สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวกระทู้ทุกคน
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ระบายนิสัยของพี่สาวของเราที่ไม่เหมือนคนอื่นค่ะ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยน่ะค่ะ
เริ่มต้นคือ พี่สาวของเราอสยุห่างจากเราแค่1ปีค่ะ ส่วนตัวเราเป็นคนที่นิสัยที่ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่มากค่ะ จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งของเราเริ่มตั้งแต่ตอนเด็กๆเลยค่ะ เรากับพี่สาวไม่ค่อยถูกกันตั้งแต่เด็กๆแล้ว ตอนเด็กเราเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกค่ะ (แทบไม่กล้าเลย) ไม่ว่าจะมีงานเต้นของโรงเรียนก็ขอ say goodbyeเกือบ!!!หมดค่ะ ซึ่งทำให้ตอนเด็กในช่วงนั้นเราเป็นคนที่เชื่อคนง่าย ขี้กลัว และยอมคนค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพี่สาวของเรา ตอนเด็กตอนอยู่อนุบาล 3 พ่อแม่เราเคยให้เรานั่งรถตู้มาโรงเรียนเนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีรถรับส่งค่ะ ซึ่งทุกคนที่เคยนั่งรถตู้ก็คงจะเข้าใจดีว่าในรถตู้สมัยก่อน หรอในสมัยก่อนคนเยอะมากแทบอันแน่นเป็นปลากระป๋อง พี่สาวเราก็นั่งด้วยค่ะ ที่เราจำได้ในตอนนั้นและจำขึ้นใจจนเกิดเป็นแรงอาฆาตในทุกๆวันนี้คือ ทุกคนคงรู้จักที่นั่งแคบๆด้านหลังเบาะคนขับ หรือเอาไว้วางของเวลานั่งรถตู้คนที่นั่งร๔ตู้บ่อยๆก็คงจะรู้จักเน้อะเค้อะ ตอนนั้นเรานั่งรถตู้ซึ่งพี่สาวเราได้บังคับเราให้ไปนั่งตรงหลังคนขับซึ่งมันแคบมาก และที่นั่งตรงนั้นก็จะมีเพื่อนๆในสมัยนั้นนั่งอยู่เยอะค่ะ พี่เคยสั่งเราว่าเวลานั่งตรงนั้น(หลังเบาะคนขับ)ให้นั่งขาหนีบห้ามปล่อยแบบขาหนับชิดกันอ่ะค่ะ คือเราก็ไม่กล้าโต้แย้งเพราะเป็นคนขี้กลัวค่ะ เราก็นั่งไปแบบนี้เป็นประจำค่ะ พอไปถึงโรงเรียนตะคริวนี่กินแทบทุกวันเลยค่ะ ทรมานมาก จนวันหนึ่งคือเราแอบพักขาคือแบบปลอยขาให้นั่งสบายๆค่ะ แต่ดั้นนนนโชคร้ายพี่สาวเรากับห็นก็ด่าเราค่ะ ตอนนั้นเจ็บแค้นใจมากเลยค่ะว่าทำไมต้องทำกับเราแบบนี้เราก็เลยรวบรวมความกล้าไปบอกพ่อค่ะ
เมื่อพ่อรู้ก็เรียกพี่สาวเรามานตักเตือนค่ะ หลังจากวันนั้นที่พี่สาวเราโดนตักตือน พี่สาวเราก็ไม่กล้าทำอะไรเราหลายวันอยู่ค่ะ (แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะไม่ทำน่ะค่ะ) พอหลายวันผ่านไปพี่สาวก็เริ่มแข็งข้อขึ้นจนลืมเรื่องที่พ่อตักเตือน !!!!นั่นแหล่ะค่ะทำให้ตะคริวกินเราไปอีก 1ปี(นั่งรถตู้1ป๊)
