กลยุทธ์ที่จะสู้ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย

กระทู้สนทนา
คำแนะนำที่จะสู้ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย
    
กลยุทธต่อไปนี้อย่างน้อยน่าจะเป็นแนวทางให้ซิโก้นำไปใช้ในการวางแผนได้อยู่ที่ซิโก้จะนำไปใช้หรือไม่

การตั้งรับ
    เปรียบเหมือนการรับมือน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก สิ่งที่ทำคือ การชะลอน้ำ ไม่ให้มาเร็วเกินไป
ด่านแรกสร้างทำนบกันน้ำ ฝายชะลอน้ำ
ด่านที่สองสร้างแก้มลิงกักเก็บน้ำ ขุดลอกคูคลองเพื่อไม่ให้ตื้นเขินขวางทางเดินของน้ำ
ด่านที่สามสร้างอ่างเก็บน้ำ สร้างเขื่อน เพื่อรับมือกับน้ำกักเก็บไว้ใช้
ด่านที่สี่สร้างคลองหลายสาย เพื่อให้น้ำได้มีที่ไป และไม่ท่วมพื้นที่สร้างความเสียหาย
เมื่อน้ำมาถึงก็จะสามารถสลายพลังของน้ำให้ลดน้อยถอยลงได้

การตั้งรับแบบที่สอง
    ตั้งรับแบบไม่ตายตัว คือ เดี๋ยวรับแทนการรุก เดี๋ยวรุกแทนการรับพลิกแพลงตามสถานการณ์ที่แตกต่าง ทั้งลวงศัตรู สร้างความงุนงงแก่คู่ต่อสู้ ขุดหลุมพรางข้าศึก ให้ฝ่ายตรงข้ามกระทำผิดพลาดใช้ออกสารพัดสารพัน  จุดประสงค์เพื่อลิดรอนกำลังของศัตรู สร้างความระส่ำระสายแก่ทัพตีเมืองของฝ่ายตรงข้าม  ค่อยกระตุกขาหลังของทัพใหญ่ข้าศึก  สร้างสถานการณ์ว่ากำลังหนุนของเราสามารถโจมตีทัพข้าสุนัขป่าไม่หยุดหย่อน บีบบังคับให้ศัตรูทำศึกสองทาง  สูญเสียอำนาจในการเป็นฝ่านกำหนดไป
ที่มา : เหยี่ยวมารสยบสิบทิศ ภาค 3 เล่ม 11
แต่คนที่จะใช้วิธีนี้ต้องมีไหวพริบ สติปัญญา รู้จักพลิกแพลง ใช้สิ่งแวดล้อมและสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์โจมตีคู่ต่อสู้ถึงจะได้ผล สำคัญที่สุดต้อง ปรับใช้เป็น

การรุก
    เปรียบเหมือนการรบแบบกองโจร เห็นจุดอ่อนจึงเข้าตี สำเร็จหรือไม่ให้รีบล่าถอย สร้างความปั่นป่วนให้กับฝ่ายตรงข้าม รุกและถอยต้องรวดเร็ว พลิกแพลงตามสถานการณ์

หากเจอทีมที่แข็งแกร่ง สมมติให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นเต่าสิ่งที่ทำคือ พลิกกระดองมันซะ หรือ เปรียบเป็นจิ้งจอกที่ล่าเม่นแคระ หรือ เม่นยุโรป ช่วยแก้ไขให้ด้วยผมเรียกไม่ถูก สิ่งที่มันทำคือ ใช้จมูกเขี่ยเม่นพลิกขึ้นมา แล้วมันก็จัดการส่วนที่ไม่มีขนเม่นซะ

เท่าที่ดูยังไม่สอดประสานกันเท่าที่ควร ยังสะเปะสะปะ ยังไม่เข้าใจในหน้าที่ของตนเองอยู่ ทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นยาก และเสียพละกำลังในการสู้กับฝ่ายตรงข้าม ถ้าหากจะปรับต้อง “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”

เข้าใจ  : หน้าที่ที่ได้รับมาคืออะไร สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้หรือไม่
เข้าถึง : นักเตะสามารถดึงศักยภาพออกมาได้หรือไม่ มีจุดเด่นคืออะไร นักเตะต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อน
พัฒนา : จากนั้นดึงศักยภาพของตนเองให้ได้มากที่สุด ปรับปรุงในส่วนที่บกพร่องหรือชดเชยในส่วนที่ขาด

