**อัพเดทหลังผ่านไป 3 วันที่ด้านล่างและในความเห็นนะครับ**

***************************************************

รีวิวปั๊มลมน้อย ๆ Eurox OS-09A
- ความจุถัง 9 ลิตร
- แรงดัน 8 bar/115psi (รุ่น 24, 50, 60 ลิตรก็เท่านี้)
- น้ำหนัก 16 ก.ก. หนักเท่ากันกับจักรยาน AM ของผมเลย
- ขนาดกับน้ำหนักแบบนี้ หิ้วเดินใกล้ ๆ หิ้วขึ้นท้ายรถได้ไม่ลำบากเท่าไหร่



ผมซื้อจากห้างแนวคนรัก (การซ่อม) บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัด ได้มาในราคาที่ถูกกว่าใน facebook (นิดนึง)



ได้ของแถม...
1.สายลมยี่ห้อเดียวกับปั๊ม ยาว 10 ม.
2.หัวเติมลม ยี่ห้อเดิม
3.ข้อต่อสายลม
4.ตัวดักน้ำ (ปรับแรงดันลมที่ใช้งาน)



ผมตั้งใจซื้อมาใช้เติมลมรถยนต์กับจักรยาน ผมเป็นอะไรไม่รู้ ชอบเช็คลมยาง รถยนต์จะเติมลมตามน้ำหนักคนนั่ง 555 เลยไม่ใช้ไนโตรเจน เพราะมันเติมเองไม่ได้ ส่วนจักรยานเติมตามสภาพทาง
.
นอกจากนี้คือ ช่วงนี้บ้างานไม้ อยากลองใช้ปืนยิงตะปูแบบใช้ลมบ้าง เห็นคนอื่นใช้มันสะดวกดี
.
เลยซื้อปืนยิงตะปู Red King F30 กับลูกมา (ลอง) ด้วย ไม่ได้เอา F50 เพราะมันใหญ่ เทอะทะ และกับงานที่เกินกำลัง F30 ผมยังชอบใช้เกลียวปล่อยมากกว่าอยู่



วันนี้ลองทำชั้นวางขนมให้ร้านชาของน้อง ยิงไปก็นับไป



-ได้ค่าเฉลี่ยการยิงตะปู F30 ที่ 30 ลูกต่อการปั๊มลม 1 ครั้ง
- การปั๊มลมแต่ละครั้งไม่ถึงนาที
- ยิง F30 ได้ 30 ลูกสำหรับผมนี่เหลือเฟือเลย เพราะผมทำงานช้า ไม่ได้พิถีพิถันอะไรหรอก แต่เพราะยังไม่ชำนาญ 555
- ผมวางปั๊มไว้ในช็อปจักรยาน แต่ลากสายลมยาว 20 ม. (ซื้อเพิ่ม) ออกไปยิงตะปูที่โรงรถนะครับ ไม่ได้ยิงในช็อป
- เสียง ดังน้อยกว่าโบลเวอร์ Makita ของผมซะอีก ทั้ง ๆ ที่โบลเวอร์ Makita รุ่นนี้ น่าจะดังน้อยที่สุดในรุ่นที่มีขายในบ้านเราแล้วนะ (อ้างอิงรีวิวโบลเวอร์ของผมเอง  http://m.pantip.com/topic/35680484?)



**อัพเดทครับ 3 วันผ่านไป ใช้ประกอบชั้นไม้สน (ตามรูป) ไป 1 ครั้ง ปั๊มลมยังอยู่ดี แต่ตัวดักน้ำมีตัณหา
.
เมื่อคืนวานนี้ลองปรับแรงดันตรงตัวดักน้ำตามคู่มือ ที่บอกไว้ว่า Max 8 bar ตอนหิ้วออกจากห้างมันปรับไว้ที่ 7 bar (ตอนใช้งานด้วย) เลยลองปรับไปที่ 8 bar ดู ปรากฎว่า ระหว่างที่หมุนปุ่มปรับแรงดันใช้งานตรงตัวดักน้ำ ยังไม่ทันถึง 8 bar เลย ปุ่มปรับแรงดันสละชีพ พุ่งฟิ้วววว ใจหายแว้ยยยย นึกว่าปั๊มจะระเบิดด้วย
.
เมื่อเช้าเลยยกไปห้างที่ซื้อ ห้างเปลี่ยนตัวใหม่ให้ เปลี่ยนเสร็จก็ยกกลับมาตั้งที่บ้านตามเดิมแล้วไปทำงานตามปกติ



.
กลับมาตอนเย็น จะลองเติมลมรถ เสียบปลั๊ก เครื่องทำงาน แป๊บเดียวลมเต็ม แต่นึกขึ้นได้ ลืมเอากับข้าวลงรถ เลยไปขนกับข้าวและข้าวของอื่น ๆ ลงรถ ขนของเสร็จไปที่ปั๊ม อ้าว ทำไมลมมันลด ชิหาย ปั๊มรั่ว
.
ยกกลับห้างตามสูตร
.
พนักงานห้างลองให้ดูแล้วไม่ได้ว่าอะไร แต่ดูจากที่น้องเขาทำ เดาว่ารั่วที่ตัวดักน้ำ สรุปว่าปั๊มมันดี แต่ตัวดักน้ำมันง่อย แล้วดันติดกันมาเป็นปาท่องโก๋ด้วยนะเออ
.
ห้างถามว่าจะเปลี่ยน (อีก) หรือคืนเงิน แน่นอน คืนเงินสิ
.
เห็นแว้บ ๆ ในกระทู้ไหนซักที่ คุณ Dr.Chan เคยแนะนำว่าปั๊มลมที่ราคาสมเหตุสมผลแล้วคุณภาพดี ๆ มี Puma กับ Polo
.
ก็เลยตรงไปอีกห้างที่จำได้ว่ามี Puma oil free 25L แต่ราคาแรงพอตัว แล้วก็ไม่มีตัวดักน้ำ ในห้างนั้นก็ไม่มีตัวดักน้ำขายด้วย
.
นึกขึ้นได้อีก ว่าอีกห้างมีของ Polo oil free 24L ดิ่งไปเลยยยย
.
เจอเซลคนแรก บอกว่าจะเอาเสียงเงียบ แต่น้องมันก็เชียร์จะขายโรตารี 50L ให้ได้ เลยบอกลองเสียบปลั๊กฟังเสียงหน่อย
.
อิ้อออออ ดังดีเนาะ
.
จากนั้นลองตัว Polo oil free โอ้ เสียบเงียบสบายหูกว่ากันเยอะเลย
.
สุดท้ายเลยได้ Polo oil free 24L กลับมาแทน ในราคาที่แพงกว่าตัว 9L 1,090 บาท ไม่มีของแถมก็ไม่เป็นไร เพราะที่แถมมาก็ไม่เคยได้ใช้ ซื้อใหม่หมดตลอด อ้อ Polo มีตัวดักน้ำกับเซ็นเซอร์อะไรไม่รู้ติดมาให้ด้วย



.
ตัว Polo 24L หนักกว่าตัว 9L นิดหน่อย เดี๋ยวค่อยรีวิว Polo อีกที