-- วันเวลาผ่านไปรวดเร็วน่าดู เหมือนคุ้นๆว่า เพิ่งไปเที่ยวนาขั้นบันไดบ้านปงเปียง กับ แม่ลาน้อย มาเมื่อไม่นานมานี้เองนี่นา ... แป้บๆ ครบปีอีกละ
-- ทริปนี้ วางแผน จองที่พักไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนครับ เพราะทราบว่า น่าจะเต็มเร็ว ขนาดนั้น บางแห่งอย่างโครงการหลวงอ่างขาง ยังเหลือแค่ห้องสุดท้ายเองครับ
21 ตุลาคม 2016 ... ระเบียงดาว / โครงการหลวงอ่างขาง
-- เหมือนเดิมครับ ผมออกเดินทางจาก นิคม 304 ปราจีนบุรี แต่ปรับเวลาใหม่ จากปกติ ที่ชอบออกราวๆเที่ยงคืน ก็ปรับมาออกเร็วขึ้น เป็น 2 ทุ่ม ด้วยแอบหวังว่า จะถึงเชียงใหม่เช้ามืด เผื่อจะขึ้นไปดูทะเลหมอก ที่บ้านระเบียงดาว สักหน่อย
-- เส้นทางเหมือนเดิมครับ วิ่งเข้าเมืองปราจีน ออก บ้านนา นครนายก (เบอร์ 33) วิ่งไปเรื่อยๆ จนตัดถนนพหลโยธิน แต่เดิม ผมจะเลี้ยวออก พหลโยธิน แล้ววิ่งย้อนกลับไปเข้าสายเอเซีย แต่มีเพื่อนๆในกลุ่มไลน์แนะนำว่า ให้เกาะเบอร์ 33 เอาไว้ จนไปออก บางปะหัน ที่ สายเอเซีย ได้เลยครับ
-- เปิด GPS เรียบร้อย พอข้ามพหลโยธิน เท่านั้นแหละ พวกจะให้เข้าสระบุรีให้ได้ แถมเบอร์ถนนใน GPS ก็กลายเป็น 329 ไม่ใช่ 33 ด้วยสิ ดีที่เพื่อนแนะนำมาค่อนข้างละเอียด เลยเกาะถนนนี้ไปเรื่อยครับ จน GPS มันคำนวณใหม่ พาไปถูก เส้นนี้จะมีทำถนนเละๆเลยก็ ช่วง อ.นครหลวง สักหน่อยนึง ถ้าเก๋ง อาจจะต้องดูไลน์ถนนนิดนึง พลาดไปมีช่วงล่างพังครับ
-- รวมๆเวลาแล้ว สูสีกับ ทางเดิมที่ผมวิ่งครับ แต่ประหยัดระยะทางไปได้ 30 กว่ากม.แน่ะ
สภาพถนน
-- ขับมาเรื่อยๆ ด้วยความเร็ว 100 – 110 กม./ช.ม. ออกบายพาสนครสวรรค์ ... อืมมม นรกจริงๆ ถนนเละมาก เลนขวาสุดก็ยังเละ อาศัยเอาฝั่งขวาวิ่งบนไหล่ทางขวา แล้วรูดครับ ก็ไปได้ ไม่มีหลุมลึกให้ลุ้นช่วงล่างพัง
-- พอออกจากบายพาสมา ผ่านไฟแดงไปสักหน่อย ก็เจอกับบถนนโลกพระจันทร์ เลนขวา ยังเละ ต้องมือไวๆ แล้วก็ขับช้ามากๆ รวมถึง วิ่งหลบที่ไหล่ทางขวา ด้วยครับ ผมคลานอยู่สัก 40 กม./ช.ม. ตามรถบรรทุกที่หลบมาเลนนี้เหมือนกัน (ใครห้าว ก็แซงซ้าย ถนนพังๆกันไป)
