Moon​Lovers​ :"จุนกิ" มุ่งเป็นนักแสดงที่ดีก่อนคิดเรื่องวิวาห์ เก็บทุกความคิดเห็นเพื่อไม่หยุดพัฒนาฝีมือ

จากหนังสือพิมพ์​เดลินิวส์​ วันที่ 3 พฤศจิกายน​ 2559

"จุนกิ" มุ่งเป็นนักแสดงที่ดีก่อนคิดเรื่องวิวาห์ เก็บทุกความคิดเห็นเพื่อไม่หยุดพัฒนาฝีมือ

              


           เป็นอีกเรื่องที่ทำให้สาว ๆ พากันฟิน สำหรับ  “มูน เลิฟเวอร์ : สกาเล็ตฮาร์ท รยอ” หรือ “ข้ามมิติ ลิขิตสวรรค์” ซีรีส์แนวแฟนตาซี ประวัติศาสตร์ โรแมนติก ที่นอกจากเนื้อเรื่องจะสนุกสนานและเข้มข้นแล้ว ยังได้รวมเหล่าหนุ่มหล่อเอาไว้ถึง 7 คน เพื่อรับบทเป็นเจ้าชายในยุคโครยอ นำโดยพระเอกหนุ่ม ลี จุนกิ กับบทองค์ชาย 4 “วังโซ” ตามด้วย คัง ฮานึล รับบท องค์ชาย 8 “วังอุค”, ฮง จงฮยอน รับบท องค์ชาย 3 “วังโย”, แบคฮยอน วง เอ็กซ์โซ รับบท องค์ชาย 10 “วังอึน”, นัมจูฮยอก รับบท องค์ชาย 13 “วังอุค (แพคอา)”,  จีซู รับบท องค์ชาย 14 “วังจอง” และ ยุนซันวู รับบท องค์ชาย 9 “วังวอน” ซึ่งหนุ่มจุนกินั้นได้โชว์ฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมที่มาพร้อมเสน่ห์แสนลึกลับ ทำให้คว้าหัวใจแฟน ๆ เป็นแถว “ฮานึล”  เลยขอนำบทสัมภาษณ์ต่าง ๆ ของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมเรื่องราวส่วนตัวมาฝากกัน
        
            สำหรับ “มูน เลิฟเวอร์” รีเมคมาจาก “ปู้ปู้จิงซิน” ซีรีส์จีน ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเนื้อเรื่องเล่าถึง “ฮาจิน” ผู้หญิงจากยุคปัจจุบันที่เดินทางย้อนเวลากลับไปสมัยราชวงศ์โครยอ เป็นหญิงสาวนามว่า “แฮซู” ที่นั่นเธอได้ตกหลุมรักและพัวพันกับองค์ชายของกษัตริย์แห่งโครยอ ที่ไม่ได้เพียงต่อสู้เพื่อช่วงชิงราชบัลลังก์ แต่ยังรวมถึงหัวใจเธอด้วย ซึ่งบทนี้แสดงโดย ไอยู ไอดอลสาวคนดัง โดยครั้งนึง จุนกิ ได้พูดคุยร่วมกับ ไอยู, แบคฮยอน และ ฮานึล ในรายการ Moon Lovers LECO Interview  และเมื่อเขาถูกถามว่า หลังจากที่ได้ร่วมงานกับ “ไอยู” แล้ว คุณเซอร์ไพร้ส์อะไรเกี่ยวกับการแสดงของเธอบ้าง? จุนกิ เผย “สำหรับจีอึน (ไอยู) ผมรู้จักเธอในฐานะนักร้องมืออาชีพครับ ดังนั้นเธอจึงปรับตัวได้ดีมากเลย พูดกันตามจริงการเป็นนักแสดงหลักในละครแนวประวัติศาสตร์แบบนี้ ตอนแสดงมันสำคัญมากที่เหล่านักแสดงหลักต้องอธิบายสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์รอบ ๆ ตัวพวกเขา ซึ่งมันไม่ใช่งานง่ายเช่นกัน เพราะหากสูญเสียทิศทางและไม่สามารถค้นหาตัวตนของคาแรกเตอร์ว่าเป็นยังไงได้ มันก็ยากที่จะถ่ายทำละครได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ไอยูสามารถทำออกมาได้ดีจริง ๆ ครับ และผมรู้สึกประหลาดใจมาก พูดถึงเบื้องหลังและกระบวนการทำงานทั้งหมด รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร เธอสามารถตีความได้ดี ดังนั้นระหว่างถ่ายทำโดยส่วนตัวผมจึงเซอร์ไพร้ส์มาก เมื่อไหร่ก็ตามที่มีสิ่งเล็ก ๆ ซึ่งผมมองข้าม หรือเหตุการณ์ยาก ๆ เธอก็สามารถออกไอเดียได้เพียงแค่มองเหตุการณ์นั้นทั้งหมด ยังไงก็ตามเธอคือนักแสดงที่ดีครับ โดยไม่ต้องสงสัยเลยและมันคงเยี่ยมมากถ้าทุกคนรอคอยดูผลงานของเธอ เพราะเมื่อได้ดูแล้วผมแน่ใจว่าคุณจะเห็นด้วยกับผมครับ” 
        
