องภพอยากขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าแล้วตะโกนออกมาดังๆ ว่า คิดถึงพี่อาทิตย์นะครับ!
เสียงปะทัดดังข้างตัวทำให้ก้องภพหลุดจากภวังค์ เขาหันไปมองวัยรุ่นที่กำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ถึงจะนึกตำหนิอยู่ในใจว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร แต่คำว่า ประเพณีทำให้เขาไม่มีสิทธ์ห้ามใคร แม้จะรู้ดีว่าแท้ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ก็ตาม
“ก้องภพ” เสียงใครบางคนดังมาจากทางด้านหลัง พอหันไปมองก็เห็นอาทิตย์กำลังยืนตีหน้าขรึมขมวดคิ้วยุ่งก่อนปล่อยประโยคต่อมา “ขอโทษที่ผมมาช้า คุณมานานแล้วหรือยัง?”
“ไม่ครับ ผมเองก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” ก้องภพปดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดมาก ซึ่งดูเหมือนพี่อาทิตย์จะไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ไม่ซักอะไร ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายบ่น
“รถติดเป็นบ้าเลย เนี่ยผมต้องนั่งมอร์เตอร์ไซด์มา ไม่งั้นป่านนี้คงติดแหงกอยู่บนสะพานปิ่นเกล้า ว่าแต่คุณนัดผมมาที่นี่ทำไม มีธุระอะไรเหรอ”
จบท้ายด้วยคำถามแถมยังจ้องด้วยดวงตาที่แสดงความสงสัย ก้องภพยิ้มในหน้าก่อนแกล้งส่งคำพูดกวน
“ต้องมีธุระเท่านั้นหรือครับถึงจะเจอพี่อาทิตย์ได้”
“วะ! คนอุตส่าห์ถามดีๆ ยังมาเล่นลิ้น งั้นผมกลับละ” ทำท่าจะเดินหนีไปจริงๆ ก้องภพรีบคว้าแขนอีกฝ่ายทันที
“เดี๋ยวครับพี่อาทิตย์” เขาเรียก พอเห็นอีกฝ่ายหันมาจ้องตาดุก็รีบปล่อยมือ “ขอโทษครับ”
ทำหน้าจ๋อยเหมือนลูกหมาหลงทางจนอาทิตย์ใจอ่อน แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นยืนกอดอกวางมาดเข้ม
“เอ้า มีอะไรก็ว่ามา” ท่าทางเหมือนสมัยที่เป็นเฮดว้ากไม่มีผิด ก้องภพคิดพลางแอบอมยิ้มแต่พอเห็นดวงตาคมฉายแววหงุดหงิด เขาก็รีบเปลี่ยนท่าทีเพราะรู้ดีว่าถ้าขืนยังแกล้งอีกต่อไป มีหวังพี่อาทิตย์ได้งอนจริงๆ
“พี่อาทิตย์งานยุ่งไหมครับ”
ไม่ได้ตอบ แต่เป็นการตั้งคำถามย้อนกลับ อาทิตย์จ้องเหมือนพยายามหยั่งว่าอีกฝ่ายมีแผนอะไรกันแน่ก่อนตอบเรียบๆ
“ยุ่งสิ มากด้วย”
น้ำเสียงห้วนฟังดูจริงจังแถมยังจ้องคนถามเขม็งเชิงตำหนิที่เรียกเขาออกมากะทันหันแบบนี้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ก้องภพรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย
“ถ้ายุ่งขนาดนั้นคงเครียดน่าดู ผมว่าพี่อาทิตย์น่าจะลองเจียดเวลาหาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายบ้างนะครับ”
“ก็แล้วจะให้ผมทำอะไร” อาทิตย์ย้อนถาม วินาทีเดียวกันนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกตัวว่า กำลังตกหลุมพรางรุ่นน้องเมื่อเห็นก้องภพยิ้ม
“วิธีพักมีตั้งหลายอย่างนี่ครับ อย่างเดินเล่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง กินกาแฟเย็น”
“อันนั้นผมกินประจำอยู่แล้ว” อาทิตย์โพล่งสวนกลับมาทันทีและหยุดเมื่อนึกได้ว่าเขากำลังหลุดความลับของตัวเอง เลยรีบแกล้งทำเป็นโมโหใส่เพื่อกลบความอาย “มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม”
