การประกันราคาข้าวของชาวนาเวียตนาม ---- >>>>
https://www.youtube.com/watch?v=TlBhAt8lRtI&t=0s

ความจริงเรื่องข้าวไทยที่คนไทยต้องรู้ หากไทยไม่เปลี่ยนวิธีการผลิตข้าว ต้นทุนที่สูงแต่ผลผลิตต่อไร่ต่ำ รวมถึงนโยบายแทรงแซงตลาดของภาครัฐทำให้ราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง ในที่สุดไทยจะเสียพื้นที่ส่งออกข้าวในตลาดโลกให้กับเวียดนาม พม่า และอินเดีย ดร.การดี เลียวไพโรจน์ดินทางไปพม่า ลิ้มรสความอร่อยของข้าวที่อร่อยที่สุดในโลก ฟารีดา โยธาสมุทร อยู่ที่กรุงเทพเพื่อพิสูจน์ว่าข้าวหอมมะลิของไทย อร่อยติดใจชาวต่างชาติ มากกว่าข้าวหอมของ พม่า และเวียดนามอยู่หรือไม่ และทรงกลด บางยี่ขัน เดินทางไปภาคใต้ของเวียดนามแหล่งปลูกข้าวที่อุดมสมบรูณที่สุดในอาเซียน ชาวนาเวียดนาม : รัฐบาลเวียดนามช่วยเหลือชาวนาด้วยการประกาศนโยบายให้พ่อค้าคนกลางต้องเหลือกำไรให้ชาวนาอย่างน้อยร้อยละ 30 ของต้นทุน เป็นหลักประกันว่าชาวนาจะไม่ต้องเสี่ยงขาดทุน หรือถ้าปีไหนผลผลิตไม่ดี ราคาข้าวตกต่ำ บริษัทค้าข้าว และโรงสี ต้องร่วมกันลงขันเพื่อช่วยเหลือชาวนาด้วย บนพื้นที่ 1 ไร่ ชาวนาเวียดนามเก่งที่สุดในอาเซียน สามารถสร้างผลผลิตข้าวต่อไร่ได้มากที่สุดถึง 803.2 กิโลกรัม ชาวนาไทย : หากราคาข้าวเปลือกตกต่ำ รัฐจะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือชาวนาเพียงทางเดียวโดยการกำหนดราคารับซื้อข้าวสูงเพื่อไม่ให้ชาวนาขาดทุน ผลผลิตต่อไร่ของชาวนาไทยอยู่ลำดับที่ 6 ปลูกข้าวได้ 454.4 กิโลกรัม/ไร่ ใกล้เคียงกับชาวนากัมพูชา (443.2 กิโลกรัม/ไร่) และชาวนาพม่า (422.4 กิโลกรัม/ไร่) แต่ต่ำกว่าชาวนาเวียดนามเกือบหนึ่งเท่าตัว แม้แต่พระนครศรีอยุธยา พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิสำคัญและอุดมสมบูรณ์ที่สุดของไทย ชาวนาไทยลงทุนกับปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงเกือบครึ่งหนึ่งของต้นทุน เทียบกับชาวนาเวียดนามที่จังหวัดเกิ่นเทอ ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันเพียงไร่ละพันกว่าบาท แต่เมื่อเทียบผลกำไรต่อไร่แล้ว ชาวนาเวียดนามมีกำไรมากกว่าชาวนาไทยเกือบ 4 เท่าตัว
***** การประกันราคาข้าวของชาวนาเวียตนาม ทำไมประเทศไทยไม่เคยเหลียวดู ***** ( by : อินทรีเเดง รีเทิร์น )
ความจริงเรื่องข้าวไทยที่คนไทยต้องรู้ หากไทยไม่เปลี่ยนวิธีการผลิตข้าว ต้นทุนที่สูงแต่ผลผลิตต่อไร่ต่ำ รวมถึงนโยบายแทรงแซงตลาดของภาครัฐทำให้ราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง ในที่สุดไทยจะเสียพื้นที่ส่งออกข้าวในตลาดโลกให้กับเวียดนาม พม่า และอินเดีย ดร.การดี เลียวไพโรจน์ดินทางไปพม่า ลิ้มรสความอร่อยของข้าวที่อร่อยที่สุดในโลก ฟารีดา โยธาสมุทร อยู่ที่กรุงเทพเพื่อพิสูจน์ว่าข้าวหอมมะลิของไทย อร่อยติดใจชาวต่างชาติ มากกว่าข้าวหอมของ พม่า และเวียดนามอยู่หรือไม่ และทรงกลด บางยี่ขัน เดินทางไปภาคใต้ของเวียดนามแหล่งปลูกข้าวที่อุดมสมบรูณที่สุดในอาเซียน ชาวนาเวียดนาม : รัฐบาลเวียดนามช่วยเหลือชาวนาด้วยการประกาศนโยบายให้พ่อค้าคนกลางต้องเหลือกำไรให้ชาวนาอย่างน้อยร้อยละ 30 ของต้นทุน เป็นหลักประกันว่าชาวนาจะไม่ต้องเสี่ยงขาดทุน หรือถ้าปีไหนผลผลิตไม่ดี ราคาข้าวตกต่ำ บริษัทค้าข้าว และโรงสี ต้องร่วมกันลงขันเพื่อช่วยเหลือชาวนาด้วย บนพื้นที่ 1 ไร่ ชาวนาเวียดนามเก่งที่สุดในอาเซียน สามารถสร้างผลผลิตข้าวต่อไร่ได้มากที่สุดถึง 803.2 กิโลกรัม ชาวนาไทย : หากราคาข้าวเปลือกตกต่ำ รัฐจะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือชาวนาเพียงทางเดียวโดยการกำหนดราคารับซื้อข้าวสูงเพื่อไม่ให้ชาวนาขาดทุน ผลผลิตต่อไร่ของชาวนาไทยอยู่ลำดับที่ 6 ปลูกข้าวได้ 454.4 กิโลกรัม/ไร่ ใกล้เคียงกับชาวนากัมพูชา (443.2 กิโลกรัม/ไร่) และชาวนาพม่า (422.4 กิโลกรัม/ไร่) แต่ต่ำกว่าชาวนาเวียดนามเกือบหนึ่งเท่าตัว แม้แต่พระนครศรีอยุธยา พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิสำคัญและอุดมสมบูรณ์ที่สุดของไทย ชาวนาไทยลงทุนกับปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงเกือบครึ่งหนึ่งของต้นทุน เทียบกับชาวนาเวียดนามที่จังหวัดเกิ่นเทอ ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันเพียงไร่ละพันกว่าบาท แต่เมื่อเทียบผลกำไรต่อไร่แล้ว ชาวนาเวียดนามมีกำไรมากกว่าชาวนาไทยเกือบ 4 เท่าตัว