พอเราเริ่มโตขึ้นโตขึ้นความโกรธแค้นนี้ก็ยังอยู่ค่ะ ตอนนั้นเราอยู่ ป.2 ค่ะเป็นช่วงที่ฮิต facebook อะไรปรมานนี้ แล้วช่วงนั้นบ้านก็มีอินเตอร์เน็ตค่ะแต่เป็นแบบเฟรชไดร์ฟ มัช่วงหนึ่งเราได้ไปอยู่กับแม่ที่กรุงเทพค่ะได้ไปอยู่ทีทำงานของแม่ ตอนั้นเราอยากลองเล่นเฟสบุ๊คค่ะก็เลยให้พี่ๆที่ทำงานแม่สมัครให้ค่ะ เค้าก็สมัครให้เรา ตอนนั้นเราดีใจมากเลยค่ะ คือแบบได้เล่นเเล้วเย้!!!! แต่เราก็เล่นเฟสบุ๊คไม่ค่อยเป็นเพราะตอนนั้นก็อยู่ป.2 ไม่ค่อยรู้อ่ะไร แต่พี่สาวของเราค่ะ นางรู้ค่ะนางเล่นเป็น มีช่วงหนึ่งที่เราปล่อยทิ้งเฟสบุ๊คแบบไม่ได้เล่นคะ พี่สาวแอบมาเข้าเฟสเราและได้ก่อวีรกรรมมากมายค่ะ คือ ว่า นางเข้าเฟสบุ๊ตเราไปค่ะ แล้วนางก็เอาเฟสบุ๊คเราไปทักแชทด่าคนอื่นเค้ารวมถึงรุ่นพี่ม.3ในโรงเรียน ซึ่งเราไม่รู้ววว ไม่รู้เรื่องเลย(สาบาน) จนเรามารู้ตอนที่เราเป็นเชียร์ลีดเดอร์ค่ะ(ตอนป.6)รุ่นพี่คนหนึงได้มากบอกเราว่าพี่สาวเราได้เอาเฟสบุ๊คเราไปทักแชทด่าเค้า คือแบบฮ้ะได้ไง คือแบบต้องขอบคุณคุนพี่คนนั้นมากเลยคือถ้าไม่บอกเราป่านนี้เรื่องเฟสบุ๊คนั้นคงเป็น history ไปแล้ว กราบงามๆ
พอเราเริ่มโตมาจนอยู่ในช่วงมัธยมเป็นช่วงที่ต้องย้ายโรงเรียนใหม่ค่ะ เราได้อยู่ต่างโรงเรียนกับพี่ คือแบบ น้ำตาจิไหลลลลล เราคิดว่าจิผ่านสิ่งอันเลวร้ายนั้นมาได้แล้ว แต่ที่ไหนได้ ยังเจออะไรที่แย่กว่านั้นอีกค่ะ คือแบบโตมายังต้องเจออีกหรอ คือว่าตอนนั้นเราอยู่ม.ต้นค่ะ เราก็ไม่สนิทกับพี่เหมือนเดิมสนิทบ้างบางครั้งเป็นส่วนน้อยมากค่ะ เป็นขี้เล็บที่ตีนเท่านั้นค่ะ (เดี๋ยวจะมาเล่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้ฟังน่ะค่ะ ส่วนตอนนี้ขอเราเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ๆก่อน) มีวันหนึ่งเพื่อนของพี่สาวเราได้ทักแชทมาหาเราค่ะ ซึ่งร้อยวันพันปีไม่เค้ยยยไม่เคยจะทักมาค่ะ จนวันหนึ่งนางทักมาค่ะ ไอใจเราก็นึกว่าจะทักมาแบบถามสารทุกสุขดิบ ที่ไหนได้ทักมาด่าเราเฉยค่ะ ซึ่งเบื้องหลังของการที่เพื่อนของพี่เราทักมาด่าก็คือ ก็คือ ก็คื้ออออ "พี่ส้าววววเรานั่นเองงง" เย้!!! คือนางทักแชทมาด่าเรายาวเป็นพืดคือปริ้นเป็นหน้ากระดาษA4ได้หนึ่งหน้าเลยค่ะ เว่อร์ไป คือแบบตอนนั้นเราอึ้งเเป๊ปเฮ้ยพี่เดี๋ยวก่อนน่ะ พี่รู้เรื่องของหนูกับพี่สาวได้ไง (ย้อนกลับไปบรรทัดก่อนหน้านี้) คือนิสัยตอนนั้นกับตอนนี้มันช่างแตกต่างตอนนี้เราเริ่มมีความกล้ามากขึ้นมากกกเลยค่ะ ความเกลียดชังของพี่เราเป็นเเรงผลักดันให้เรามาถึงทุกวันนี้ได้ค่ะ เราก็เลยด่ากลับไปยังไม่จบนางก็ด่ากลับค่ะ ด่ากันไปด่ากันมา เราร้องไห้เเบบ เฮ้ยยยนี่มันเรื่องครอบครัวทำไมต้องมายุ่งคือแบบ ตอนนั้นเพื่อนพี่สาวเรานางอยู่รรใเดียวกับเเล้วตอนคุยด่ากันนางขู่ว่าจะมาตบมาตบ เราเลยขู่ไปว่าจะฟ้องแม่ นางไม่กลัวค่ะ ไม่กลัวใช่ม้อยยย เราก็เลยบอกแม่ในคืนนั้นเลยค่ะ แม่ก็เลยทักไปว่ากล่าวตักเตือนพี่สาวและเพื่อนของพี่สาว คือแบบตอนนั้นรู้สึกว่าเราเป็น The winner เลยค่ะ คือแบบนำ้ตาจิไหม (ทุกวันนี้แม่คือไดอารี่ระบายความรู้สึกของเรากับพี่สาว แม่เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเวลามีปัยหา ให้คำแนะนำในทุกๆเรื่อง ขอบคุณแม่ค่ะ รักแม่) หลังจากนั้นเพื่อนของพี่เค้าก็มาขอโทษเราค่ะ หลักจากนั้นเราก็เป็นพี่น้องกันค่ะ เจอกัน็หวัดดีอ่ะไรงี้ แต่ไม่ใช่กับพี่สาวเราค่ะ นางไม่ยอมขอโทษด้วยซ้ำแต่ในคืนนั้น พี่ก็เข้ามาปลอมใจเราแต่ขอบคุณน่ะ แต่นางก็ยังเป็นเหมือนเดิมค่ะ
เวลาผ่านไปนานเค้าเรากับพี่สาวก็เริ่มเข้ากันได้แค่ 10% ค่ะ เพราะส่วนที่เหลือจะเกี่ยงกันเื่องงาน หลายคนอาจจะสงสัยว่าอ้าวอยู่ต่างโรงเรียนแล้วก็ต้องไม่มีปัญหากันแล้วสิ ไม่ใช่เลยค่ะ มีแทบจะทุกวันค่ะ ส่วนมากเป็นเรื่องงานในบ้าน ล้างจาน กอกน้ำ กวาดบ้าน จะเกี่ยงกันค่ะว่าใครจะทำ สุดท้ายเราก็ทำค่ะ แต่มีบางครั้งที่พี่ทำน่ะค่ะ ในตอนนั้นที่ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยเพราะว่าเรื่องงานในบ้านค่ะ ไม่มีใครยอมใคร ต่างคน ค่างเกี่ยวกันว่าใครจะทำคนโน้นคนนี้ คนนั้นทำแล้ว คนนี้ทำแล้ว เรื่องนี้ก็ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยค่ะ แต่ส่วนมากจะเป็นพี่สาวของเราที่โกรธค่ะส่วนตัวเราใครทำก็ได้แต่อย่าให้เราทำบ่อยจนเกินไปควรแบ่งงานกันบ้างอะไรงี้ แต่พี่สาวนางโกรธนานมากเป็นอาทิยต์ เป็นเดือนก็มีน่ะค่ะ ไม่รู้โกรธไปทำไม โกรธแล้วได้อะไร ส่วนมากเวลาที่พี่สาวเราทำผิดนางไม่ค่อยขอโทด ส่วนมากนางจะทำผิดค่ะ แต่เราก็เป็นน่ะค่ะ บางที่เราทำผิดก็ไม่ขอโทษยอมรับค่ะว่าไม่ดีเหมือนกัน ก็จะให้ทำไงได้อ่ะค่ะ คือแบบต่างคนต่างปิดกั้นซึ่งกันและกัน มีเรื่องอะไรไม่ยอมเปิดใจคุยกัน มีความเป็นโลกว่วนัวสูงกันพอสมควร ซึ่งบางครั้งเวลาเราทำอะไรผิดหรือไปลูกล้ำส่วนเกินของพี่สาวเราก็อยากจะขอโทษ แต่เวลาเราจะขอโทษ หรือ อธิบายเหตุผลว่าทำไม นางมักจะเดินหนี้ และทำหน้าเเบะปากมองบน หรือแกล้งทำเป็นไม่ฟังหรือบางทีนางฟังแต่นางก้ยังไม่หายโกรธเราก็เลยไม่อยากขอโทษ เพราะยังไงนางก็ต้องทำแบบซ้ำๆเดิมๆ จะให้เราไปทำเหมือนเด็กๆมันคงไม่ได้ ตอนเด็กๆเวลาพี่สาวโกรธเรา(ส่วนมากมักจะโกรธเรื่องการแบ่งขนมไม่เท่ากัน) เรามีวิธีทำให้พี่สาวหายโกรธ แต่ปัจจุบันคงใช้ไม่ได้เพราะต่างคนต่างโตกันแล้ว วิธีของเราก็คือ เวลามีขนม เราก็จะให้ขนมกับพี่สาวเรา เราก็อดกินขนมเพื่อแลกกับการที่จะทำให้พี่สาวหายโกรธ ซึ่งพี่สาวเราเค้าก็ตามเราทำนางก็แกล้งโกรธเราบ่อยๆให้เราให้ขนมนางบ่อยๆ ก็ทำให้เราอดกินขนมค่ะ ทำให้เราผอมกระด้างมาจนถึงทุกวันนี้
