ถ้าจะพูดถึงดนตรีที่โดนใจวัยรุ่น แทบจะทั้งโลก คงไม่พ้นสายหล่ออย่างPost-hardcore
และหลังจากหลายวงที่นำแนวPost-hardcore มาผสมกับMetalcoreบวกกับเสียงElectronicore เก๋ๆ
ยกตัวอย่างเช่นAsking Alexandriaที่นำแนวดนตรีนี้ดังจนพลุแตกมาแล้วอยากให้ลองแวะฟังกับวงนี้ซะบ้าง
Capture the crown คืออีก 1วงPost-hardcore,Metalcore,Electroniccore ที่น่าสนใจจากแดนจิงโจ้
ที่เดินทางตามหาความฝันจากAustraliaมาถึงAmericaแผ่นดินใหญ่
โดยเราขอย้อนพูดถึงจุดเริ่มต้นของพวกเขา หลังจากที่ได้ยุบวง Atlanta Takes State Jeffrey,Blake และJye
สมาชิกดั้งเดิมก็ได้เริ่มตามหามือเบสและมือกลอง จนได้มาพบกับKrisและTyler
โดยหลังจากนั้นไม่นาน ทางวงก็ได้ปล่อย MV และ Singlesในเพลง
You Call That A Knife? This Is A Knife!ในปี2011 ที่มียอดวิวกว่า 5ล้านวิวโดยไม่ถึงปีนับจากวันที่อัพโหลด
จนปัจจุบันมียอดวิวกว่า14ล้านเข้าไปแล้ว
และได้เซ็นสัญญากับค่าย ยอดมนุษย์ Sumerian Records ในอัลบัมแรก
โดยหลังจากที่ร่วมทัวร์เพื่อเก็บเกี่ยวประสปการ์ณโดยได้เป็น1ในวงที่ร่วมทัวร์ในโปรเจค
We'll Give You a Reason ร่วมกับ วงรุ่นพี่อย่าง
Chunk! No, Captain Chunk!, Our Last Night, Secrets, และ The Seeking
รวมทั้ง ได้เป็นส่วนหนึ่งของOf Mice & Men's 2013 US Headlining tour ร่วมกับ
Woe, Is Me, Texas in July, and Volumes ด้วยเช่นกัน
และใช้เวลาไม่ถึงขวบปี ณในเวลาเดือนพฤศจิกายน 'Til Death สตูดิโออัลบัมแรกของวง
เป็นสายหล่อประกอบไปด้วย เสียงสครีมเท่ห์ ๆ และท่อนคลีน เพราะๆ +กับดนตรีที่ฟังไม่ยากนักและเสียง
