สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ญี่ปุ่นเปลี่ยนตัวเองจากประเทศที่ไม่มีวิทยาการอะไรเลยในปี 1868 มาเป็นมหาอำนาจที่แสนยานุภาพทางการทหารมากล้นจนถึงกับมี Japan Empire แผ่อิทธิพลไปทั่วย่านเอเชีย-แปซิฟิค การฟื้นตัวหลังสงครามโลก ญี่ปุ่น
แสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่ในครั้งนั้นได้ชักนำให้สหรัฐอเมริกาเข้ามารบกับญี่ปุ่นถึงบ้านของญี่ปุ่นเอง ประเทศญี่ปุ่นโดนถล่มด้วยระเบิดย่อยยับกันไปหมดในโตเกียวเองก็แทบไม่เหลืออะไร นี่ยังไม่นับความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการถูกระเบิดปรมาณูถล่มที่ ฮิโรชิมา และ นางาซากิ ผู้คนล้มตายกันเยอะมาก
จนในเดือนสิงหาคม 1945 สมเด็จพระจักรพรรดิ์ของญี่ปุ่นต้องออกมาประกาศยอมแพ้สงคราม
มีการเซ็นต์สัญญากับสหรัฐอเมริกาเพื่อยอมแพ้สงครามกันบนเรือ USS Missouri
เซ็นต์ยอมแพ้สงคราม ญี่ปุ่นหลังสงครามโลก
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคที่เรียกว่า Occupation คือ ยุคที่สหรัฐอเมริกา ส่งคนเข้ามาประจำอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายพล Douglas McArthur เป็นหัวหน้าคณะ นำคนเข้ามาราว 5,000 คนมาวางโครงสร้างการทำงานขนานไปกับโครงสร้างรัฐบาลของญี่ปุ่นเองเลย
ตึกที่นายพล McArthur เข้ามาใช้คือ ตึกๆนึงที่โชคดีรอดพ้นการโดนถล่มด้วยระเบิดของสหรัฐอเมริกา และ บังเอิญว่าอยู่ตรงข้ามกับพระราชวังของสมเด็จพระจักรพรรดิ์พอดีเลย ตึกนี้คือตึก Dai-Ichi Insurance Building ถูกตั้งให้เป็นสำนักงานใหญ่ของ Supreme Commander of the Allied Powers หรือ SCAP ที่จะทำหน้าที่แก้ไขอำนาจการปกครองสูงสุดของญี่ปุ่นต่อไป
ฮาราจูกุ (Harajuku) ที่เป็นที่ hang out ของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นที่ชอบแต่งตัวแปลกๆ ก็มีที่มามาจากการที่ชาวอเมริกันมาอาศัยกันในช่วง Occupation พวกชาวอเมริกันที่ในสมัยนั้นมีวิธีการแต่งตัว การฟังเพลง การใช้ชีวิตที่แปลกในสายตาของคนญี่ปุ่นในสมัยนั้น กลายมาเป็นจุดสนใจที่ชาวญี่ปุ่นมาแอบด้อมๆมองๆ มันจึงเป็นต้นเหตุของการที่ Harajuku เป็นสถานที่ที่มีคนแต่งตัวแปลกๆมาโชว์ออฟกันในวันนี้ครับ
การฟื้นตัวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่น McArthur
นายพล Douglas McArthur
นายพล Douglas McArthur เข้ามาทำหน้าที่สำคัญที่มีบทบาทอย่างสูงในการวางรากฐานที่ทำให้ญี่ปุ่นกลับมาเป็น มหาอำนาจ อีกครั้งนึงแต่ไม่ใช่มหาอำนาจทางการทหาร แต่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกในเวลาต่อมา
American Shogun , Japan after WW2 Douglas McArthur
ในตอนนั้น นายพล Douglas McArthur ก็คือทหารที่เข้ามามีอิทธิพลเหนือพระจักรพรรดิ์ในการปกครองญี่ปุ่น เลยมีการพูดว่า นายพล Douglas McArthur เป็นเหมือน Shogun อีกคนนึงของญี่ปุ่นเลย
