กรมอนามัยย้ำกม.กำหนดชัดห้ามร.ร.ไล่เด็กท้องออก

http://www.komchadluek.net/news/edu-health/242831




กรมอนามัยย้ำกฎหมายป้องกันท้องวัยรุ่น กำหนดชัดห้ามโรงเรียนไล่เด็กตั้งครรภ์ออก คุ้มครองให้ได้เรียนต่อ พร้อมรับสวัสดิการสังคม
       ในเวทีแลกเปลี่ยน “นครราชสีมา:ต้นแบบการจัดการและการแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ จ.นครราชสีมา นพ.กิตติพงศ์ แซ่เจ็ง ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ครอบคลุมการดูแลวัยรุ่นคือ อายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แต่ถึง 20 ปี สาระหลักสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้คือ 1.สถานศึกษาต้องจัดให้มีการสอนเพศวิถีศึกษาอย่างเหมาะสม จัดหา และพัฒนาผู้สอนวิถีเพศศึกษา ให้คำปรึกษาช่วยเหลือและคุ้มครองวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ให้ได้รับการศึกษาต่ออย่างเหมาะสม และส่งต่อให้ได้รับสวัสดิการสังคม 2.สถานบริการสุขภาพต้องให้ข้อมูลความรู้และจัดบริการอนามัยเจริญพันธุ์ รวมทั้งส่งต่อให้ได้รับสวัสดิการสังคม

        3.สถานประกอบกิจการที่มีวัยรุ่นทำงานอยู่ต้องให้ข้อมูลความรู้และส่งเสริมให้เข้าถึงบริการอนามัยเจริญพันธุ์ รวมทั้งส่งต่อให้ได้รับสวัสดิการสังคม 4.หน่วยงานด้านสวัสดิการสังคมต้องจัดสวัสดิการสังคมให้กับวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด ได้รับการฝึกอาชีพ การรับบุตรบุญธรรม เป็นต้น และ 5.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อคุ้มครองสิทธิและสนับสนุนการเข้าถึงบริการต่างๆ ตามสิทธิของวัยรุ่น โดยกฎหมายกำหนดให้ 5 กระทรวงหลักคือ สธ. กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) การะทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทำงานร่วมกัน และแต่ละกระทรวงต้องไปออกกฎกระทรวงเพื่อให้หน่วยงานนำไปปฏิบัติ

       นพ.กิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้กำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในการจัดทำนโยบายยุทธศาสตร์ และให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นกรรมการ เนื่องจากแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดมีสภาพปัญหาและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน เมื่อมีคณะกรรมการระดับจังหวัดก็จะช่วยให้ทราบปัญหาที่แท้จริงในพื้นที่ และหากแนวทางที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตัวเองได้ เช่น พ่อแม่ยังไม่เข้าใจเรื่องการสอนเพศวิถีที่ถูกต้อง การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย หรือการเข้าถึงบริการอนามัยเจริญพันธุ์

       “คณะกรรมการระดับจังหวัดต้องหาแนวทางในการประชาสัมพันธ์หรือปรับทัศนคติให้พ่อแม่เข้าใจ หรือการให้โอกาสเรียนต่อแก่นักเรียนที่ตั้งครรภ์ ก็ต้องไปทำความเข้าใจกับโรงเรียนว่าไม่สามารถไล่ออกได้ และหากมีแรงกดดันในโรงเรียน โรงเรียนก็ต้องเข้าไปแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เด็กลาออก เป็นต้น ซึ่งการทำงานของ จ.นครราชสีมาที่มีการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สามารถลดปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นลงได้" นพ.กิตติพงศ์ กล่าว

        ด้านทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า จากสถิติการคลอดบุตรของแม่วัยรุ่นประเทศไทย ปี 2558 พบว่า มีวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี มาคลอดบุตรรวม 104,289 คน เท่ากับแต่ละวันมีเด็กเกิดจากแม่วัยรุ่นถึง 286 คน ที่ผ่านมา สสส.สนับสนุนกลไกการทำงานร่วมกันของภาคส่วนหลักใน 20 จังหวัด ซึ่งนครราชสีมาเป็นหนึ่งในจังหวัดดังกล่าว โดยอาศัยมาตรการ 9 ภารกิจ ซึ่งพัฒนามาจากกรณีศึกษาจากประเทศอังกฤษที่องค์การอนามัยโลกยกย่องให้เป็นโมเดลความสำเร็จในการทำงานเรื่องนี้ ร่วมกับบทเรียนในไทย อาทิ

        การทำงานร่วมกับผู้ปกครองให้มีทักษะการคุยเรื่องเพศกับลูก มีกลไกสนับสนุนให้สถานศึกษาสอนเรื่องทักษะชีวิตและเพศวิถีศึกษารอบด้าน การทำงานกับกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีหน่วยงานสุขภาพที่เป็นมิตรกับวัยรุ่น เป็นต้น โดยมาตรการสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จคือ การสร้างการเรียนรู้เรื่องเพศวิถีที่เหมาะสมแต่ละช่วงวัย ทั้งพัฒนาการทางเพศ สัมพันธภาพ ความเท่าเทียมทางเพศ การเคารพสิทธิ การคุมกำเนิด เพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และการจัดบริการอนามัยเจริญพันธุ์ที่เป็นมิตรกับวัยรุ่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่