อีเลคโทรนิกส์ ช่วยเพิ่มสีสัน
โดย'Til Death มีTracklistดังนี้ครับ
1. The Arrival
2. #OIMATEWTF
3. Fork Tongued
4. Ladies & Gentlemen... I Give You Hell
5. LAX
6. You Call That A Knife? This Is A Knife!
7. Storm In A Teacup
8. Help Me To Help You
9. Deja Vu
10. Insomniac
11. RVG
12. 'Til Death
13. The Departed 2.0
14. Welcome To My Worlds
เกร็ดความรู้สำรับCapture the Crownช่วงแรกและ 'Til Death ครับ
•Jeffrey Wellfare นักร้องนำ Blake Ellis มือกีตาร์ Jye Menzies มือกีตาร์ เคยอยู่วงเดียวกันคือ Atlanta Takes State
•Atlanta Takes State มีสมาชิก6คนโดยดั้งเดิมมีมือ ซินธิไซเซอร์ด้วย
•Blake Ellisตอนแรกรับตำแหน่งมือเบสให้กับ Atlanta Takes State ก่อนจะมาเล่นกีตาร์ใน Capture the Crown
•Kris Sheehan มือเบสเคยทำวง Curse At 2 ร่วมกับ Jeffrey Wellfareมาก่อน
•Tyler March มือกลอง มีชื่อเล่นว่า Lone America
•Tyler March คืออดีตสมาชิกวง A Late Night Serenade
•Tyler March เป็นสมาชิกคนเดียวที่อาศัยอยู่ที่Carlisle, Pennsylvania แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นที่มาจาก Australia
• Singles #OIMATEWTFได้ Denis Shaforostovเจ้าหนูมหัศจรรย์จาก Make Me Famousมาร่วมร้องด้วยครับ
•ทางวงได้ตัดแทรค Hats Off To You ออกโดยไม่ทราบสาเหตุทั้งๆที่เป็นเพลงที่เข้ากับอัลบัม 'Til Deathมากๆ
•ทางวงได้นำ เพลงIn My Head ของJason Derulo มาCoverใหม่ โดยที่ไม่ปรากฏอยู่บน Punk Goes Pop 5
•'Til Death ได้Produceมือทอง Cameron Mizellและได้ Joey Sturgisมาช่วย Mix,Mastering
ถือว่าเป็นไม่กี่อัลบัมที่รวมสองสุดยอด Producer มือทองมาร่วมงานกัน
หลังจากวงได้เปิดตัวไปกับอัลบัมแรก ถึงแม้จะไม่ได้ชื่อเสียงการตอบรับที่ดีเท่าไร แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกอัลบัมที่น่าจับมองทีเดียว รวมทั้งได้ร่วมทัวร์กับ
วงรุ่นพี่ และรุ่นน้อง ในหลายๆที่เช่น The Generation Now Tou และ Vans Warped Tour
และไม่รอช้าที่จะนำ วัตถุดิบและประสปการ์ณที่ได้รับ มาเริ่มเขียนเพลงใหม่
แน่นอน ว่านั่นคือ คือ Rebearth เพลงใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่ Jeffreyร้องได้ดีมากกกกกๆๆ อีกเพลงหนึ่ง
แน่นอนความพิเศษเพลงนี้คือได้พ่อหนุ่ม Tyler "Telle" Smith แห่งคณะ The Word Alive มาเป็นแขกรับเชิญด้วยครับ
ช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยที่ Kris Sheehan สลับตำแหน่งกับ Blake Elli โดยหลังจากนี้ Krisจะเล่นกีตาร์ ส่วน Blake จะกลับไปเล่นเบสครับ
เป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนักในช่วงเริ่มลมหนาว ในปี 2013 ที่ทางค่าย Sumerian ได้ประกาศแยกทางกับพวกเขา
จนทำให้ต้องยกเลิก UK tour อย่างน่าเสียดาย
แต่ถึงอย่างไรพวกทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อเมื่อทางวงได้ประกาศระดมทุนเพื่อทำ EP ชิ้นใหม่ ผ่าน Indiegogo Campaign
และEPที่ว่านั้นมีชื่อว่า Live Life
โดย Live Life มีTracklistดังนี้ครับ
1. Live Life
2. Rebearth
3. Bloodsuckers
4. All Hype All Night
5. When I Get Home
เกร็ดความรู้สำรับCapture the Crownช่วงที่สองและ' Live Life ครับ
•Live Life มีการกำหนดวงเงินในการทำอัลบัม แค่ 10,000 USD แต่ด้วยความเหนียวแน่นของแฟนเพลงหรือความโชคดีของพวกเขา
ทำให้ยอดเงินระดมทุนมีมากถึง 22,207 USD !
