แชร์ประสบการณ์อาชีพเสริม ขับ Grab ดีมั้ย

เห็นสมาชิกหลายท่านออกมารีวิวเกี่ยวกับอาชีพขับรถรับจ้างแบบใหม่ (หรือเปล่า) ที่มีการพูดถึงกันมากมาย ก็เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังบ้าง อาจจะยาวนิดนึงนะครับ พยายามจะเขียนให้กระชับที่สุดเพราะรู้ว่า คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบอ่านอะไรยาวๆ

ต้องขอแจ้งไว้ล่วงหน้าเลยครับ ว่าผมไม่ได้จะอวยใครหรืออะไร ข้อมูลที่เขียนไว้ มาจากที่ผมได้ประสบมาด้วยตนเอง คุณเป็นผู้ตัดสินใจเอง คิดว่าดีก็ทำ คิดว่าไม่ดีก็ไม่ต้องทำ

จุดเริ่มต้นของการขับ Grab
ก่อนที่จะมาขับรถรับจ้างประเภทนี้ ผมก็เป็นพนักงานบริษัทที่มีรายได้อยู่ประมาณ 60-70K (รวมคอมมิชชั่นแล้ว) แต่อย่างที่หลายคนรู้ หรืออาจจะไม่รู้ว่า ยิ่งมีรายได้สูง ความเครียด ความกดดันก็ยิ่งสูง ประกอบกับช่วงปลายปี 2015 ที่ผ่านมา ผมทำผลงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไร หัวหน้าไม่ปลื้ม เลยย้ายผมมาอยู่ตำแหน่งที่ยากน้อยลง แต่เงินเดือนก็ลดลงตามไปด้วย

เลยมีความคิดว่าอยากหาไรทำเพิ่มที่ไม่กระทบงานประจำ เป็นงานง่ายๆ ที่ไม่ต้องลงทุนมาก แต่ได้เงินเร็ว เพื่อจะที่รวบรวมเงินไปลงทุนระยะยาวเช่น ซื้อหุ้น ซื้อกองทุน ฯลฯ

ตอนแรกได้คุยกับเพื่อนที่ขับ UberX อยู่ ช่วงนั้นมีโปรแนะนำคนขับใหม่ ได้ค่าแนะนำทั้งคนแนะนำและคนสมัคร 500 บาท เลยขอ code เพื่อนมาสมัครดู ยื่นหลักฐานไปปรากฏว่า ไม่ผ่านเนื่องจากรถปีเก่าเกินไป (ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่า Uber ทำไมไม่ตรวจสภาพรถจริง ดูแต่เอกสาร สมมุติใครเอารถสีถลอก กันชนบุบ กลิ่นบุหรี่เหม็นเต็มรถไปรับผู้โดยสาร จะไม่เสียชื่อเหรอครับ)

ถ้าจะไปเช่าก็ไม่แน่ว่าจะคุ้มหรือเปล่า เพราะผู้ให้เช่าแต่ละคนมีข้อจำกัดมากมาย แถมคิดราคาเหมือนไม่อยากให้เช่า เช่น รถ ECO car ให้เช่า 12 ช.ม. คิด 600 บาท แค่ขับรถไปรับผู้โดยสารในเมือง กับขับกลับมาคืนรถก็กินเวลาไปเกือบ 2 ช.ม.แล้ว แถมยังต้องเติมน้ำมันเอง หักค่าใช้จ่ายแล้วคงเหลือไม่เท่าไร จะซื้อรถเองก็ไม่รู้จะคุ้มกับรายได้ที่เอามาผ่อนรถหรือเปล่าเลยพับโครงการไป

Grab Car อีกหนึ่งทางเลือกของการให้บริการ
ได้ทราบข่าวนี้จากโฆษณาใน FB จึงเข้าไปดูรายละเอียด เห็นว่าไม่มีกำหนดเรื่องอายุรถ เพราะบริษัทดูจากสภาพรถจริง เลยไปสมัครที่สำนักงานใหญ่ อาคารธนภูมิ แถวถนนเพชรบุรี เมื่อประมาณเดือน มี.ค. 59 วันที่ไปสมัครส่วนใหญ่จะมีแต่พี่ Taxi มาสมัครกัน เนื่องจาก Grab เริ่มเปิดให้บริการเรียกรถแท๊กซี่ ผ่าน App ก่อนในตอนแรก แล้วค่อยเพิ่มบริการรถยนต์ส่วนตัวรับผู้โดยสาร คือ Grab Car ในเวลาต่อมา

