สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกท่าน
รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของพวกเรา หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
พวกเราจะมาแนะนำ 10 สถานที่ห้ามพลาดรอบเกาะรัตนโกสินทร์กัน
ซึ่งรีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา LLL (Lifelong Learning) หรือวิชาการเรียนรู้ตลอดชีวิตครับ
ก่อนที่เราจะตะลุยเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เรามาทำความรู้จักกับเกาะรัตนโกสินทร์กันก่อนดีกว่า
เกาะรัตนโกสินทร์ตั้งอยู่บนบริเวณที่มีน้ำล้อมรอบในลักษณะคล้ายเกาะ อยู่ภายในพื้นที่ระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาทางตะวันตกกับคลองรอบกรุงทางตะวันออก ที่นี่เป็นอีกไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องห้ามพลาด เพราะเป็นย่านเมืองเก่าในกรุงเทพฯ ที่ความผสมผสานระหว่างความเก่าและความใหม่ทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม วิถีชีวิตและความเชื่อได้อย่างลงตัว
สำหรับการเดินทางเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์นั้น พวกเราขอเสนอเป็น 2 เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
เส้นทางท่องเที่ยวเป็นไปตามแผนที่นี้เลยครับ
เส้นทางที่ 1
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่จะท่องเที่ยวตามวัดสำคัญของเกาะรัตนโกสินทร์ ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ วัดโพธิ์ และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว วัดคู่บ้านคู่เมืองของเรา หลังจากนั้น เราจะมาแวะพักทานอาหารหรือชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยากันแบบชิลๆ กันที่ท่ามหาราช และปิดท้ายด้วยการเอาใจขาชิมและขาช้อปกันที่ตลาดวังหลัง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับท่ามหาราชนั่นเอง
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
วัดโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ภายในวัดมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ เช่น พระไสยาสน์ พระพุทธรูปขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มหาเจดีย์สี่รัชกาล องค์พระเจดีย์นั้นเป็นแบบเจดีย์ย่อไม้สิบสอง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ นอกจากนี้ รัชกาลที่ 3 ทรงให้นำองค์ความรู้ของไทยเช่น ตำราการแพทย์ โบราณคดี วรรณกรรม โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนฯลฯ จารึกลงบนแผ่นหินอ่อนประดับไว้ตามบริเวณผนังภายในวัด โดยองค์การยูเนสโกมีมติรับรองขึ้นทะเบียนศิลาจารึกพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก ตำนานยักษ์วัดโพธิ์ บอกเล่าเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำให้เกิดท่าเตียนในปัจจุบัน ต้นตำรับนวดแผนไทย เป็นรูปฤาษีดัดตนซึ่งประยุกต์กับคติไทยที่ยกย่องฤๅษีเป็นครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาการต่างๆ แสดงท่าดัดตนอันเป็นการพักผ่อนอิริยาบถแก้เมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ที่อยู่ 2 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
เวลาเปิด เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 8.00-21.00 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 0 2226 0335, 0 22260369
ค่าเข้าชม คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ คนละ 100 บาท
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 พร้อมกับการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต) พระคู่บ้านคู่เมืองของไทย เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ทำด้วยมณีสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์ ประดิษฐานอยู่ในบุษบกทองคำ จิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว เป็นจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์รอบพระระเบียงวัด เป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลกนอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พระอุโบสถ, ศาลาราย, พระศรีรัตนเจดีย์, ปราสาทพระเทพบิดร หรือพระพุทธปรางค์ปราสาท, พระมณฑป, หอมณเฑียรธรรม และพระเจดีย์ทอง 2 องค์ เป็นต้น
ที่อยู่: ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
เวลาเปิด: ทุกวัน 08.30-15.30 น.
ค่าเข้าชม: คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ 200 บาท
ข้อห้าม: ห้ามถ่ายรูปในพระอุโบสถ
การแต่งกาย
ผู้ชาย: ห้ามใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ
ผู้หญิง: ห้ามใส่เสื้อกล้าม ใส่เสื้อไม่มีแขนกางเกงสามส่วน รองเท้าแตะ
ท่ามหาราช
ถ้าหากใครกำลังมองหาแหล่งนัดพบเพื่อนๆ หรือแหล่งพักผ่อนหย่อนใจในกรุงเทพฯ ขอแนะนำสถานที่สุดชิลริมแเม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ "ท่ามหาราช" ท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้พัฒนาพื้นที่ให้กลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนั้นท่ามหาราชยังได้รวบรวมร้านอาหารแสนอร่อยมากมายไว้ให้บริการกับทุกท่าน และที่สำคัญยังมีโลเคชันสุดชิลริมเเม่น้ำให้ทุกท่านได้ไปถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆงามๆกลับบ้านกันอีกด้วย ใครที่เป็นสายชิลห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ที่อยู่: 1/11 ตรอกมหาธาตุ ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 อยู่ตรงข้ามวัดมหาธาตุยุวราชรรังสฤษฏิ์
เวลาเปิด: ทุกวัน เวลา10.00 น. -22.00 น.