-- พ้นช่วงนี้มาได้ (ไม่กี่กม.หรอก ใจเย็นๆ) ถนนดีแล้วครับ ยาวๆ จนถึงช่วง สลกบาตร กำแพงเพชร มีทางเบี่ยงรถวิ่งสวนครับ ช่วงนี้ก็ช้าหน่อย ถ้าคันหน้าเป็นรถบรรทุก น่ะครับ
-- มาเจออีกรอบ แถว แยกแม่สอด ถนนสวนกันอีก แล้วไปพบกับทางเบี่ยงอีก ก็ตอนเลี้ยวซ้าย ออกนอกเมืองไปแล้วล่ะครับ เจอทางเบี่ยงตลอด ตั้งแต่ก่อนถึงแยกเข้าเขื่อนภูมิพลแล้วล่ะ ยาวๆจนถึง ตัวเมืองลำปาง เลยครับ (พวกเบี่ยงๆพวกนี้ ถนนดีใช้ได้ แต่รำคาญเวลาเจอรถใหญ่นำน่ะครับ ขนาด ตี 2 – 3 รถยังติดยาวๆเลย)
-- ผมแวะเติมน้ำมัน ปั๊ม PT ที่ จ.ตาก ครับ เพราะไม่มั่นใจว่า เลี้ยวซ้ายไปแล้ว ปั๊มที่มีอยู่แถวนั้น จะเปิดดึกๆไหม ? (ตี 2 – 3) แต่เอาเข้าจริง ก็เปิดแหละ ทุกปั๊มเลย
-- จนเข้า จ.ลำปาง (ตี 5 ครึ่ง) ถึงต้องแวะปั๊ม หาที่ Shut Down ตัวเองไป 1 ชั่วโมง ครับ อากาศกำลังสบาย นอนเพลินเลย
-- ฟื้นมาอีกที ตอน 6.30 น. ล้างหน้าล้างตา แล้วไปต่อครับ ยาวๆไปเข้าเชียงใหม่ เลี้ยวออกไปทางเส้น 107 (บอกว่า ไป ระเบียงดาว GPS เจ้ากรรม ดันหลอกให้ออกคู่ขนาน แล้วเลี้ยวเข้า 118 ซะงั้น แต่ไม่เลี้ยวตามมันหรอก แค่ออกคู่ขนานตามมัน เลยติดไฟแดงไปหน่อย)
-- จุดแรก ที่แวะพัก ก็คือ ศาลากาแฟ ... ร้านที่เพื่อนในกลุ่ม Line CRV แจ้งมา หาใน GPS ดันเจอด้วยแฮะ อยู่ลึกลับดี จนทีแรกนึกว่า GPS พาผมเข้าป่าอีกแล้ว .. ร้านเค้าจัดสวยดี น่านั่ง กาแฟอร่อยด้วยครับ
บ้านระเบียงดาว
เส้นทาง
-- ไม่มีอะไรมากครับ เกาะถนน 107 ไปเรื่อยๆ จนเข้าเขตเชียงดาว ให้วิ่งเลี่ยงเมืองครับ เดี๋ยวมีป้ายบอกเอง ซึ่งการขึ้นไปด่านบนนั้น เนื่องจาก เป็นเขตอุทยาน จะต้องลงชื่อ / ทะเบียนรถ และชำระค่าผ่านเข้า ที่ด่านด้วยครับ
-- จากด่านไป ทางเริ่มชัน และ คดเคี้ยว มากขึ้น เป็นถนน 2 เลนสวน แบบแคบๆ ไม่มีไหล่ทางครับ อารมณ์เหมือนขึ้น บ้านแม่กำปอง แหละ แต่ถนนแย่กว่า ชันกว่า สักหน่อย แต่ยังยัดเกียร์ D ให้มันคิดเองได้ครับ ไม่ต้องช่วยมันคิด
-- ขับสักพักใหญ่ๆเลยล่ะ 30 – 40 นาที แล้วแต่ทักษะการขับรถ อีกคำแนะนำของ จนท.ทหาร ที่ด่านก็คือ ให้บีบแตรให้สัญญาณเวลาเจอโค้งด้วยนะครับ เนื่องจาก เป็นโค้งแคบ ทางชัน น่ะครับ


