โ๊ครงการ PPP ของ UAC จะเป็นอย่างไรต่อไป ต่อข่าวนี้

กระทู้คำถาม
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1478414404

ราคาน้ำมันดิ่งไม่เลิก แหล่งบูรพาของสยามโมเอโกะเตรียมทบทวนแผนผลิตนำเสนอกรมเชื้อเพลิงฯ 3 แนวทางคือ หยุดผลิต คืนสัมปทานให้รัฐ หรืออาจเปลี่ยนมือเจ้าของสัมปทาน หลังต้นทุนเพิ่ม ปริมาณผลิตลด และขาดทุนสะสม ล่าสุดกรมเชื้อเพลิงฯได้อนุมัติให้แหล่งเบญจมาศและแหล่งทานตะวันของเชฟรอนฯสามารถส่งออกน้ำมันดิบปนเปื้อนได้

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่างหนักถึงขั้นต้องปิดหลุมหยุดผลิต เป็นภาวะที่เกิดขึ้นแล้วทั่วโลก รวมถึงแหล่งปิโตรเลียมในไทยด้วย ล่าสุดยังมีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะดิ่งลงและทรงตัวต่อไปอีก โดยหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ระบุราคาน้ำมันในตลาดโลกล่าสุด (3 พ.ย. 59) ยังคงปรับลดลงอย่างน้อยร้อยละ 3 หลังมีการรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐอเมริกา ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.14 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 1 ล้านบาร์เรล เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2525 ส่วนที่เพิ่มขึ้นเกิดจากโรงกลั่นลดการผลิตน้ำมัน และสหรัฐได้นำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแทนถึง 1.99 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ตลาดยังมีความกังวลต่อปริมาณน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปก (OPEC) ที่มีแนวโน้มผลิตสูงขึ้นระดับ 33.82 ล้านบาร์เรล ที่สำคัญการประชุมของโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. คาดว่าไม่สามารถตกลงการลดผลิตลงได้ ล่าสุดน้ำมันดิบดูไบลดลงอีกมาอยู่ที่ระดับ 43.99 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล



แหล่งบูรพาส่อหยุดผลิต - แหล่งปิโตรเลียม "บูรพา" ของบริษัท สยามโมเอโกะ จำกัด เริ่มดำเนินการผลิตมาตั้งแต่ปี 55 ปัจจุบันผลิตน้ำมันดิบประมาณ 489.42 บาร์เรล/วัน หลังจากน้ำมันในตลาดโลกดิ่งลงจนกระทั่งต้นทุนสูงกว่าราคาขาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างทบทวนแผนดำเนินการใน 3 แนวทาง หลังจากเผชิญปัญหาขาดทุนสะสม

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการรายงานเบื้องต้นจากบริษัท สยามโมเอโกะ จำกัด ในฐานะผู้รับสัมปทานแหล่งบูรพา ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสุโขทัย อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก รวม 7,651 ตารางกิโลเมตร ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี"55 ว่าอยู่ในระหว่างทบทวนแผนดำเนินการใน 3 แนวทางคือ 1) ขอหยุดการผลิตชั่วคราว ในกรณีที่ปริมาณน้ำมันดิบที่ผลิตได้ลดลงต่ำกว่า 400 บาร์เรล/วัน 2) คืนสัมปทานแหล่งดังกล่าวให้รัฐ และ 3) ให้บริษัทอื่นที่สนใจเข้ามารับช่วงการผลิตต่อไป หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว ทางบริษัทฯ จะเสนอมายังกรมเชื้อเพลิงฯอีกครั้ง การพิจารณาดังกล่าวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงต่อเนื่องขณะที่ต้นทุนการผลิตไม่ลดลงตามที่สำคัญกำลังผลิตลดลงด้วย

"ต้นทุนของสยามโมเอโกะจะต้องมีการผลิตน้ำมันได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า400บาร์เรล/วัน แต่ตอนนี้มันมีแนวโน้มที่กำลังผลิตจะลดลง บางหลุมเจาะไปแล้วก็ไม่เจอในระดับที่คุ้มต้นทุน ต้นทุนการขุดเจาะก็เพิ่มขึ้นอีก เขาก็อาจจะไม่ไหวภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดต่ำขนาดนี้ เขาก็มองว่าจะทำวิธีอะไรที่ดีที่สุด อาจหาคนอื่นมาทำแทนโดยสยามโมเอโกะก็อาจจะโอนสัมปทานปิโตรเลียมในแหล่งดังกล่าวให้กับผู้สนใจที่สามารถจ้างบริษัทอื่นเข้ามาผลิตที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าก็ได้อย่างเช่นบริษัทยูนิเวอร์แซลแอด ซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) ที่ต้องใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติที่ได้จากแหล่งบูรพาอาจจะสนใจในแหล่งดังกล่าว"

นายวีระศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่าตามที่กรมเชื้อเพลิงฯได้อนุมัติให้มีการส่งออกน้ำมันดิบในแหล่งที่มีปริมาณสารปนเปื้อนสูง(สารหนู-สารปรอท)และถูกกดราคารับซื้อจากโรงกลั่นน้ำมันในประเทศนั้นล่าสุดได้อนุมัติเพิ่มเติม2 แหล่งคือ แหล่งเบญจมาศและแหล่งทานตะวัน ของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เป็นการ "ชั่วคราว" 1 ล็อต จากที่ก่อนหน้านี้ได้อนุมัติไปแล้ว 3 แหล่งคือ แหล่งนงเยาว์ ผู้รับสัมปทานคือ บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม จำกัด แหล่งสงขลา ผู้รับสัมปทานคือ ซีอีซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และแหล่งวาสนา ผู้รับสัมปทานคือ บริษัท คริส เอ็นเนอร์ยี่ ลิมิเต็ด จำกัด

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ข้อมูลการผลิตของแหล่งบูรพาของบริษัทสยามโมเอโกะนั้น ในเดือน ก.ย. 59 ที่ผ่านมา ผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ 489.42 บาร์เรล/วัน ผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 0.44 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน โดยมีปริมาณสำรอง (2P) ที่ 30,000 บาร์เรล สำหรับปริมาณการขายน้ำมันดิบที่ 14,302.38 บาร์เรล/เดือน ส่วนปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติ ซึ่งขายให้โรงแยกก๊าซของบริษัท ยูนิเวอร์แซล แอด ซอร์บ เบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เพื่อผลิตก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ฯลฯ ที่ปริมาณ 9.47 ล้านลูกบาศก์ฟุต

ทั้งนี้ งบการเงินของบริษัทสยามโมเอโกะย้อนหลัง 5 ปี (54-58) อยู่ในภาวะขาดทุนมาโดยตลอด ล่าสุดในปี′58 ขาดทุนสะสมรวม 806 ล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้นหลักคือ บริษัทมิตซุย ออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปะนี ลิมิเต็ด นายชินจิโร่ ไนโตะ และนายโยจิ มุราชิ
..............................................................................................
ตัวผมมีหุ้น UAC อยู่ สังเกตว่า ราคา UAC มันลงมาตลอดก่อนข่าวนี้ออกมา คงต้องรอคุยกับผู้บริหารในวัน Opp day ว่าจะจัดการความเสี่ยงเรื่องนี้อย่างไร
แต่ส่วนตัวมองว่า งบ Q3 คงจะออกมาดี ราคาคงจะดีขึ้น คงจะได้ขายลดความเสี่ยง
อยากได้ความเห็นเพื่อนนักลงทุนหน่อยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่