คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เคยฝึกเนสัชชิกฯติดต่อได้นาน 1 เดือน...(หยุดฝึกแค่นั้น เพราะจะไปฝึกอดอาหารต่อ เพราะจริตชอบฝึกอดอาหาร...มักจะฝึกอดอาหารบ่อยๆ บางครั้ง อดนานเป็นเดือนหรือเดือนกว่า...)
-ความจริงคือ...เมื่อฝึกติดต่อจนผ่านวันที่ 4 ไปแล้ว(หมายถึงผ่านไป 4 วัน 4 คืน) จิตจะคงที่สบาย ไม่ต้องต่อสู้กับความง่วงอีกเหมือน 4 วันแรกที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน แทบไปแทบอยู่ ... โดยเฉพาะคืนวันที่ 4 สำคัญมาก ต้องผ่านให้ได้ เพราะจะปรากฏเสมือนว่า ความง่วงทั้งโลก และความมืดทั้งโลกรวมทั้งความมืดในโลกันตนรกจะ รวม รุม เข้ามาครอบงำจิตเราคนเดียว ให้ต้องนอนให้ได้ ไม่งั้นจะตายแน่ๆล้าน % จังหวะนี้ ใครจะเอาเงินล้านมาแลกก็ไม่เอา จะขอนอนให้มิดสุดๆหลับสนิทไปนานเท่านาน ...ซึ่งตรงจุดนี้แหละ เป็นจุดวัดดวงที่สำคัญที่สุดของการฝึก เป็นจุดหักดิบกันตรงๆ จะได้รู้ว่า การฝึกอดนอนนั้น จะแพ้ หรือ จะชนะ ที่จำต้องมีความเด็ดขาดสุดๆอึดใจผ่านให้ได้ ไม่ยอมเอนตัวลงนอนเด็ดขาดแม้จะง่วงแสนง่วงขนาดไหนก็ตาม ต้องประคองให้จนถึงสว่างของวันรุ่งขึ้นให้ได้และไปจนถึงหัวค่ำของวันที่ 5 ถัดไปจึงค่อยล้มตัวนอน... ในจังหวะที่ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะสู้ต่อไปไม่ยอมแพ้เด็ดขาดนั่นแหละ ขณะนั้นเองจิตจะสว่างโพลงตื่นขึ้นมาทันที และจะตื่นไปตลอด ทั้งจิตและร่างกายจะพลิกกลับมาตื่น สว่าง มีพลังกระตือรือร้นกระปรี้ประเปร่าอย่างยิ่ง ไม่ง่วงอีกเลย รู้สึกว่า จะสามารถอดนอน ไม่ต้องนอนอีกเลย ยาวนานไปตลอดชีวิตก็ได้ แน่ใจตนเองว่าจะสามารถดำรงชีวิตไปได้ด้วยอิริยาบถแค่ 3 คือ ยืน เดิน นั่ง แค่นั้นก็พอ..และก็หายสงสัยว่า ทำไมพระอรหันต์สาวกทั้งหลายสมัยพุทธกาล จึงไม่นอนกันได้นานๆหลายๆสิบปีจนตลอดชีวิตของพวกท่าน (มีกล่าวไว้ในพระสูตรบางสูตร)
-ผลทางด้านสมาธิ คือ จะได้สมาธิดีมากๆ สติจะดีมากๆ วิธีอดนอนจะทรมานน้อยกว่าวิธีอดอาหารนานๆ ถ้าใครจะฝึก ก็ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งในเฉพาะช่วงหนึ่งๆ อย่าฝึกพร้อมกันคือทั้งอดนอนและอดหาหารไปด้วยพร้อมกัน ร่างกายและจิตใจคงรับไม่ไหว ...หมายถึง ถ้าช่วงไหนฝึกอดนอน(แบบนานๆ เช่น เป็นเดือน) ก็อดนอนอย่างเดียว อย่าอดอาหาร.... ถ้าช่วงไหนจะฝึกอดอาหารก็ฝึกอดอาหารอย่างเดียว(ก่อนจะฝึกอดอาหารต้องฝึกร่างกายให้แข็งแรงพอควรก่อนระดับหนึ่ง)อย่าอดนอน