-- และแล้วในที่สุดก็มาถึง โชคดีที่ขึ้นไปวันศุกร์ วันที่คนอื่นยังไม่หยุดกัน แต่กระนั้น ก็มีบางส่วนที่คิดแบบผม ก็เลยมีคนพอตัวเหมือนกัน ที่จอดรถค่อนข้างน้อยนะครับ
-- ผมขึ้นไปถึงตอนสักเที่ยงกว่าแล้ว แดดแรงพอสมควร แต่ก็มีลมเอื่อยๆเย็นๆมาตลอดนะ เรียกว่า หาที่นั่งเหมาะๆแล้วก็ฟินกันได้ทั้งวันเลยล่ะ อีกอย่างก็คือ วิวสวยมาก เหมือนเมฆอยู่ต่ำนิดเดียวเอง ไม่อยากจะคิดว่า ตอนเช้าๆตื่นมา วิวจะสุดยอดขนาดไหนเนอะ ... เดี๋ยวทริปหน้าต้องห้ามพลาดแฮะ
-- หรือออกจาก บ้านระเบียงดาว มาตรงที่จอดรถ ฝั่งตรงข้าม และอยู่บนเนินเขา จะเป็น บ้านวิวดอยหลวง ผมว่า ก็ไม่เลวนะ ดูน่าพัก และวิวใช้ได้ เพราะอยู่สูงครับ (เดินขึ้นไป แอบส่องมา)
เดินถ่ายรูปได้พักนึง ก็ต้อง ร่ำลา ยังมีที่ต้องแวะ อีกหลายแห่ง
ถ้ำเชียงดาว
-- ได้ยินชื่อมานานมากๆ ตั้งแต่เกือบยี่สิบปีก่อน แต่ไม่เคยได้แวะเลย มาคราวนี้ ขอแวะหน่อยละกัน พิกัดก็อยู่บนถนนเส้นที่เราเข้ามาแหละ ก่อนถึงด่านอุทยานสักหน่อยครับ ถ้าขับจากด่านอุทยานมาก็อยู่ขวามือครับ
ก่อนเข้าไปในถ้ำต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อน รู้สึกจะ 20 บาทครับ พอเข้าไปในถ้ำ ก็มีทางแยก 2 ทางครับ
1. แยกขวา มีทางเดิน มีไฟเรียบร้อย ไม่เสียสตางค์
2. แยกซ้าย ต้องมีไกด์ ถือตะเกียงเจ้าพายุนำทางครับ อันนี้เสียค่าบำรุงของทางวัดอีก 100 บาท และทิปไกด์ ตามอัธยาศัยครับ
-- แน่นอนครับ นานๆจะมาสักที ก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม ก็เลยจ้างไกด์พาเดินทัวร์ก่อน ซึ่งก็จะเป็นพวกหินย้อย หินงอกต่างๆ รูปร่างประหลาดๆ ตามแต่จะตั้งชื่อครับ เดินๆมุดๆ ทำเอาเหงื่อท่วมเหมือนกันครับ
-- ถ่ายรูปนี่ ดัน iso สูงสุดที่ 3200 แถมกันสั่นก็ไม่มี อาศัยแสงจากตะเกียงของไกด์ ได้มาเท่านี้ก็บุญโข สำหรับเจ้ากล้องตัวนี้ละ (ปกติ แสงน้อย ก็โฟกัส วืดตลอด)
ค้างคาวเพียบเลย
มองค้างคาวเพลินๆ หันไป งู เลื้อยผ่านหน้าอีก หุหุ
กว่าจะหลุดออกมาได้ แบบเหงื่อท่วมตัว หมดหน้าที่ของไกด์แล้ว เหลือฝั่งขวา ที่ต้องเดินสำรวจเอง แต่ฝั่งนี้เดินสบายครับ ไร้ปัญหา
ทางเดินฝั่งนี้ลาดปูน / ติดไฟ อย่างดี