          เป็นที่รู้กันดีว่า จุนกิ นั้นเป็นต้นตำรับ  “ฟลาวเวอร์ บอย”  ซึ่งหมายถึง หนุ่มหล่อที่งดงามราวดอกไม้ ดังนั้นเมื่อเขาถูกถามว่า คุณมีมุมมองยังไงต่อ “ฟลาวเวอร์ บอย” รุ่นใหม่ อย่าง แบคฮยอน และ คัง ฮานึล? จุนกิ กล่าวตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “แน่นอนว่าไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ครับ อายุผมเยอะกว่า (หัวเราะ) จริง ๆ แล้วผมไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้เลย พวกเขายังเด็กกันอยู่ มันก็เหมือนเดิมจนถึงตอนนี้นะ คือเมื่อเทียบกับลุค ตอนนี้ผมเป็นวัยกลางคนไปแล้ว เพราะผมอายุเยอะขึ้นและผมก็หวังว่าผมจะช่วยพวกเขาที่ยังอ่อนเยาว์ให้มีความมั่นใจในการโชว์เสน่ห์ของพวกเขาครับ ในฐานะรุ่นพี่ผมหวังว่าผมจะสามารถเป็นคนกลางและเป็นผู้ชี้แนะด้านการแสดงให้พวกเขาทำได้ดียิ่งขึ้นด้วย ผมมีความคิดแบบนี้ครับ ผมหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจความจริงใจของผม ตั้งแต่ได้อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ การถ่ายทำละครเรื่องนี้พร้อมกับเจ้าชายดอกไม้ของผม รู้สึกขอบคุณจริง ๆ ครับ และผมก็ขอขอบคุณพ่อแม่ของผมด้วยครับ (ยิ้ม)”

       นอกจากนี้ จุนกิ ยังเคยส่งข้อความถึง แบคฮยอน ผ่านรายการ Star Show 360’sว่า “ผมได้ยินว่าผมนั้นเป็นพวกพลังงานล้นเหลือ แต่ฮยอน (แบคฮยอน) นั้นจะมาสืบทอดตำแหน่งจากผม คือเขามักร้องและเต้นในช่วงพัก เขาจะเตรียมของมาเยอะมากเพื่อทำให้นักแสดงในกองหัวเราะครับ” เป็นการการันตีความสัมพันธ์ระหว่างนักแสดงที่น่ารักทีเดียว







*ต่อกันที่บทสัมภาษณ์จากเอสบีเอส

   Q:ฉากพิธีกรรมขอฝนนั้นสร้างความตื่นเต้น เป็นที่พูดถึงในหมู่ผู้ชมมาก ๆ คุณมีความคิดยังไงตอนที่ถ่ายทำฉากนั้น?
        
