เรามีปัญหาเดิมๆ ที่สังคมมักพบเจอบ่อยๆมาเล่าให้ฟัง เเต่ที่มันน่าเจ็บใจที่สุดคือคนที่ดูถูกเราเป็นครูที่ประจำชั้น
เมื่ออาทิตย์ก่อน หลังสอบเเกทเเพทจบเรียบร้อย วันถัดมาเราก็ไปรายงานตัว เเละ ชำระค่าเล่าเรียน ที่มหาลัยเอกชนชื่อดังเเห่งหนึ่งใน กทม.
เราตั้งมั่นว่าจะเข้าที่นี่มานานมาก มันเป็นความชอบส่วนตัวนะ ไม่ใช่เพราะอยากอวดรวย หรือ ไม่มีทางเลือกอื่น เเต่คนเราก็มีความชอบของตัวเองอยู่เเล้วถูกไหมคะ? เราเอาเกรดไปยื่น จ่ายค่าเทอม ถ่ายบัตรนักศึกษา สรุปว่าตอนนี้เราก็เป็นนักศึกษาไปเกือบเต็มตัวเเล้ว
หลังจากเสร็จธุระเราก็เดินทางกลับบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไป รร. คาบโฮมรูมครูเขาเดินเข้ามาเเล้วถามเกี่ยวกับการสอบเเกทเเพท พวกเราก็คุยกันไปสนุกสนาน จนครูเเกถามว่า ไหนๆ ใครมีที่เรียนเเล้วบ้าง ก็มีเรากับเพื่อนอีกคนที่ติด ม.รัฐ ครูเขาก็พูดออกมาว่าเก่งจังเลยปรบมือให้เพื่อนหน่อย เเต่บอกชื่อเพื่อนอีกคนที่ติด ม.รัฐ เราก็ค้านไปว่า หนูก็มีที่เรียนเเล้วนะคะ ครูเเกก็บอกว่า ม.เอกชนเหรอ? (พูดชื่อมหาลัยที่เราเข้า) เหอะ ไม่เห็นจะน่าภูมิใจ ไม่นับนะทุกคน ปรบมือให้ (พูดชื่อคนที่เข้า ม.รัฐ) กันน้า ขอเเสดงความยินดีให้ด้วย เเล้วก็เมินเราไปเลย
เขาก็พูดปลอบเรานะว่าก็ไม่ใช่ไม่ดี เเต่ ม.เอกชนมันเป็นเเบบนี้ๆ มีเเค่เงินไปก็รับ เหมือนไม่ต้องพยายาม ครูอยากให้เราพยายาม บลาๆๆ เเต่สุดท้ายก็พูดเหยียดความตั้งใจของเราอยู่ดี เเม่เราก็ไปดูมหาลัยมา เขาก็โอเคเพราะถ้าเทียบกับเงินที่เสียไปมันคุ้มมาก เขาก็บอกว่าไม่ว่าเราจะอยู่เอกชนหรือรัฐก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเหมือนที่เราไม่เคยทำให้เขาผิดหวังตลอดมา จะรัฐหรือเอกชนเราก็ไม่เคยเสียการเรียน เรามั่นใจ เเม่หวังกับเราไว้มากเพราะเรามีกันสองคนเราก็มีความฝันที่ไกล เพราะฉะนั้น เราไม่มีทางทำให้เขาเสียใจ เรื่องเงินเขาก็โอเค
เราเสียใจนะที่ได้ยินประโยคดูถูกมากมายจากคนที่เป็นเเม่อีกคนของเรา ทั้งๆที่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่ได้ยินคำพูดเเบบนั้น เเต่เรียนจบมาด้วยความพยายามทั้งหมดที่มีมันก็ดีไม่ใช่เหรอคะ เรามีความรู้สึกมากมายเลยนะเเต่มันอัดเเน่นอยู่รวมกันเยอะมากจนไม่รู้จะบรรยายยังไง เเต่เราก็รู้สึกเเย่เเล้วถามตัวเองมาเสมอว่า การที่เราเลือก ม.เอกชน มันเเย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมถึงพูดจารุนเเรงเเบบนั้น
ปัญหาเดิมๆ เข้าเอกชนมันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ?