ตลาดวังหลัง
หากใครเคยได้ผ่านแถวๆโรงพยาบาลศิริราชก็จะต้องเคยเห็นซอยเล็กๆซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ย่านวังหลัง เป็นย่านที่ขายสินค้าต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้ามือสอง อีกทั้งย่านนี้มีของกินอร่อยๆเจ้าเด็ดเจ้าดังอยู่หลายร้านมากทำให้การมาที่วังหลัง สามารถมาเดินช็อป ชม ชิม ครบทุกรูปแบบในที่เดียว วันนี้เราเลยขอแนะนำร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ร้านอรทัยซูชิ และ ร้านวังหลังเบเกอรี่
ร้านอรทัยซูชิ เป็นร้านซูชิที่เป็นที่รู้จักกันของวังหลังเลยก็ว่าได้ หากใครมาวังหลังแล้วไม่มาร้านนี้เหมือนมาไม่ถึง ร้านนี้ตั้งอยู่ต้นของตลาดวังหลังเลย มีหลากหลายเมนูให้เลือกทาน เช่น ปลาแซลม่อน แคลิฟอร์เนียมากิ และซูชิหน้าต่างๆอีกมากมาย และยังมีที่ขาดไม่ได้คือทาโกะยากิ ที่มีหลายไส้ด้วยกัน เช่น หมึก กุ้ง ปูอัด
อีกร้านที่จะแนะนำก็คือ ร้านวังหลังเบเกอรี่ ร้านขนมปังเจ้าดัง ซึ่งความพิเศษก็คือบใหม่ทุกวันและไม่ใส่สารกันบูด มีหลายไส้ให้เลือกรับประทาน เช่น แฮม ลุกเกด ทูน่าสลัด แฮมชีท ร้านนี้หาไม่ยาก เนื่องจากตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของร้านอรทัยซูชิเลย
สำหรับการเดินทางในเส้นทางแรกนั้น หากเริ่มต้นที่วัดโพธิ์ สามารถมาได้ทั้งโดยรถโดยสารประจำทาง และโดยเรือด่วนเจ้าพระยา
รถโดยสารประจำทางที่ผ่าน ได้แก่ สาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 32, 44, 47, 48, 53, 82, 507, 508
สำหรับเรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นเรือด่วนธงส้ม ขึ้นเรือที่ท่าเตียน หรือท่าช้าง
[CR] [CR]ลัดเลาะรอบกรุง กับ 10 สถานที่ห้ามพลาดรอบเกาะรัตนโกสินทร์
รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของพวกเรา หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
พวกเราจะมาแนะนำ 10 สถานที่ห้ามพลาดรอบเกาะรัตนโกสินทร์กัน
ซึ่งรีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา LLL (Lifelong Learning) หรือวิชาการเรียนรู้ตลอดชีวิตครับ
ก่อนที่เราจะตะลุยเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เรามาทำความรู้จักกับเกาะรัตนโกสินทร์กันก่อนดีกว่า
เกาะรัตนโกสินทร์ตั้งอยู่บนบริเวณที่มีน้ำล้อมรอบในลักษณะคล้ายเกาะ อยู่ภายในพื้นที่ระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาทางตะวันตกกับคลองรอบกรุงทางตะวันออก ที่นี่เป็นอีกไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องห้ามพลาด เพราะเป็นย่านเมืองเก่าในกรุงเทพฯ ที่ความผสมผสานระหว่างความเก่าและความใหม่ทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม วิถีชีวิตและความเชื่อได้อย่างลงตัว
สำหรับการเดินทางเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์นั้น พวกเราขอเสนอเป็น 2 เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
เส้นทางท่องเที่ยวเป็นไปตามแผนที่นี้เลยครับ
เส้นทางที่ 1
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่จะท่องเที่ยวตามวัดสำคัญของเกาะรัตนโกสินทร์ ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ วัดโพธิ์ และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว วัดคู่บ้านคู่เมืองของเรา หลังจากนั้น เราจะมาแวะพักทานอาหารหรือชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยากันแบบชิลๆ กันที่ท่ามหาราช และปิดท้ายด้วยการเอาใจขาชิมและขาช้อปกันที่ตลาดวังหลัง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับท่ามหาราชนั่นเอง
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
วัดโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ภายในวัดมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ เช่น พระไสยาสน์ พระพุทธรูปขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มหาเจดีย์สี่รัชกาล องค์พระเจดีย์นั้นเป็นแบบเจดีย์ย่อไม้สิบสอง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ นอกจากนี้ รัชกาลที่ 3 ทรงให้นำองค์ความรู้ของไทยเช่น ตำราการแพทย์ โบราณคดี วรรณกรรม โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนฯลฯ จารึกลงบนแผ่นหินอ่อนประดับไว้ตามบริเวณผนังภายในวัด โดยองค์การยูเนสโกมีมติรับรองขึ้นทะเบียนศิลาจารึกพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก ตำนานยักษ์วัดโพธิ์ บอกเล่าเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำให้เกิดท่าเตียนในปัจจุบัน ต้นตำรับนวดแผนไทย เป็นรูปฤาษีดัดตนซึ่งประยุกต์กับคติไทยที่ยกย่องฤๅษีเป็นครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาการต่างๆ แสดงท่าดัดตนอันเป็นการพักผ่อนอิริยาบถแก้เมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ที่อยู่ 2 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
เวลาเปิด เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 8.00-21.00 น. ทุกวัน
โทรศัพท์ 0 2226 0335, 0 22260369
ค่าเข้าชม คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ คนละ 100 บาท
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 พร้อมกับการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต) พระคู่บ้านคู่เมืองของไทย เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ทำด้วยมณีสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์ ประดิษฐานอยู่ในบุษบกทองคำ จิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว เป็นจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์รอบพระระเบียงวัด เป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลกนอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พระอุโบสถ, ศาลาราย, พระศรีรัตนเจดีย์, ปราสาทพระเทพบิดร หรือพระพุทธปรางค์ปราสาท, พระมณฑป, หอมณเฑียรธรรม และพระเจดีย์ทอง 2 องค์ เป็นต้น
ที่อยู่: ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
เวลาเปิด: ทุกวัน 08.30-15.30 น.
