หลังจากผ่านการเดินทางมหาโหดเมื่อวานนี้ เราเลยตัดสินใจนอน นอน นอน ตื่นสาย ตามใจเปลือกตากันเลย เราเช็คเอ้าท์ จากโรงแรมที่ อุเอโนะ เพื่อเดินทางไปสู่ โอไดบะ
แต่แผนวันนี้ต้องปรับไปก่อน เพราะเราได้รับข่าวไม่คาดฝัน เราก็ได้ทราบข่าวร้ายที่ประเทศไทยว่า ในหลวงเสด็จสวรรคต ความรู้สึกคือจุก ตกใจ แน่น อธิบายไม่ถูก ไม่มีคำพูดอะไร แต่เสียใจมาก น้ำตาไหลไม่หยุด เลยตัดสินใจ เช้านี้เราต้องไปสถานทูตกัน ไปหาข่าว ไปถามข่าวกัน
หาแผนที่ใน google เลยค่ะ พอทราบว่าไปอย่างไรก็ รีบจัดการเด็กๆ ให้เรียบร้อย แต่งตัวกันไปค่ะ โชคดีว่ามีชุดดำเหลืออยู่ในกระเป๋า 1 ชุดพอดี
เราตัดสินใจเช็คเอ้าท์แต่เช้า และวางแผนไปสถานีรถไฟที่ใกล้สถานทูต เพื่อฝากกระเป๋าเดินทางทั้งหมดไว้ก่อน
เรามาขึ้นรถไฟที่สถานี JR Uguisudani เดินลากกระเป๋า มาจากที่พัก ประมาณ 15 นาที หน้าตาสถานีเป็นแบบนี้ค่ะ
มาลงที่สถานี Meguro ใช้เวลาเดินทางครึ่งชั่วโมง และก็ตัดสินใจฝากกระเป๋าไว้ ตู้ฝากกระเป๋า มีการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษ ดูตู้ที่ว่างอยู่ ใส่กระเป๋าเข้าไป หยอดเงิน ตู้จะล็อค และออกใบหน้าตาแบบนี้ออกมาให้ จะมีเลขรหัส หรือ pin code ให้ และระบุหมายเลขตู้ที่เราฝากเรียบร้อย ในราคาตู้ละ 600 เยน ตู้หนึ่งเก็บกระเป๋าใหญ่ได้ใบเดียว แต่เรามีใบเล็กอีกสองใบ เลยต้องใช้สองตู้ค่ะ
เดินจากสถานีไปประมาณ 15 นาที ก็ถึงสถานทูตค่ะ ระหว่างทางผ่านร้านขายดอกไม้ เลยแวะซื้อเพื่อไปแสดงความอาลัยจากครอบครัวของเราค่ะ และได้ลงนามถวายอาลัยที่สถานทูตด้วยค่ะ
เจ้าหน้าที่ต้อนรับดีมาก แต่ดูสงบ สุขุม ใบหน้าโศกเศร้า มีนักข่าวญี่ปุ่น มารอสัมภาษณ์คนที่พอพูดญี่ปุ่นได้ เกี่ยวกับในหลวง มีคนไทยมากันตลอด โดยไม่ได้นัดหมาย แต่เป้าหมายเดียวกัน
บางคนกำทิชชู่ บรรจงซับที่ตา ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีใครพูดกับใคร ทุกคนสำรวมกาย วาจา สงบนิ่ง บรรยากาศ คือเศร้ามากจริงๆ
คนไทยหลายคนไม่เคยเจอกันมาก่อน ทักทายกันให้กำลังใจกัน เหมือนต้องการจะแสดงความรู้สึกที่ร่วมทุกข์ครั้งนี้ไปด้วยกัน สัมผัสได้ว่า ท่านเป็นที่รักอย่างแท้จริง
ก่อนที่จะเดินทาง ก็พอทราบข่าวว่าท่านประชวร และรักษาตัวอยู่ อาการไม่ค่อยดี ก็แอบเตรียมใจไว้บ้าง ว่าวันนี้อาจจะมาถึงสักวัน แต่พอวันนี้มาถึงจริงๆ ถึงแม้จะเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม แต่คิดไม่ถึงว่า มันจะสะเทือนความรู้สึกของเราได้มากขนาดนี้
เราออกจากสถานทูตทั้งน้ำตา เด็กๆก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เด็กๆไม่เข้าใจว่ามาทำอะไรกัน ได้แต่บอกลูกว่า อย่าเพิ่งถามอะไรมากนะ ขอนะ แกก็น่ารักและเข้าใจได้เอง และให้ความร่วมมือย่างดี แปลกดี ปกติจะซนอย่างกับลิง
ผ่านมาเห็นซูชิหน้าตาหน้ากิน เลยแวะกินกันที่ตรงข้ามกัยสถานีรถไฟซะเลย ราคาไม่แพง มี Uni ด้วยนะ