เดินสุดทาง ก็จะเป็นพระนอนครับ
[CR] * * * ชวนเที่ยวโครงการหลวงอ่างขาง / ตีนตก * * *
-- ทริปนี้ วางแผน จองที่พักไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนครับ เพราะทราบว่า น่าจะเต็มเร็ว ขนาดนั้น บางแห่งอย่างโครงการหลวงอ่างขาง ยังเหลือแค่ห้องสุดท้ายเองครับ
21 ตุลาคม 2016 ... ระเบียงดาว / โครงการหลวงอ่างขาง
-- เหมือนเดิมครับ ผมออกเดินทางจาก นิคม 304 ปราจีนบุรี แต่ปรับเวลาใหม่ จากปกติ ที่ชอบออกราวๆเที่ยงคืน ก็ปรับมาออกเร็วขึ้น เป็น 2 ทุ่ม ด้วยแอบหวังว่า จะถึงเชียงใหม่เช้ามืด เผื่อจะขึ้นไปดูทะเลหมอก ที่บ้านระเบียงดาว สักหน่อย
-- เส้นทางเหมือนเดิมครับ วิ่งเข้าเมืองปราจีน ออก บ้านนา นครนายก (เบอร์ 33) วิ่งไปเรื่อยๆ จนตัดถนนพหลโยธิน แต่เดิม ผมจะเลี้ยวออก พหลโยธิน แล้ววิ่งย้อนกลับไปเข้าสายเอเซีย แต่มีเพื่อนๆในกลุ่มไลน์แนะนำว่า ให้เกาะเบอร์ 33 เอาไว้ จนไปออก บางปะหัน ที่ สายเอเซีย ได้เลยครับ
-- เปิด GPS เรียบร้อย พอข้ามพหลโยธิน เท่านั้นแหละ พวกจะให้เข้าสระบุรีให้ได้ แถมเบอร์ถนนใน GPS ก็กลายเป็น 329 ไม่ใช่ 33 ด้วยสิ ดีที่เพื่อนแนะนำมาค่อนข้างละเอียด เลยเกาะถนนนี้ไปเรื่อยครับ จน GPS มันคำนวณใหม่ พาไปถูก เส้นนี้จะมีทำถนนเละๆเลยก็ ช่วง อ.นครหลวง สักหน่อยนึง ถ้าเก๋ง อาจจะต้องดูไลน์ถนนนิดนึง พลาดไปมีช่วงล่างพังครับ
-- รวมๆเวลาแล้ว สูสีกับ ทางเดิมที่ผมวิ่งครับ แต่ประหยัดระยะทางไปได้ 30 กว่ากม.แน่ะ
สภาพถนน
-- ขับมาเรื่อยๆ ด้วยความเร็ว 100 – 110 กม./ช.ม. ออกบายพาสนครสวรรค์ ... อืมมม นรกจริงๆ ถนนเละมาก เลนขวาสุดก็ยังเละ อาศัยเอาฝั่งขวาวิ่งบนไหล่ทางขวา แล้วรูดครับ ก็ไปได้ ไม่มีหลุมลึกให้ลุ้นช่วงล่างพัง
-- พอออกจากบายพาสมา ผ่านไฟแดงไปสักหน่อย ก็เจอกับบถนนโลกพระจันทร์ เลนขวา ยังเละ ต้องมือไวๆ แล้วก็ขับช้ามากๆ รวมถึง วิ่งหลบที่ไหล่ทางขวา ด้วยครับ ผมคลานอยู่สัก 40 กม./ช.ม. ตามรถบรรทุกที่หลบมาเลนนี้เหมือนกัน (ใครห้าว ก็แซงซ้าย ถนนพังๆกันไป)
