เมื่อเราไปทัศนศึกษาที่ประจวบ และพบใครอีก 1 คน

เห็นคนอื่นลงกระทู้เรื่องสยองขวัญมาเยอะ วันนี้จะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ตอนไปทัศนศึกษาสมัยเรียนมัธยมมาเล่าให้ฟัง

เรื่องนี้เกิดจากเหตุการณ์จริง และบุคคลที่ที่เล่ามามีตัวตนอยู่จริงทั้งนักเรียนและอาจารย์ที่ไปด้วย (ขออนุญาตแล้ว)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนไปทัศนศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2-3(บางส่วนที่ไป รวมถึงผมด้วย) ครั้งนี้เราไปไกลหน่อย
ต้องขึ้นรถตั้งแต่ตอน ตี2-3 เพราะเราเป็นเด็กจากทางภาคเหนือไปทัศนศึกษาไกลถึงประจวบ
เราเข้าที่พักกันค่อนข้างจะเย็น มาถึงหาดหาดหนึ่งที่ประจวบ(ขอไม่เอยชื่อหาดและบ้านพัก) ต่างคนก็ต่างเก็บของเข้าบ้านพัก
บ้านพักเป็นอาคารพาณิชย์แถวประมาณ 5-10 คูหา อยู่ในซอยติดหาดปากทางมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ บ้านพักของเราอยู่ด้านในสุด
และค่อนข้างเงียบและเก่า เมื่อเทียบกับปากซอย บ้านพักของเราแบ่งออกเป็น 3 คูหา คูหาแรกให้นักเรียนชายและอาจารย์ผู้ชายพัก
คูหาที่สองเป็นของนักเรียนที่มีเพศสภาพไม่ต้องกับเพสกำหนดและรุ่นพี่มอสามผู้ชาย(รวมถึงผม) และคูหาที่สามเป็นของนักเรียนหญิงและอาจารย์ผู้หญิง
ก่อนจะเก็บของและแยกย้ายกันไปเล่นน้ำทะเลและหาข้าวมื้อเย็นรับประทาน

ผมในฐานะประธานนักเรียนก้เดินดูความเรียบร้อยของน้องๆในบ้านพักทั้งสามคูหา ในระหว่างนั้นเองผมก็สังเกตุเห็น
กระถางต้นไม้หน้าบ้านหลังที่สองมีการจุดธูปปักเต็มไปหมดแต่แปลกที่ต้นไม้ในกระถางไม่มีรอยดำไหม้ หรือเหี่ยวเพราะความร้อนของธูปเลย
แต่ผมเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรก้เดินตรวจดูนั้นนี้ปกติ น้องๆก้พาไปลงทะเล หาอะไรมากินกัน ส่วนผมกับเพื่อนๆก็ลงทะเลเป็นชุดสุดท้ายพร้อมคณะอาจารย์

เสียงอาจารย์พละดังขึ้นหลังจากที่ท้องฟ้าเริ่มจะมืดลง พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า น้องๆและเพื่อนๆก้พากันขึ้นฝั่งกับหอพักเพื่อจะได้เตรียมอาบน้ำเข้านอน หรือทำกิจกรรมอื่นๆในห้องพัก ในเย็นนั้นผมก็ยังทำหน้าที่เดิม เดินตรวจดูความเรียบร้อยของน้องๆและเพื่อนๆตามห้องพัก
ลักษณะห้องพักหรือบ้านพักเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ชั้นล่างมีทีวี โซฟารับแขก ห้องน้ำใต้บันได  
ชั้นบนมีสองห้องนอน 1 น้ำ แน่นอนว่าอีก 1 ห้องนั้นเป็นของอาจารย์ และอีกห้องเป็นนักเรียน
อาจารย์ผู้ชายก็พากันไปนั่งดื่มตามชายหาด(หมดเวลาทำหน้าที่ครู)
อาจารย์ผู้หญิงก็อาบน้ำพากันเข้าห้องนอนเลยโดยที่ไม่เห็นอาจารย์ออกมาอีกเลย

ผมและเพื่อนๆเดินจากบ้านหลังจากกลางไปบ้านหลังแรกที่มีแต่นักเรียนผู้ชาย ผมก้ไปนั่งดูทีวีกับน้องๆมอสอง
นั่งดูรายการอะไรจำไม่ได้และดูไม่รู้เรื่องเลยครับ เพราะทีวีที่ดูนั้นจอเลื่อนขึ้น เลื่อนลงไปมา ได้ยินแต่เสียงในทีวี
ก็พากันนั่งคุยนั้นนี้เรื่อย สักพักได้ยินเสียงน้องมอสองคนหนึ่งตะโกนแล้วลงมาจากชั้นสอง