•Live Life ถือเป็นการทำงานแบบทำเองขายเองครั้งแรกและครั้งเดียวของวง จึงมีการปั๊มแผ่นมาจำนวนจำกัดมากๆ ปัจจุบันเลยกลายเป็นของหายากที่สุดของวง
•อย่างที่รู้ๆกันว่าKris Sheehan สลับตำแหน่งกับ Blake Elli ตั้งแต่กลางปีแล้ว รวมถึงการทำเพลงในชุดนี้ Kris ได้เล่นกีตาร์และ Blakeก็ได้กลับไปเล่นเบสโดยปริยาย
•แน่นอนว่ายังคงใช้ Cameron Mizell มาเป็นProducer และJoey Sturgisมาช่วย Mix,Mastering ส่วนJye Menziesมือกีตาร์ของวง
และShawn Christmasร่วมเป็น Co Producerด้วย
•แขกรับเชิญในอัลบัมนี้ได้แก่ Live Life ได้Gus Farias จากคณะVolumes และ Rebearth ได้Tyler Telle"Smith จาก The Word Alive
นี่คือผลงานสุดท้ายของสมาชิกยุคก่อตั้งวงอย่าง Blake Ellisที่ได้บันทึกอัลบัมนี้ก่อนประกาศแยกทางกับวงอย่างน่าเสียดาย
•Live Life คือผลงานที่ผู้เขียนถือว่าเป็นงาน Masterpieceที่สุดยอดที่สุดในสามชุดของวงครับ
หลังจากนั้นไม่นานปีหน้าฟ้าใหม่ ณ มกราคมปี2014 หลังจากที่ออก Live Life EP ได้ไม่นาน
ความตั้งใจของพวกเขาก็ได้ไปเข้าตา Matt Good แห่งวง From First to Last
โดย Matt Goodได้ทาบทามพวกเขาให้แก่ค่าย Artery Recordings และกำลังเริ่มต้นทำStudio Album ชุดที่ 2 "Reign Of Terror"
โดยมีกำหนดที่จะออกอัลบัมใหม่
ในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกันนั่นเอง
และได้ปล่อย Single เพื่อโปรโมท อัลบัมของพวกเขา
To Whom It May Concern , I Hate You และ Make War, Not Love"
โดย Reign of Terror มีTracklistดังนี้ครับ
1.Reign of Terror
2.Red Light District
3.Smirk"
4.To Whom It May Concern
5.I Hate You
6.Oxy Sunrise"
7.Beating the Blade
8.Firestarter
9.Make War, Not Love
10.Janina
เกร็ดความรู้สำรับCapture the Crownช่วงที่สามและ Reign of Terrorครับ
•อัลบัมนี้เปลี่ยนProducer เป็น Matt Good, Taylor Larson
•Reign of Terror ไต่ทะยานชาร์ทไปถึง 86 บน the Billboard 200 U.S.
•Reign of Terror ในรูปแบบธรรมาได้วางจำหน่างในวันที่ 5สิงหา ปี2014 และในปลายปีเดียวกันนั้น Reign of Terror ในรูปแบบ
Digital Deluxe Edition เพิ่ม5เพลงจาก Live Life ก็วางจำหน่ายใน วันที่ 24พฤศจิกายน ณปีเดียวกันนั่นเอง
•แขกรับเชิญในอัลบัมนี้มีถึง2คน คนแรก Cheyne Truittที่มาเติมท่อนแร็พเท่ๆในเพลง Beating the Blade
ส่วนอีกคน คือพี่น้องร่วมค่าย Alex Koehler แห่ง Chelsea Grinที่มาเติมเสียงว้ากโหดๆในเพลง Make War, Not Love
•Reign of Terror เป็นผลงานชิ้นแรกของ Maurice Morfaw มือเบสสมาชิกใหม่ที่ได้ร่วมทัวร์กันมาตั้งแต่ต้นปี2014แล้ว
•Reign of Terror คือผลงานชิ้นสุดท้ายของสมาชิกเจนแรกยุคก่อตั้ง Jye Menzies ,Kris Sheehan และ Tyler March ครับ
หลังจากที่ออกอัลบัมชุดสองได้ไม่นาน Jye Menzies ,Kris Sheehan และ Tyler March สมาชิกก่อตั้ง
ก็ได้แถลงการ์ณยุติความเป็นสมาชิกของวง เนื่องด้วย สภาวะหนี้สินและเส้นทางในถนนสายดนตรีที่ไม่รุ่งโรจน์นัก