-- พ้นช่วงนี้มาได้ (ไม่กี่กม.หรอก ใจเย็นๆ) ถนนดีแล้วครับ ยาวๆ จนถึงช่วง สลกบาตร กำแพงเพชร มีทางเบี่ยงรถวิ่งสวนครับ ช่วงนี้ก็ช้าหน่อย ถ้าคันหน้าเป็นรถบรรทุก น่ะครับ
-- มาเจออีกรอบ แถว แยกแม่สอด ถนนสวนกันอีก แล้วไปพบกับทางเบี่ยงอีก ก็ตอนเลี้ยวซ้าย ออกนอกเมืองไปแล้วล่ะครับ เจอทางเบี่ยงตลอด ตั้งแต่ก่อนถึงแยกเข้าเขื่อนภูมิพลแล้วล่ะ ยาวๆจนถึง ตัวเมืองลำปาง เลยครับ (พวกเบี่ยงๆพวกนี้ ถนนดีใช้ได้ แต่รำคาญเวลาเจอรถใหญ่นำน่ะครับ ขนาด ตี 2 – 3 รถยังติดยาวๆเลย)
-- ผมแวะเติมน้ำมัน ปั๊ม PT ที่ จ.ตาก ครับ เพราะไม่มั่นใจว่า เลี้ยวซ้ายไปแล้ว ปั๊มที่มีอยู่แถวนั้น จะเปิดดึกๆไหม ? (ตี 2 – 3) แต่เอาเข้าจริง ก็เปิดแหละ ทุกปั๊มเลย
-- จนเข้า จ.ลำปาง (ตี 5 ครึ่ง) ถึงต้องแวะปั๊ม หาที่ Shut Down ตัวเองไป 1 ชั่วโมง ครับ อากาศกำลังสบาย นอนเพลินเลย
-- ฟื้นมาอีกที ตอน 6.30 น. ล้างหน้าล้างตา แล้วไปต่อครับ ยาวๆไปเข้าเชียงใหม่ เลี้ยวออกไปทางเส้น 107 (บอกว่า ไป ระเบียงดาว GPS เจ้ากรรม ดันหลอกให้ออกคู่ขนาน แล้วเลี้ยวเข้า 118 ซะงั้น แต่ไม่เลี้ยวตามมันหรอก แค่ออกคู่ขนานตามมัน เลยติดไฟแดงไปหน่อย)
-- จุดแรก ที่แวะพัก ก็คือ ศาลากาแฟ ... ร้านที่เพื่อนในกลุ่ม Line CRV แจ้งมา หาใน GPS ดันเจอด้วยแฮะ อยู่ลึกลับดี จนทีแรกนึกว่า GPS พาผมเข้าป่าอีกแล้ว .. ร้านเค้าจัดสวยดี น่านั่ง กาแฟอร่อยด้วยครับ
บ้านระเบียงดาว
เส้นทาง
-- ไม่มีอะไรมากครับ เกาะถนน 107 ไปเรื่อยๆ จนเข้าเขตเชียงดาว ให้วิ่งเลี่ยงเมืองครับ เดี๋ยวมีป้ายบอกเอง ซึ่งการขึ้นไปด่านบนนั้น เนื่องจาก เป็นเขตอุทยาน จะต้องลงชื่อ / ทะเบียนรถ และชำระค่าผ่านเข้า ที่ด่านด้วยครับ
-- จากด่านไป ทางเริ่มชัน และ คดเคี้ยว มากขึ้น เป็นถนน 2 เลนสวน แบบแคบๆ ไม่มีไหล่ทางครับ อารมณ์เหมือนขึ้น บ้านแม่กำปอง แหละ แต่ถนนแย่กว่า ชันกว่า สักหน่อย แต่ยังยัดเกียร์ D ให้มันคิดเองได้ครับ ไม่ต้องช่วยมันคิด
-- ขับสักพักใหญ่ๆเลยล่ะ 30 – 40 นาที แล้วแต่ทักษะการขับรถ อีกคำแนะนำของ จนท.ทหาร ที่ด่านก็คือ ให้บีบแตรให้สัญญาณเวลาเจอโค้งด้วยนะครับ เนื่องจาก เป็นโค้งแคบ ทางชัน น่ะครับ