จะว่าไปแล้วในตอนนั้น นายพล Douglas McArthur ก็คือทหารที่เข้ามามีอิทธิพลเหนือพระจักรพรรดิ์ในการปกครองญี่ปุ่น เลยมีการพูดว่า นายพล Douglas McArthur เป็นเหมือน Shogun อีกคนนึงของญี่ปุ่นเลย
ว่ากันว่า สหรัฐอเมริกา ไม่ได้เข้ามาปฏิรูปประเทศของญี่ปุ่น แต่ สหรัฐอเมริกาได้เข้ามาสร้างโอกาสให้คนญี่ปุ่นขจัดอุปสรรคของการปฏิรูปประเทศต่างหาก
จากนี้ไปจะเข้าเรื่องที่สำคัญ 4 ประการหลักที่ผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอำนาจสูงสุด เปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่ล่างสุด จนทำให้ญี่ปุ่นกลายมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกในวันนี้ครับ
1. Demilitarization
2. Democratisation
3. Declaration of Humanity
4. Decentralisation
เรามาดูกันในรายละเอียดแบบย่อๆของแต่ละเรื่องกันครับ
1. Demilitarization
การฟื้นตัวของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดจากการที่ญี่ปุ่นถูกสั่งให้ไม่ให้มีกองกำลังของตัวเองเด็ดขาด อาวุธที่มีต้องถูกทำลายทิ้ง ในภาพญี่ปุ่นกำลังทำลายเครื่องบินที่มีเหลือจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ในภาพญี่ปุ่นกำลังทำลายเครื่องบินที่มีเหลือจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ญี่ปุ่นที่แผ่อิทธิพลไปจนกลายมาเป็น Japan Empire หรือจักรวรรดิ์ญี่ปุ่น มีประเทศที่ตนแผ่อำนาจไปถึงก็ถูก SCAP ระบุให้ปลดปล่อยประเทศเหล่านั้น ดินแดนของญี่ปุ่นให้มีเหลือเท่าที่เคยมีในปี 1868 เท่านั้น ญี่ปุ่นต้องระบุในรัฐธรรมนูญเลยว่า การมีกองกำลังทหารของญี่ปุ่นเอง เป็นเรื่องผิดกฏหมาย (อย่างไรก็ตามขณะนี้มีความพยายามของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันที่จะหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญข้อนี้อยู่ครับ) ญี่ปุ่นตามรัฐธรรมนูญจะมีได้เพียงแค่ กองกำลังป้องกันตนเอง Self Defence Forces ( SDF )เท่านั้นครับ
2. Democratisation
การฟื้นตัวญี่ปุ่นหลัง WW2
โจทย์ที่สำคัญอีกข้อนึงของนายพล McArthur คือ การที่จะต้องทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงไป ทางนึงคือการเข้าไปแก้ถึงจุดรวมอำนาจการบริหารประเทศ นั่นก็คือ การแก้ระดับรัฐธรรมนูญกันเลย
สิ่งที่ทำคือ การแก้ให้มีความเป็นประชาธิปไตยให้ได้ จากการที่ศูนย์รวมอำนาจทั้งหมดอยู่ที่สมเด็จพระจักรพรรดิ์ ให้ย้ายอำนาจลงมาที่ประชาชนให้หมด คณะรัฐมนตรีต้องทำงานโดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้งไม่ใช่สมเด็จพระจักรพรรดิ์
แนวทางหลักๆ 4 ข้อที่เกิดขึ้นคือ
1. พระจักรพรรดิ์ เป็นสัญญลักษณ์ของประเทศ และ เป็นศูนย์รวมจิตใจเป็นหนึ่งเดียวของญี่ปุ่น และ อำนาจสูงสุดอยู่ที่ปวงชน
2. แยกเรื่องราวของศาสนา ออกจากการบริหารประเทศ
