[Movie Review] Doctor Strange - หมอไม่สบาย หนังเลยออกมาป่วยๆ by ตั๋วหนังมันแพง


[หนังโรงเรื่องที่ 159] Doctor Strange - หมอไม่สบาย หนังเลยออกมาป่วยๆ ; (Gavin O'Connor, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง

คะแนนความชอบ : A- (จากสเกล D-A)

**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ : เมื่อหมอผ่าตัดระดับเทพอย่าง 'สเตรนจ์' (Benedict Cumberbatch) ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรงจนต้องสูญเสียความนิ่งบนมือผ่าตัดที่แสนภาคภูมิใจไป ... เมื่อสิ้นไร้หนทาง สเตรนจ์จึงหันเข้าการรักษาทางจิตวิญญานที่วัดแห่งหนึ่งบนยอดเขาของเนปาล และได้ค้นพบเคล็ดลับแห่งวิชาเวทย์มนต์ที่สืบทอดกันมานับพันปี

ยอมรับว่าก่อนเข้าไปดูก็เสพรีวิวของท่านอื่นมาก่อนนิดหน่อย ซึ่งบอกเลยว่าท้ายที่สุดความเห็นของผู้เขียนก็พ้องกับท่านอื่นพอสมควรนะในแง่ของ 'ความตื้น' ที่เขาร่ำลือกันนั่นแหละ .. รวมไปถึงตัวร้ายที่ป้อๆแป้ๆเหมือนคนป่วยเป็นโรคอัลตรอนซินโดรม โดยภาพรวมแล้วเหมือนหนังมันจะขาดอะไรไปซักอย่างที่น่าจะทำให้มันดูสลักสำคัญได้มากกว่านี้น่ะ

ซึ่งถ้าลงลึกถึงการดำเนินเรื่องก็ต้องชื่นชมมาตรฐานของ MARVEL ที่ยังมีเส้นเรื่องที่ค่อนข้างกระชับฉับไว ไม่เวิ่นเว้อถึงแม้จะเป็นหนังเปิดตัวละครก็ตาม และการที่ได้นักแสดงที่เข้าถึงตัวละครอย่าง 'เบเนดิกต์ แตงกวา' ก็ช่วยให้หนังมีส่วนที่บันเทิงน่าติดตามได้ไม่ยาก ซึ่งพูดเลยว่าบทมนุษย์เจ้าอีโก้ทำนองนี้เป็นทางถนัดของพี่แกอยู่แล้ว

แต่จุดอ่อนของหนังที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งคือ 'ความตื้น' ของบทตัวละครที่กล่าวไว้ข้างต้น ปัญหาของตัวละคร 'ดอกเตอร์ สเตรนจ์' ก็คือเราไม่ได้มีความรู้สึก 'อิน' ไปกับที่มาที่ไปของพี่แกเลย คือประเด็นที่เราเห็นในช่วงองก์ต้นของหนังก็คือการนำเสนอ 'สเตรนจ์' ในฐานะหมอผ่าตัดที่มีฝีมือสูงส่งพอๆกับอีโก้ต้องมาสูญเสียเครื่องมือหากินอย่างหัตถ์เทวะทั้งสองข้างไป จนสิ้นไร้ไม้ตรอกต้องมาพึ่งพาการฟื้นฟูทางจิตวิญญานของ 'หลวงแม่-ดิ เอนเชี่ยน วัน' (Tilda Swinton)ในที่สุด ... ซึ่งฟังแบบนี้มันก็ดูน่ากินใจนะ แต่พอเห็นบนจอภาพยนต์แล้วเราไม่รู้สึกแบบนั้นเลย อย่างดีสุดคือพอเราฟังปมของพระเอกจบแล้วก็ได้แค่ยักไหล่แล้วถามต่อว่า "โซ ว้อท?" ก็เท่านั้น