พอโตมาจนถึงปัจจุบัน นี้ พี่สาวเรายังมีนิสัยที่เหมือนเดิมไม่เคอยเปลี่ยนค่ะ ขี้งอนเหมือนเดิม ช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่สาวเรามีความรักค่ะ แต่บอไว้ก่อนน่ะค่ะเราไม่ได้ไปยุ่งส่วนเกินของเค้าน่ะค่ะ เราอยู่ในส่วนของเราแต่ก็มีบ้างค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่สาวเราทำตัวแย่มากค่ะ จนเป็นแรงบัลดาลใจที่ทำให้เราเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ มีช่วงหนึ่งนางชอบโกรธตอนที่เราแชทไปด่านางค่ะ เอ้าบ้าบอคนจะด่ากันมันต้องมีเหตุผลน่ะค่ะ คือว่าตอนนั้นช่วงเย็นค่ะ เรานัดเจอกันที่หนึ่งค่ะ แต่พี่สาวเราติดตต่อเราไม่ติดคือเราฝากโทรศัพท์ไว้กับเพื่อนค่ะ พอนางติดต่อเราไม่ติดนางก็แชทด่าเรามาคำหนึ่ง คือตอนนั้นจี้ดมากกคือแบบพึ่งกลับมาจากงานเหนื่อยนางมาด่าแทบที่บ้านก็กดดันก็โมโห ตอบนางไปว่า "ไอ

" คำเดียวรู้เรื่อง แล้วนางก็ทักแชทด่ามาค่ะ ซึ่งเราก็ไม่อยากด่ากลับแล้วไม่ยากมีปัญหาแต่ก็มีปัญหาไปแล้วอ่ะค่ะ เรารู้เลยค่ะว่าอีก2-3เดือนเรากับพี่เราก็คงดีกันค่ะ เราลบแชทพี่สาวเราไปแถมบล็อกนางด้วยค่ะ โมโหมาด่าโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว หลังจากแชทวันนั้น เรากับพี่สาว ไม่คุยกันเลยค่ะ เวลาพี่สาวเห็นหน้าเรานี่แทบจะฆ่าเรา เวลาเราเดินผ่านหรือทำอะไรชอบกระเเทกกระทัน ขี้ประชดมากค่ะ คือเราพยายามที่จะไม่พูดไม่คิดไม่ทำอะไร ยึดหลักเสมอคือ อดทน แต่นางก็ไม่เคยเมตตาเราค่ะ มีครั้งหนึ่งเราอยู่บนห้องค่ะนางเดินขึ้นบันไดมากเราก็ไม่ได้อะไรเดินหลบให้ด้วยก็รู้ว่าทางมันแคบก็เลยหลบให้ ที่ไหนได้ นางเห็นหน้าเราปุ๊ปเดินกระทืบเท้าแรงๆขึ้นบันไดมากพร้อมให้ของขวัญเราคือ นางเดินเข้าห้องแล้วปิดประตูแรงๆใส่ คือเราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไปเพื่อ อะไร มีอะไรม่คุยกันดีๆ
เดี๋ยวมาเล่าวีรกรรมต่อน่ะค่ะมีบางช่วงตอนเด็กๆที่ลืมเขียนไป
แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกน่ะค่ะ
พี่เพื่อนๆคนไหนมีวิธีจัดการ หรือ เอาตัวรอด เพื่อความสงบสุขของตัวเองและครอบครัวก็บอกด้วยน่ะค่ะ
เพราะทุกวันนี้เครียดเรื่องเรียนไม่พอเครียดเรื่องพี่สาวอีก
ไมเกรนจะแทะสมองตายอยู่แล้วค่ะ



ใครเคยเจอพี่สาวนิสัยโครตเเย่แบบเราบ้าง มีวิธีกำจัดยังไงงงง!!!!