เมื่ออาทิตย์ก่อน หลังสอบเเกทเเพทจบเรียบร้อย วันถัดมาเราก็ไปรายงานตัว เเละ ชำระค่าเล่าเรียน ที่มหาลัยเอกชนชื่อดังเเห่งหนึ่งใน กทม.
เราตั้งมั่นว่าจะเข้าที่นี่มานานมาก มันเป็นความชอบส่วนตัวนะ ไม่ใช่เพราะอยากอวดรวย หรือ ไม่มีทางเลือกอื่น เเต่คนเราก็มีความชอบของตัวเองอยู่เเล้วถูกไหมคะ? เราเอาเกรดไปยื่น จ่ายค่าเทอม ถ่ายบัตรนักศึกษา สรุปว่าตอนนี้เราก็เป็นนักศึกษาไปเกือบเต็มตัวเเล้ว
หลังจากเสร็จธุระเราก็เดินทางกลับบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไป รร. คาบโฮมรูมครูเขาเดินเข้ามาเเล้วถามเกี่ยวกับการสอบเเกทเเพท พวกเราก็คุยกันไปสนุกสนาน จนครูเเกถามว่า ไหนๆ ใครมีที่เรียนเเล้วบ้าง ก็มีเรากับเพื่อนอีกคนที่ติด ม.รัฐ ครูเขาก็พูดออกมาว่าเก่งจังเลยปรบมือให้เพื่อนหน่อย เเต่บอกชื่อเพื่อนอีกคนที่ติด ม.รัฐ เราก็ค้านไปว่า หนูก็มีที่เรียนเเล้วนะคะ ครูเเกก็บอกว่า ม.เอกชนเหรอ? (พูดชื่อมหาลัยที่เราเข้า) เหอะ ไม่เห็นจะน่าภูมิใจ ไม่นับนะทุกคน ปรบมือให้ (พูดชื่อคนที่เข้า ม.รัฐ) กันน้า ขอเเสดงความยินดีให้ด้วย เเล้วก็เมินเราไปเลย
เขาก็พูดปลอบเรานะว่าก็ไม่ใช่ไม่ดี เเต่ ม.เอกชนมันเป็นเเบบนี้ๆ มีเเค่เงินไปก็รับ เหมือนไม่ต้องพยายาม ครูอยากให้เราพยายาม บลาๆๆ เเต่สุดท้ายก็พูดเหยียดความตั้งใจของเราอยู่ดี เเม่เราก็ไปดูมหาลัยมา เขาก็โอเคเพราะถ้าเทียบกับเงินที่เสียไปมันคุ้มมาก เขาก็บอกว่าไม่ว่าเราจะอยู่เอกชนหรือรัฐก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเหมือนที่เราไม่เคยทำให้เขาผิดหวังตลอดมา จะรัฐหรือเอกชนเราก็ไม่เคยเสียการเรียน เรามั่นใจ เเม่หวังกับเราไว้มากเพราะเรามีกันสองคนเราก็มีความฝันที่ไกล เพราะฉะนั้น เราไม่มีทางทำให้เขาเสียใจ เรื่องเงินเขาก็โอเค
เราเสียใจนะที่ได้ยินประโยคดูถูกมากมายจากคนที่เป็นเเม่อีกคนของเรา ทั้งๆที่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่ได้ยินคำพูดเเบบนั้น เเต่เรียนจบมาด้วยความพยายามทั้งหมดที่มีมันก็ดีไม่ใช่เหรอคะ เรามีความรู้สึกมากมายเลยนะเเต่มันอัดเเน่นอยู่รวมกันเยอะมากจนไม่รู้จะบรรยายยังไง เเต่เราก็รู้สึกเเย่เเล้วถามตัวเองมาเสมอว่า การที่เราเลือก ม.เอกชน มันเเย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมถึงพูดจารุนเเรงเเบบนั้น