อีกองค์ประกอบนึงก็คือตัวร้าย ร๊ายยยย ร้ายอย่าง 'คาร์ซิเลียส' (Mads Mikkelsen) ที่เปิดตัวมาแบบงงๆ สู้แบบมึนๆ แล้วก็จากไปแบบเคว้งๆ คือเป็นตัวร้ายที่เราไม่รู้สึก 'เข้าอกเข้าใจ' อะไรเลยแม้แต่น้อย คือถ้าชั่วโมงอินโทรของพระเอกว่าน้อยแล้ว-ของตัวร้ายนี่คือติดลบเลย โอเคคือหนังยังมีการแซมเป็นระยะๆถึงแรงจูงใจที่เกิดมาจากการสูญเสียคนที่รักไปในอดีต บวกกับการริษยา 'ชีวิตอมตะ' ของหลวงแม่ดิเอนเชี่ยนวันด้วย (นี่คือพยายามทำความเข้าใจสุดๆละนะ) แต่ทำไม๊ .. ทำไม พอมันออกมาบนจอมันดูตลกสิ้นดี ทั้งบทพูดที่ลิเกๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไอ้ครั้นจะมีบทพูดเล่าเรื่องราวของตัวเองก็ดันพูดจาไม่รู้เรื่องอีก ขยันพูดจั๊งคำคมเนี่ย ขยันจนเราต้องเลิกคิ้วขวาตามทุกครั้งที่นางพยายามจะพูด 'ประโยคเด็ด' ออกมานี่แหละ

โอเค! คือแน่นอนว่าหนังมันก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย ในขณะที่ปูมตัวละครยังควานหาทางในเมฆหมอกอยู่นั้น ตัวหนังเองก็ยังสอบผ่านในการเล่นฉากแอคชั่นสไตล์ใหม่ที่ 'สาด' เอฟเฟคที่สุดแสนตระการตามาแบบไม่ยั้งมือมากๆ เรียกได้ว่าเป็นลีลาแบบใหม่ที่เราไม่เคยเห็นในวงการฮอลลีวู้ดมาก่อน มันเหมือนอินเซปชั่นที่ลีโอนาโด้ร่ายเวทได้ด้วย ทั้งการบิดเมือง-บิดฉาก-บิดมิติ-บิดลูกบิด บิดแม่มทุกอย่าง มันดูตื่นตาตื่นใจไปหมด ซึ่งมันตอบโจทย์ของเราที่คิดไว้ก่อนดูว่า มันจะบิดฉากให้เมื่อยตุ้มไปทำไม? มีประโยชน์อะไรกับการต่อสู้? ได้ดี ... นี่กำลังคิดอยู่เลยว่างบ Special Effect ขนาดนี้นี่พอสร้างอเวนเจอร์ได้อีกภาคเลยมั้ง!

ในแง่ของคิวบู๊ก็ต้องยอมรับว่า 'เบา' กว่าที่คิดไว้พอสมควร คือจริงอยู่ที่หนังมันเล่นใหญ่กับอภิมหาเอฟเฟคแบบจัดหนักจัดเต็มจริงๆ แต่พอลดมาเหลือสเกลการปะทะกันระหว่างตัวละครแล้วมันก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรขนาดนั้น การใช้ 'มนตรา' เข้าห้ำหั่นกันก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์อะไรที่น่าจดจำซักเท่าไหร่ ถ้าให้พูดจริงๆก็คงเป็นกลิ่นแบบ 'กัปตันเมกา'ที่เน้นทุบ-เตะ-ต่อย สลับกับใช้ของมีคมฟาดฟันกันเล็กน้อย แต่ก็น่าเสียดายที่เราจะไม่ได้เห็นอะไรที่มันน่าตื่นตากว่านี้

ถ้าพูดโดยรวมแล้ว Doctor Strange ก็ยังเป็นหนังที่จัดได้ว่า playsafe สุดๆอยู่บนมาตรฐานหนังมาร์เวล คือหนังมีส่วนผสมระหว่างดราม่า-แอคชั่น และอารมณ์ขันที่พอเหมาะ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีองค์ประกอบใหม่ๆอะไรใส่ลงไป ราวกับไม่ต้องการ 'เสี่ยง' กับตัวละครที่มีความสำคัญในการเดินหน้าไปสู่ Phase 3 ของตัวเองยังไงยังงั้น .. คิดซะว่าไปดูเอฟเฟคสวยๆกับแอคติ้งหล่อๆของเฮียแตงกวาแล้วกันครับ

ป.ล.มีแถม End-Credit 2 ตัวหลังหนังจบ
ป.ล.2 แอบติดใจ main theme ของ Doctor Strange อย่าง "The Master of the Mystic" อยู่นะ  ตัวเพลงมีกลิ่นอายของ Avengers Theme ปนเข้ามาเป็นระยะๆผสานเข้ากับสไตล์ progressive rock อีกนิดหน่อย ฟังแล้วก็เพลินๆหูดีครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่