▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ร้านอาหาร
[CR] ตะลุยทริป ปลายฝน ตุลา 59 @ เชียงใหม่ จ้าว //ดอยอินทนนท์//เก๊าไม้ล้านนา//ไร่ชาลุงเดช//ล่องแก่ง แก่งกื้ด ตอนที่ 1/2
### ทริปนี้เกิดขึ้น ตุลา 59 ###
ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวหลายต่อหลายแห่ง แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสมารีวิวเลย แต่อยากจะแชร์ทริปป่าๆ เขาๆนี้
ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยไปเที่ยวเชียงใหม่แล้ว ไงลองมาดูรายละเอียดทริปกันดูนะครับ
1.ดอยอินทนนท์ & ข้าวเช้าโครงการหลวงดอยอินฯ
2.เก๊าไม้ล้านนา
3.ข้าวซอยแม่มณี
4.ไร่ชาลุงเดช อ.แม่แตง
5.ล่องแก่ง (ลุงเษม แก่งกื้ด) & ข้าวเย็นร้านอาหารริมแก่งกื้ด
6.ม่อนแจ่ม
7.ร้านน้ำเหนือนั่งเล่น ริมน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม
8.โรงแรม X2 Vibe Decem Chiang mai
9.ผัดไท หอยทอด ลุงแก้ว ประตูสวนดอก
10.ถนนคนเดิน ประตูท่าแพ
11.โจ๊กสมเพชร
12.ซื้อของฝาก ที่ กาดหลวง (ตลาดวโรรส)
13.สะพานเหล็ก เชียงใหม่
14.บ้านเคียงน้ำ ริมน้ำปิง จ.ตาก
### ภาพ&วิดีโอ ถ่ายโดย iPhone 5S ### ขออภัย หากไม่คมชัด
...............มาเริ่มต้นทริปกันเลยครับ
เวลา 19.30 น. ล้อหมุน เราออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ
***เส้นทาง***
ทริปนี้ผมใช้เส้นทาง สายเอเชีย จากกรุงเทพฯ ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ตามแผนที่ด้านล่าง
แต่ช่วงระหว่างนครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก และ ลำปาง มีการก่อสร้างทางผิวการจราจรอยู่เป็นบางช่วง ทำให้มีการเบี่ยงขวา เบี้ยงซ้าย กันหลายช่วง
เราถึง ทางขึ้นดอยอินทนนท์ เวลา 6.30 น. (ขับกันแบบยิงยาวเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องด้วยเส้นทางบางช่วงมีการก่อสร้าง เลยเสียเวลาตรงนั้นไป)
อัตราค่าเข้าอุทยานดอยอินฯ >>> ผู้ใหญ่ (คนไทย) คนละ 50 บาท
(ราคานี้อัพเดท 29 ตุลา 59) รถยนต์ คันละ 30 บาท
สำหรับใครสนใจจะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ทางด่าน 1 ที่ขึ้นอุทยานดอยอินฯ เปิดตอน 05.00 น.ครับ
เบอร์อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ 053-286-728
เกือบถึงยอดดอยแล้วครับ วิวสวย เลยแวะถ่ายรูป
แล้วเราก้มาถึงยอดดอยอินท์ แล้วครับ มีทางเดินท่ามกลางธรรมชาติบนยอดดดอย ชื้น ร่มรื่น และเย็น
อากาศเช้าวันนั้นบนยอดดอย 6 องศาครับ
เมื่อชมบรรยากาศด้านบนแล้ว แดดเริ่มออก เราเลยขับรถลงมาด้านล่างเพื่อกินข้าวเช้าที่ ร้านอาหารโครงการหลวงดอยอินทนนท์กัน
เพราะมีเสียงล่ำลือเรื่องความสดและรสชาติอร่อย
ระหว่างทางลงจากยอดดอย เราผ่านร้านขายของป่า ผลไม้ต่างๆ ของชาวบ้านครับ
แล้วเราก็มาถึงครับ ร้านอาหารของโครงการหลวงอินทนนท์