และเนื่องจากพวกเขาเป็นชาวออสซี่(ยกเว้นTyler) จึงมีค่าใช้จ่ายในการ ใช้ชีวิตค่อนข้างสูง
แต่อย่างใดก็ตามแม้ว่าจะไม่ได้เดินทางด้วยกันต่อพวกเขายังคงความเป็นเพื่อนกันอยู่แน่นอนครับ
และด้วยความใจสู้ของJeffreyที่ประกาศกร้าวออกมาว่าจะเอาต่อและไม่หยุดยั้งแค่นี้แน่นอน และได้ประกาศ Kyle Devaney ในตำแหน่งมือกีตาร์
และ Ryan Seritti ในตำแหน่งมือกลอง และได้เปลี่ยนสมาชิกออกมาอีกหลายคน
และนี่คือสมาชิก เจนที่ 2 ของวงณ ปี2016ประกอบด้วย
Jeffrey Wellfare นักร้องนำ
Maurice Morfaw มือเบส
และสองสมาชิกใหม่
Mitch Rogers มือกีตาร์ (อดีตสมาชิก วง Closer to Closure)
Alec Hoxsey มือกลอง (อดีตสมาชิก วง Codes & Keys)
โดยพวกเขาได้ปล่อย The Lake ที่เป็นSingles เปิดตัวสมาชิกเจนที่2อย่างเป็นทางการ ณวันที่ 31 กรกฏาคมที่ผ่านมาเองครับ
Capture The Crown กำลังมีคอนเสิร์ตครั้งแรกไนไทย ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน ณ The Rock Pub ราชเทวี โดย Zeus Entertainment Thailand
บัตรราคาแสนถูก แค่ 400 บาท
และ Die Hard Fan แค่ 1200 บาท
พร้อมรับิทธิ์ Meet & Greet กับศิลปิน
โปสเตอร์ 1 ใบ
ถ่ายรูปหมู่ 1 รูป 10 คน ต่อ 1 กลุ่ม
บัตร Die Hard Fan limited Edition Run Number Card
เสื้อ Official CTC Live in Bangkok
แล้วเจอกันนะครับ
ประวัติวง Capture the Crown และเรื่องราวต่างๆของพวกเขาครับ
และหลังจากหลายวงที่นำแนวPost-hardcore มาผสมกับMetalcoreบวกกับเสียงElectronicore เก๋ๆ
ยกตัวอย่างเช่นAsking Alexandriaที่นำแนวดนตรีนี้ดังจนพลุแตกมาแล้วอยากให้ลองแวะฟังกับวงนี้ซะบ้าง
Capture the crown คืออีก 1วงPost-hardcore,Metalcore,Electroniccore ที่น่าสนใจจากแดนจิงโจ้
ที่เดินทางตามหาความฝันจากAustraliaมาถึงAmericaแผ่นดินใหญ่
โดยเราขอย้อนพูดถึงจุดเริ่มต้นของพวกเขา หลังจากที่ได้ยุบวง Atlanta Takes State Jeffrey,Blake และJye
สมาชิกดั้งเดิมก็ได้เริ่มตามหามือเบสและมือกลอง จนได้มาพบกับKrisและTyler
โดยหลังจากนั้นไม่นาน ทางวงก็ได้ปล่อย MV และ Singlesในเพลง
You Call That A Knife? This Is A Knife!ในปี2011 ที่มียอดวิวกว่า 5ล้านวิวโดยไม่ถึงปีนับจากวันที่อัพโหลด
จนปัจจุบันมียอดวิวกว่า14ล้านเข้าไปแล้ว
และได้เซ็นสัญญากับค่าย ยอดมนุษย์ Sumerian Records ในอัลบัมแรก
โดยหลังจากที่ร่วมทัวร์เพื่อเก็บเกี่ยวประสปการ์ณโดยได้เป็น1ในวงที่ร่วมทัวร์ในโปรเจค
We'll Give You a Reason ร่วมกับ วงรุ่นพี่อย่าง
Chunk! No, Captain Chunk!, Our Last Night, Secrets, และ The Seeking
รวมทั้ง ได้เป็นส่วนหนึ่งของOf Mice & Men's 2013 US Headlining tour ร่วมกับ
Woe, Is Me, Texas in July, and Volumes ด้วยเช่นกัน
และใช้เวลาไม่ถึงขวบปี ณในเวลาเดือนพฤศจิกายน 'Til Death สตูดิโออัลบัมแรกของวง
เป็นสายหล่อประกอบไปด้วย เสียงสครีมเท่ห์ ๆ และท่อนคลีน เพราะๆ +กับดนตรีที่ฟังไม่ยากนักและเสียง