ซึ่งเงื่อนไขของ Grab แตกต่างจาก Uber ตรงที่ ช่วงนั้นใครจะสมัครเริ่มขับต้องเติม เครดิตกระเป๋าเงินขั้นต่ำ 500 บาท แรกเข้า เพื่อเวลารับงาน จะไปหักจากเครดิตที่เติมไว้ 20% ของค่าโดยสาร (แต่ช่วงนี้ พ.ย. 59 แนะนำเพื่อนมาสมัคร คนขับใหม่ได้รับ เครดิตกระเป๋าเงิน 200 บาทฟรี เพื่อเริ่มขับได้ทันที)

ช่วงนั้นผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเติมดีหรือไม่เติมดี เพราะคนส่วนใหญ่ในเวลานั้นรู้จักแต่ Uber ส่วน Grab เป็นอะไรที่ใหม่มาก แถมถ้าเทียบดู ค่าโดยสารของ UberX เป็นแบบคิดตามระยะทางเหมือน Taxi แต่ Grab คิดแบบเหมารวม ซึ่งถ้าเทียบราคากันแล้ว UberX ถูกกว่ามากในระยะทางไม่เกิน 10 ก.ม. อีกทั้งเครดิตกระเป๋าเงินเติมแล้วเติมเลย ไม่สามารถเอาคืนได้ ต้องขับรถให้ตัดไปจนหมด และมีอายุแค่หกเดือน นับจากวันที่มีการรับ-ส่งผู้โดยสารครั้งล่าสุด เกรงว่าเติมแล้วไม่มี ผสด. เรียก ก็จะเสียเงินไปฟรีๆ เลยเป็นอันต้องพับโครงการไปชัวคราว

Taxi meter and StarDrive ทางเลือกสุดท้ายของการหารายได้เสริม
จากเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้น ผมเลยคิดอยากจะไปขับ Taxi แทน แต่จะต้องไปสอบ ใบขับขี่สาธารณะ ให้ได้ก่อน ซึ่งใช้เวลารอคิวสอบถึงสามเดือน เนื่องจากมีพี่แท๊กซี่มาสอบกันเยอะ ระหว่างที่รอสอบ ก็พอดีได้คุยกับเพื่อนคนเดิม (อีกแล้ว) ทำงานเกี่ยวกับ ขับรถส่งคนดื่มเหล้ากลับบ้าน ซึ่งตอนนี้ที่รู้จักกันดี ในหมู่นักเที่ยวคือ U Drink I Drive และ Star Drive โดยจะให้บริการคนดื่มเหล้าที่ขับรถมาแล้วขับกลับเองไม่ได้ หรือไม่กล้าขับ เพราะกลัวเจอด่านโดนปรับ ติดคุก

ผมก็เลยลองไปสมัครทำดู ปรากฏว่า รายได้ค่อนข้างดีมากครับ เพราะเราไม่ต้องลงทุนอะไร ลงแต่แรง ไปขับรถ จ่ายเงินสดทุกวัน แถมได้ทิปจากเจ้าของรถอีกต่างหาก รวมทั้งยังได้ขับรถหรู ซึ่งไม่แน่ว่าชาตินี้ เราจะมีโอกาศได้ขับหรือเปล่า  เช่น BMW, Benz, Porsche, Lexus, Camry, Teana  แต่มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย นั่นก็คือ ต้องนอนดึก เพื่อรอลูกค้าผับเลิก และต้องรู้จักสถานที่ ที่จะไปส่งเป็นอย่างดี เนื่องจากลูกค้าบางคนหลับระหว่างทาง ปลุกไม่ตื่น ต้องขับรถไปจอดหน้าบ้านเค้าให้ถูก รวมทั้งยังต้องระวังการเฉี่ยว ชน เพราะนั้นหมายถึง ตัวเราเองจะหมดสิทธิทำงานนี้ทันที เพราะจะไม่มีลูกค้าเรียกคุณอีกต่อไป

เรื่องนี้ทำให้ผมเข้าใจสัจจะธรรมอย่างนึงคือ ไม่มีงานอะไรที่ได้เงินง่ายๆ หรือได้เงินยากๆ ทุกงานมีเงื่อนไขในตัวมันเอง ขึ้นอยู่กับเราว่ายอมรับเงื่อนไขตรงนั้นได้มากน้อยแค่ไหน

