ชวนมาแชร์ประสบการณ์การผ่าน การเข้าเมืองที่เคยกับดีกว่าครับ เผื่อถ้ามีบางคนติดอยู่ในสถาณการณ์เดียวกันจะได้ทำตัวถูก ไม่วิตกไปก่อน
ของผมล่าสุดเป็น ตม ของเกาหลี เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมเดินทางไปเกาหลี เจอเข้าห้องเย็นด้วยครับ
บอกก่อนว่าผมมาคนเดียวครับ ผมว่าภาษาสำคัญที่สุด ถ้าสามารถบอกเค้าว่าเรามาทำไม อธิบายได้ก็รอดนะ
เมื่อตอนเย็นผมลงเครื่อง Korean Air 660 แต่งตัวดีเลยครับ พาสปอตร์ไปมาแล้ว 10 กว่าประเทศ พอเข้าช่องตรวจ ผมไม่ได้จอง รร เพราะจะไปพักกับเพื่อน เอาที่อยู่กับเบอร์โทรเพื่อนเขียนลงไป ตม ผู้หญิงถามมาคำเดียวว่า นี่เบอร์โทรใคร ผมบอกว่าเพื่อน เพื่อนชื่ออะไร ผมค้างไปสามวิ เพราะว่าปกติเรียกกันแต่ คิม จำชื่อเต็มเพื่อนไม่ได้ ซวย ก็บอกนางไปว่า คิม คุณนายเลยก็เรียกเจ้าหน้าที่พาไปห้องเย็น พอไปห้องเย็นก็จะมีตม อีกคนมาทำหน้าที่เหมือนข้างนอกนั่นหละ แต่ว่าจะถามละเอียดกว่า ผมก็ตอบไปตามว่าจริง เค้าถามมาแค่
มาทำไม ผมว่ามาเยี่ยมเพื่อน มีเบอร์เพื่อนไหม ก็ให้ไป บรรยากาศก็ไม่ได้กดดันอะไรนะครับ แล้วก็ถามว่าเจอกับเพื่อนได้อย่างไร ผมก็บอกว่าไปว่าเจอกันตอนอยู่ต่างประเทศ บลาๆ ประมาณห้า หก คำถาม
สรุปก็ปั๊มให้ทิ้งท้าย ตนข้างในบอกว่า ถ้าตอบกระจ่างอย่างนี้ตั้งแต่แรกตั้งแต่ข้างนอกก็ไม่ต้องมาถึงมือเค้าหรอก เพราะว่าพูดภาษาอังกฤษได้คล่องขนาดนี้ ผมเลยบอกว่าไปว่า อีข้างนอกยังไม่ได้ถามอะไรผมมากมายเลย ก็โดนส่งเข้ามาเลย พี่ตมข้างในก็หัวเราะ ถามว่าจริงหรอแล้วก็ส่ายหน้าให้คนที่อยู่ข้างนอกเบาๆ
สรุปเค้าก็ทำหน้าที่ของเค้า ถ้าเข้าห้องเย็นก็ไม่ต้องกลัว อธิบายเค้าตามความจริงครับ อยากแชร์ว่าห้องเย็นก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยครับ
ps ผมไม่มีงานประจำด้วยครับ ไม่มีเอกสารการจอง รร ด้วย ตั๊วขากลับเขาก็ไม่ได้ขอดู เข้าใจว่าเพราะตอนเค้าถามเรา เราตอบไปครอบคลุมหมดแล้ว ออกแนวๆคุยกันขำๆมากกว่าด้วย ครับ
อีกเคสหนึ่ง
ตอนเดือนสิงหาที่ผ่านมาผมเดินทางกลับจาก บราซิล โดยไปแวะเปลี่ยนเครื่องจองคนละ booking ที่ โอซาก้า รอบนี้ผ่านตมมาได้สบายมาก แต่ไปติดตรงตรงกระเป๋าแล้วก็ของที่เราต้องดีแคลย์ไป ซึ่งผมไม่มีอะไรอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า มาทำอะไร ผมก็บอกว่าเปลี่ยนเครื่องกำลังจำกลับไทย เดินทางมาจากบราซิล
