หนีกรุงไปกาญจน์ (กรุงเทพ - สังขละบุรี)



สังขละบุรีมีอะไร
อยากรู้ต้องไปด้วยงบไม่เกิน 1000 บาท
** งบไม่เกิน 1000 บาท ต่อคน **

สวัสดีค่ะ อมยิ้ม17
นี่เป็นกระทู้แรกเกี่ยวกับการเที่ยวที่ต้องนำมาบอกต่อ (ขออภัยหากรูปเยอะกว่าการบรรยาย)
ก่อนอื่นเลยสมาชิกทุกคนต้องการเดินทางในแบบที่ประหยัดสุดสุด
เราทุกคนเลยตกลงกันว่าจะเดินทางโดยการขึ้นรถประจำทางไป (จากสายใต้ใหม่ - ตัวเมืองกาญจนบุรี)

ค่ารถประจำทาง 100 บาท ต่อคน และคือสบายมากรอบนั้นคนขึ้นค่อนข้างน้อย


พวกเราขึ้นรถประจำทางเวลา 14:30 น. และทางขนส่งบอกว่าจะถึงตัวเมืองกาญจน์ก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
และเราก็ถึงที่ตัวเมืองกาญจน์..






ร้านโตเกียวร้านนี้อร่อย

แต่ละคนแบกของกันอย่างกับย้ายบ้าน อมยิ้ม15

พวกเราได้ทำการเดินหารถตู้เพื่อที่จะขึ้นไปสังขละบุรีนั้น และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในขณะที่พวกเราไปหารถตู้และไปถึงที่ที่เขารับผู้โดยสาร ทางนั้นเขาบอกว่าเกินเวลา รับ-ส่ง แล้วครับ (เที่ยวรถสุดท้ายจากตัวเมืองกาญจน์ไปสังขละหมดเวลา 17:00 น.)
เขาเลยถามพวกเราว่าเหมาไหมหละ 3500 บาท (ปกติแล้วค่ารถตู้โดยสารราคาจะอยู่ที่ 180 บาท ต่อคน)
พวกเราถึงกับสะอึกแล้วก็ออกมาปรึกษากันว่าจะเอาอย่างไรดี สรุปก็คือไม่ไปเพราะราคาสูงเกินไป 6 คน 3500 บาท
ตายตายอมยิ้ม20และในความโชคร้ายนั้นยังมีความโชคดีอยู่ ที่เพื่อนในกลุ่มมีญาติอยู่แถวนี้เลยจะรบกวนให้เขาไปส่งเลยโทรถามเขาว่าสามารถไปสังขละได้ไหม
เขาเลยตอบทันทีเลยว่าได้ เพราะเขาจะพาลูกเขาไปเที่ยวด้วยเป็นช่วงปิดเทอมของโรงเรียนมัธยมพอดิบพอดี
แต่ทางญาติบอกว่ามีธุระอาจจะมาถึงมืดสักหน่อย เราก็เลยตอบตกลงไปว่ารอได้ค่ะ และในขณะที่รอญาติมานั้น...

พวกเราก็ไปจัดหมูกระทะแถวนั้นสักหน่อย ร้านนี้ที่ไปได้ไม่ใช่คนแถวนั้นนะแต่เปิดหาเอาจาก google
และก็ให้นำทางไปสะเลย ในขณะที่เรากำลังนั่งโซ๊ยกันอย่างมีความสุขทันใดนั้นเอง ฝนตกหนักมากอะไรจะแย่ขนาดนี้ ดีนะเราเข้าไปในร้านทัน

บอกเลยว่าไม่เสียใจและไม่เสียดายหัวละ 198 บาท  กินชาตินี้ อิ่มถึงชาติหน้า

และแล้วสิ่งที่เรารอคอยก็มาถึงทางญาติของเพื่อนได้มาถึงที่ที่เราอยู่กัน และขับรถพาเราขึ้นไปยังอำเภอสังขละบุรี
และนี่คือทางผ่านก่อนจะถึงที่หมายของเรา..

และแล้วเราก็ได้ถึงที่หมายสะพานอุตตมานุสรณ์..

ถึงที่หมายเมื่อตอนตีสามกว่ากว่าและนี่คือรูปในส่วนของสะพานไม้ตอนกลางคืน..

ก่อนที่พวกเราจะไปทำกิจกรรมตอนเช้าก็ได้งีบรอจนถึงเวลา..
ชิมจนคิดว่าซื้อแล้ว

เอกลักษณ์อีกอย่างของชาวมอญคือ ชุดแต่งกาย ผู้ชายจะนุ่งโสร่ง ผู้หญิงจะนุ่งผ้าถุง นักท่องเที่ยวก็นิยมเช่าชุดมาใส่เพื่อถ่ายรูป



ทางที่สะพานไม้นั้นจะมีร้านขายชุดอาหารตักบาตรพร้อมเลย

หลังจากที่พวกเราได้ทำการตักบาตรเช้าเรียบร้อยแล้วเราก็ไปหาที่พัก และก็ได้ที่นี่มา แพมิตรสัมพันธ์
เป็นแพที่ราคาเหมาะสำหรับเงินในกระเป๋าพวกเรามาก เพียงแพละแค่ 2,500 บาทต่อคืน
พวกเราด้วยความประหยัดเลยถามเจ้าของว่าสามารถลดได้อีกไหมคะ เจ้าของแพใจดีเลยลดไป 500 เหลือ 2,000 บาท อมยิ้ม16
และถ้ามองออกไปจากแพที่พวกเราพักกันนั้นจะสามารถเห็นสะพานไม้ได้ชัดเจนมาก