นี้คือการนำมาใช้กับนักฟุตบอลทีมชาติไทย

ถ้าหากสมาคมฟุตบอลไทยและกองเชียร์ไทยหวังผลบอลแพ้ชนะ ก็อยู่ในอาเซียนต่อไป แต่ถ้าอยากหวังผลบอลพัฒนาจงสนับสนุนให้พวกเขาได้เล่นระดับเอเชียให้มากขึ้น หวังว่าคงไม่กลับไปสู่ยุคมืดนะครับ

ส่วนนี้เป็นกลยุทธของนักพิชัยสงครามของจีนเรียกว่า

ค่ายกลจตุรเทพ
    ประกอบไปด้วย 4 ทิศ 5 ตำแหน่ง ผสมผสานกับหลักค่ายกล 5 ธาตุ ของจีน คือ ดิน น้ำ ไม้ ไฟ และ ทอง
และการจัดวางในแต่ละขบวนทัพนั้น จัดวางตามหลัก 7 ดาว ในแต่ละทิศ ซึ่งเน้นถึงพลังที่แตกต่างในแต่ล่ะทิศ

ทิศทักษิณ        จูเชี่ย    (หงส์ไฟ)        ธาตุไฟ         เน้นการสังหาร
ทิศอุดร            เสวียนอู่    (เต่าดำ)        ธาตุน้ำ         เน้นการป้องกัน  
ทิศประจิม        ไป๋หู    (เสือขาว)        ธาตุทอง        เน้นการทำลาย
ทิศบูรพา            ชิงหลง    (มังกรเขียว)    ธาตุไม้        เน้นการพลิกแพลง
ทิศมัชฌิม        เซวียนหยวน (มังกรเหลือง)    ธาตุดิน        เน้นกลยุทธ์และบัญชาการศึก
    นี่คือวิธีการใช้ค่ายกลจตุรเทพ พลิกแพลงจากมีเป็นไม่มี จากไม่มีเป็นมี จากจริงเป็นเท็จ จากเท็จเป็นจริง พลิกแพลงแปรเปลี่ยนกลายเป็นร้อยเปลี่ยนพันแปลง อยู่ที่คนควบคุมและนำไปปรับใช้สถานการณ์ต่างๆ

อ้างอิงจาก : สามก๊กออนไลน์
อาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาต้องขออภัยด้วยนะครับ

หากเอามาใช้ในการเล่นฟุตบอล
กองหน้า     คือ หงส์ไฟ การสังหาร ต้องเด็ดขาด กล้าเลี้ยง กล้ายิง กล้าตัดสินใจ
ปีกขวา คือ เสือขาว การทำลาย โจมตีให้สุดกำลัง ดุดัน ทรงพลัง
ปีกซ้าย คือ มังกรเขียว การพลิกแพลง สร้างความปั่นป่วน เห็นจุดอ่อนจึงจัดการ
ปีกขวาและซ้าย เปรียบได้กับ เสือซุ่มมังกรซ่อน
กองกลาง คือ มังกรเหลือง ค่อยคุมเกม อ่านเกม ทั้งรุกและรับ หัวใจในการเล่นจึงอยู่ที่กองกลาง
กองหลัง คือ เต่าดำ การป้องกัน ค่อยสกัดกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามทำประตูได้ เป็นด่านสุดท้ายก่อนถึงประตูถ้าหากมีจังหวะก็สวนกลับให้ปีกซ้ายขวา และกลาง หรือ กองหน้ายิงประตูฝ่ายตรงข้าม

นี้คือสิ่งที่ผมนำปรับใช้ในการเล่นฟุตบอล เป็นแนวทางลองนำไปศึกษาดูเพิ่มเติมก็ได้เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทีมชาติไทยได้ ส่วนค่ายกล5ธาตุนี้เคยนำไปใช้ในการทำสงครามจริงๆ อย่ามาล้อเล่นนะครับ
    
ถ้าให้วิเคราะห์ทีมชาติไทยส่วนใหญ่ไม่เคยผ่านระบบ Academy เป็นแบบระบบ “ปากกัดตีนถีบ” เข้าใจที่ผมบอกนะครับ ส่วนใหญ่การฝึกแบบปกติไม่ได้ผลแล้วครับเพราะความสามารถยังไม่อาจสู้ทีมระดับเอเชีย โค๊ชเริ่มหมดมุกในการรับมือกับทีมระดับเอเชีย แต่ก็มีวิธีอยู่ กล้าที่จะเสี่ยงหรือไม่ วิธีที่ผมบอกต่อไปนี้เป็นเคี่ยวกรำทางจิตใจ ไม่ได้เคี่ยวกรำทางร่างกาย ขอยกตัวอย่างให้เห็นชัด คือ

สมมติว่านักเตะฝ่ายเราโดนรุมสาม จะทำยังไงให้ผ่านไปได้?
ถ้าหากจะแย่งบอลจากคู่ต่อสู้ที่แข่งแกร่งและตัวใหญ่กว่าจะทำอย่างไร?
หากแย่งบอลจากคนที่เล็กกว่าแต่มีลูกล่อลูกชนมีความคล่องแคล่วรวดเร็วจะทำอย่างไร?
จะส่งบอลอย่างไรให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ และเพื่อนร่วมทีมสามารถเล่นง่าย?
ถ้ากองหลังเรามีสอง กองหน้าฝ่ายตรงข้ามมีสาม จะอย่างไรไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามยิงหรือส่งถึงเขตโทษได้?
ถ้ากองหน้าเรามีหนึ่ง กองหลังฝ่ายตรงข้ามมีสาม จะทำอย่างไรให้ผ่านไปถึงเขตโทษคู่ต่อสู้ได้?
ทุ่มอย่างไรให้ได้เปรียบ?
เคลื่อนที่อย่างไรให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดช่องว่างและเพื่อนส่งให้เราได้ง่าย?
ทำอย่างไรส่งบอลไปถึงเขตโทษของฝ่ายตรงข้ามภายใน3-4ครั้งจากแดนเราถึงแดนเขา?
เป็นการยกตัวอย่างให้เห็นนะครับ อยู่ที่โค๊ชจะกล้าเสี่ยงนำวิธีที่ผมคิดขึ้นมา เอาไปใช้หรือไม่?

หัวใจของวิธีนี้อยู่ที่ “คิด” สั้นๆง่ายๆ แต่ยากอย่างยิ่ง นักเตะต้องมีแรงผลักดัน ถึงจะใช้ได้ผล
ข้อสำคัญ คือ ไม่สอน ไม่แนะนำ ให้นักเตะคิดเอง พยายามเอาเอง
โค๊ชต้องเลือดเย็น เปรียบเหมือนการที่สิงโตผลักลูกของมันตกจากเหวแล้วให้เอาชีวิตรอดเอง หรือ การฝึกนักรบสปาตาร์เมื่อชาวสปาตาร์ที่เป็นวัยรุ่นและกำลังก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ จะปล่อยให้อยู่ในป่า โดยมีหอกและมีดอย่างล่ะเล่ม ให้เอาชีวิตรอดภายใน3-7วัน ถ้ารอดมาได้ถือว่าเป็นนักรบสปาตาร์โดยสมบูรณ์
เวลาที่นักเตะงอแง หงุดหงิด เครียด จงพูดประโยคนี้ออกมาซะ
“เชิญออกจากแคมป์ได้เลยนะ ถ้าไม่ไหว พี่ไม่ว่า ”
“มีรถรับส่งกลับไปถึงบ้านเลยเอามั้ย”
ไม่มีการโอ๋ไม่มีการง้องอน ใครไม่ไหวก็ออกได้ไม่มีใครว่า หึหึหึ
อยากก้าวกระโดดมั้ยล่ะถ้าอยาก ลองฝึกวิธีนี้ดูแต่ใจต้องสู้นะครับ ถ้านักเตะทีมชาติไทยผ่านได้สักครึ่งหนึ่งผมก็ดีใจมากเลย หรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็ได้ใครจะไปรู้
ถ้าอยากได้หลักที่จะก้าวกระโดด คือ ขณิกสมาธิ หรือ วิปัสสนากรรมฐาน
ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ การเดิน ขวาย่าง ซ้ายย่าง เวลาเดินในแคมป์ฝึกก็ได้ กำหนดจิตเวลาเดิน ขวาย่าง ซ้ายย่าง แค่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
ส่วนนักเตะที่จะแนะนำก็มีสองคนเหมือนเดิม
ลีซอ กล้าเลี้ยง กล้ายิง กล้าตัดสินใจ สั้นๆจบนะ
โก้ ดัสกร ทองเหลา เอามาช่วยรุ่นน้อง ไม่ให้กองกลางพังพิพินาศแต่ต้องใช้ถูกจังหวะและสถานการณ์ ถ้าให้แนวทางเขาคงบอกประมาณนี้ ให้ส่งบอลไปถึงกองหน้ายังไงก็ได้ ไม่ให้กลางเพลี่ยงพล้ำ อย่าส่งคืนหลังบ่อย แค่นี้แหละครับ ต้องบอกประมาณนี้ถึงจะเข้าใจ เพราะเป็นนักเตะอารมณ์ศิลปิน ถึงบอกแบบนี้
ถ้าหาใครที่ดีกว่าสองคนนี้ ก็ได้นะครับไม่กว่ากัน ช่วยหาให้ทีมชาติไทยด้วย ให้โค๊ชพิจารณา ส่วนที่บอกว่าผมอวยสองคนนี้
ข้อบอกว่า ผมมองตามเนื้อผ้า มองว่าสามารถปิดจุดอ่อนของทีมชาติไทยได้
ลีซอ เอามาช่วยมุ้ย เพราะปีกซ้ายขวาเป็นปีกรับ ไม่ใช่ปีกรุก ทำให้มุ้ยต้องทำงานหนัก ขึ้นลงๆ เห็นแล้วสงสาร
โก้ อย่างน้อยเขาจะไม่ลนลานเวลาโดนเพรซซิ่ง อย่างน้อยเจ ไม่ต้องเหนื่อยมาก สงสารเขาครับ ด้วยประสบการณ์ ความเก๋าเกมน่าจะช่วยทีมได้เยอะครับ
ผมต้องแค่ให้โอกาสสองคนนี้ก็พอครับ ลองไปใช้ในซูซูกิดูก็ได้ไม่เป็นไรนี่ครับ  