เจ้าหน้าที่ก็ถามต่อว่ามาจากบราซิล แล้วก็ให้ผมดู การ์ดที่เป็นกฏการนำสิ่งของเข้ากระเทศญี่ปุ่น ผมก็ยืนยันว่าไม่มีของต้องห้ามในกระเป๋า เจ้าหน้าที่ก็พยายามย้ำว่ามีคนฝากของอะไรมาระหว่างการเดินทางไหม แล้วก็อยากจะขอตรวจกระเป๋า ผมก็โอเค เจ้าหน้าที่เลยเชิญไปในห้องที่มิดชิด โดยไม่ให้เราเปิดตรงนั้น ถือว่าเป็นการทำงานที่สุภาพมากครับ จากนั้นก็ถามย่ำอีกครั้งว่ามีคนฝากของมาด้วยไหม ผมยืนยันว่าไม่ครับ บอกว่าผมต่อเครื่องกลับประเทศไทยในวันถัดไป เจ้าหน้าที่ถามว่าทำไมมาต่อเครื่องเครื่องโอซากา ผมก็เลยบอกว่าผู้ซื้อตั๋วกระทันหัน ก็เลยต้องหาตั๋วที่ถูกที่สุด แล้วก็ไปบินจาก บราซิลมาโอซาก้า แล้วต่อ หางแดงจากปุ่นกลับไทย เจ้าหน้าที่ก็เข้าใจ พร้อมกับตรวจของข้างในกระเป๋าอย่างสุภาพครับ อยู่ในนั้นประมาณ 30 นาที เพราะเขาตรวจละเอียดจริงๆครับ หลังจากนั้นก็ออกมาแล้วก็ผ่านเข้าเมืองไปได้สบายครับ
ผมคงหน้าตาถูกจริตกับตรวจคนเข้าเมืองแถบๆนั้น ทั้งเกาหลี ปุ่น ฮ่องกง อย่างน้อยๆต่อเจอสุ่มเรียกตรวจตลอดเลย ฮ้าๆๆ
มาแชร์ประสบการณ์การผ่านตม และเข้าห้องเย็นระหว่างเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศกันเถอะครับ
ของผมล่าสุดเป็น ตม ของเกาหลี เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมเดินทางไปเกาหลี เจอเข้าห้องเย็นด้วยครับ
บอกก่อนว่าผมมาคนเดียวครับ ผมว่าภาษาสำคัญที่สุด ถ้าสามารถบอกเค้าว่าเรามาทำไม อธิบายได้ก็รอดนะ
เมื่อตอนเย็นผมลงเครื่อง Korean Air 660 แต่งตัวดีเลยครับ พาสปอตร์ไปมาแล้ว 10 กว่าประเทศ พอเข้าช่องตรวจ ผมไม่ได้จอง รร เพราะจะไปพักกับเพื่อน เอาที่อยู่กับเบอร์โทรเพื่อนเขียนลงไป ตม ผู้หญิงถามมาคำเดียวว่า นี่เบอร์โทรใคร ผมบอกว่าเพื่อน เพื่อนชื่ออะไร ผมค้างไปสามวิ เพราะว่าปกติเรียกกันแต่ คิม จำชื่อเต็มเพื่อนไม่ได้ ซวย ก็บอกนางไปว่า คิม คุณนายเลยก็เรียกเจ้าหน้าที่พาไปห้องเย็น พอไปห้องเย็นก็จะมีตม อีกคนมาทำหน้าที่เหมือนข้างนอกนั่นหละ แต่ว่าจะถามละเอียดกว่า ผมก็ตอบไปตามว่าจริง เค้าถามมาแค่
มาทำไม ผมว่ามาเยี่ยมเพื่อน มีเบอร์เพื่อนไหม ก็ให้ไป บรรยากาศก็ไม่ได้กดดันอะไรนะครับ แล้วก็ถามว่าเจอกับเพื่อนได้อย่างไร ผมก็บอกว่าไปว่าเจอกันตอนอยู่ต่างประเทศ บลาๆ ประมาณห้า หก คำถาม