(บางคนอาจจะหาร้านอาหารโครงการหลวงไม่เจอ เพราะทางเข้านั้น ต้องผ่านบ้านชาวบ้านชาวเขาด้วย ถนนแคปหน่อย
ระยะทางจากยอดดอยอินท์ ถึง ร้านอาหารโครงการหลวงอินทนนท์ ประมาณ 17 กิโลเมตร (20 กว่านาทีก็ถึง)
แต่ถ้าใครไม่แม่นเรื่องทาง ค้นหาใน google map ตามด้านล่างนี้นะครับ
เราไปถึงร้านอาหารโครงการหลวงดอนอินท์ ประมาณ 8:30 น. เข้าไปสอบถามพนักงาน พนักงานแจ้งว่า ในช่วงเช้า ทางร้านอาหารโครงการหลวงฯ
จะจัดอาหารเช้าไว้สำหรับ ผู้ที่มาพักค้างคืนที่โครงการหลวงฯ อาหารเป็น Breakfast ทั่วไป แต่ถ้าบุคคลภายนอกสนใจ breakfast เช้านี้จะต้องเสีย คนละ 200 บาท
ในส่วนของร้านอาหาร จะเปิดตั้ง แต่ 10.00 เป็นต้นไป ถึงดึกครับ
ซึ่งพวกผม แพลนกันมาซะดิบดี มาเจอแบบนี้ นู๋เซ็งเลยคัฟ รอช้าไม่ได้ ท้องก็ร้องแล้ว เลย ค้นหาร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงกัน ก็ได้ร้านนี้แทนครับ
เป็นร้านอาหารที่อยู่ตรงทางลงยอดดอยอินท์ (หน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ดอยอินฯ) ซึ่งหมายความว่า เราต้องขับรถย้อนขึ้นไปทางเดิม อีกนิดหน่อย
ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ตาม google map ด้านล่างครับ
ร้านอาหารจะอยู่ตรงที่รถจอดเยอะๆ
เป็นร้านอาหาร 3-4 ร้านติดกันครับ ตรงหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ดอยอินฯ ซึ่งพวกผม เลือกนั่งที่ "ร้านมิตรภาพ" เพราะเห็นรีวีว โอเค
เมนูอาหารเช้านี้ เป็น 3 เมนูดังเท่าที่อ่านรีวิวมาครับ
1. ปลาเทร้าทอด (อ่านว่าเทร้านะครับ ไม่ใช่ เท-ร้า 5555 อายมาก) เห็นเขาว่าเป็นปลาที่โครงการหลวงฯ เพาะเลี้ยงไว้ หากินที่อื่นไม่ค่อยมี
2. เห้ดหอมทอดซีอิ้ว (อร่อย)
3. ลูกมะระผัดไข่
อย่าสั่งเพลินนะครับ เพราะเป็นอาหารจานใหญ่ เดี๋ยวจะกินไม่หมด
หลังจากหมดเกลี้ยง=อร่อยครับ ความสด กับ รสชาติ ผ่านๆ
เดินทางต่อครับ ระหว่างลงดอยฯ ผ่านแปลงนา ของโครงการ และมีรีสอร์ทอยู่ใกล้ๆ เลยแวะเเชะรูปสักหน่อย
หลังจาก ลงสู่พื้นดินปกติ สถานีต่อไป >>> เก๊าไม้ล้านนา ครับ (จากดอยอินท์ เข้าตัวเมือง เส้น 108 จะผ่าน เก๊าไม้ล้านนา ครับ)
ใช้เวลาจากร้านอาหารบนดอย มาที่ เก๊าไม้ล้านนา ประมาณ 1 ชม ครับ
ปักหมุดใน google map ไปได้เลย
หลังจากเข้าไปด้านใน ดูร่มรื่น ต้นไม้เยอะ แต่มีบางส่วนที่ กำลังปรับปรุงก่อสร้างอยู่ในภายใน
ถ้าใครสนใจพักช่วงสิ้นปี จองล่วงหน้าได้นะครับ มีโปรโมชั่นอยู่ สอบถามที่รีสอร์ทได้เลยครับ
หลังจากนั้น เย้ๆ ได้เวลาข้าวเที่ยงแล้ว สถานีต่อไป >>> ข้าวซอยแม่มณี ครับ
ร้านนี้เป็นร้านดั่งเดิมของเชียงใหม่ อีกร้านหนึ่ง ซึ่งร้านอื่นที่ดังไม่ว่าจะเป็น ข้าวซอยลำดวน-ฟ้าฮ่าม และ ข้าวซอยนิมมาน ผมได้ไปชิมมาแล้ว
แต่ครั้งนี้ได้โอกาสลองร้านใหม่ ซึ่งได้ข้อมูลมาจาก เพื่อนที่อยู่ เชียงใหม่ครับ