ส่วนนี้เป็นคำถามสำหรับโค๊ชและนักเตะทีมชาติไทย
ถ้าเป็นซิโก้ผมจะถามว่า
คุณมาเป็นโค๊ชเพื่ออะไร?
ถ้าเป็นนักเตะทีมชาติไทย
คุณมาเป็นนักเตะเพื่ออะไร?
คล้ายกับคำถามที่ว่า “เราเป็นใคร”
ต้องตอบคำถามนี้กับตัวเองนะครับ ไม่มีใครช่วยได้ ถ้าตอบตัวเองได้ถึงจะมีสิทธิ์ก้าวกระโดดได้

ถ้าจะเพิ่มเติมให้ก็ลองไปศึกษาเทปยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอซีมิลาน
ว่าทีมบ่อน้ำมันทำไมถึงได้แชมป์ ดูว่าราฟา เบนิเตซแก้เกมส์ ยังไง จาก 3-0 ตีเสมอเป็น 3-3 น่าจะเป็นแนวทางที่ดีสำหรับทีมชาติไทยในตอนนี้
ส่วนถ้าอยากจะสู้กับทีมชาติญี่ปุ่นได้ผมขอแนะนำแบบนี้นะครับ
สมมติว่าผมให้ขวานคมๆเล่มหนึ่ง ไปตัดต้นไม้สูงใหญ่ แต่ผมมีข้อแม้ว่าให้คุณตัดให้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวจะทำอย่างไร?
ถ้าให้บอกใบ้เผื่อว่านึกไม่ออกลองไปดูหนัง lincorn ประธานาธิบดีนักล่าแวมไพร์ จะมีอยู่ฉากหนึ่ง เป็นฉากตัดต้นไม้คนที่สอนให้โจทย์แบบนี้มา แล้วลินคอร์นตัดได้อย่างไรลองไปดูน่าจะได้แนวทางในการสู้กับทีมชาติญี่ปุ่นนะครับ

สุดท้ายถ้าจะขออะไรกับโค๊ชและนักเตะทีมชาติไทย
ไม่ขอให้เตะในนามของ นักเตะของพระเจ้าอยู่หัว
ขอให้เตะในนามของ นักรับพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
นี้คือสิ่งที่ผมขอครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่