-คนที่จิตมักจะฟุ้งซ่านเกินปกติ ฝึกจิตยาก ควรฝึกอดนอนหรือเนสัชชิกฯ นี่แหละ จะปราบอาการฟุ้งซ่านได้ดีที่สุด
-หลังจากผ่านช่วงฝึกแล้ว เช่น ตั้งสัจจะอธิษฐานจะฝึกอดนนอนนาน 1 เดือน เมื่อครบเดือนแล้ว มาพักผ่อนนอนหลับตามปกติ สักแค่ 3-4 วันผ่านไปแล้ว คราวนี้มาฝึกสมาธิตามปกติ จะได้สมาธิที่ดีมากๆ ใครที่จิตไม่เคยรวมหรือสงบมาก่อนเลย มักจะได้จิตรวมและสงบตอนนี้เอง....การฝึกเนสัชชิกฯหรืออดนอน ส่งผลดีอย่างมหาศาลบานเบอะ ดังนี้เอง.....
-(ในช่วงที่กำลังต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกับความง่วง การตกภวังค์จะเกิดบ่อยๆ ต้องอย่าเผลอบ่อยนัก ..บางครั้งแม้กำลังเดินจงกรมอยู่ก็อาจจะเดินหลับไปเลยทั้งๆที่กำลังเดินอยู่นั่นแหละ ใจหลับแต่ขายังก้าวย่างไปได้เองเรื่อยๆ การเดินก็จะคดๆเคี้ยวๆ อาจจะเดินตกร่องหรือเดินชนต้นไม้ หรือชนกำแพงข้างทางจงกรม หัวร้างข้างแตกได้ ..ซึ่งถ้าเดินออกนอกทางไปตกร่องหรือชนต้นไม้หรือกำแพง ก็จะตื่นขึ้นมาเดินต่อไปได้อีกหลายชั่วโมง)
-ความจริงคือ...เมื่อฝึกติดต่อจนผ่านวันที่ 4 ไปแล้ว(หมายถึงผ่านไป 4 วัน 4 คืน) จิตจะคงที่สบาย ไม่ต้องต่อสู้กับความง่วงอีกเหมือน 4 วันแรกที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน แทบไปแทบอยู่ ... โดยเฉพาะคืนวันที่ 4 สำคัญมาก ต้องผ่านให้ได้ เพราะจะปรากฏเสมือนว่า ความง่วงทั้งโลก และความมืดทั้งโลกรวมทั้งความมืดในโลกันตนรกจะ รวม รุม เข้ามาครอบงำจิตเราคนเดียว ให้ต้องนอนให้ได้ ไม่งั้นจะตายแน่ๆล้าน % จังหวะนี้ ใครจะเอาเงินล้านมาแลกก็ไม่เอา จะขอนอนให้มิดสุดๆหลับสนิทไปนานเท่านาน ...ซึ่งตรงจุดนี้แหละ เป็นจุดวัดดวงที่สำคัญที่สุดของการฝึก เป็นจุดหักดิบกันตรงๆ จะได้รู้ว่า การฝึกอดนอนนั้น จะแพ้ หรือ จะชนะ ที่จำต้องมีความเด็ดขาดสุดๆอึดใจผ่านให้ได้ ไม่ยอมเอนตัวลงนอนเด็ดขาดแม้จะง่วงแสนง่วงขนาดไหนก็ตาม ต้องประคองให้จนถึงสว่างของวันรุ่งขึ้นให้ได้และไปจนถึงหัวค่ำของวันที่ 5 ถัดไปจึงค่อยล้มตัวนอน... ในจังหวะที่ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะสู้ต่อไปไม่ยอมแพ้เด็ดขาดนั่นแหละ ขณะนั้นเองจิตจะสว่างโพลงตื่นขึ้นมาทันที และจะตื่นไปตลอด ทั้งจิตและร่างกายจะพลิกกลับมาตื่น สว่าง มีพลังกระตือรือร้นกระปรี้ประเปร่าอย่างยิ่ง ไม่ง่วงอีกเลย รู้สึกว่า จะสามารถอดนอน ไม่ต้องนอนอีกเลย ยาวนานไปตลอดชีวิตก็ได้ แน่ใจตนเองว่าจะสามารถดำรงชีวิตไปได้ด้วยอิริยาบถแค่ 3 คือ ยืน เดิน นั่ง แค่นั้นก็พอ..และก็หายสงสัยว่า ทำไมพระอรหันต์สาวกทั้งหลายสมัยพุทธกาล จึงไม่นอนกันได้นานๆหลายๆสิบปีจนตลอดชีวิตของพวกท่าน (มีกล่าวไว้ในพระสูตรบางสูตร)
-ผลทางด้านสมาธิ คือ จะได้สมาธิดีมากๆ สติจะดีมากๆ วิธีอดนอนจะทรมานน้อยกว่าวิธีอดอาหารนานๆ ถ้าใครจะฝึก ก็ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งในเฉพาะช่วงหนึ่งๆ อย่าฝึกพร้อมกันคือทั้งอดนอนและอดหาหารไปด้วยพร้อมกัน ร่างกายและจิตใจคงรับไม่ไหว ...หมายถึง ถ้าช่วงไหนฝึกอดนอน(แบบนานๆ เช่น เป็นเดือน) ก็อดนอนอย่างเดียว อย่าอดอาหาร.... ถ้าช่วงไหนจะฝึกอดอาหารก็ฝึกอดอาหารอย่างเดียว(ก่อนจะฝึกอดอาหารต้องฝึกร่างกายให้แข็งแรงพอควรก่อนระดับหนึ่ง)อย่าอดนอน
-คนที่จิตมักจะฟุ้งซ่านเกินปกติ ฝึกจิตยาก ควรฝึกอดนอนหรือเนสัชชิกฯ นี่แหละ จะปราบอาการฟุ้งซ่านได้ดีที่สุด
-หลังจากผ่านช่วงฝึกแล้ว เช่น ตั้งสัจจะอธิษฐานจะฝึกอดนนอนนาน 1 เดือน เมื่อครบเดือนแล้ว มาพักผ่อนนอนหลับตามปกติ สักแค่ 3-4 วันผ่านไปแล้ว คราวนี้มาฝึกสมาธิตามปกติ จะได้สมาธิที่ดีมากๆ ใครที่จิตไม่เคยรวมหรือสงบมาก่อนเลย มักจะได้จิตรวมและสงบตอนนี้เอง....การฝึกเนสัชชิกฯหรืออดนอน ส่งผลดีอย่างมหาศาลบานเบอะ ดังนี้เอง.....
-(ในช่วงที่กำลังต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกับความง่วง การตกภวังค์จะเกิดบ่อยๆ ต้องอย่าเผลอบ่อยนัก ..บางครั้งแม้กำลังเดินจงกรมอยู่ก็อาจจะเดินหลับไปเลยทั้งๆที่กำลังเดินอยู่นั่นแหละ ใจหลับแต่ขายังก้าวย่างไปได้เองเรื่อยๆ การเดินก็จะคดๆเคี้ยวๆ อาจจะเดินตกร่องหรือเดินชนต้นไม้ หรือชนกำแพงข้างทางจงกรม หัวร้างข้างแตกได้ ..ซึ่งถ้าเดินออกนอกทางไปตกร่องหรือชนต้นไม้หรือกำแพง ก็จะตื่นขึ้นมาเดินต่อไปได้อีกหลายชั่วโมง)
แสดงความคิดเห็น
มีใครฝึก "เนสัชชิ" ติดต่อกันได้หลายวันบ้าง ?