ผมกับเพื่อนๆก็วิ่งขึ้นไปด้านบนของบ้าน ประจวบเหมาะน้องกระโดดลงมาจากบันไดชั้นสองผ่านหน้าผมไปพอดี
(ด้วยความที่น้องกลัวมากเลยกระโดดจากบันไดขั้นแรกของชั้นสอง ลงมาชั้นล่างเลยครับ ตอนหลังมาถามมันก็งง
เหมือนกันว่าทำไมถึงลงมาได้) มันวิ่งออกจากบ้านไป ผมก็วิ่งไปดึงมันมา มันหันมาจับแขนผมแล้วโววยวายใหญ่

กึ่ม : พี่ๆ ผมโดนผีหลอก ผีๆ มันหลอกผม ผมออกมาจากห้องน้ำ กำลังเช้ดผมอยู่มันมานั่งบนเตียงข้างๆผม
ผม : อะไรๆ เล่าดีๆ มีผีที่ไหน อย่าทำให้คนอื่นตกใจสิ มันเรื่องดีที่ไหนกัน มาเล่นแบบนี้
กึ่ม : เล่นอะไรพี่ ไม่เล่น จริงจังมาก โดนหลอกมาเต็มสองตา เป็นผู้หญิง ผมยาวปิดหน้า ขาวไปทั้งตัวเลยนะ
ผมกับเพื่อนและน้องๆพากันเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้าน โดยที่ผมอยู่หน้าสุด พอมาถึงหน้าประตู ผมก็ค่อยๆเปิดประตู
ดูว่าในห้องมันมีอะไรบ้าง ปรากฏว่าในห้องก็ไม่มีอะไร มีแต่เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะแป้ง
พี่ๆ มีผู้หญิงยืนอยู่ที่หน้าบ้านเราอะ ไม่คุ้นหน้าเลยพี่ น้องอีกคนตะโกนขึ้นมาบอกผม

ผมก็รีบลงมาชั้นล่าง พอดีลงมาถึงตาผมก็ปะทะสายตากับผู้หญิงคนนั้นพอดี ดวงตาดำสนิด ในสายตามดูมีความน่ากลัว
จ้องเขม่งมาในตัวบ้าน ผมเดินออกไปหาเธอ เธอเดินหันหลังออกไปเดินไปตามทางเข้าไปในซอยลึก
ผมกับเพื่อนๆเดินตามก็ไม่ทัน รุ่นน้องตะโกนพี่จะไปไหน ผมหันไปหาน้องบอกให้เข้าบ้าน หันกลับมาเธอคนนั้นก้หายไปแล้ว

ผมมองหาเธอไม่เห็น ผมกับเพื่อนๆก้เดินกลับไปที่บ้านหลังแรกอีกครั้ง บอกให้น้องๆอยู่ในบ้าน นั่งดูทีวีเปิดเพลงจากมือถือกันไป
ผ่านไปสักระยะไม่ถึง 10 นาทีน้องผู้หญิงบ้านหลังที่สามก็วิ่งมาหาผมที่บ้านหลังแรก
จอย : พี่เจ ๆ ที่บ้านมีเรื่องอะ ร้องไห้กันใหญ่เลย / น้องจอยพูดไม่ทันจบพวกผู้หญิงก้พากันแห่มาที่บ้านแรกเต็มหน้าบ้านไปหมด
น้องๆ : พี่เจ ๆ บ้านหลังนั้นมีผีอะพี่ เอิน มันโดนหลอก นั่งร้องไห้อยู่ไม่รู้จะช่วยมันยังไง
เห้อออออ ผมละปวดจริงๆ คิดไม่ออกว่าจะทำไง จะเรียกครูก็เกรงใจ นึกได้เลยไปบ้านอีกหลัง หลังที่สองลองไปค้นๆดู ไปเจอธูปเหลืออยู่ 1 หอ เลยเอามาจุด แบ่งกะน้องๆแล้วนำมาจุดที่กระถางต้นไม้ ที่เคยมีคนมาจุดไว้ก่อนแล้ว(เพิ่งจะมาสังเกตุว่าทำไมถึงมีรออบธูปจุด)

หลังจากที่จุดธูปเสร็จก้พากันแยกย้ายกลับที่พักของใครของมัน แต่นักเรียนผู้ชายขอมานั่งเล่นชั้นล่างของบ้านนักเรียนหญิง
เราเลยอนุญาตให้น้องๆมานั่งมานั่งรวมกัน ลองคิดสภาพสิครับว่านักเรียนประมาณ 80+
มานั่งอยู่ด้วยกันที่เดียวกันในบ้านอาคารพาณิชย์ที่แสนจะคับแคบ
บ้างก็นอนทับกัน ขาทับกัน นอนพุงกัน นอนกองกันบนโซฟา หน้าทีวี จนเวลาผ่านไปนานเหตุการณ์เกือบจะปกติ
อยู่ๆทีวีที่เปิดไว้ก็ดังขึ้นเองโดยที่ไม่มีกดรรีโมท เด็กๆก็พากันเงียบขยับไปกองแน่นกว่าเดิม ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมา

ระหว่างที่หลายคนกำลังสงสัยว่าทำไมทีวีถึงดังขึ้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตึง! ตึงตึง! เด็กผู้หญิงก้พากันกรี๊ด แล้วร้องไห้
เด็กชายบางคนก็ลุกขึ้นจะไปเปิดประตู ผมเองก็ห้ามเด็กไว้กลัวว่าจะเป็นโจร แล้วมีอันตรายเกิดขึ้น
เลยบอกให้เด็กกลับมานั่งที่เดิม ตึงตึง! ตึง! เสียงเคาะรอบสองดังขึ้น น้องบอลที่นั่งอยู่ใก้ลประตูก็รีบลุกเปิดทันที
พอเปิดออกไปก็ไม่พบสิ่งใด เด็กก็พากันสติแตกไปใหญ่ ผมเลยให้น้องบอลปิดประตู

คราวนี้ผมเลยถามน้องเอินอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหัวค่ำ น้องเอินเล่าให้ว่า
พี่ๆมอสามเล่นซ่อนแอบกันในห้องนอนโดยปิดไฟทั้งห้องแล้วเอากระจกโต๊ะแป้งส่องให้ดวงจันทร์มันสะท้อนเข้ามาในห้องแทนการเปิดไฟ
เอินเล่าต่อว่า เอินแอบพี่ๆบนเตียงโดนเอาผ้าห่มมาคุมตัวเองไว้นอนหันหน้าไปทางกระจกโต๊ะแป้ง แล้วเห็นคนอยู่ในกระจกเป็นเงาลางๆ
คล้ายว่ากำลังนอนกอดตัวน้องเอินอยู่จากภายนอกผ้าห่ม ตอนแรกเอินเข้าใจว่าเป็นพี่มอสาม แต่พอลองมองดีๆแล้วไม่ใช่พี่มอสาม
หน้าขาว ถึวขาวมากตาดำโต น้องกลัวเลยนอนร้องไห้อยู่บนเตียงโดนเอาผ้าห่มคุมไว้ จนพี่ๆเล่นกันเสร็จแล้วเปิดไฟ
น้องเอินบอกว่าตัวเองขยับไม่ได้ ออกเสียงเรียกใครก็ไม่ได้จนพี่ๆเปิดไฟ แล้วจึงวิ่งออกมาจากห้อง
พี่ๆมอสามก็วิ่งตามกันออกมาก พวกเพื่อนๆก็นั่งฟังชนิดที่เงียบจนไม่มีใครเอยปากอะไรออกมา

มองนาฬิกาเที่ยงคืนพอดี คงไม่ได้นอนหลับกัน น้องๆก็ตกลงกันว่าจะนั่งอยู่ด้วยกันจนฟ้าส่างแล้วขึ้นรถกลับ
อาศัยนอนบนรถบัสแทน อยู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง มีเสียงเอะอะดังมาจากนอกประตู
ใจสั่นเต้นระรัวมากคิดไม่ออกว่าใครอยู่ข้างนอก จะเป็นคน หรือจะเป็นผีกันแน่ เสียงเคาะประตุดังขึ้นอีกครั้ง
น้องบอลตัดสินใจลุคขึ้นไปเปิดประตูอีกครั้ง มีร่างผู้ชายสูงใหญ่ยืนค้ำประตูอยู่ด้านหลังมีคนอีกสองคนยืนอยู่ไม่ไกล

จู่ๆ ร่างที่ยืนค้ำประตูร่วงมาทับน้องบอล น้องๆในห้องกรี๊ดกันยกใหญ่ ปรากฏว่าร่างที่ทับน้องบอลคือครูพละ
ที่ออกไปดื่มกับครูท่านอ่านๆที่ริมหาดตั้งแต่หัวค่ำ
พอครูเข้ามานั่งในห้องเราก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ครูบอลเลยขึ้นไปเรียกครูผู้หญิงบนห้อง แล้วเล่าให้ฟังว่าเด็กๆเจออะไร ปรากฏว่าครูผู้หญิงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย พวกเราก็งงกันไปใหญ่ว่าทำไมไม่ได้ยินเสียง เพราะเสียงมันดังมาก ทั้งเด็กเล่นกันในห้อง ร้องไห้ เสียงกรี๊ด เรากับอาจารย์ก็แยกย้ายกันไปนอน แต่น้องๆก็ตกลงว่าจะนั่งจนเช้า และหลับไปบนรถจนถึงโรงเรียน

ปล.พิมพ์ไปทำงานไปอ่านยากนิดหน่อยนะฮับ
ปล2.เรื่องจริง บุคคลจริง สถานที่จริง
ปล3.หากอ่านไม่เข้าใจขออภัยด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่