กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (31 Oct 16)

กระทู้สนทนา
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call ทุกๆท่าน

ตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ( 1488 จุด - 1508 จุด ) เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ
เข้ามาหนุนนำ ประกอบกับ ตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สภาวะสมดุล หลังจากเกิดเหตุการณ์ Super Panic Sell ไปเมื่อ
ห้วงสัปดาห์แห่งความโศกเศร้า ของประชาชนชาวไทยทุกคน อีกทั้ง ตลาดยังคงรอผลการประชุมของบรรดาCentral Bank ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น BOJ วันอังคารนี้ , FOMC วันพุธนี้ และ BOE วันพฤหัสที่จะถึงนี้  ว่าจะมีนโยบายเศรษฐกิจใดๆออกมาบ้าง
ดังนั้นเมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index จึงปิดตัวไปที่ระดับ 1494.44 จุด -3.92 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ
ว่าดัชนีจะสามารถฟื้นตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1500 จุด ได้หรือไม่

Fundamental

เอเชียเช้านี้

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดร่วงลง 108.99 จุด หรือ -0.47% แตะที่ 22,845.82 จุดในวันนี้ หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์
เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่า สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน
ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ประกอบกับความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการ
ประชุมเดือนธ.ค.

"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่า สำนักงานสอบสวน
กลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่มีการขยาย
ตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,161.19 จุด ลดลง 8.49 จุด หรือ -0.05%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,190.10 จุด ลดลง 25.87 จุด หรือ -0.50%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,126.41 จุด ลดลง 6.63 จุด หรือ -0.31%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้น 0.1% ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 0.7% และดัชนี NASDAQ ร่วงลง 1.3%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลง หลังจากมีรายงานข่าวว่า นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการ FBI ได้ส่งหนังสือไปยังสภาคองเกรสเมื่อวานนี้
โดยระบุว่า FBI พบว่ามีอีเมล์ใหม่ของนางฮิลลารี ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี แม้ว่า FBI ประกาศปิดคดี
ดังกล่าวไปในเดือนก.ค.ก็ตาม

การเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ว่า FBI อาจจะรื้อฟื้นคดีดังกล่าวของนางฮิลลารีขึ้นมาใหม่ ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็
จะถึงกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.นายโคมีย์ระบุว่า มีการเปิดเผยอีเมล์ใหม่ดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาใหม่
อีกครั้งต่อข้อมูลของรัฐบาลที่ความอ่อนไหว ซึ่งมีการส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของนางฮิลลารี ขณะที่ดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า จีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดนั้น อาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้
เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นสำหรับ
การขยายตัวของจีดีพีประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 2.9% โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากแรงหนุนของการส่งออก และการลงทุน
ด้านสินค้าคงคลัง ถึงแม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง

การขยายตัวที่ระดับ 2.9% ในไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014 หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโต
1.4% ในไตรมาส 2 และ 0.8% ในไตรมาส 1 ขณะที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 1.1% ในช่วงครึ่งปีแรก

หุ้นอเมซอน ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ Amazon.com ร่วงลง 5.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิประจำไตรมาส 3/2559 ที่ระดับ 252 ล้านดอลลาร์
หรือ 52 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 85 เซนต์ต่อหุ้น

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 2.46% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรรายไตรมาสลดลง 38% ขณะที่หุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรในไตรมาส 3 ภายจากที่ประสบภาวะขาดทุนติดต่อกัน 3 ไตรมาส

หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 8.4% หลังจากวอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) ซึ่งเป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมรายใหญ่ของสหรัฐ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อควบรวมธุรกิจด้านน้ำมันและก๊าซกับเบเกอร์ ฮิวจ์

หุ้นเฮอร์ชีย์ ผู้ผลิตช็อคโกแลตรายใหญ่ ปรับตัวขึ้น 7.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และอาจมีการส่งสัญญาณ
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.