หวนกลับมาพิจารณา Grab Car อีกครั้ง
หลังจากที่ขับรถส่งคนดื่มไปได้สักพัก พอดีได้ไปลองนั่ง Grab Car เลยรู้สึกอยากลองไปขับดูบ้าง ประกอบกับด้วยวัยที่มากแล้ว เลยนอนดึกๆ ไม่ค่อยได้ จึงอยากรู้ว่าระหว่าง งานส่งคนเมากลับบ้าน กับ Grab Car อะไรที่ทำแล้วมีรายได้มากกว่า หรือมีข้อดีกว่ากันอย่างไร จึงเป็นที่มาของการเริ่มขับ Grab

เกริ่นมาซะยาว เพิ่งจะเข้าเรื่อง 555
วันแรกที่เริ่มเปิด App รับผู้โดยสาร หลังเลิกงานตอนประมาณ ทุ่มกว่า ผมคิดในใจว่า ได้สัก 2 รายก็ถือว่าโอเคแล้ว ปรากฏว่า...... ภายในระยะเวลาตั้งแต่ 19.30 - 24.00 น. มีลูกค้าเรียกมา 5 รายครับ จริงๆ แล้วมี 6 ราย แต่รายที่ 6 กดรับไม่ทัน เฉพาะวันนั้นได้เงินกลับบ้าน เกือบพัน หลังหักค่าแก๊สแล้ว ประหลาดใจ


Job History เมื่อวันที่เริ่มขับวันแรก

เสาร์-อาทิตย์ ยิ่งมีคนเรียกเยอะ เฉลี่ย ช.ม.ละ 3-4 ราย ถ้ารถไม่ติด ถ้ารถติดอาจจะรับงานได้น้อยลง เนื่องจากใช้เวลาในการรับ-ส่งผู้โดยสารนานขึ้น

ขับ GrabCar, UberX ไม่คุ้ม โกง ผิดกฏหมาย
ผมได้ยินหลายกระทู้ ซึ่งส่วนใหญ่ออกจะไปในแง่ลบว่า ขับแล้วไม่คุ้ม โดนโกง เงื่อนไขที่จะจ่ายค่าตอบแทนยากจนทำไม่ได้ตามเป้า ผิดกฏหมาย ฯลฯ สำหรับ UberX อันนี้ผมไม่ทราบครับเพราะไม่เคยขับ แต่จากที่ลองถามเพื่อนที่ขับอยู่ปัจจุบัน ก็บอกว่ารายได้ดี มี Incentive ให้ อยู่นะครับ

สำหรับ GrabCar จะมี Incentive ให้ตามรอบ ในแต่ละสัปดาห์ รวมทั้งยังมีเงินรางวัลพิเศษสำหรับคนที่ทำรอบได้ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ส่งให้ทาง SMS ด้วยครับ


จากรูปด้านบน เป็น Incentive ที่จะจ่ายให้ในแต่ละสัปดาห์ มีทั้งแบบเงื่อนไขเยอะ รายได้เยอะ (สายบู๊) หรือ เงื่อนไขน้อย รายได้น้อยลง (สายชิว) ซึ่งโดยความเห็นส่วนตัว ก็ไม่ถือว่ายากจนเกินจะทำได้ ถ้าสัปดาห์ไหนผมมีเวลาว่างเยอะช่วงเย็น ผมก็เลือกสายบู๊ แต่ถ้าสัปดาห์ไหนที่ไม่ค่อยว่าง ผมก็เลือกสายชิวแทน

ทำแล้วคุ้มหรือไม่
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ความคุ้มไม่คุ้ม ขึนอยู่ความคิดของแต่ละบุคคลครับ ถ้าคุณทำเพราะคิดจะเอาเป็นรายได้หลัก เหมือนที่เคยมีคนมาเคลมว่าได้เดือนละ 7-8 หมื่น บางทีคุณอาจจะผิดหวังได้ครับ เพราะต้องเข้าใจอย่างนึงว่า ธุรกิจทุกประเภท เป็นเรื่องของ Demand supply ถ้ามีลูกค้าเยอะ แต่ไม่มีคนขับ ทางบริษัทเค้าก็ต้องออกโปรฯ จูงใจให้คนมาขับ แต่ถ้าช่วงไหนที่คนขับเยอะ ลูกค้าเรียกน้อย เค้าก็ต้องลด Incentive ลง มันก็วนๆ ไป แบบนี้แหละครับ
เพราะฉะนั้น ถ้าใครคิดจะออกมาขับเป็นอาชีพ ก็ต้องพิจารณารายรับ-รายจ่าย ภาระด้านการเงินของแต่ละคนด้วยครับ