3. ให้สิทธิในการออกเสียงของผู้หญิงเท่ากับผู้ชาย
4. ข้อสำคัญคือ ประชาชนญี่ปุ่นมีอำนาจสูงสุดที่จะปฏิเสธการเข้าร่วมสงคราม และ ปฏิเสธการใช้อำนาจทางการทหารของประเทศเพื่อแก้ข้อพิพาทระหว่างประเทศ และ กองกำลังทางบก ทะเล และ อากาศ และ กองกำลังทุกชนิดจะต้องไม่มีอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
จากกฏการห้ามมีทหารในประเทศเพียงข้อเดียว ทำให้ญี่ปุ่นมีเพดานการให้เงินทางยุทธโธปกรณ์เพียง 1% ของ GDP ทำให้เค้าเอาเงินไปทำอะไรที่มีผลต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ได้อีกมากมาย การ Democratisation นี้เป็นการเปลี่ยนสิ่งสำคัญมากมายที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปอีกมหาศาลเลยทีเดียว
3. Declaration of Humanity
การฟื้นตัวของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่2
เจ้า Kitty ในภาพไม่เกี่ยวนะครับ เอามาลดความเครียดในการอ่าน
วันที่ 1 มกราคม 1946 ไม่กี่เดือนหลังการประกาศยอมแพ้สงคราม SCAP ได้ขอให้สมเด็จพระจักรพรรดิ์กล่าวกับคนในประเทศญี่ปุ่นโดยมีใจความหลักๆว่า
“อย่าได้คิดว่า จักรพรรดิ์ของพวกท่านเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากสุริยเทวี หรือ สืบเชื้อสายมาจากพระอาทิตย์ อะมาเทระสึ เลย”
ความเชื่อนี้เป็นสาเหตุที่เราเห็นธงของประเทศญี่ปุ่นเป็นรูปพระอาทิตย์ ซึ่งในปัจจุบันแม้เราจะคุ้นเคยกับมันแค่ไหน คนญี่ปุ่นก็หลีกเลี่ยงที่จะใช้เพราะมันเป็นธงที่ถูกโยงความหมายไปกับ สงครามโลกครั้งที่2และความโหดร้ายของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว
เรื่องนี้คงเป็นอีกส่วนนึงที่จะลดความรู้สึกศรัทธาในสถาบันของชาวญี่ปุ่น เพื่อที่จะทำให้การก้าวหน้าต่อไปของญี่ปุ่นเป็นไปได้ชัดเจนมากขึ้น
4. Decentralisation
การฟื้นตัวญี่ปุ่นสงครามโลก2
ชาวนาญี่ปุ่นปัจจุบันรวยกว่าคนเมืองเสียอีก
จากตอนที่แล้ว เราได้ทราบว่ากำลังทางการทหารนั้นญี่ปุ่นมีมากเพียงใด อันที่จริงแล้วมันมีกระบวนการของธุรกิจขนาดใหญ่อยู่เบื้องหลัง ที่ Mutual Benefit กันระหว่างการทหาร กับ การธุรกิจ ทหารต้องซื้ออุปกรณ์ทางการทหาร และ เมื่อไปครองดินแดนที่ไหน ธุรกิจก็เหมือนได้แหล่งวัตถุดิบและตลาดไปในตัว เรื่องราวแบบนี้เรียกกันว่า Zaibutsu การเอื้อผลประโยชน์กันเช่นนี้ก่อให้เกิดพลังมหาศาลของประเทศจาก Synergy
SCAP ที่หวังจะเปลี่ยนแปลงประเทศญี่ปุ่นก็ต้องเปลี่ยนเรื่องนี้ด้วยเป็นหลัก ด้วยเรื่องราวดังนี้ครับ
1. แยกธุรกิจกับการทหารออก ไม่ให้สนับสนุนซึ่งกันและกัน
2. สนับสนุนให้เกิดสหภาพแรงงาน เพื่อ สร้างอำนาจต่อรองให้คนงานได้รายได้ที่ดีขึ้น กระจายรายได้ดีขึ้น
