ความรู้สึกที่มีต่อ " มิสุ " คือ .... ?

                                                                    

           เรื่องเริ่มที่  เราแอด Facebook ของน้องผู้หญิงคนนึงไป ไม่นานน้องเขาก็รับแอด เราก็เข้าไปกด Like รูปโปรไฟล์ของน้องเขาไม่กี่รูป
เพราะความที่เราชอบผู้หญิงแบบนั้น เราอยากจะทักไปคุยกับเขานะ แต่เรากลัวว่าเขาจะไม่คุยด้วยเพราะเราไม่รู้จักกัน  แต่เราดีใจนะที่เขารับเราเป็น เพื่อนใน Facebook แล้วเราก็เหมือนจะลืมเรื่องนี้ไป

                         เปิดเทอมวันแรกเราก็เรียนปกติและเราเป็นนักดนตรีของโรงเรียน  วันนึงมีน้องใหม่เข้ามาอยู่ในวงดนตรี  
เราได้แอบชอบน้องคนนึงในวง เพราะเราชอบเวลาที่น้องเขายิ้ม น้องเขาเป็นคนผมสั้น  ตาหวาน แต่บางครั้งก็จะดูเหมือนเศร้าตาเทาๆ
ขาวปานกลาง พูดจาดี น่ารัก แต่ไม่ค่อยเรียบร้อย เราก็เลยแอบมองน้องเขามาตลอด ผ่านมาเดือนนึง เราเริ่มรู้จักกับน้องเขามากขึ้นมากขึ้น
สอนน้องเขาเป่า คลาริเน็ต  วันนึงเราเจอ Facebook ของน้องเขา ในตอนที่เจอคือเราตกใจนะ ก็น้องคนนี้ ที่เราเคยแอด Facebook
น้องเขาไปเมื่อตอนนั้น แล้ววันนั้นน้องเขาก็ทักแชท Facebook มาคุยกับเรา เราก็เลยได้คุยกัน  ได้เจอหน้ากันทุกวัน
จริงๆแค่นี้เราก็พอแล้วนะสำหรับเรา เราไม่ได้หวังมากไปกว่านี้ เพราะเราคิดว่าน้องเขาคงไม่ชอบเราหรอก แต่พอเวลาผ่านไป
ไม่นานเราก็สนิทกัน เราชวนเขาไปวิ่งที่สวนสาธารณะ ตอนแรกก็ไม่คิดหรอกว่า น้องเขา จะยอมไปด้วย  แต่น้องเขาก็ยอมไป
    
                               มีวันนึง ที่เรารู้สึกไม่ OK รู้สึกไม่สบายใจ เหมือนว่าตอนนั้นเราอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครไห้กำลัง ซึ่งวันนั้น เราก็โพสต์ความรู้สึกนี้ใน Facebook แล้วน้องเขาก็โทรมาปลอบใจเราทั้งที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แค่ว่าเราไม่สบายใจ เขาคอลวีดีโอ มาคุยมาถามและก็ร้องเพลงให้ฟังปลอบใจ  เพลงที่ร้องวันนั้นจำไม่มีลืมเลย  เพลง จั๊กกิมกับต๊กโต อยู่ๆ เราก็ยิ้มได้ มันเหมือนว่าเราได้รับความสุขจากเขา ถึงแม้ว่าน้องคนนั้นจะร้องเพลงเพี้ยนก็ตาม

               เวลาก็ผ่านมาเดือนกว่าๆ เราสนิทกับน้องเขามากขึ้น  วันนึงก็มีคนบอกเราว่าน้องคนนั้นมีแฟนแล้ว แฟนเขาคือคนที่เราไม่ค่อยชอบขี้หน้าสักเท่าไหร่ และหลังจากนั้นเราก็เลยเริ่มพยายามตีตัวออกห่างจากน้องคนนั้น และไม่ค่อยคุยด้วย แต่น้องก็มาทัก พยายามจะไห้เราคุยด้วย จนสุดท้ายเราก้ใจอ่อน แต่ที่เราพยายามออกห่างและไม่คุยด้วย เพราะเราไม่อยากไห้ใครเข้าใจน้องผิด ที่มีแฟนแล้วมาสนิทกับเรา
ในตอนนี้เรายังคุยกับน้องเขาปกติ เพราะเขาชอบมาปรึกษาเรื่องต่าง เล่าไม่สบายใจ ให้เราฟังเสมอ