สรุปก็ปั๊มให้ทิ้งท้าย ตนข้างในบอกว่า ถ้าตอบกระจ่างอย่างนี้ตั้งแต่แรกตั้งแต่ข้างนอกก็ไม่ต้องมาถึงมือเค้าหรอก เพราะว่าพูดภาษาอังกฤษได้คล่องขนาดนี้ ผมเลยบอกว่าไปว่า อีข้างนอกยังไม่ได้ถามอะไรผมมากมายเลย ก็โดนส่งเข้ามาเลย พี่ตมข้างในก็หัวเราะ ถามว่าจริงหรอแล้วก็ส่ายหน้าให้คนที่อยู่ข้างนอกเบาๆ
สรุปเค้าก็ทำหน้าที่ของเค้า ถ้าเข้าห้องเย็นก็ไม่ต้องกลัว อธิบายเค้าตามความจริงครับ อยากแชร์ว่าห้องเย็นก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยครับ
ps ผมไม่มีงานประจำด้วยครับ ไม่มีเอกสารการจอง รร ด้วย ตั๊วขากลับเขาก็ไม่ได้ขอดู เข้าใจว่าเพราะตอนเค้าถามเรา เราตอบไปครอบคลุมหมดแล้ว ออกแนวๆคุยกันขำๆมากกว่าด้วย ครับ
อีกเคสหนึ่ง
ตอนเดือนสิงหาที่ผ่านมาผมเดินทางกลับจาก บราซิล โดยไปแวะเปลี่ยนเครื่องจองคนละ booking ที่ โอซาก้า รอบนี้ผ่านตมมาได้สบายมาก แต่ไปติดตรงตรงกระเป๋าแล้วก็ของที่เราต้องดีแคลย์ไป ซึ่งผมไม่มีอะไรอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า มาทำอะไร ผมก็บอกว่าเปลี่ยนเครื่องกำลังจำกลับไทย เดินทางมาจากบราซิล
เจ้าหน้าที่ก็ถามต่อว่ามาจากบราซิล แล้วก็ให้ผมดู การ์ดที่เป็นกฏการนำสิ่งของเข้ากระเทศญี่ปุ่น ผมก็ยืนยันว่าไม่มีของต้องห้ามในกระเป๋า เจ้าหน้าที่ก็พยายามย้ำว่ามีคนฝากของอะไรมาระหว่างการเดินทางไหม แล้วก็อยากจะขอตรวจกระเป๋า ผมก็โอเค เจ้าหน้าที่เลยเชิญไปในห้องที่มิดชิด โดยไม่ให้เราเปิดตรงนั้น ถือว่าเป็นการทำงานที่สุภาพมากครับ จากนั้นก็ถามย่ำอีกครั้งว่ามีคนฝากของมาด้วยไหม ผมยืนยันว่าไม่ครับ บอกว่าผมต่อเครื่องกลับประเทศไทยในวันถัดไป เจ้าหน้าที่ถามว่าทำไมมาต่อเครื่องเครื่องโอซากา ผมก็เลยบอกว่าผู้ซื้อตั๋วกระทันหัน ก็เลยต้องหาตั๋วที่ถูกที่สุด แล้วก็ไปบินจาก บราซิลมาโอซาก้า แล้วต่อ หางแดงจากปุ่นกลับไทย เจ้าหน้าที่ก็เข้าใจ พร้อมกับตรวจของข้างในกระเป๋าอย่างสุภาพครับ อยู่ในนั้นประมาณ 30 นาที เพราะเขาตรวจละเอียดจริงๆครับ หลังจากนั้นก็ออกมาแล้วก็ผ่านเข้าเมืองไปได้สบายครับ
ผมคงหน้าตาถูกจริตกับตรวจคนเข้าเมืองแถบๆนั้น ทั้งเกาหลี ปุ่น ฮ่องกง อย่างน้อยๆต่อเจอสุ่มเรียกตรวจตลอดเลย ฮ้าๆๆ