เริ่มต้นคือ พี่สาวของเราอสยุห่างจากเราแค่1ปีค่ะ ส่วนตัวเราเป็นคนที่นิสัยที่ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่มากค่ะ จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งของเราเริ่มตั้งแต่ตอนเด็กๆเลยค่ะ เรากับพี่สาวไม่ค่อยถูกกันตั้งแต่เด็กๆแล้ว ตอนเด็กเราเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกค่ะ (แทบไม่กล้าเลย) ไม่ว่าจะมีงานเต้นของโรงเรียนก็ขอ say goodbyeเกือบ!!!หมดค่ะ ซึ่งทำให้ตอนเด็กในช่วงนั้นเราเป็นคนที่เชื่อคนง่าย ขี้กลัว และยอมคนค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพี่สาวของเรา ตอนเด็กตอนอยู่อนุบาล 3 พ่อแม่เราเคยให้เรานั่งรถตู้มาโรงเรียนเนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีรถรับส่งค่ะ ซึ่งทุกคนที่เคยนั่งรถตู้ก็คงจะเข้าใจดีว่าในรถตู้สมัยก่อน หรอในสมัยก่อนคนเยอะมากแทบอันแน่นเป็นปลากระป๋อง พี่สาวเราก็นั่งด้วยค่ะ ที่เราจำได้ในตอนนั้นและจำขึ้นใจจนเกิดเป็นแรงอาฆาตในทุกๆวันนี้คือ ทุกคนคงรู้จักที่นั่งแคบๆด้านหลังเบาะคนขับ หรือเอาไว้วางของเวลานั่งรถตู้คนที่นั่งร๔ตู้บ่อยๆก็คงจะรู้จักเน้อะเค้อะ ตอนนั้นเรานั่งรถตู้ซึ่งพี่สาวเราได้บังคับเราให้ไปนั่งตรงหลังคนขับซึ่งมันแคบมาก และที่นั่งตรงนั้นก็จะมีเพื่อนๆในสมัยนั้นนั่งอยู่เยอะค่ะ พี่เคยสั่งเราว่าเวลานั่งตรงนั้น(หลังเบาะคนขับ)ให้นั่งขาหนีบห้ามปล่อยแบบขาหนับชิดกันอ่ะค่ะ คือเราก็ไม่กล้าโต้แย้งเพราะเป็นคนขี้กลัวค่ะ เราก็นั่งไปแบบนี้เป็นประจำค่ะ พอไปถึงโรงเรียนตะคริวนี่กินแทบทุกวันเลยค่ะ ทรมานมาก จนวันหนึ่งคือเราแอบพักขาคือแบบปลอยขาให้นั่งสบายๆค่ะ แต่ดั้นนนนโชคร้ายพี่สาวเรากับห็นก็ด่าเราค่ะ ตอนนั้นเจ็บแค้นใจมากเลยค่ะว่าทำไมต้องทำกับเราแบบนี้เราก็เลยรวบรวมความกล้าไปบอกพ่อค่ะ
เมื่อพ่อรู้ก็เรียกพี่สาวเรามานตักเตือนค่ะ หลังจากวันนั้นที่พี่สาวเราโดนตักตือน พี่สาวเราก็ไม่กล้าทำอะไรเราหลายวันอยู่ค่ะ (แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะไม่ทำน่ะค่ะ) พอหลายวันผ่านไปพี่สาวก็เริ่มแข็งข้อขึ้นจนลืมเรื่องที่พ่อตักเตือน !!!!นั่นแหล่ะค่ะทำให้ตะคริวกินเราไปอีก 1ปี(นั่งรถตู้1ป๊)