[CR] Day 5 : Royal Thai Embassy --- Odaiba --- DiverCity Tokyo Plaza --- Statue of Liberty
แต่แผนวันนี้ต้องปรับไปก่อน เพราะเราได้รับข่าวไม่คาดฝัน เราก็ได้ทราบข่าวร้ายที่ประเทศไทยว่า ในหลวงเสด็จสวรรคต ความรู้สึกคือจุก ตกใจ แน่น อธิบายไม่ถูก ไม่มีคำพูดอะไร แต่เสียใจมาก น้ำตาไหลไม่หยุด เลยตัดสินใจ เช้านี้เราต้องไปสถานทูตกัน ไปหาข่าว ไปถามข่าวกัน
หาแผนที่ใน google เลยค่ะ พอทราบว่าไปอย่างไรก็ รีบจัดการเด็กๆ ให้เรียบร้อย แต่งตัวกันไปค่ะ โชคดีว่ามีชุดดำเหลืออยู่ในกระเป๋า 1 ชุดพอดี
เราตัดสินใจเช็คเอ้าท์แต่เช้า และวางแผนไปสถานีรถไฟที่ใกล้สถานทูต เพื่อฝากกระเป๋าเดินทางทั้งหมดไว้ก่อน
เรามาขึ้นรถไฟที่สถานี JR Uguisudani เดินลากกระเป๋า มาจากที่พัก ประมาณ 15 นาที หน้าตาสถานีเป็นแบบนี้ค่ะ
มาลงที่สถานี Meguro ใช้เวลาเดินทางครึ่งชั่วโมง และก็ตัดสินใจฝากกระเป๋าไว้ ตู้ฝากกระเป๋า มีการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษ ดูตู้ที่ว่างอยู่ ใส่กระเป๋าเข้าไป หยอดเงิน ตู้จะล็อค และออกใบหน้าตาแบบนี้ออกมาให้ จะมีเลขรหัส หรือ pin code ให้ และระบุหมายเลขตู้ที่เราฝากเรียบร้อย ในราคาตู้ละ 600 เยน ตู้หนึ่งเก็บกระเป๋าใหญ่ได้ใบเดียว แต่เรามีใบเล็กอีกสองใบ เลยต้องใช้สองตู้ค่ะ
เดินจากสถานีไปประมาณ 15 นาที ก็ถึงสถานทูตค่ะ ระหว่างทางผ่านร้านขายดอกไม้ เลยแวะซื้อเพื่อไปแสดงความอาลัยจากครอบครัวของเราค่ะ และได้ลงนามถวายอาลัยที่สถานทูตด้วยค่ะ
เจ้าหน้าที่ต้อนรับดีมาก แต่ดูสงบ สุขุม ใบหน้าโศกเศร้า มีนักข่าวญี่ปุ่น มารอสัมภาษณ์คนที่พอพูดญี่ปุ่นได้ เกี่ยวกับในหลวง มีคนไทยมากันตลอด โดยไม่ได้นัดหมาย แต่เป้าหมายเดียวกัน
บางคนกำทิชชู่ บรรจงซับที่ตา ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีใครพูดกับใคร ทุกคนสำรวมกาย วาจา สงบนิ่ง บรรยากาศ คือเศร้ามากจริงๆ
คนไทยหลายคนไม่เคยเจอกันมาก่อน ทักทายกันให้กำลังใจกัน เหมือนต้องการจะแสดงความรู้สึกที่ร่วมทุกข์ครั้งนี้ไปด้วยกัน สัมผัสได้ว่า ท่านเป็นที่รักอย่างแท้จริง
ก่อนที่จะเดินทาง ก็พอทราบข่าวว่าท่านประชวร และรักษาตัวอยู่ อาการไม่ค่อยดี ก็แอบเตรียมใจไว้บ้าง ว่าวันนี้อาจจะมาถึงสักวัน แต่พอวันนี้มาถึงจริงๆ ถึงแม้จะเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม แต่คิดไม่ถึงว่า มันจะสะเทือนความรู้สึกของเราได้มากขนาดนี้
เราออกจากสถานทูตทั้งน้ำตา เด็กๆก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เด็กๆไม่เข้าใจว่ามาทำอะไรกัน ได้แต่บอกลูกว่า อย่าเพิ่งถามอะไรมากนะ ขอนะ แกก็น่ารักและเข้าใจได้เอง และให้ความร่วมมือย่างดี แปลกดี ปกติจะซนอย่างกับลิง
ผ่านมาเห็นซูชิหน้าตาหน้ากิน เลยแวะกินกันที่ตรงข้ามกัยสถานีรถไฟซะเลย ราคาไม่แพง มี Uni ด้วยนะ