                  เวลาผ่านมา 2 เดือน ก็มีน้องคนนึง เขาบอกกับเราว่า "หนูแอบชอบพี่มาเป็นปี แล้ว ชอบมานานแล้ว เพราะเห็นพี่ บ่อยๆ " ตอนแรกเราก็ยังไม่ได้ชอบน้องเขา แต่น้องเขาก็ส่งขนมมาไห้ แล้วทัก Facebook มาคุยกับเราบ่อยๆ เราไม่ได้ชอบคนที่หน้าตานะ เราชอบจากนิสัยมากกว่า เรารู้ว่าเขาชอบเราเราเลยคุยด้วย และเพื่อเราจะได้ลืมเรื่องน้องคนที่เราแอบชอบ คุยกันเดือนกว่า เราก็เลยนัดเจอตอนช่วงปิดเทอม  เราใช้เวลาตัดสินใจคิดว่า จะคบกับน้องดีไหม เราพยายามเปิดใจ จากนั้นเราก็เลย คบกับน้องคนที่แอบชอบเรา
                                                              

         จากที่เราได้รู้จักกับน้องคนที่แอบชอบเรา เรารู้สึกว่าเขาไม่ใช่ เราชวนไปไหนด้วยเขาก็ไม่เคยไปกับเรา เขาไม่เคยโทรมาคุย ไม่เคยคอล Facebook โทรหา ไม่เคยรู้ว่าเรารู้สึกยังไง แล้วก็แทบไม่ได้เจอกันหรือไม่ได้เจอกันเลย ชวนไปไหนก็ไม่ไป ทั้งที่แค่บอกว่าไปเราก็โอเครแล้ว ไม่ต้องไปก็ได้ถ้าไม่ว่าง แต่อย่างน้อยตอบว่าอยากไปก็ได้ ดีกว่าคำว่า ขี้เกียจ  ซึ่งมันต่างกันกับ น้องคนที่เราแอบชอบ เขาไปกับเราเสมอ

     ในช่วงเวลาที่เราอยู่กับน้องคนที่เราแอบชอบ น้องเขาทำไห้เรายิ้มได้ น้องคุยกับเราตลอด วันนั้นน้องต้องไปกดเงินที่ ธ.ก.ส แต่ไม่มีเพื่อนไปด้วย ด้วยความที่เราชวนน้องเขาไปไหน เขาก็ไปเป็นเพื่อนเรา  เราเลยบอกน้องตอบตกลงว่าจะไปเป็นเพื่อน เรามีความสุขมาก มากๆ
แม้เราจะพาเขาหลง  เดินไปเดินมา น้องก็ไม่บ่นว่าเหนื่อยทั้งที่บางที่ น้องเหนื่อยที่เดิน นานๆ  

     หัวใจเราตอนนี้ ยกให้น้องที่แอบชอบเราไปแล้ว แต่เรารู้สึกเหมือนเรากำลังคิดผิด เพราะเรารู้สึกเหมือนว่าเรากำลังขาดบางสิ่ง
ตั้งแต่คบกันเราไม่รู้แตกต่างจากเดิมเลย

      น้องคนที่เราแอบชอบ เขาโทรมาหาเราอยู่บ่อยๆช่วงปิดเทอม และทุกครั้งเรามีความสุข แต่เราก็คิดนะ น้องเขามีแฟนแล้ว แล้วทำไมเขาถึงโทรมาหาเราบ่อยๆ ในใจเราเกิดความสังสัย เก็บเอาไว้

      วันนึงเราคุยโทรศัพท์ กับ น้องคนที่เราแอบชอบ เขาถามว่า" พี่มีเรื่องไม่สบายใจ หรือรู้สึกไม่สบายใจ อะไรไหม " เราเลยเล่าเรื่องของเราแบบเป็น นัยๆ  ว่า " พี่แอบชอบน้องผู้หญิงคนนึงมานานแล้ว แต่เขามีแฟนแล้ว  พี่เลยพยายามจะตีตัวออกห่างและไม่คุยด้วย แต่พอพี่ได้คบกับน้องคนที่เขาแอบชอบ พี่ก็กับรู้สึกชัดเจนกับความรู้สึกตัวเอง ว่าจริงๆแล้วพี่ควรบอกความรู้สึกนี้กับใคร แต่ตอนนี้พี่มีแฟนแล้ว พี่เลยบอกไม่รู้เหมว่าพี่ควรทำยังไง กับความรู้สึกตัวเอง "