พอเราเริ่มโตขึ้นโตขึ้นความโกรธแค้นนี้ก็ยังอยู่ค่ะ ตอนนั้นเราอยู่ ป.2 ค่ะเป็นช่วงที่ฮิต facebook อะไรปรมานนี้ แล้วช่วงนั้นบ้านก็มีอินเตอร์เน็ตค่ะแต่เป็นแบบเฟรชไดร์ฟ มัช่วงหนึ่งเราได้ไปอยู่กับแม่ที่กรุงเทพค่ะได้ไปอยู่ทีทำงานของแม่ ตอนั้นเราอยากลองเล่นเฟสบุ๊คค่ะก็เลยให้พี่ๆที่ทำงานแม่สมัครให้ค่ะ เค้าก็สมัครให้เรา ตอนนั้นเราดีใจมากเลยค่ะ คือแบบได้เล่นเเล้วเย้!!!! แต่เราก็เล่นเฟสบุ๊คไม่ค่อยเป็นเพราะตอนนั้นก็อยู่ป.2 ไม่ค่อยรู้อ่ะไร แต่พี่สาวของเราค่ะ นางรู้ค่ะนางเล่นเป็น มีช่วงหนึ่งที่เราปล่อยทิ้งเฟสบุ๊คแบบไม่ได้เล่นคะ พี่สาวแอบมาเข้าเฟสเราและได้ก่อวีรกรรมมากมายค่ะ คือ ว่า นางเข้าเฟสบุ๊ตเราไปค่ะ แล้วนางก็เอาเฟสบุ๊คเราไปทักแชทด่าคนอื่นเค้ารวมถึงรุ่นพี่ม.3ในโรงเรียน ซึ่งเราไม่รู้ววว ไม่รู้เรื่องเลย(สาบาน) จนเรามารู้ตอนที่เราเป็นเชียร์ลีดเดอร์ค่ะ(ตอนป.6)รุ่นพี่คนหนึงได้มากบอกเราว่าพี่สาวเราได้เอาเฟสบุ๊คเราไปทักแชทด่าเค้า คือแบบฮ้ะได้ไง คือแบบต้องขอบคุณคุนพี่คนนั้นมากเลยคือถ้าไม่บอกเราป่านนี้เรื่องเฟสบุ๊คนั้นคงเป็น history ไปแล้ว กราบงามๆ
พอเราเริ่มโตมาจนอยู่ในช่วงมัธยมเป็นช่วงที่ต้องย้ายโรงเรียนใหม่ค่ะ เราได้อยู่ต่างโรงเรียนกับพี่ คือแบบ น้ำตาจิไหลลลลล เราคิดว่าจิผ่านสิ่งอันเลวร้ายนั้นมาได้แล้ว แต่ที่ไหนได้ ยังเจออะไรที่แย่กว่านั้นอีกค่ะ คือแบบโตมายังต้องเจออีกหรอ คือว่าตอนนั้นเราอยู่ม.ต้นค่ะ เราก็ไม่สนิทกับพี่เหมือนเดิมสนิทบ้างบางครั้งเป็นส่วนน้อยมากค่ะ เป็นขี้เล็บที่ตีนเท่านั้นค่ะ (เดี๋ยวจะมาเล่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้ฟังน่ะค่ะ ส่วนตอนนี้ขอเราเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ๆก่อน) มีวันหนึ่งเพื่อนของพี่สาวเราได้ทักแชทมาหาเราค่ะ ซึ่งร้อยวันพันปีไม่เค้ยยยไม่เคยจะทักมาค่ะ จนวันหนึ่งนางทักมาค่ะ ไอใจเราก็นึกว่าจะทักมาแบบถามสารทุกสุขดิบ ที่ไหนได้ทักมาด่าเราเฉยค่ะ ซึ่งเบื้องหลังของการที่เพื่อนของพี่เราทักมาด่าก็คือ ก็คือ ก็คื้ออออ "พี่ส้าววววเรานั่นเองงง" เย้!!! คือนางทักแชทมาด่าเรายาวเป็นพืดคือปริ้นเป็นหน้ากระดาษA4ได้หนึ่งหน้าเลยค่ะ เว่อร์ไป คือแบบตอนนั้นเราอึ้งเเป๊ปเฮ้ยพี่เดี๋ยวก่อนน่ะ พี่รู้เรื่องของหนูกับพี่สาวได้ไง (ย้อนกลับไปบรรทัดก่อนหน้านี้) คือนิสัยตอนนั้นกับตอนนี้มันช่างแตกต่างตอนนี้เราเริ่มมีความกล้ามากขึ้นมากกกเลยค่ะ ความเกลียดชังของพี่เราเป็นเเรงผลักดันให้เรามาถึงทุกวันนี้ได้ค่ะ เราก็เลยด่ากลับไปยังไม่จบนางก็ด่ากลับค่ะ ด่ากันไปด่ากันมา เราร้องไห้เเบบ เฮ้ยยยนี่มันเรื่องครอบครัวทำไมต้องมายุ่งคือแบบ ตอนนั้นเพื่อนพี่สาวเรานางอยู่รรใเดียวกับเเล้วตอนคุยด่ากันนางขู่ว่าจะมาตบมาตบ เราเลยขู่ไปว่าจะฟ้องแม่ นางไม่กลัวค่ะ ไม่กลัวใช่ม้อยยย เราก็เลยบอกแม่ในคืนนั้นเลยค่ะ แม่ก็เลยทักไปว่ากล่าวตักเตือนพี่สาวและเพื่อนของพี่สาว คือแบบตอนนั้นรู้สึกว่าเราเป็น The winner เลยค่ะ คือแบบนำ้ตาจิไหม (ทุกวันนี้แม่คือไดอารี่ระบายความรู้สึกของเรากับพี่สาว แม่เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเวลามีปัยหา ให้คำแนะนำในทุกๆเรื่อง ขอบคุณแม่ค่ะ รักแม่) หลังจากนั้นเพื่อนของพี่เค้าก็มาขอโทษเราค่ะ หลักจากนั้นเราก็เป็นพี่น้องกันค่ะ เจอกัน็หวัดดีอ่ะไรงี้ แต่ไม่ใช่กับพี่สาวเราค่ะ นางไม่ยอมขอโทษด้วยซ้ำแต่ในคืนนั้น พี่ก็เข้ามาปลอมใจเราแต่ขอบคุณน่ะ แต่นางก็ยังเป็นเหมือนเดิมค่ะ
เวลาผ่านไปนานเค้าเรากับพี่สาวก็เริ่มเข้ากันได้แค่ 10% ค่ะ เพราะส่วนที่เหลือจะเกี่ยงกันเื่องงาน หลายคนอาจจะสงสัยว่าอ้าวอยู่ต่างโรงเรียนแล้วก็ต้องไม่มีปัญหากันแล้วสิ ไม่ใช่เลยค่ะ มีแทบจะทุกวันค่ะ ส่วนมากเป็นเรื่องงานในบ้าน ล้างจาน กอกน้ำ กวาดบ้าน จะเกี่ยงกันค่ะว่าใครจะทำ สุดท้ายเราก็ทำค่ะ แต่มีบางครั้งที่พี่ทำน่ะค่ะ ในตอนนั้นที่ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยเพราะว่าเรื่องงานในบ้านค่ะ ไม่มีใครยอมใคร ต่างคน ค่างเกี่ยวกันว่าใครจะทำคนโน้นคนนี้ คนนั้นทำแล้ว คนนี้ทำแล้ว เรื่องนี้ก็ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยค่ะ แต่ส่วนมากจะเป็นพี่สาวของเราที่โกรธค่ะส่วนตัวเราใครทำก็ได้แต่อย่าให้เราทำบ่อยจนเกินไปควรแบ่งงานกันบ้างอะไรงี้ แต่พี่สาวนางโกรธนานมากเป็นอาทิยต์ เป็นเดือนก็มีน่ะค่ะ ไม่รู้โกรธไปทำไม โกรธแล้วได้อะไร ส่วนมากเวลาที่พี่สาวเราทำผิดนางไม่ค่อยขอโทด ส่วนมากนางจะทำผิดค่ะ แต่เราก็เป็นน่ะค่ะ บางที่เราทำผิดก็ไม่ขอโทษยอมรับค่ะว่าไม่ดีเหมือนกัน