อีเลคโทรนิกส์ ช่วยเพิ่มสีสัน
โดย'Til Death มีTracklistดังนี้ครับ
1. The Arrival
2. #OIMATEWTF
3. Fork Tongued
4. Ladies & Gentlemen... I Give You Hell
5. LAX
6. You Call That A Knife? This Is A Knife!
7. Storm In A Teacup
8. Help Me To Help You
9. Deja Vu
10. Insomniac
11. RVG
12. 'Til Death
13. The Departed 2.0
14. Welcome To My Worlds
เกร็ดความรู้สำรับCapture the Crownช่วงแรกและ 'Til Death ครับ
•Jeffrey Wellfare นักร้องนำ Blake Ellis มือกีตาร์ Jye Menzies มือกีตาร์ เคยอยู่วงเดียวกันคือ Atlanta Takes State
•Atlanta Takes State มีสมาชิก6คนโดยดั้งเดิมมีมือ ซินธิไซเซอร์ด้วย
•Blake Ellisตอนแรกรับตำแหน่งมือเบสให้กับ Atlanta Takes State ก่อนจะมาเล่นกีตาร์ใน Capture the Crown
•Kris Sheehan มือเบสเคยทำวง Curse At 2 ร่วมกับ Jeffrey Wellfareมาก่อน
•Tyler March มือกลอง มีชื่อเล่นว่า Lone America
•Tyler March คืออดีตสมาชิกวง A Late Night Serenade
•Tyler March เป็นสมาชิกคนเดียวที่อาศัยอยู่ที่Carlisle, Pennsylvania แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นที่มาจาก Australia
• Singles #OIMATEWTFได้ Denis Shaforostovเจ้าหนูมหัศจรรย์จาก Make Me Famousมาร่วมร้องด้วยครับ
•ทางวงได้ตัดแทรค Hats Off To You ออกโดยไม่ทราบสาเหตุทั้งๆที่เป็นเพลงที่เข้ากับอัลบัม 'Til Deathมากๆ
•ทางวงได้นำ เพลงIn My Head ของJason Derulo มาCoverใหม่ โดยที่ไม่ปรากฏอยู่บน Punk Goes Pop 5
•'Til Death ได้Produceมือทอง Cameron Mizellและได้ Joey Sturgisมาช่วย Mix,Mastering
ถือว่าเป็นไม่กี่อัลบัมที่รวมสองสุดยอด Producer มือทองมาร่วมงานกัน
หลังจากวงได้เปิดตัวไปกับอัลบัมแรก ถึงแม้จะไม่ได้ชื่อเสียงการตอบรับที่ดีเท่าไร แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกอัลบัมที่น่าจับมองทีเดียว รวมทั้งได้ร่วมทัวร์กับ
วงรุ่นพี่ และรุ่นน้อง ในหลายๆที่เช่น The Generation Now Tou และ Vans Warped Tour
และไม่รอช้าที่จะนำ วัตถุดิบและประสปการ์ณที่ได้รับ มาเริ่มเขียนเพลงใหม่
แน่นอน ว่านั่นคือ คือ Rebearth เพลงใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่ Jeffreyร้องได้ดีมากกกกกๆๆ อีกเพลงหนึ่ง
แน่นอนความพิเศษเพลงนี้คือได้พ่อหนุ่ม Tyler "Telle" Smith แห่งคณะ The Word Alive มาเป็นแขกรับเชิญด้วยครับ
ช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยที่ Kris Sheehan สลับตำแหน่งกับ Blake Elli โดยหลังจากนี้ Krisจะเล่นกีตาร์ ส่วน Blake จะกลับไปเล่นเบสครับ
เป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนักในช่วงเริ่มลมหนาว ในปี 2013 ที่ทางค่าย Sumerian ได้ประกาศแยกทางกับพวกเขา