3. ปฏิรูปที่ดินจากระบบ นายทุนเจ้าของที่ดินให้เช่าที่ดินกับเกษตรกรผู้เช่า ทำนาเท่าไหร่เจ้าของที่ดินเอาไปหมด (ปัญหานี้ไทยเราก็มี) รัฐบาลก็ออกกฏหมายบังคับซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ แล้ว ขายให้กับเกษตรกรที่ต้องการซื้อโดยให้พื้นที่เท่าที่เกษตรกรจะทำได้ ข้อนี้ทำให้เกิด Productivity ของการทำการเกษตรมากมาย ก่อให้เกิดรายได้กับเกษตรกรอย่างมากเกิดความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจลงรากหญ้ามหาศาลครับ
4. การปฏิรูปทางการศึกษา เพื่อเปลี่ยนระบบการศึกษาที่สร้างมาเพื่อล้างสมองเด็กให้มีความคิดเพื่อประเทศ เพื่อค่านิยมทางการทหาร ให้มาเป็นการเรียนเพื่อเพิ่มคุณค่าในตัวผู้เรียน ทำให้ครูผู้สอนเกิดคุณค่าในตัวเอง
ญี่ปุ่นฟื้นตัวจาก WW2
ความลำบากของชาวญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เรื่องราวที่เอามาเล่า เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นจาก มหาอำนาจทางการทหาร มาเป็น มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นมีชีวิตที่ลำบากมาก ความเป็นอยู่ก่อนเข้าสงครามกับหลังสงครามเหมือนเศรษฐีกับยาจก ทุกคนจนลงมาพร้อมๆกัน อาหาร น้ำ ยารักษาโรค และปัจจัยการใช้ชีวิตทุกอย่างหายไปจากชีวิต แต่พวกเค้าก็ต่อสู้และกลับมาได้อย่างภาคภูมิ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในขั้นนี้ เป็นระดับพื้นฐานของความเปลี่ยนแปลง บทหน้าครับ ผมจะเล่าให้ฟังอีกทีว่า แล้วอะไรเหรอที่ทำให้เค้าประสพความสำเร็จได้ขนาดนี้
วันนี้จบแค่นี้ก่อนนะครับ หวังว่าคงได้มุมมองบ้างไม่มากก็น้อยครับ
แสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่ในครั้งนั้นได้ชักนำให้สหรัฐอเมริกาเข้ามารบกับญี่ปุ่นถึงบ้านของญี่ปุ่นเอง ประเทศญี่ปุ่นโดนถล่มด้วยระเบิดย่อยยับกันไปหมดในโตเกียวเองก็แทบไม่เหลืออะไร นี่ยังไม่นับความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการถูกระเบิดปรมาณูถล่มที่ ฮิโรชิมา และ นางาซากิ ผู้คนล้มตายกันเยอะมาก
จนในเดือนสิงหาคม 1945 สมเด็จพระจักรพรรดิ์ของญี่ปุ่นต้องออกมาประกาศยอมแพ้สงคราม
มีการเซ็นต์สัญญากับสหรัฐอเมริกาเพื่อยอมแพ้สงครามกันบนเรือ USS Missouri
เซ็นต์ยอมแพ้สงคราม ญี่ปุ่นหลังสงครามโลก
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคที่เรียกว่า Occupation คือ ยุคที่สหรัฐอเมริกา ส่งคนเข้ามาประจำอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายพล Douglas McArthur เป็นหัวหน้าคณะ นำคนเข้ามาราว 5,000 คนมาวางโครงสร้างการทำงานขนานไปกับโครงสร้างรัฐบาลของญี่ปุ่นเองเลย
ตึกที่นายพล McArthur เข้ามาใช้คือ ตึกๆนึงที่โชคดีรอดพ้นการโดนถล่มด้วยระเบิดของสหรัฐอเมริกา และ บังเอิญว่าอยู่ตรงข้ามกับพระราชวังของสมเด็จพระจักรพรรดิ์พอดีเลย ตึกนี้คือตึก Dai-Ichi Insurance Building ถูกตั้งให้เป็นสำนักงานใหญ่ของ Supreme Commander of the Allied Powers หรือ SCAP ที่จะทำหน้าที่แก้ไขอำนาจการปกครองสูงสุดของญี่ปุ่นต่อไป