ร้านอยู่ ถนนโชตนา สามารถเข้าได้ทั้ง ซอย โชตนา 22 หรือ 24 ก็ได้ แต่เป็นซอยแคปครับ ตาม google map ด้านล่างครับ
ที่จอดรถยนต์มีประมาณ 3-4 คัน ครับ
และนี่คือหน้าร้านข้าวซอยแม่มณีครับ (ถ้าไม่สังเกต ก็คงไม่รู้ครับ อิอิ)
ได้แล้วครับ เมนูที่สั่ง ข้าวซอยไก่ ธรรมดา 35 บาทเอง
ข้าวซอยไก่ที่นี่ ที่ผมสั่งเป็นไก่ชิ้นครับ ไม่ใช่เป็นน่อง หลังจากชิม รสชาติอร่อยมากครับ ทุกคนติดใจ แถมสิครับ รอไร
ยิ่งมีกรอบๆ โรยเยอะๆ ยิ่งอร่อยครับ สามารถสั่งได้นะครับ
ข้อจำกัดของร้านนี้คือ หยุดทุกวันพระ
ผมแนะนำใครจะไปชิม โทรไปสอบถามที่ร้านก่อนนะครับ เบอร์ 081-961-2235 และร้านปิด ประมาณ 15.30 น. ครับ
หลังจากอิ่มกันแล้ว สถานีต่อไป >>>> ไร่ชาลุงเดช ที่บ้านเมืองก๋าย อำเภอ แม่แตงครับ
ติดต่อจองห้องพัก ลุงเดช เบอร์ 081-163-3765 (ลุงบอก จองก่อน จ่ายเงินตอน Check out ทีเดียว)
ออกจากร้านข้าวซอยแม่มณี เราก็ขับรถขึ้นไป อ.แม่แตงครับ โดยใช้ทางหลวง 107 ผ่าน อ.แม่ริม อ.แม่แตงครับ
ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร ตาม google map ด้านล่างครับ
ผมแนะนำว่า ก่อนเข้าไปไร่ชาฯ ให้แวะเติมน้ำมันให้เต็มถัง แถวตลาดแม่มาลัย (กาดแม่มาลัย)
มีทั้งปั๊ม ปตท. และปั๊ม shell ครับที่วงกลมในภาพ เพราะเส้นทางเข้าไปไร่ชา เป็นเส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นลงหุบเขาในป่าครับ
อีกอย่างที่แนะนำให้ซื้อไป คือ ของกิน ขนม ของใช้ที่จำเป็น ยากันยุง (ยุงป่าตัวใหญ่ทั้งนั้น) เพราะในป่า ไม่มีเซเว่นนะครับ
แวะเติมน้ำมันแล้วจัดเซเว่นในปั๊มไปเลยครับ
จากถนนหลวง 107 วิ่งเข้า ถนน 1095 แต่ถ้าใครที่ไม่เติมน้ำมัน ไม่ซื้อของ จากรูปด่านล่าง เส้นสีขาวๆ ซ้ายมือ ที่ทะแยงเข้า
ถนน 1095 สามารถไปทางนั้นได้เลยครับ เพราะคนเติมน้ำมันกับซื้อของ ต้องเลยแยกตรงนี้ไปเกือบถึงจุด A (จุด A คือ ตลาดแม่มาลัย)
จะมีปั๊มน้ำมันระหว่างทางจากแยกตรงนี้ ไปเกือบถึง จุด A ครับ มี ปตท กับ shell ตามด้านบน
หลังจากแยกถนน 1095 ตรงนี้ เรามุ่งหน้าเข้า ทางหลวงชนบทครับ
ตอนที่ผมไป เป็นถนนลาดยางเลนสวน รถวิ่งได้สะดวกครับ แต่เต็มไปด้วยคดเคี้ยว ตามรูปด้านล่างครับ
และแล้ว เราก็มาถึงทางขึ้นไร่ชา
ทางขึ้นเป็นถนนซีเมนต์ ชันมากๆ เอียงประมาณ 45 องศา ครับ ชนิดที่ว่ามองถนนไม่เห็น หน้ารถแหงน แต่วีดีโอที่ผมลงนี้ เป็นการถ่ายตอนลงครับ
ใครไม่เชื่อไปลอง..... ท้าเลย!!!
ถึงแล้วค้าบ ไร่ชาลุงเดช
และนี่คือบ้านที่เราจองไว้ครับ มีแค่ 2 หลังนี้
มาดูภายในบ้านสามเหลี่ยมกันครับ
ภายในบ้านมี ชุดเครื่องนอน ปลั๊กไฟ ไฟฟ้า แต่ไม่มีพัดลมให้ เพราะอากาศเย็น 20-25 องศาอยู่แล้ว และสุขาเร่งด่วน 555 ฟังแล้วงง ดูจากภาพเรย คือแบบ ลมเย็นอะ ถ้ามากับเพื่อนทำไง พูด!!
ติดตาม ตอน 2 ตามลิ้งด้านล่างครับ
http://pantip.com/topic/35778559