ฝั่งยุโรป

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่ผันผวน นอกจากนี้
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของฝรั่งเศส ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงในเดือนก.ย.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ 340.80 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,548.58 จุด เพิ่มขึ้น 15.01 จุด หรือ +0.33%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,696.19 จุด ลดลง 20.89 จุด หรือ -0.19%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,996.26 จุด เพิ่มขึ้น 9.69 จุด หรือ +0.14%

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของฝรั่งเศส โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า
ยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ลดลง 0.2% ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% โดยสาเหตุหลักมาจากยอดซื้อสินค้า
สำเร็จรูปและการใช้จ่ายด้านพลังงานที่ปรับตัวลดลง

ขณะเดียวกัน Insee รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนต.ค.ของฝรั่งเศสอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น
0.2% เนื่องจากราคาพลังงานที่ดีดตัวขึ้นนั้น ถูกบดบังด้วยราคาอาหาร บริการ และสินค้าจากโรงงานที่ปรับตัวลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า
ว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณและอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่สามารถกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อให้ไปถึง 2% ได้ตามเป้า

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ผันผวนของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของยุโรป โดยหุ้น AB InBev บริษัทผู้ผลิตเบียร์
รายใหญ่ ร่วงลง 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 ร่วงลงแตะ 557 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงเกินครึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน
ของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1.38 พันล้านดอลลาร์

หุ้นโนโว นอร์ดิค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ดิ่งลง 15% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการและยอดขายในปีนี้และปีหน้า
เนื่องจากการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดยา

หุ้นยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสวิส ดีดตัวขึ้น 2.4% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิดิ่งลง 60% ในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาด้านเศรษฐกิจมหภาค ความวุ่นวายทางการเมืองในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งความผันผวนของตลาด

ทั้งนี้ ยูบีเอสระบุว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 827 ล้านฟรังก์สวิส (832 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 945 ล้านฟรังก์สวิส

Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์



Technical Analysis

SET index TF Day : ตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน ดัชนียังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัว Sideway ในกรอบ
( 1488 - 1508 จุด)แม้มีความพยายามที่จะพุ่งทะยาน ทะลุผ่าน Resistance line แต่ก็ไม่สามารถผ่านพ้น
ขึ้นไปยืนเหนือได้ วันนี้ก็ต้องมาดูกันว่า ดัชนีจะสามารถผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ ถ้าหากผ่านขึ้นไปได้ ก็จะทำให้
ภาพสัญญาณกลับมาดูสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมขึ้นไปทดสอบ High อีกครั้ง // แต่ถ้าหากไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้
แล้วหลุด 1488 ลงมา ก็อาจจะมีการพักตัว เพื่อลงไปปิด Gap บริเวณ 1435 จุด ก็เป็นได้



S50Z16 TF Day : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผานมา ดัชนียังคงเคลื่อนไหว Sideway แกว่งตัวในกรอบ
(926 - 950 จุด ) ยังไม่มีทีท่าจะเลือกทาง แนวโน้มวันนี้ คาดว่า ดัชนีน่าจะยังคง Sideway ไปต่ออีกวัน
รอจนกว่าผลการประชุมของบรรดา Central Bank ออกมาเสียก่อน ถึงจะเลือกทิศทาง ที่ชัดเจน


S50Z16 TF60min : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผานมา ดัชนียังคงเคลื่อนไหว Sideway แกว่งตัวในกรอบ
(926 - 950 จุด ) ยังไม่มีทีท่าจะเลือกทาง แนวโน้มวันนี้ คาดว่า ดัชนีน่าจะยังคง Sideway ไปต่ออีกวัน
รอจนกว่าผลการประชุมของบรรดา Central Bank ออกมาเสียก่อน ถึงจะเลือกทิศทาง ที่ชัดเจน


Resistance 940 944 950 / 1500 1505 1511
Support 930 926 920 / 1490 1484 1480

*EOD End of day

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่