ฮาราจูกุ (Harajuku) ที่เป็นที่ hang out ของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นที่ชอบแต่งตัวแปลกๆ ก็มีที่มามาจากการที่ชาวอเมริกันมาอาศัยกันในช่วง Occupation พวกชาวอเมริกันที่ในสมัยนั้นมีวิธีการแต่งตัว การฟังเพลง การใช้ชีวิตที่แปลกในสายตาของคนญี่ปุ่นในสมัยนั้น กลายมาเป็นจุดสนใจที่ชาวญี่ปุ่นมาแอบด้อมๆมองๆ มันจึงเป็นต้นเหตุของการที่ Harajuku เป็นสถานที่ที่มีคนแต่งตัวแปลกๆมาโชว์ออฟกันในวันนี้ครับ
การฟื้นตัวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่น McArthur
นายพล Douglas McArthur
นายพล Douglas McArthur เข้ามาทำหน้าที่สำคัญที่มีบทบาทอย่างสูงในการวางรากฐานที่ทำให้ญี่ปุ่นกลับมาเป็น มหาอำนาจ อีกครั้งนึงแต่ไม่ใช่มหาอำนาจทางการทหาร แต่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกในเวลาต่อมา
American Shogun , Japan after WW2 Douglas McArthur
ในตอนนั้น นายพล Douglas McArthur ก็คือทหารที่เข้ามามีอิทธิพลเหนือพระจักรพรรดิ์ในการปกครองญี่ปุ่น เลยมีการพูดว่า นายพล Douglas McArthur เป็นเหมือน Shogun อีกคนนึงของญี่ปุ่นเลย
จะว่าไปแล้วในตอนนั้น นายพล Douglas McArthur ก็คือทหารที่เข้ามามีอิทธิพลเหนือพระจักรพรรดิ์ในการปกครองญี่ปุ่น เลยมีการพูดว่า นายพล Douglas McArthur เป็นเหมือน Shogun อีกคนนึงของญี่ปุ่นเลย
ว่ากันว่า สหรัฐอเมริกา ไม่ได้เข้ามาปฏิรูปประเทศของญี่ปุ่น แต่ สหรัฐอเมริกาได้เข้ามาสร้างโอกาสให้คนญี่ปุ่นขจัดอุปสรรคของการปฏิรูปประเทศต่างหาก
จากนี้ไปจะเข้าเรื่องที่สำคัญ 4 ประการหลักที่ผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอำนาจสูงสุด เปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่ล่างสุด จนทำให้ญี่ปุ่นกลายมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกในวันนี้ครับ
1. Demilitarization
2. Democratisation
3. Declaration of Humanity
4. Decentralisation
เรามาดูกันในรายละเอียดแบบย่อๆของแต่ละเรื่องกันครับ
1. Demilitarization
การฟื้นตัวของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดจากการที่ญี่ปุ่นถูกสั่งให้ไม่ให้มีกองกำลังของตัวเองเด็ดขาด อาวุธที่มีต้องถูกทำลายทิ้ง ในภาพญี่ปุ่นกำลังทำลายเครื่องบินที่มีเหลือจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ในภาพญี่ปุ่นกำลังทำลายเครื่องบินที่มีเหลือจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ญี่ปุ่นที่แผ่อิทธิพลไปจนกลายมาเป็น Japan Empire หรือจักรวรรดิ์ญี่ปุ่น มีประเทศที่ตนแผ่อำนาจไปถึงก็ถูก SCAP ระบุให้ปลดปล่อยประเทศเหล่านั้น ดินแดนของญี่ปุ่นให้มีเหลือเท่าที่เคยมีในปี 1868 เท่านั้น ญี่ปุ่นต้องระบุในรัฐธรรมนูญเลยว่า การมีกองกำลังทหารของญี่ปุ่นเอง เป็นเรื่องผิดกฏหมาย (อย่างไรก็ตามขณะนี้มีความพยายามของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันที่จะหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญข้อนี้อยู่ครับ) ญี่ปุ่นตามรัฐธรรมนูญจะมีได้เพียงแค่ กองกำลังป้องกันตนเอง Self Defence Forces ( SDF )เท่านั้นครับ
