หวัดดีเพื่อนๆนักท่องเที่ยวทุกคนค่ะ
หลังจากจบทริปโตเกียวเที่ยวเองแบบสั้นๆแล้ว วันนี้เลยอยากมาเขียนรีวิวแชร์ประสบการณ์ เผื่อใครได้ไปเที่ยวเหมือนกัน จะได้แบ่งปันข้อมูลกันได้นะคะ
จริงๆเราไปญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไปโตเกียว เพราะที่ผ่านมาจะเป็นอารมณ์ไปเก็บบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ ดูดอกไม้ แช่ออนเซ็นฯ อะไรแบบนั้น แต่ครั้งนี้อยากไปบรรยากาศแบบเมืองๆมากกว่า ก็เลยเลือกเป็นที่นี่ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะมีความเป็นเมื๊องงงเมือง แสงสีและบรรยากาศ เราว่าน่าจะสนุกแน่ๆ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า...
ขาไปค่ะ ภาพนี้ ถ่ายพระอาทิตย์สวยๆบนเครื่องบิน no filter แบบนี้เลย ฟ้าดีจัง ^^
ถึงนาริตะก็ขึ้นรถไฟ มุ่งตรงไปยังโรงแรม Asakusa Hotel Wasou
ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานีอุเอโนะ ก็ต่อแท็กซี่ไปหน้าโรงแรมเลย ราคาประมาณ 730 เยน นั่งประมาณ 5 นาที ซึ่งโอเคค่ะ สะดวกมาก เพราะถ้าเดินไปโรงแรมจะไกลพอสมควร ผ่านวัดอาซากุสะซึ่งคนเยอะมาก เราเลยว่านั่งแท็กซี่สะดวกดี เปลี่ยนบรรยากาศด้วย
มาถึงรร แล้วจ้า (ก่อนจองทาง Agoda เราเห็นว่ารีวิวโรงแรมนี้ยังน้อยอยู่ เลยขอรีวิวเพิ่มเติมนะคะ)
จริงๆ รร ก็น่ารักเรียบง่าย ห้องพักเรามีห้องน้ำในตัว ในราคาประมาณ 1,200 บาท สำหรับเราคือโอเค แต่ไกลจากที่เที่ยวแหล่งชุมชนแบบ shibuya, shinjulu ไปหน่อย แต่ก็ใกล้วัดอาซากุสะมากๆค่ะ
เปิดประตูห้องเข้าไปเป็นแบบนี้เลย
เวลานอนเราติดเปิดไฟสีส้ม ที่นี่มีโคมไฟพอดี และไฟเพดานสามารถดิมได้ โอเคเลย น่านอนขึ้นเยอะ อิอิ
สำหรับห้องพักที่นี่ ไม่เหม็นกลิ่นบุหรี่ ทำความสะอาดเร็วและเรียบร้อย กลิ่นผ้าห่มผ้าปูสะอาดดีค่ะ เหมาะสำหรับผู้หญิงด้วย เพราะที่นี่จะมีแบบเฉพาะผู้หญิงพักเท่านั้น ข้ามถนนไปตรงข้ามก็มี lawson สะดวกดีค่ะ
เดินออกมาจากรร หันซ้าย ก็เห็น tokyo sky tree อยู่ไกลๆนั่นเองค่ะ
เรานั่งรถไฟจากสถานีอาซากุสะ ไป Shibuya โดยสาย Ginza Line (นั่งจากต้นสายไปปลายสาย) ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
ตั้งต้นที่ shibuya ก็เดินเที่ยวได้หมดค่ะ omote sando, harajuku หรือจะนั่งรถไฟไปอีกนิดหน่อยก็เป็น shinjuku, ginza สนุกดี
ห้าแยกยอดฮิต shibuya crossing