“ไม่ครับ” ก้องภพตอบ เอนตัวเข้าไปหาอาทิตย์อีกนิด กระซิบข้างหูเบาๆ “ผมคิดถึงพี่อาทิตย์ครับ”
คำสารภาพชนิดจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ความร้อนไล่เป็นริ้วขึ้นหน้า อาทิตย์รีบขยับออกห่างพร้อมกับพูดห้วนๆ
“บ้าหรือเปล่า” เขาเหลือบตามองไปรอบตัว “เกิดใครได้ยินเข้าจะคิดยังไง”
“ผมไม่สน แต่ถ้าพี่อาทิตย์กลัว เราย้ายไปหาที่เงียบๆ คุยกันสองคนก็ได้นะครับ”
ก้องภพยื่นข้อเสนอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พี่อาทิตย์กวาดตามองไปรอบๆ เพื่อมองหา ‘ที่เงียบ’ อย่างที่อีกฝ่ายพูด แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางเป็นไปได้เพราะในเวลานี้ ลานซีเมนต์กว้างแออัดไปด้วยผู้คน ซึ่งดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นทุกวินาที แถมพอสังเกตให้ดีจะพบว่าส่วนใหญ่แล้วคนเหล่านั้นจะมากันเป็นคู่ เดินเกี่ยวก้อยควงแขนคุยกระหนุงกระหนิงกันอย่างมีความสุข ทำให้พี่อาทิตย์ต้องถอนใจออกมาเบาๆ
มันก็ใช่ที่ความรู้สึกที่เขามีต่อก้องภพ มีมากเสียจนไม่อาจหาคำมาบรรยายได้ แต่อาทิตย์ก็พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แม้พวกเขาจะเดินคู่กัน ก็ไม่จำเป็นต้องจูงมือ ขอเพียงได้อยู่ใกล้ ได้พูดคุยสบตา เท่านั้นก็มากเกินพอแล้วสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายสองคน
“พี่อาทิตย์ครับ” เสียงก้องภพเรียกไม่ดังนัก คนที่กำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ หันไปมองหน้า
“อะไร”
“ไปลอยกระทงกันไหมครับ”
“จะบ้าเหรอ ผมไม่ได้มาเดตนะ” อาทิตย์เริ่มโวยวาย ก้องภพเลิกคิ้ว
“ผมชวนพี่ไปลอยกระทง ไม่ได้ไปเดต แต่ถ้าพี่จะคิดแบบนั้นก็ได้นะครับ” ก้องภพพูดพร้อมกับส่งยิ้มที่ทำให้อาทิตย์ต้องใจเต้น เขาเลยแสร้งมองไปทางคู่หนุ่มสาวที่กำลังยกกระทงขึ้นเพื่ออธิษฐาน
“มีแต่คู่รักทั้งนั้น”
“แล้วเราไม่ใช่หรือครับ” ก้องภพพูด “ผมเป็นแฟนพี่อาทิตย์ แล้วพี่อาทิตย์ก็เป็นคนที่ผมรักที่สุด แค่นี้เราก็ลอยกระทงกันได้แล้วครับ”
เหตุผลแบบตรงไปตรงมาของก้องภพทำให้อาทิตย์เถียงไม่ออก ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายดันทุรัง
“แล้วจะให้ผมอธิษฐานอะไร”
คราวนี้ก้องภพยิ้มในแบบที่คนเห็นเข้าใจความหมายได้ในทันที อาทิตย์จึงหันหน้าหนีพร้อมกับพูดพึมพำ
“ตามใจ อยากทำอะไรก็ทำ”
ก้องภพส่งยิ้มให้อย่างดีใจก่อนเดินนำพี่อาทิตย์ไปซื้อกระทงที่วางขายอยู่ในบริเวณนั้น แต่แทนที่จะซื้อมาเป็นคู่ เขากลับเลือกกระทงที่ดูเรียบง่ายมาแค่อันเดียวเท่านั้น ทีแรกอาทิตย์จะแย้งแต่พอเห็นสีหน้าที่ดูจริงจังจึงจำต้องยอมสงบปาก พอไปนั่งริมน้ำ ก้องภพก็จัดแจงจุดธูปเทียนและหันไปทางอาทิตย์
“ขอผมพี่อาทิตย์เส้นหนึ่งครับ”
“คุณจะเอาไปทำอะไร”
เขาถาม ก้องภพแบมือมาข้างหน้าไม่ยอมตอบ และนิ่งอยู่ในท่านั้นจนอีกฝ่ายจำต้องดึงผมของตัวเองออกมาหนึ่งเส้นยื่นส่งให้ ปากก็บ่นพึมพำ
“ยุ่งจังว่ะ”
ก้องภพยังคงยิ้มและส่งกระทงให้คนเป็นพี่ถือ จากนั้นจึงดึงผมของตัวเองออกมา ผูกเข้ากับเส้นผมของอาทิตย์ แล้วบรรจงวางเอาไว้ในกระทง ทุกการกระทำเต็มไปด้วยความตั้งใจและจริงจัง พอจัดแจงทุกอย่างเสร็จเขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาคนที่กำลังยืนมองการกระทำของตัวเองอย่างอยากรู้
“เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปไงครับ”
ข้อเฉลยของก้องภพทำให้อาทิตย์ตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก พอมือของก้องภพช้อนมาประคองกระทง ปลายนิ้วของทั้งคู่ก็สัมผัสกัน ส่งผ่านความรักที่มีต่อกันโดยมีกระทงใบน้อยเป็นสื่อกลาง
“อธิษฐานสิครับ” ก้องภพเตือนด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนผู้ใหญ่บอกเด็ก อาทิตย์ทำหน้าง้ำย้อนถาม
“จะให้อธิษฐานอะไรล่ะ”
“แล้วแต่พี่อาทิตย์เลยครับ หรือถ้านึกไม่ออก จะขอให้ความรักของผมอยู่กับพี่ตลอดไปก็ได้”
“จะบ้าเหรอใครจะไปขอแบบนั้นวะ” อาทิตย์พูดเบาๆ ก่อนหลับตาลง ก้องภพมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาของอีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนพี่อาทิตย์ยังคงน่ารักเสมอ แถมยังไม่เคยลดความใจดีที่มีให้เขา ดูอย่างวันนี้ทั้งที่งานยุ่งและรถติด พี่อาทิตย์ก็ยังอุตส่าห์นั่งมอร์เตอร์ไซด์มา แถมยังยอมสละเส้นผม ละความอายประคองกระทงคู่กับเขาโดยไม่แคร์สายตาใคร
เขารักพี่อาทิตย์ ก้องภพบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่วัน กี่เดือนหรือกี่ปี ความรู้สึกนั้นยังมั่นคงไม่มีวันเปลี่ยน ซ้ำยังเพิ่มพูนขึ้น และหากย้อนเวลาได้เขาอยากถอยกลับไปสู่วันที่ได้ยินคำพูดนั้นเป็นครั้งแรก คำที่ทำให้วันนี้เขามีโอกาสได้มาลอยกระทงกับพี่อาทิตย์
“เสร็จแล้ว” เสียงดุเอ่ยขึ้น ก้องภพยิ้มให้
“งั้นเราปล่อยกระทงพร้อมกันเลยนะครับ”
“ไม่อ่ะ ขืนทำแบบนั้นใครเห็นเข้าอายเขาตาย”
ถึงปากจะพูดไปแบบนั้นแต่มือกลับช่วยกันประคองกระทงใบน้อยลงบนผิวน้ำ อาทิตย์รีบชักมือกลับทันทีส่วนก้องภพกลับใช้มือวักน้ำ ผลักกระทงที่มีเส้นผมของทั้งคู่ให้เคลื่อนออกจากฝั่ง ไหลเรื่อยไปรวมกลุ่มกับกระทงของคนอื่น ลอยละล่องตามกระแสน้ำ ก้องภพกับอาทิตย์ยืนมองจนมันหายไปจากสายตาแล้วจึงหลีกทางให้คนอื่นได้ลงไปบ้าง ส่วนทั้งคู่เดินกลับขึ้นมายังด้านบน ระหว่างนั้นคนเป็นน้องก็เอ่ยถาม
“พี่อาทิตย์อธิษฐานว่าอะไรหรือครับ”
“ผมไม่บอก” อีกฝ่ายตอบสั้นๆ ก่อนเริ่มต้นเดินนำ ก้องภพรู้ดีว่านั่นคือกริยาเขินของพี่อาทิตย์จึงไม่ซักไซ้และเดินตามโดยไม่ถามอะไรอีก พ้นจากท่าน้ำมาได้หน่อยจู่ๆ อาทิตย์ก็พูดขึ้น
“ผมหิว แวะหาอะไรกินกันก่อนดีไหม”
“ครับ” ก้องภพเห็นด้วยเพราะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน ความตื่นเต้นที่จะได้เจอคนที่แสนคิดถึงทำให้ลืมความหิวมาจนถึงตอนนี้ ทั้งคู่เดินต่อไปอีกหน่อยจนกระทั่งเจอร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวที่พอจะมีคนอยู่บ้าง เลือกที่นั่งได้แล้วอาทิตย์ก็สั่ง
“ผมเอาบะหมี่เกี๊ยวต้มยำพิเศษ”
“ของผมขอเส้นเล็กลูกชิ้นน้ำใส” ก้องภพสั่งเมนูโปรดของตัวเองบ้าง พลางอดหวนนึกถึงความหลังครั้งเก่า ตอนที่เขาและพี่อาทิตย์ออกจากงานเลี้ยง แวะกินบะหมี่ข้างทาง จะต่างกันก็ตรงบรรยากาศที่ตอนนั้นมีทั้งความสับสนและอึดอัด แต่ในตอนนี้มีเพียงความรู้สึกเดียวเท่านั้น
ความสุขใจ