   หลังจากพูดจบเราเลยสวนถามน้องกับไปว่า " แล้วมิสุ ( มิสุ เป็นชื่อที่เราตั้งให้น้องคนที่เราแอบชอบ และน้องก็ชอบชื่อนี้ ) ล่ะ เราเล่าไห้พี่ฟังบ้างได้ไหม ตอนนี้เรารู้สึกยังไง แล้วเรากับแฟนล่ะเป็นยังไงบ้าง  ( ที่ถามแบบนี้ เพราะ น้องเขาชอบถามว่าเรากับแฟนเป็นยังไงบ้างทะเลาะกันบ้างหรือเปล่า ) เขาบอกกัยเราว่า "  ตอนที่มิสุเข้าวงดนตรีแรกๆ ก็มีพี่คนนึงมาคุยเหมือนจะจีบ ตอนแรกที่มิสุคุยกับพี่เขาเพราะเพื่อนมิสุชอบเขามิสุเลยจะเป็นแม่สื่อให้ แต่พี่เขาดันมาชอบมิสุ แล้วเขาก็ทักคุยกับมิสุ  วันนึง เขาก็มาบอกว่าเราคบกันวันไหน ตอนแรกมิสุก็งง พี่ก็บอกวันที่ 19 ใช่ไหม เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็ได้แต่เอออ่อ ด้วยความที่ว่า ปฏิเสธคนไม่ค่อยเป็น  แต่พี่เขาก็ดีกับมิสุนะแต่ก็เด๋วดีเด๋วร้าย และพี่เขาก็มาสั่งว่าห้ามบอกใครว่าคบกัน พี่เขาไม่เคยสนใจมิสุเลย แต่มีพี่คนนึง ที่มิสุ คุยด้วยบ่อยๆ มีครั้งนึงตอนเเรกเขาก็คุยกับมิสุอยู่ดีๆ วันนึงเขาก็เมิน เงียบๆไป เราคุยด้วยก็ไม่คุย ทักก็ไม่หัน มิสุเลยคิดว่า เอาวะไม่คุยใช่ไหม จะทักจนกว่าจะคุยด้วยเลย จากนั้นเขาเลยยอมคุยกับมิสุ และเขาก็ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ แล้วก็ชอบทำไห้เราเจ็บหัวอยู่บ่อยๆ แต่ก็มีความสุขนะ จริงๆแล้วมิสุชอบพี่อีกคนนึง ตอนแรกมิสุก็หวังนะว่าพี่เขาจะมาขอคบกับมิสุ แต่เขาซื่อบื้อ  ซื่อบื้อ ๆๆๆๆๆ    "
                            
                          หลังจากที่มิสุเราให้เราฟังจนจบ เรารู้สึกได้ว่า เขาหมายถึงใคร เพราะเรานั่นแหล่ะที่เคยตีตัวออกห่างไม่คุยกับเขา และก็มีครั้งนึงเราไปเที่ยวกับเขา ก็วันที่เราพาไปกดตังที่ ธนาคร ธ.ก.ส  เราไปเป็นเพื่อนเขา และเรานี่แหล่ะที่ทำไห้เขาเจ็บหัว เพราะเราไปแกล้งเขา เพราะแบบนั้นมันเลยยิ่งทำไห้เรา ชัดเจนในความรู้สึกมากขึ้นไปอีก เพราะมันทำไห้เรารู้สึกว่าเขาอาจจะชอบเราเหมือนกัน

                                                          

                                                                     ความรู้สึกที่มีต่อ " มิสุ " คือ พี่รักมิสุ

                                             แต่พี่คงพูดว่า " รัก " ไม่ได้ พี่ไม่มีสิทธิ์ พี่ทำได้แค่ชอบ น้องเท่านั้น  

                                                                ดีใจมากนะที่  " มิสุ " บอกว่าพี่คือคนสำคัญ