        “ผมคิดว่ามันเป็นฉากสำคัญในการเปลี่ยนแปลงคาแรกเตอร์ “วังโซ” เลยครับ ผมอยากแสดงให้เห็นว่า “แฮซู” นั้นช่วยให้เขาหลุดพ้นจากภายนอกที่เย็นชา ซึ่งเขาก็สามารถข่มจิตใจตัวเองและเอาชนะแผลเป็นที่ทรมานเขาได้ ผมพยายามแสดงด้วยวิธีที่โชว์การพัฒนาด้านอารมณ์ของตัวละครนี้ครับ”
      
  Q:ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่คุณแสดงกับ “แฮซู” นั้นค่อนข้างมีลักษณะเฉพาะมาก “วังโซ” รู้สึกยังไงกับ “แฮซู” กันแน่?
        
          “เธอเป็นคนเดียวที่มองเห็นเขาในแบบที่เขาเป็นจริง ๆ และเขาก็เปิดเผยจริงใจเวลาที่อยู่กับเธอ แฮซูเป็นคนที่เขาต้องการปกป้อง และเขาก็รู้สึกว่าได้รับการปกป้องจากเธอเช่นกัน เธอเป็นคนแรกที่ดูแลใส่ใจเขาด้วยจิตใจที่งดงามและอบอุ่น ดังนั้นความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอจึงเด่นชัดมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ”
      
  Q:เคมีของคุณและ “วังอุค” ที่แสดงโดย “คัง ฮานึล” ก็ได้รับความสนใจเอามาก ๆ เช่นกัน ซึ่งตัวละครต่างอายุเท่ากัน มันส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ยังไงบ้าง?
        
         “วังโซ” คิดว่า “วังอุค” นั้นเข้าใจเขา ในบรรดาเหล่าพี่น้องคนอื่น ๆ เขารู้สึกว่าเขาสนิทกันกับวังอุคที่สุด ดังนั้นตอนที่วังอุคพูดมาว่า “ที่นี่ไม่มีอะไรเป็นของเจ้า นางก็เป็นของข้าทั้งหมด” ซึ่งทำให้วังโซต้องพยายามอย่างหนักที่จะซ่อนความรู้สึกช็อกเอาไว้ พวกเขาอาจมองสิ่งเดียวกัน แต่เขาจะเห็นมันอย่างแตกต่างกัน ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มพลังความน่าสนใจสำหรับตัวละครครับ”
      
  Q:การตอบรับจากผู้ชมแบบไหนที่น่าจดจำที่สุด?
        
         “ตอนที่ผมถอดหน้ากากและโชว์รอยแผลเป็นครับ คือผมกังวลว่าผู้ชมจะปิดหนีเพราะมันนะ แต่พวกเขากลับไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ และยังสงสารเห็นใจตัวละครนี้อีก ผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ เพราะว่าอะไรที่เคยเป็นสิ่งสำคัญ ก็กลายเป็นไม่สำคัญอีกต่อไป ดังนั้นมันจึงแสดงให้เห็นว่าผู้ชมนั้นยอมรับมากขึ้นได้อย่างไร ซึ่งสิ่งที่สำคัญเลยนั่นก็คืออุปนิสัยไม่ใช่ว่าเขามีลักษณะภายนอกเป็นยังไง และนั่นก็ประเภทนักแสดงที่ผมอยากจะเป็นให้ได้เช่นกันครับ”
      
  Q:“มูน เลิฟเวอร์” นั้นไม่เพียงแต่โด่งดังแค่ในเอเชีย ตะวันออกกลาง แต่ยังรวมไปถึงอเมริกาเหนือด้วย คุณรู้สึกยังไง?
        
       “ผมรู้สึกขอบคุณมาก ๆ ในทุกวัฒนธรรมนั้นย่อมมีความแตกต่างกันและพวกเขาก็มีรสนิยมที่ต่างกันไปด้วย ผมรู้สึกดีใจนะที่เราสร้างความพึงพอใจให้กับพวกเขาได้ และทำให้ผมรู้สึกสนใจมากเช่นกัน ตอนผมได้อ่านฟีดแบ็กและคอมเมนต์ให้กำลังใจในโซเชียล มีเดีย มันรู้สึกเหมือนผมอยากจะเป็นนักแสดงที่ดีขึ้นครับ”...