ถึงเวลาช้อปปิ้งงง สนุกมากๆเลย เดินเข้าเดินออกร้านนู้นร้านนี้ เข้า drug store เจอยี่ห้อนี้กรี๊ดเลย เพิ่งเอาเข้ามาขายเมืองไทยชื่อว่า curel (คิวเรล) แต่พอเห็นราคาแล้ว โอ้ บางตัวนี่เมืองไทยคุ้มกว่าอีกอะเวลามีโปรโมชั่น ถือว่าเป็นไอเทมที่อยู่ใน drug store ที่ราคาสูงอยู่ แต่ว่าใช้ดีมากๆๆๆ เลยจัดไป ><
ราเมนเจ้านี้ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้ แต่เพื่อนเจ้าถิ่นแนะนำบอกว่าอร่อยมาก อร่อยจริง เป็นโตเกียวสไตล์นะ น้ำจะไม่ใช่ clear soup คืออร่อยเข้มข้น
เดินเมื่อยๆ อากาศเย็นๆ หาอะไรดื่มหน่อย เพื่อนชวนนั่งดื่มเบียร์กันข้างทาง ดูผู้คนเดินไปมา ชิลดีค่ะ
จริงๆเพื่อนบอกว่าแต่ก่อนเค้าห้ามไม่ให้คนนั่งดื่มข้างทางแบบนี้นะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เป็นไรแล้ว ส่วนของเราเบาๆค่ะ หน้ากระป๋องนี้แปลเป็นญี่ปุ่นว่า เมาแบบเบาๆ ฮ่าๆ
ซื้อของกันต่อ อันนี้ก็กำลังฮิตนะ ตอนนี้มี limited packaging ด้วย
หนึ่งสิ่งที่เราชอบมากเวลามาญี่ปุ่น คือการกดๆๆๆๆๆน้ำตู้ วันหนึ่งเรากินหลายแบบมาก น้ำเปล่านี่แทบไม่ได้กินเลย ><
อันนี้เป็นอีกอันที่ชอบค่ะ ยี่ห้อ ito en กลิ่นพีซ หอม สดชื่น ไซส์เล็กด้วย
นั่งรถไฟจาก Shibuya มาอีกไม่ไกล ลงที่สถาที Jiyougaoka เป็นโซนเล็กๆ เหมือนเมืองน่ารักๆ ร้านค้าเก๋ๆเยอะเลย มีคนพาน้องหมามาเดินเล่น อากาศก็ดีมากๆค่ะ
ร้านเค้กนี้อยู่ใกล้สถานีรถไฟ ออกมาจากสถานี้หันขวามือ ร้านอยู่ทางซ้าย ชีสเค้กอร่อย นั่งกินหน้าร้านจนหมดเลย จัดว่าดีย์
เป็นทริปสั้นๆที่จัดเอง ไม่ได้วางแผนอะไรมาก แต่ก็ชอบและประทับใจมากๆค่ะ เราเป็นแนวเที่ยวสายชิล เดินเรื่อยๆ อยากไปไหนก็ไป ไม่ได้มีวางแผนเวลาเป๊ะๆ อาจจะไม่ได้มีข้อมูลอัดแน่นอะไรมาก เรื่องท่องเที่ยวนี่ปล่อยตามอารมณ์อย่างเดียวเลย
ได้เวลากลับบ้าน ตื่นตีสี่ (อันนี้ต้องวางแผนตื่น ไม่งั้นพลาด 555) ออกมาเรียกแท๊กซี่ฝั่งตรงข้าม รร ไปสถานีอุเอะโนะ แล้วขึ้นสาย Keisei (ด่วน)
บรรยากาศยามเช้า เวลาเกือบหกโมง ไม่มีคนเลย
ถึง Terminal 2 ขึ้นบันไดเลื่อนเจอเคาวน์เตอร์เช็คอินเลย สะดวกมาก ชอบทีสุด ชอบไปหมด ^^
ปิดท้ายด้วยไฟสวยๆบนเครื่องบินค่ะ
ทริคนิดนึงเวลาขากลับ ถ้าใครเลือกที่นั่งฝั่งขวา จะเห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจนอีกด้วยนะ
จบแล้วค่ะ รีวิวสั้นๆชิลๆ เที่ยวแป๊บเดียว แต่ก็คุ้มมากๆ ได้ประสบการณ์และความประทับใจล้นกระเป๋า (20 กิโล) ไปเพียบเลย ^^
ส่วนใครที่มีประสบการณ์อย่างไร ก็มาแชร์กันได้นะคะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่า
[CR] ไปเที่ยวโตเกียวแบบชิลๆกัน...