2. Democratisation
การฟื้นตัวญี่ปุ่นหลัง WW2
โจทย์ที่สำคัญอีกข้อนึงของนายพล McArthur คือ การที่จะต้องทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงไป ทางนึงคือการเข้าไปแก้ถึงจุดรวมอำนาจการบริหารประเทศ นั่นก็คือ การแก้ระดับรัฐธรรมนูญกันเลย
สิ่งที่ทำคือ การแก้ให้มีความเป็นประชาธิปไตยให้ได้ จากการที่ศูนย์รวมอำนาจทั้งหมดอยู่ที่สมเด็จพระจักรพรรดิ์ ให้ย้ายอำนาจลงมาที่ประชาชนให้หมด คณะรัฐมนตรีต้องทำงานโดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้งไม่ใช่สมเด็จพระจักรพรรดิ์
แนวทางหลักๆ 4 ข้อที่เกิดขึ้นคือ
1. พระจักรพรรดิ์ เป็นสัญญลักษณ์ของประเทศ และ เป็นศูนย์รวมจิตใจเป็นหนึ่งเดียวของญี่ปุ่น และ อำนาจสูงสุดอยู่ที่ปวงชน
2. แยกเรื่องราวของศาสนา ออกจากการบริหารประเทศ
3. ให้สิทธิในการออกเสียงของผู้หญิงเท่ากับผู้ชาย
4. ข้อสำคัญคือ ประชาชนญี่ปุ่นมีอำนาจสูงสุดที่จะปฏิเสธการเข้าร่วมสงคราม และ ปฏิเสธการใช้อำนาจทางการทหารของประเทศเพื่อแก้ข้อพิพาทระหว่างประเทศ และ กองกำลังทางบก ทะเล และ อากาศ และ กองกำลังทุกชนิดจะต้องไม่มีอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
จากกฏการห้ามมีทหารในประเทศเพียงข้อเดียว ทำให้ญี่ปุ่นมีเพดานการให้เงินทางยุทธโธปกรณ์เพียง 1% ของ GDP ทำให้เค้าเอาเงินไปทำอะไรที่มีผลต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ได้อีกมากมาย การ Democratisation นี้เป็นการเปลี่ยนสิ่งสำคัญมากมายที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปอีกมหาศาลเลยทีเดียว
3. Declaration of Humanity
การฟื้นตัวของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่2
เจ้า Kitty ในภาพไม่เกี่ยวนะครับ เอามาลดความเครียดในการอ่าน
วันที่ 1 มกราคม 1946 ไม่กี่เดือนหลังการประกาศยอมแพ้สงคราม SCAP ได้ขอให้สมเด็จพระจักรพรรดิ์กล่าวกับคนในประเทศญี่ปุ่นโดยมีใจความหลักๆว่า
“อย่าได้คิดว่า จักรพรรดิ์ของพวกท่านเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากสุริยเทวี หรือ สืบเชื้อสายมาจากพระอาทิตย์ อะมาเทระสึ เลย”
ความเชื่อนี้เป็นสาเหตุที่เราเห็นธงของประเทศญี่ปุ่นเป็นรูปพระอาทิตย์ ซึ่งในปัจจุบันแม้เราจะคุ้นเคยกับมันแค่ไหน คนญี่ปุ่นก็หลีกเลี่ยงที่จะใช้เพราะมันเป็นธงที่ถูกโยงความหมายไปกับ สงครามโลกครั้งที่2และความโหดร้ายของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว
เรื่องนี้คงเป็นอีกส่วนนึงที่จะลดความรู้สึกศรัทธาในสถาบันของชาวญี่ปุ่น เพื่อที่จะทำให้การก้าวหน้าต่อไปของญี่ปุ่นเป็นไปได้ชัดเจนมากขึ้น
4. Decentralisation
การฟื้นตัวญี่ปุ่นสงครามโลก2
ชาวนาญี่ปุ่นปัจจุบันรวยกว่าคนเมืองเสียอีก
จากตอนที่แล้ว เราได้ทราบว่ากำลังทางการทหารนั้นญี่ปุ่นมีมากเพียงใด อันที่จริงแล้วมันมีกระบวนการของธุรกิจขนาดใหญ่อยู่เบื้องหลัง ที่ Mutual Benefit กันระหว่างการทหาร กับ การธุรกิจ ทหารต้องซื้ออุปกรณ์ทางการทหาร และ เมื่อไปครองดินแดนที่ไหน ธุรกิจก็เหมือนได้แหล่งวัตถุดิบและตลาดไปในตัว เรื่องราวแบบนี้เรียกกันว่า Zaibutsu การเอื้อผลประโยชน์กันเช่นนี้ก่อให้เกิดพลังมหาศาลของประเทศจาก Synergy
SCAP ที่หวังจะเปลี่ยนแปลงประเทศญี่ปุ่นก็ต้องเปลี่ยนเรื่องนี้ด้วยเป็นหลัก ด้วยเรื่องราวดังนี้ครับ
1. แยกธุรกิจกับการทหารออก ไม่ให้สนับสนุนซึ่งกันและกัน
2. สนับสนุนให้เกิดสหภาพแรงงาน เพื่อ สร้างอำนาจต่อรองให้คนงานได้รายได้ที่ดีขึ้น กระจายรายได้ดีขึ้น
3. ปฏิรูปที่ดินจากระบบ นายทุนเจ้าของที่ดินให้เช่าที่ดินกับเกษตรกรผู้เช่า ทำนาเท่าไหร่เจ้าของที่ดินเอาไปหมด (ปัญหานี้ไทยเราก็มี) รัฐบาลก็ออกกฏหมายบังคับซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ แล้ว ขายให้กับเกษตรกรที่ต้องการซื้อโดยให้พื้นที่เท่าที่เกษตรกรจะทำได้ ข้อนี้ทำให้เกิด Productivity ของการทำการเกษตรมากมาย ก่อให้เกิดรายได้กับเกษตรกรอย่างมากเกิดความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจลงรากหญ้ามหาศาลครับ
4. การปฏิรูปทางการศึกษา เพื่อเปลี่ยนระบบการศึกษาที่สร้างมาเพื่อล้างสมองเด็กให้มีความคิดเพื่อประเทศ เพื่อค่านิยมทางการทหาร ให้มาเป็นการเรียนเพื่อเพิ่มคุณค่าในตัวผู้เรียน ทำให้ครูผู้สอนเกิดคุณค่าในตัวเอง
ญี่ปุ่นฟื้นตัวจาก WW2
ความลำบากของชาวญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เรื่องราวที่เอามาเล่า เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นจาก มหาอำนาจทางการทหาร มาเป็น มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นมีชีวิตที่ลำบากมาก ความเป็นอยู่ก่อนเข้าสงครามกับหลังสงครามเหมือนเศรษฐีกับยาจก ทุกคนจนลงมาพร้อมๆกัน อาหาร น้ำ ยารักษาโรค และปัจจัยการใช้ชีวิตทุกอย่างหายไปจากชีวิต แต่พวกเค้าก็ต่อสู้และกลับมาได้อย่างภาคภูมิ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในขั้นนี้ เป็นระดับพื้นฐานของความเปลี่ยนแปลง บทหน้าครับ ผมจะเล่าให้ฟังอีกทีว่า แล้วอะไรเหรอที่ทำให้เค้าประสพความสำเร็จได้ขนาดนี้
วันนี้จบแค่นี้ก่อนนะครับ หวังว่าคงได้มุมมองบ้างไม่มากก็น้อยครับ
แสดงความคิดเห็น
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นกลับมารุ่งเรืองทางเศรษฐกิจได้ยังไงครับ ?