จนทำให้ต้องยกเลิก UK tour อย่างน่าเสียดาย
แต่ถึงอย่างไรพวกทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อเมื่อทางวงได้ประกาศระดมทุนเพื่อทำ EP ชิ้นใหม่ ผ่าน Indiegogo Campaign
และEPที่ว่านั้นมีชื่อว่า Live Life
โดย Live Life มีTracklistดังนี้ครับ
1. Live Life
2. Rebearth
3. Bloodsuckers
4. All Hype All Night
5. When I Get Home
เกร็ดความรู้สำรับCapture the Crownช่วงที่สองและ' Live Life ครับ
•Live Life มีการกำหนดวงเงินในการทำอัลบัม แค่ 10,000 USD แต่ด้วยความเหนียวแน่นของแฟนเพลงหรือความโชคดีของพวกเขา
ทำให้ยอดเงินระดมทุนมีมากถึง 22,207 USD !
•Live Life ถือเป็นการทำงานแบบทำเองขายเองครั้งแรกและครั้งเดียวของวง จึงมีการปั๊มแผ่นมาจำนวนจำกัดมากๆ ปัจจุบันเลยกลายเป็นของหายากที่สุดของวง
•อย่างที่รู้ๆกันว่าKris Sheehan สลับตำแหน่งกับ Blake Elli ตั้งแต่กลางปีแล้ว รวมถึงการทำเพลงในชุดนี้ Kris ได้เล่นกีตาร์และ Blakeก็ได้กลับไปเล่นเบสโดยปริยาย
•แน่นอนว่ายังคงใช้ Cameron Mizell มาเป็นProducer และJoey Sturgisมาช่วย Mix,Mastering ส่วนJye Menziesมือกีตาร์ของวง
และShawn Christmasร่วมเป็น Co Producerด้วย
•แขกรับเชิญในอัลบัมนี้ได้แก่ Live Life ได้Gus Farias จากคณะVolumes และ Rebearth ได้Tyler Telle"Smith จาก The Word Alive
นี่คือผลงานสุดท้ายของสมาชิกยุคก่อตั้งวงอย่าง Blake Ellisที่ได้บันทึกอัลบัมนี้ก่อนประกาศแยกทางกับวงอย่างน่าเสียดาย
•Live Life คือผลงานที่ผู้เขียนถือว่าเป็นงาน Masterpieceที่สุดยอดที่สุดในสามชุดของวงครับ
หลังจากนั้นไม่นานปีหน้าฟ้าใหม่ ณ มกราคมปี2014 หลังจากที่ออก Live Life EP ได้ไม่นาน
ความตั้งใจของพวกเขาก็ได้ไปเข้าตา Matt Good แห่งวง From First to Last
โดย Matt Goodได้ทาบทามพวกเขาให้แก่ค่าย Artery Recordings และกำลังเริ่มต้นทำStudio Album ชุดที่ 2 "Reign Of Terror"
โดยมีกำหนดที่จะออกอัลบัมใหม่
ในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกันนั่นเอง
และได้ปล่อย Single เพื่อโปรโมท อัลบัมของพวกเขา
To Whom It May Concern , I Hate You และ Make War, Not Love"
โดย Reign of Terror มีTracklistดังนี้ครับ
1.Reign of Terror
2.Red Light District
3.Smirk"
4.To Whom It May Concern
5.I Hate You
6.Oxy Sunrise"
7.Beating the Blade
8.Firestarter
9.Make War, Not Love
10.Janina
เกร็ดความรู้สำรับCapture the Crownช่วงที่สามและ Reign of Terrorครับ
•อัลบัมนี้เปลี่ยนProducer เป็น Matt Good, Taylor Larson
•Reign of Terror ไต่ทะยานชาร์ทไปถึง 86 บน the Billboard 200 U.S.
