สไตล์การเล่นแบบติ๊กต๊อก คือลักษณะบอลช้า เน้นเคาะบอลไปมาแบบเท้าต่อเท้า เป็นการเล่นแบบหลายจังหวะ
ยิ่งเล่นมากจังหวะก็ยิ่งเพิ่มโอกาสเสียบอล
บอลติ๊กต๊อก ถือว่าแพ้ทางบอลเพรสซิ่งครับ
เพราะสไตล์บอลเพรสซิ่งนั้นคือการเน้นเข้าปะทะแย่งบอล
ยิ่งเราต่อบอลหลายจังหวะมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับยิ่งเปิดช่องให้ถูกเบียดแย่งบอลไปได้มากขึ้นเท่านั้น
โดยเฉพาะ ผู้เล่นเราเคลื่อนตัวช้าด้วย ยิ่งตกเป็นเป้าของการถูกฉกบอลได้ง่ายๆ
ถ้าเราต่อบอลกัน 3 จังหวะก็ทะลุถึงหน้าประตู โอกาสที่จะถูกแย่งการครอบครองบอลก็มีแค่ 3 จังหวะ
แต่ถ้าเราต่อบอลกัน 23 จังหวะกว่าจะทะลุถึงหน้าประตู โอกาสที่จะถูกแย่งการครอบครองบอลก็มีถึง 23 จังหวะเช่นกัน
โค้ชที่ออกแบบเกมมาให้ต่อบอลกัน 3 จังหวะทะลุถึงหน้าประตู เรียกว่า โค้ชขงเบ้ง
ส่วนโค้ชที่ออกแบบเกมมาให้ต่อบอลกัน 23 จังหวะกว่าจะทะลุถึงหน้าประตู เรียกว่า โค้ชซุปไก่
ขงเบ้ง ไม่กิน ซุปไก่
ซุปไก่ ไม่ได้กิน ขงเบ้ง (หรอก จะบอกให้)
ขืนยังยึดสไตล์การเล่นแบบติ๊กต๊อก จะแพ้ทางบอลเพรสซิ่งไปตลอดกาล
ยิ่งเล่นมากจังหวะก็ยิ่งเพิ่มโอกาสเสียบอล
บอลติ๊กต๊อก ถือว่าแพ้ทางบอลเพรสซิ่งครับ
เพราะสไตล์บอลเพรสซิ่งนั้นคือการเน้นเข้าปะทะแย่งบอล
ยิ่งเราต่อบอลหลายจังหวะมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับยิ่งเปิดช่องให้ถูกเบียดแย่งบอลไปได้มากขึ้นเท่านั้น
โดยเฉพาะ ผู้เล่นเราเคลื่อนตัวช้าด้วย ยิ่งตกเป็นเป้าของการถูกฉกบอลได้ง่ายๆ
ถ้าเราต่อบอลกัน 3 จังหวะก็ทะลุถึงหน้าประตู โอกาสที่จะถูกแย่งการครอบครองบอลก็มีแค่ 3 จังหวะ
แต่ถ้าเราต่อบอลกัน 23 จังหวะกว่าจะทะลุถึงหน้าประตู โอกาสที่จะถูกแย่งการครอบครองบอลก็มีถึง 23 จังหวะเช่นกัน
โค้ชที่ออกแบบเกมมาให้ต่อบอลกัน 3 จังหวะทะลุถึงหน้าประตู เรียกว่า โค้ชขงเบ้ง
ส่วนโค้ชที่ออกแบบเกมมาให้ต่อบอลกัน 23 จังหวะกว่าจะทะลุถึงหน้าประตู เรียกว่า โค้ชซุปไก่
ขงเบ้ง ไม่กิน ซุปไก่
ซุปไก่ ไม่ได้กิน ขงเบ้ง (หรอก จะบอกให้)