  Q:เราควรเฝ้ารอดูอะไรจาก “วังโซ”?
        
        “จากเริ่มแรกที่เป็นเจ้าชายผู้ถูกทอดทิ้งอย่างที่สุด ทันใดนั้น “วังโซ” ก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจ เขาเคยเป็นเด็กที่ระมัดระวังตัวเองและเก็บเนื้อเก็บตัว แต่ตอนนี้เขามีลักษณะที่แสดงถึงการมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เขายังจะต้องต่อสู้กับการทรยศ ความริษยา ความรัก และอีกมากมาย ดังนั้นต้องรอชมกันนะครับ”
        
           นอกจากนี้หนุ่ม จุนกิ ยังได้ให้สัมภาษณ์ในนิตยสารดัง  “ซิงเกิลส์ (Singles)” เกี่ยวกับ มูน เลิฟเวอร์ ที่ดูเรตติ้งไม่ค่อยเข้าเป้า แต่นอกจากนั้นแล้วทุกอย่างมีฟีดแบ็กที่ดีและหลายคนยกย่องการแสดงของจุนกิด้วย โดยเขาเผยว่า “ผมไม่เสียใจเลย ในฐานะของนักแสดงของเรื่อง ผมต้องมีสำนึกความรับผิดชอบกับมันให้ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงเรื่องเรตติ้ง ซึ่งในขณะที่ผมดูละครเรื่องนี้ ผมก็จะมองหาสิ่งที่ขาดหายไปด้วยครับ” สำหรับการมอนิเตอร์งานของจุนกิไม่ได้จบลงเพียงแค่ที่นี่ แต่เขายังอ่านความคิดเห็นทั้งหมดในหัวข้อที่เกี่ยวกับเขา โดยอธิบายว่า “ไม่เพียงแค่ผลงานของผม แต่ผมดูละครและภาพยนตร์เกือบทั้งหมดที่ออกมา เพื่อวิเคราะห์สิ่งที่ประชาชนชื่นชอบ หรือทำไมละครในปัจจุบันจึงมีเรตติ้งที่สูง ทำไมบางเรื่องทำเรตติ้งไม่ดี มันช่วยผมให้เป็นนักแสดงที่ดีขึ้นสำหรับการทำงานครั้งต่อไปได้และช่วยผมในการเลือกบทด้วยครับ”
        
          อย่างไรก็ดีบทบาทครั้งต่อไปจุนกิ นั่นคือการได้เดบิวท์ในฐานะนักแสดงฮอลลีวูด กับบทผู้บัญชาการ “ลี” ในภาพยนตร์ เรสซิเดนต์ อีวิล : เดอะ ไฟนอล แชปเตอร์ เขาเผยว่า “มันเป็นการปรากฏตัวที่พิเศษครับ และผมคิดว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ผมแสดงมากกว่า 10 ปีแล้วนะ แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งมากที่ผมอยากจะแสดงให้ทุกคน ผมยังไม่เจอคาแรกเตอร์ที่แท้จริงของผมเลย และผมหวังว่าจะได้เจอมันในอนาคตครับ”
        
         ทั้งนี้เมื่อถูกถามถึงแพลนวิวาห์ จุนกิได้ตอบมาว่า “ผมจัดลำดับความสำคัญไว้ครับ และผมก็อยากที่จะมีความมั่นคงในฐานะของนักแสดงก่อน มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการแสดงได้ดีในฐานะนักแสดง ผมคิดมาก ๆ เกี่ยวกับว่าผมจะได้รับการเลือกจากประชาชนอย่างต่อเนื่องได้ยังไง... ใช่ครับ ผมรู้สึกผิดหวังในตัวเองบางครั้งด้วย”
        
ได้เห็นความตั้งใจ และวิธีคิดในชีวิตนักแสดงของเขาแบบนี้ ก็การันตีได้เลยว่าคงได้เห็นผลงานเด็ด ๆ จากพระเอกคนนี้อีกแน่นอน.

..........................
ฮานึล

Cr.http://www.dailynews.co.th/entertainment/533916
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่