น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี '' One Day Trip Erawan Waterfall '' แบกกล้องท่องน้ำตก กับงบไม่ถึงพันบาท


5 พฤศจิกายน 2559
ช่วงฤดูฝนสถานที่ ที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น น้ำตก  และสำหรับคนที่มีเวลาน้อยแบบ ไปเช้า-เย็น กลับ (แต่เหนื่อยหน่อย) ก็ต้องที่นี่เลย จังหวัดกาญจนบุรี วันนี้จะพาไปแบกกล้องท่องน้ำตก กันที่  " น้ำตกเอราวัณ "
สำหรับการเตรียมตัวก็ไม่ต้องมีอะไรมาก สำหรับคนที่ไปเช้า-เย็นกลับ แบบเรา วันนี้เตรียมไปแค่ กล้อง+ขาตั้งกล้อง และชุดไปเปลี่ยนสำหรับเล่นน้ำ เมื่อพร้อมแล้วก็ไปกันเลย.....

เริ่มออกเดินทางด้วยรถตู้ โดยผมขึ้นจากโฮมโปรบางพลี ค่ารถ 180 บาท รถออกเวลา 07.30 น. (ตอนนี้รถตู้ที่ อนุสาวรีย์ฯ ไม่มีแล้ว ต้องไปขึ้นที่ หมดชิต2 หรือ สายใต้ใหม่ ) ใช้เวลในการเดินทาง 3 ชั่วโมงกว่าเลย มาถึงขนส่งกาญจนบรี เกือบ 11 โมง พอมาถึงแล้วก็รีบเดินไปหารถเมล์ ไปเอราวัณ ซื้อตั๋วเสร็จราคา 50 บาท แต่รถออกเวลา 11.50 น. เหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงกว่ารถจะออก ก็ต้องหาไรรองท้องก่อน แถวๆบริเวณ ขนส่งกาญ กินเสร็จก็รีบขึ้นรถมาจองหาที่นั่ง ถ้าเต็มแล้วต้องได้ยืนแน่นอน เพราะวัน เสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะเยอะ

ค่าโดยสารคนละ 50 บาท

รถหวานเย็น สำหรับใช้เดินทางไปยังน้ำตกเอราวัณ

เวลา 11.50 น.รถออกเวลาตรงเป๊ะ วันนี้คนแน่นมากใช้เวลาเดินประมาน 1.30 ชั่วโมง

หลังจากจากใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง รถเมล์หวานเย็นก็พาเราเดินทางมาถึง อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

จุดนี้รถจะจอดเพื่อจะให้นักท่องเที่ยว เสียค่าธรรมเนียมค่าเข้าอุทยาน คนละ 100 บาท สำหรับนักศึกษา แสดงบัตร เสีย 50 บาท แต่ไม่ต้องลงจากรถเพราะจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานขึ้นมาเก็บกันบนรถเลย

บริเวณจุดจอดรถ น้ำตกเอราวัณ โดยรถเมล์จะหมดระยะกันที่น้ำตกเอราวัณ

ก่อนจะไปเที่ยวน้ำตก เราก็ต้องมาดูเวลารถขากลับกันก่อน โดยกะไว้ว่าจะกลับรถเที่ยวสุดท้ายนั้นคือ 5 โมงเย็น อืม....มีเวลาเที่ยวกันแค่ 3 ชั่วโมงเองหรอเนี้ย

ก่อนเข้าไปในอุทยาน ก็ต้องอ่านกฏระเบียบกันก่อน ( ห้ามนำ เหล้า เบียร์ เข้าไปในเขตอุทยาน โดยทางอุทยานจะมีจุดรับฝาก )

แผนผังน้ำตกเอราวัณ แต่ละชั้น จากชั้น 1-7 ระยะทาง 2 กิโล

Let’s go

ระหว่างทางเดินไปน้ำตก

และแล้วเราก็เดินมาถึงน้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 1 ชื่อว่า " ไหลคืนรัง "

  ชั้นที่ 1" ไหลคืนรัง "
"
  ชั้นที่ 1 " ไหลคืนรัง "

หลังจากชั้นที่ 1 เดินมาอีกประมาณ 100 เมตร เราก็จะเจอ น้ำตก เอราวัณ ชั้นที่ 2 ชื่อว่า " วังมัจฉา " ซึ่งชั้นนี่น่าจะเป็นที่นิยมสุดของนักท่องเที่ยว

เราออกจากชั้นที่ 2 มุ่งหน้าไปอีก 100 เมตรไปต่อกันชั้นที่ 3

แล้วเราก็เดินมาถึงชั้น ที่ 3 ชื่อว่า  " ผาน้ำตก " ชั้นนี่ก็ไม่ไกลจากชั้นที่ 2 มากนัก

ชั้นที่ 4 ชื่อว่า อกนางผีเสื้อ ชั้นนี้ทางขึ้นค่อนข้างชัน เล่นเอาหอบได้เหมือนกัน หางจากชั้น 3 ประมาณ 300 เมตร มาถึงชั้น 4 โมงดูนาฬิกา Oh! 4 โมงเย็นแล้ว ต้องรีบทำเวลาเดี๋ยวไม่ทันรถ ก็เดินมุ่งหน้าขึ้นสู่ชั้น 5 เจอเจ้าหน้าที่ อุทยาน บอกว่า 4 โมงเย็นแล้วหมดเวลา เม่าเหม่อ เอาไงดีล่ะมาถึงแค่ชั้น 4 เอง ก็ต้องเดินลง เวลามีน้อยไงขอติดไว้ก่อน... โอกาศหน้าจะมาต่อชั้นที่เหลือ...
ยังเหลืออีก 3 ชั้นคือ
ชั้นที่ 5 " เบื่อไม่ลง "จากชั้น 4 ไปอีก 500 เมตร
ชั้นที่ 6 " ดงพฤกษา " ชั้น 5 ไปอีก 200 เมตร
ชั้นที่ 7 ชั้นสุดท้าย '' ภูผาเอราวัณ " จากชั้นที่ 6 ไปอีก 250 เมตร

ขากลับเที่ยวสุดท้าย 5 โมงเย็นคนก็แน่นรถเหมือนเดิม ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่ง ใครที่ต่อรถตู้เข้า กรุงเทพ คนขับจะจอดส่งให้ที่คิวรถตู้ อ.ลาดหญ้า หรือจะมาต่อ ขนส่งกาญจนบุรีเหมือนเดิมก็ได้รถหมด เวลา 2 ทุ่ม
ขอบคุณที่ติดตามครับ......

( สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทาง )
รถตู้จากบางพลี ไปกลับเที่ยวละ 180 บาท = 360 บาท
ค่ารถเมล์จากขนส่ง กาญ-เอราวัณ ไปกลับ = 100 บาท
ค่าเข้าอุทยาน 100 บาท
ส่วนค่ากินก็แล้วแต่ว่าจะกินมากหรือน้อยรวมแล้วทริปมีไม่ถึง 1,000 บาท
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่