[๔๐] ก็ในสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าอันภิกษุสงฆ์ห้อม-
ล้อมแล้วทรงแสดงธรรมแก่พระภิกษุทั้งหลาย ประหนึ่ง
ว่าราชสีห์บันลือสีหนาทอยู่ในป่า.
[๔๑] อชิตพราหมณ์ ได้เห็นเพระสัมพุทธเจ้าผู้เพียงดังว่า
ดวงอาทิตย์มีรัศมีฉายออกไป และเหมือนดวงจันทร์
เต็มดวงในวันเพ็ญ.
[๔๒] ลำดับนั้น อชิตพราหมณ์ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง
รื่นเริงใจเพราะได้เห็นอนุพยัญชนะบริบูรณ์ ในพระกาย
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทูลถามปัญหาด้วยใจ.
[๔๓] อ. ท่านเจาะจงใคร จงบอกโคตรพร้อมด้วยลักษณะ
บอกความสำเร็จในมนต์ทั้งหลาย พราหมณ์สอนมาณพ
เท่าไร.
[๔๔] พ. พราหมณ์นั้นมีอายุ ๑๒๐ ปี ชื่อพาวรีโดยโคตร
ลักษณะ ๓ อย่างมีในตัวของพราหมณ์นั้น พราหมณ์นั้น
เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งไตรเพท.
[๔๕] พาวรีพราหมณ์ ถึงความสำเร็จในธรรมของตน สอน
มาณพ ๕๐๐ ในมหาบุรุษลักษณะ และคัมภีร์อิติหาสะ
พร้อมทั้งคัมภีร์นิฆัณฑุศาสตร์ และคัมภีร์เกฏุภศาสตร์.
[๔๖] ข้าแต่พระองค์ผู้สูงสุดกว่านรชน ผู้ตัดเสียซึ่งตัณหา
ขอพระองค์ทรงประกาศความกว้างแห่งลักษณะทั้งหลาย
ของพาวรีพราหมณ์ ความสงสัยอย่าได้มีแก่ข้าพระองค์
ทั้งหลายเลย.
[๔๗] พราหมณ์นั้นย่อมปกปิดหน้าได้ด้วยลิ้น มีอุณาโลมอยู่
ในระหว่างคิ้ว และมีอวัยวะที่ซ่อนอยู่ในผ้า อยู่ในฝัก
ดูก่อนมาณพ ท่านจงรู้อย่างนี้.
[๔๘] ชนทั้งปวงไม่ได้ฟังใคร ๆ ซึ่งเป็นผู้ถาม ได้ฟังปัญหา
ทั้งหลาย ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแก้แล้ว เกิดความ
โสมนัส ประนมอัญชลี ย่อมคิดไปต่าง ๆ (ว่า)
[๔๙] ใครหนอ เป็นเทวดา เป็นพระพรหม หรือเป็น
พระอินทร์ผู้สุชัมบดี เมื่อเขาถามปัญหาด้วยใจ จะแก้
ปัญหานั้นกะใครได้.
[๕๐] อ. พาวรีพราหมณ์ย่อมถามถึงศีรษะ และธรรมอัน
ทำให้ศีรษะตกไป ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงแสวงหา
ขอพระองค์ทรงโปรดพยากรณ์ข้อนั้น กำจัดเสียซึ่งความ
สงสัยของข้าพระองค์ทั้งหลายเถิด.
ว่าด้วยอชิตพราหมณ์ทูลถามปัญหาด้วยใจ.
ล้อมแล้วทรงแสดงธรรมแก่พระภิกษุทั้งหลาย ประหนึ่ง
ว่าราชสีห์บันลือสีหนาทอยู่ในป่า.
[๔๑] อชิตพราหมณ์ ได้เห็นเพระสัมพุทธเจ้าผู้เพียงดังว่า
ดวงอาทิตย์มีรัศมีฉายออกไป และเหมือนดวงจันทร์
เต็มดวงในวันเพ็ญ.
[๔๒] ลำดับนั้น อชิตพราหมณ์ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง
รื่นเริงใจเพราะได้เห็นอนุพยัญชนะบริบูรณ์ ในพระกาย
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทูลถามปัญหาด้วยใจ.
[๔๓] อ. ท่านเจาะจงใคร จงบอกโคตรพร้อมด้วยลักษณะ
บอกความสำเร็จในมนต์ทั้งหลาย พราหมณ์สอนมาณพ
เท่าไร.
[๔๔] พ. พราหมณ์นั้นมีอายุ ๑๒๐ ปี ชื่อพาวรีโดยโคตร
ลักษณะ ๓ อย่างมีในตัวของพราหมณ์นั้น พราหมณ์นั้น
เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งไตรเพท.
[๔๕] พาวรีพราหมณ์ ถึงความสำเร็จในธรรมของตน สอน
มาณพ ๕๐๐ ในมหาบุรุษลักษณะ และคัมภีร์อิติหาสะ
พร้อมทั้งคัมภีร์นิฆัณฑุศาสตร์ และคัมภีร์เกฏุภศาสตร์.
[๔๖] ข้าแต่พระองค์ผู้สูงสุดกว่านรชน ผู้ตัดเสียซึ่งตัณหา
ขอพระองค์ทรงประกาศความกว้างแห่งลักษณะทั้งหลาย
ของพาวรีพราหมณ์ ความสงสัยอย่าได้มีแก่ข้าพระองค์
ทั้งหลายเลย.
[๔๗] พราหมณ์นั้นย่อมปกปิดหน้าได้ด้วยลิ้น มีอุณาโลมอยู่
ในระหว่างคิ้ว และมีอวัยวะที่ซ่อนอยู่ในผ้า อยู่ในฝัก
ดูก่อนมาณพ ท่านจงรู้อย่างนี้.
[๔๘] ชนทั้งปวงไม่ได้ฟังใคร ๆ ซึ่งเป็นผู้ถาม ได้ฟังปัญหา
ทั้งหลาย ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแก้แล้ว เกิดความ
โสมนัส ประนมอัญชลี ย่อมคิดไปต่าง ๆ (ว่า)
[๔๙] ใครหนอ เป็นเทวดา เป็นพระพรหม หรือเป็น
พระอินทร์ผู้สุชัมบดี เมื่อเขาถามปัญหาด้วยใจ จะแก้
ปัญหานั้นกะใครได้.
[๕๐] อ. พาวรีพราหมณ์ย่อมถามถึงศีรษะ และธรรมอัน
ทำให้ศีรษะตกไป ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงแสวงหา
ขอพระองค์ทรงโปรดพยากรณ์ข้อนั้น กำจัดเสียซึ่งความ
สงสัยของข้าพระองค์ทั้งหลายเถิด.