•Reign of Terror ในรูปแบบธรรมาได้วางจำหน่างในวันที่ 5สิงหา ปี2014 และในปลายปีเดียวกันนั้น Reign of Terror ในรูปแบบ
Digital Deluxe Edition เพิ่ม5เพลงจาก Live Life ก็วางจำหน่ายใน วันที่ 24พฤศจิกายน ณปีเดียวกันนั่นเอง
•แขกรับเชิญในอัลบัมนี้มีถึง2คน คนแรก Cheyne Truittที่มาเติมท่อนแร็พเท่ๆในเพลง Beating the Blade
ส่วนอีกคน คือพี่น้องร่วมค่าย Alex Koehler แห่ง Chelsea Grinที่มาเติมเสียงว้ากโหดๆในเพลง Make War, Not Love
•Reign of Terror เป็นผลงานชิ้นแรกของ Maurice Morfaw มือเบสสมาชิกใหม่ที่ได้ร่วมทัวร์กันมาตั้งแต่ต้นปี2014แล้ว
•Reign of Terror คือผลงานชิ้นสุดท้ายของสมาชิกเจนแรกยุคก่อตั้ง Jye Menzies ,Kris Sheehan และ Tyler March ครับ
หลังจากที่ออกอัลบัมชุดสองได้ไม่นาน Jye Menzies ,Kris Sheehan และ Tyler March สมาชิกก่อตั้ง
ก็ได้แถลงการ์ณยุติความเป็นสมาชิกของวง เนื่องด้วย สภาวะหนี้สินและเส้นทางในถนนสายดนตรีที่ไม่รุ่งโรจน์นัก
และเนื่องจากพวกเขาเป็นชาวออสซี่(ยกเว้นTyler) จึงมีค่าใช้จ่ายในการ ใช้ชีวิตค่อนข้างสูง
แต่อย่างใดก็ตามแม้ว่าจะไม่ได้เดินทางด้วยกันต่อพวกเขายังคงความเป็นเพื่อนกันอยู่แน่นอนครับ
และด้วยความใจสู้ของJeffreyที่ประกาศกร้าวออกมาว่าจะเอาต่อและไม่หยุดยั้งแค่นี้แน่นอน และได้ประกาศ Kyle Devaney ในตำแหน่งมือกีตาร์
และ Ryan Seritti ในตำแหน่งมือกลอง และได้เปลี่ยนสมาชิกออกมาอีกหลายคน
และนี่คือสมาชิก เจนที่ 2 ของวงณ ปี2016ประกอบด้วย
Jeffrey Wellfare นักร้องนำ
Maurice Morfaw มือเบส
และสองสมาชิกใหม่
Mitch Rogers มือกีตาร์ (อดีตสมาชิก วง Closer to Closure)
Alec Hoxsey มือกลอง (อดีตสมาชิก วง Codes & Keys)
โดยพวกเขาได้ปล่อย The Lake ที่เป็นSingles เปิดตัวสมาชิกเจนที่2อย่างเป็นทางการ ณวันที่ 31 กรกฏาคมที่ผ่านมาเองครับ
Capture The Crown กำลังมีคอนเสิร์ตครั้งแรกไนไทย ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน ณ The Rock Pub ราชเทวี โดย Zeus Entertainment Thailand
บัตรราคาแสนถูก แค่ 400 บาท
และ Die Hard Fan แค่ 1200 บาท
พร้อมรับิทธิ์ Meet & Greet กับศิลปิน
โปสเตอร์ 1 ใบ
ถ่ายรูปหมู่ 1 รูป 10 คน ต่อ 1 กลุ่ม
บัตร Die Hard Fan limited Edition Run Number Card
เสื้อ Official CTC Live in Bangkok
แล้วเจอกันนะครับ