ก็จะให้ทำไงได้อ่ะค่ะ คือแบบต่างคนต่างปิดกั้นซึ่งกันและกัน มีเรื่องอะไรไม่ยอมเปิดใจคุยกัน มีความเป็นโลกว่วนัวสูงกันพอสมควร ซึ่งบางครั้งเวลาเราทำอะไรผิดหรือไปลูกล้ำส่วนเกินของพี่สาวเราก็อยากจะขอโทษ แต่เวลาเราจะขอโทษ หรือ อธิบายเหตุผลว่าทำไม นางมักจะเดินหนี้ และทำหน้าเเบะปากมองบน หรือแกล้งทำเป็นไม่ฟังหรือบางทีนางฟังแต่นางก้ยังไม่หายโกรธเราก็เลยไม่อยากขอโทษ เพราะยังไงนางก็ต้องทำแบบซ้ำๆเดิมๆ จะให้เราไปทำเหมือนเด็กๆมันคงไม่ได้ ตอนเด็กๆเวลาพี่สาวโกรธเรา(ส่วนมากมักจะโกรธเรื่องการแบ่งขนมไม่เท่ากัน) เรามีวิธีทำให้พี่สาวหายโกรธ แต่ปัจจุบันคงใช้ไม่ได้เพราะต่างคนต่างโตกันแล้ว วิธีของเราก็คือ เวลามีขนม เราก็จะให้ขนมกับพี่สาวเรา เราก็อดกินขนมเพื่อแลกกับการที่จะทำให้พี่สาวหายโกรธ ซึ่งพี่สาวเราเค้าก็ตามเราทำนางก็แกล้งโกรธเราบ่อยๆให้เราให้ขนมนางบ่อยๆ ก็ทำให้เราอดกินขนมค่ะ ทำให้เราผอมกระด้างมาจนถึงทุกวันนี้
พอโตมาจนถึงปัจจุบัน นี้ พี่สาวเรายังมีนิสัยที่เหมือนเดิมไม่เคอยเปลี่ยนค่ะ ขี้งอนเหมือนเดิม ช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่สาวเรามีความรักค่ะ แต่บอไว้ก่อนน่ะค่ะเราไม่ได้ไปยุ่งส่วนเกินของเค้าน่ะค่ะ เราอยู่ในส่วนของเราแต่ก็มีบ้างค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่สาวเราทำตัวแย่มากค่ะ จนเป็นแรงบัลดาลใจที่ทำให้เราเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ มีช่วงหนึ่งนางชอบโกรธตอนที่เราแชทไปด่านางค่ะ เอ้าบ้าบอคนจะด่ากันมันต้องมีเหตุผลน่ะค่ะ คือว่าตอนนั้นช่วงเย็นค่ะ เรานัดเจอกันที่หนึ่งค่ะ แต่พี่สาวเราติดตต่อเราไม่ติดคือเราฝากโทรศัพท์ไว้กับเพื่อนค่ะ พอนางติดต่อเราไม่ติดนางก็แชทด่าเรามาคำหนึ่ง คือตอนนั้นจี้ดมากกคือแบบพึ่งกลับมาจากงานเหนื่อยนางมาด่าแทบที่บ้านก็กดดันก็โมโห ตอบนางไปว่า "ไอ
เดี๋ยวมาเล่าวีรกรรมต่อน่ะค่ะมีบางช่วงตอนเด็กๆที่ลืมเขียนไป
แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกน่ะค่ะ
พี่เพื่อนๆคนไหนมีวิธีจัดการ หรือ เอาตัวรอด เพื่อความสงบสุขของตัวเองและครอบครัวก็บอกด้วยน่ะค่ะ
เพราะทุกวันนี้เครียดเรื่องเรียนไม่พอเครียดเรื่องพี่สาวอีก
ไมเกรนจะแทะสมองตายอยู่แล้วค่ะ