ค่าเข้าชม: คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ 200 บาท
ข้อห้าม: ห้ามถ่ายรูปในพระอุโบสถ
การแต่งกาย
ผู้ชาย: ห้ามใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ
ผู้หญิง: ห้ามใส่เสื้อกล้าม ใส่เสื้อไม่มีแขนกางเกงสามส่วน รองเท้าแตะ
ท่ามหาราช
ถ้าหากใครกำลังมองหาแหล่งนัดพบเพื่อนๆ หรือแหล่งพักผ่อนหย่อนใจในกรุงเทพฯ ขอแนะนำสถานที่สุดชิลริมแเม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ "ท่ามหาราช" ท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้พัฒนาพื้นที่ให้กลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนั้นท่ามหาราชยังได้รวบรวมร้านอาหารแสนอร่อยมากมายไว้ให้บริการกับทุกท่าน และที่สำคัญยังมีโลเคชันสุดชิลริมเเม่น้ำให้ทุกท่านได้ไปถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆงามๆกลับบ้านกันอีกด้วย ใครที่เป็นสายชิลห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ที่อยู่: 1/11 ตรอกมหาธาตุ ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 อยู่ตรงข้ามวัดมหาธาตุยุวราชรรังสฤษฏิ์
เวลาเปิด: ทุกวัน เวลา10.00 น. -22.00 น.
ตลาดวังหลัง
หากใครเคยได้ผ่านแถวๆโรงพยาบาลศิริราชก็จะต้องเคยเห็นซอยเล็กๆซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ย่านวังหลัง เป็นย่านที่ขายสินค้าต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้ามือสอง อีกทั้งย่านนี้มีของกินอร่อยๆเจ้าเด็ดเจ้าดังอยู่หลายร้านมากทำให้การมาที่วังหลัง สามารถมาเดินช็อป ชม ชิม ครบทุกรูปแบบในที่เดียว วันนี้เราเลยขอแนะนำร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ร้านอรทัยซูชิ และ ร้านวังหลังเบเกอรี่
ร้านอรทัยซูชิ เป็นร้านซูชิที่เป็นที่รู้จักกันของวังหลังเลยก็ว่าได้ หากใครมาวังหลังแล้วไม่มาร้านนี้เหมือนมาไม่ถึง ร้านนี้ตั้งอยู่ต้นของตลาดวังหลังเลย มีหลากหลายเมนูให้เลือกทาน เช่น ปลาแซลม่อน แคลิฟอร์เนียมากิ และซูชิหน้าต่างๆอีกมากมาย และยังมีที่ขาดไม่ได้คือทาโกะยากิ ที่มีหลายไส้ด้วยกัน เช่น หมึก กุ้ง ปูอัด
อีกร้านที่จะแนะนำก็คือ ร้านวังหลังเบเกอรี่ ร้านขนมปังเจ้าดัง ซึ่งความพิเศษก็คือบใหม่ทุกวันและไม่ใส่สารกันบูด มีหลายไส้ให้เลือกรับประทาน เช่น แฮม ลุกเกด ทูน่าสลัด แฮมชีท ร้านนี้หาไม่ยาก เนื่องจากตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของร้านอรทัยซูชิเลย
สำหรับการเดินทางในเส้นทางแรกนั้น หากเริ่มต้นที่วัดโพธิ์ สามารถมาได้ทั้งโดยรถโดยสารประจำทาง และโดยเรือด่วนเจ้าพระยา
รถโดยสารประจำทางที่ผ่าน ได้แก่ สาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 32, 44, 47, 48, 53, 82, 507, 508
สำหรับเรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นเรือด่วนธงส้ม ขึ้นเรือที่ท่าเตียน หรือท่าช้าง