เปรียบเทียบ Incentive ที่จ่ายในแต่ละสัปดาห์ หากลองวิเคราะห์ง่ายๆ จากรายได้การันตีที่ Grab จ่ายให้ ก็พอจะเดาได้ว่าในช่วงสัปดาห์นี้ ผู้โดยสารจะเยอะหรือคนขับเยอะกันแน่

เพราะบางคน มีรายได้ต่อเดือนแค่ 20,000 บาท (เพราะไม่มีหนี้) ก็อยู่ได้ แต่บางคน มีรายได้ต่อเดือน 200,000 (แต่อยู่ไม่ได้เพราะมีหนี้สินอีกมากมาย) ฉะนั้นเรื่องนี้ สมดุลชีวิตของแต่ละคนครับ ถ้าคิดว่าไม่คุ้มก็ไม่ต้องทำ นอนอยู่บ้านเฉยๆ สบาย คร่อกฟี้คร่อกฟี้

แต่ผมอยากให้คิดอย่างนึงว่า เวลาผมไปส่งลูกค้าตามห้างฯ จะเห็นรถจอดเรียงรายกันจนที่จอดรถเต็มเกือบทุกชั้น เลยแปลกใจว่า ทำไมคนเราเวลาขับรถพา พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน แฟน ไปเที่ยว กินข้าว เดินห้าง ซื้อของ เที่ยวต่างจังหวัด เป็นเรื่องเสียตังทั้งนั้นแต่ไม่เห็นบ่นสักคำว่าไม่คุ้ม พอเป็นเรื่องทำมาหากิน กลับคิดเยอะ กลัวนั่นกลัวนี่ ก็แปลกดีครับ

ระบบโกงไม่จ่ายเงิน เอาเปรียบคนขับ แถมผิดกฏหมาย
สำหรับ Grab Car ที่ผมทำอยู่จะมีการโอนเงินโบนัสมาเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ตอนสมัครครับ ซึ่งที่ผ่านมาก็ตรงเวลาดีครับ ถ้าวันไหนโอนให้ไม่ทัน ก็จะมี SMS มาแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

บริษัทเอาเปรียบ ทำนาบนหลังคน บริษัทนั่งเฉยๆ กินหัวคิว คนขับ ขับแทบตายได้เงินนิดเดียว
ประเด็นนี้อยากให้ลองคิดกลับกันดูว่า ถ้าวันนี้เราตั้งบริษัทที่ให้บริการเหมือน Grab, Uber เราต้องลงทุนเท่าไร ในการพัฒนา Application, ระบบการจ่ายค่าตอบแทน, ค่าจ้างพนักงานแผนกต่างๆ การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ งบประมาณสำหรับการทำโปรโมชั่น ฯลฯ เราต้องใช้เงินกี่ล้านครับ? ร้อยล้าน? พันล้าน?
ฉะนั้นตอนนี้ที่เราเป็นพนักงานบริษัท กินเงินเดือน ก็น่าถูกเอาเปรียบเหมือนกัน เพราะเจ้าของบริษัทรับทรัพย์รวยอื้อซ่า หรือเปล่า แต่ทำไมเรายังตื่นแต่เช้าไปทำงานทุกวัน อันนี้ฝากไว้ให้พิจารณาครับ

ส่วนเรื่องผิดกฏหมาย ถ้าใครคิดว่าผิดก็ไม่ต้องใช้บริการ จบครับ ไม่มีใครบังคับ เพราะธุรกิจนี้ออกมาเพื่อตอบโจทย์ แท๊กซี่ ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร เรียกแล้วไม่ไป ถ้าคุณคิดว่าไม่โอเคก็เรียกแท๊กซึ่เหมือนเดิมได้ครับ ไม่มีใครว่าอะไร แต่อยากถามต่อว่า ทุกวันนี้เราทุกคนทำอะไรถูกกฏหมายหมดหรือเปล่า ตัวอย่างง่ายๆ Software ต่างๆ ที่ลงในเครื่องที่คุณใช้เล่นเว็บ Pantip ถูกต้องตามกฏหมายหมดหรือเปล่าครับ?

ข้อความเกิน ต่อด้านล่างนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่