พอถึงแพก็ทำการแบ่งห้องกัน

หลังจากเล่นน้ำกันเสร็จพวกเราได้ไปเดินเล่นตลาดใกล้ที่พัก

ทางญาติของเพื่อนถามว่าจะขึ้นไปด่านเจดีย์สามองค์ไหม
เพื่อนบางคนยังไม่เคยไปจึงขอตามไปด้วย
บนนี้มีร้านขายของเยอะมากจำพวก แป้งทานาคา ของฝากทั่วไป ดอกกล้วยไม้ และอีกหลายอย่างมากมาย
(อยากรู้ต้องไปลงพื้นที่เองกระเป๋าแบนแน่ๆ)


และหลังจากนั้นพวกเราก็ลงจากด่านเจดีย์สามองค์มายังตลาดที่ใกล้ที่พัก

และในขณะนั้นเองเราได้ไป โป๊ะเชี๊ยะ! กับสิ่งนี้..

มันเป็นอะไรที่แบบ -//- ดึงดูดมาก ดึงดูดยังไงน่ะหรอ?
มันไม้ละ 1 บาท ใช่ ไม่ผิดอ่านไม่ผิดแน่นอน 1 บาทเท่านั้น ไม้ละ 1 บาท มีทุกอย่างของน้องหมูจริงๆ ตับ ไต หัวใจ ไส้ เนื้อหมู

หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ทำการกลับแพกันไปนั่งกิน นั่งคุย นั่งสังสรรกันต่อ และนอนกัน
ในส่วนของเช้าวันต่อไปนั้น ไม่มีอะไรมาก จะเป็นการออกไปถ่ายรูปเล่นกันมากกว่า วิวสวย บรรยากาศดีไม่ตื่นมาถือว่าพลาดมาก



มีโปสการ์ดจากสังขละ ส่งฟรีนะจ้ะ

ในขณะที่เดินถ่ายรูปเล่นอยู่นั่นเอง ก็เจอกับพี่ใจกล้าที่กระโดดจากบนสะพานไม้ดิ่งลงน้ำไปแบบไม่รีรอ (ซึ่งช็อคมากพี่เขาทำได้ยังไง)


และพี่เขาก็ขึ้นมาโดยการปีนสะพานนั้นขึ้นมา โอ้โห *0* ยอมแล้วพี่จ๋า
(พี่เขาบอกอาจจะไม่ได้เห็นพี่เขาบ่อยนักเพราะพักร่างกายบ้าง 555+)

กิจกรรมของคนที่นั้น


จะเห็นได้ที่สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ช่วงเช้าเช้าจะเยอะมาก


หลังจากถ่ายรูปเสร็จได้กลับมาที่แพเพื่อเก็บของเตรียมตัวเดินทางกลับ
และเมื่อมาที่นี่นั้นสิ่งที่ห้ามพลาดเลยคือ..
วัดวังก์วิเวการาม หรือที่เรียกกันคุ้นปากว่า 'วัดหลวงพ่ออุตตมะ'

ในส่วนของผ้าถุงนี้ทางวัดให้ยืม(ฟรี)จ้า


และระหว่างทางญาติของเพื่อนก็พาแวะไปเรื่อยๆ

หลังจากที่เราออกเดินทางจากวัดเพื่อกลับกรุงเทพนั้นทางญาติของเพื่อนได้พูดกับพวกเราว่า
'ไอ้หนูกลับกรุงเทพเลยไหม เพราะลุงจะไปกรุงเทพ'
(ซึ่งเป็นเสียงจากสวรรค์หรือยังไงอะไรนะได้ยินผิดไปหรือเปล่า) ตอบอย่างเร็วไว ไปจ้า กลับจ้า
คือในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้างดีใจมาก
ญาติเพื่อนได้แวะทานอาหารขณะขับรถลงจากสังขละ ไปแวะที่ 'น้ำตกเกริงกระเวีย' และพวกเราก็ทำการแฉะภาพกัน

พอทานอาหารเสร็จพวกเราก็ได้หลับกันที่หลังรถจนถึงกรุงเทพ


สรุปการใช้จ่ายอมยิ้ม11
- ค่ารถประจำทางคนละ 100 บาท (จำนวน 6 คน)
- ค่าหมูกระทะคนละ 198 บาท (จำนวน 6 คน)
- ค่าชุดอาหารตักบาตร 99 บาท
- ค่าที่พัก 2,000 บาท
ทั้งหมด 3887 บาท
** เฉลี่ยต่อคนแล้วตกอยู่ที่คนละ 650 บาท (จำนวน 6 คน) **
***** ไม่รวมของกิน ของฝากส่วนตัวของแต่ละคนนะคะ *****

และพวกเราก็ถึงกรุงเทพโดย(ญาติเพื่อน)สวัสดิภาพ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่