-- และแล้วในที่สุดก็มาถึง โชคดีที่ขึ้นไปวันศุกร์ วันที่คนอื่นยังไม่หยุดกัน แต่กระนั้น ก็มีบางส่วนที่คิดแบบผม ก็เลยมีคนพอตัวเหมือนกัน ที่จอดรถค่อนข้างน้อยนะครับ
-- ผมขึ้นไปถึงตอนสักเที่ยงกว่าแล้ว แดดแรงพอสมควร แต่ก็มีลมเอื่อยๆเย็นๆมาตลอดนะ เรียกว่า หาที่นั่งเหมาะๆแล้วก็ฟินกันได้ทั้งวันเลยล่ะ อีกอย่างก็คือ วิวสวยมาก เหมือนเมฆอยู่ต่ำนิดเดียวเอง ไม่อยากจะคิดว่า ตอนเช้าๆตื่นมา วิวจะสุดยอดขนาดไหนเนอะ ... เดี๋ยวทริปหน้าต้องห้ามพลาดแฮะ
-- หรือออกจาก บ้านระเบียงดาว มาตรงที่จอดรถ ฝั่งตรงข้าม และอยู่บนเนินเขา จะเป็น บ้านวิวดอยหลวง ผมว่า ก็ไม่เลวนะ ดูน่าพัก และวิวใช้ได้ เพราะอยู่สูงครับ (เดินขึ้นไป แอบส่องมา)
เดินถ่ายรูปได้พักนึง ก็ต้อง ร่ำลา ยังมีที่ต้องแวะ อีกหลายแห่ง
ถ้ำเชียงดาว
-- ได้ยินชื่อมานานมากๆ ตั้งแต่เกือบยี่สิบปีก่อน แต่ไม่เคยได้แวะเลย มาคราวนี้ ขอแวะหน่อยละกัน พิกัดก็อยู่บนถนนเส้นที่เราเข้ามาแหละ ก่อนถึงด่านอุทยานสักหน่อยครับ ถ้าขับจากด่านอุทยานมาก็อยู่ขวามือครับ
ก่อนเข้าไปในถ้ำต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อน รู้สึกจะ 20 บาทครับ พอเข้าไปในถ้ำ ก็มีทางแยก 2 ทางครับ
1. แยกขวา มีทางเดิน มีไฟเรียบร้อย ไม่เสียสตางค์
2. แยกซ้าย ต้องมีไกด์ ถือตะเกียงเจ้าพายุนำทางครับ อันนี้เสียค่าบำรุงของทางวัดอีก 100 บาท และทิปไกด์ ตามอัธยาศัยครับ
-- แน่นอนครับ นานๆจะมาสักที ก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม ก็เลยจ้างไกด์พาเดินทัวร์ก่อน ซึ่งก็จะเป็นพวกหินย้อย หินงอกต่างๆ รูปร่างประหลาดๆ ตามแต่จะตั้งชื่อครับ เดินๆมุดๆ ทำเอาเหงื่อท่วมเหมือนกันครับ
-- ถ่ายรูปนี่ ดัน iso สูงสุดที่ 3200 แถมกันสั่นก็ไม่มี อาศัยแสงจากตะเกียงของไกด์ ได้มาเท่านี้ก็บุญโข สำหรับเจ้ากล้องตัวนี้ละ (ปกติ แสงน้อย ก็โฟกัส วืดตลอด)
ค้างคาวเพียบเลย
มองค้างคาวเพลินๆ หันไป งู เลื้อยผ่านหน้าอีก หุหุ
กว่าจะหลุดออกมาได้ แบบเหงื่อท่วมตัว หมดหน้าที่ของไกด์แล้ว เหลือฝั่งขวา ที่ต้องเดินสำรวจเอง แต่ฝั่งนี้เดินสบายครับ ไร้ปัญหา
ทางเดินฝั่งนี้ลาดปูน / ติดไฟ อย่างดี
เดินสุดทาง ก็จะเป็นพระนอนครับ