หลังจากจบทริปโตเกียวเที่ยวเองแบบสั้นๆแล้ว วันนี้เลยอยากมาเขียนรีวิวแชร์ประสบการณ์ เผื่อใครได้ไปเที่ยวเหมือนกัน จะได้แบ่งปันข้อมูลกันได้นะคะ
จริงๆเราไปญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไปโตเกียว เพราะที่ผ่านมาจะเป็นอารมณ์ไปเก็บบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ ดูดอกไม้ แช่ออนเซ็นฯ อะไรแบบนั้น แต่ครั้งนี้อยากไปบรรยากาศแบบเมืองๆมากกว่า ก็เลยเลือกเป็นที่นี่ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะมีความเป็นเมื๊องงงเมือง แสงสีและบรรยากาศ เราว่าน่าจะสนุกแน่ๆ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า...
ขาไปค่ะ ภาพนี้ ถ่ายพระอาทิตย์สวยๆบนเครื่องบิน no filter แบบนี้เลย ฟ้าดีจัง ^^
ถึงนาริตะก็ขึ้นรถไฟ มุ่งตรงไปยังโรงแรม Asakusa Hotel Wasou
ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานีอุเอโนะ ก็ต่อแท็กซี่ไปหน้าโรงแรมเลย ราคาประมาณ 730 เยน นั่งประมาณ 5 นาที ซึ่งโอเคค่ะ สะดวกมาก เพราะถ้าเดินไปโรงแรมจะไกลพอสมควร ผ่านวัดอาซากุสะซึ่งคนเยอะมาก เราเลยว่านั่งแท็กซี่สะดวกดี เปลี่ยนบรรยากาศด้วย
มาถึงรร แล้วจ้า (ก่อนจองทาง Agoda เราเห็นว่ารีวิวโรงแรมนี้ยังน้อยอยู่ เลยขอรีวิวเพิ่มเติมนะคะ)
จริงๆ รร ก็น่ารักเรียบง่าย ห้องพักเรามีห้องน้ำในตัว ในราคาประมาณ 1,200 บาท สำหรับเราคือโอเค แต่ไกลจากที่เที่ยวแหล่งชุมชนแบบ shibuya, shinjulu ไปหน่อย แต่ก็ใกล้วัดอาซากุสะมากๆค่ะ
เปิดประตูห้องเข้าไปเป็นแบบนี้เลย
เวลานอนเราติดเปิดไฟสีส้ม ที่นี่มีโคมไฟพอดี และไฟเพดานสามารถดิมได้ โอเคเลย น่านอนขึ้นเยอะ อิอิ
สำหรับห้องพักที่นี่ ไม่เหม็นกลิ่นบุหรี่ ทำความสะอาดเร็วและเรียบร้อย กลิ่นผ้าห่มผ้าปูสะอาดดีค่ะ เหมาะสำหรับผู้หญิงด้วย เพราะที่นี่จะมีแบบเฉพาะผู้หญิงพักเท่านั้น ข้ามถนนไปตรงข้ามก็มี lawson สะดวกดีค่ะ
เดินออกมาจากรร หันซ้าย ก็เห็น tokyo sky tree อยู่ไกลๆนั่นเองค่ะ
เรานั่งรถไฟจากสถานีอาซากุสะ ไป Shibuya โดยสาย Ginza Line (นั่งจากต้นสายไปปลายสาย) ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
ตั้งต้นที่ shibuya ก็เดินเที่ยวได้หมดค่ะ omote sando, harajuku หรือจะนั่งรถไฟไปอีกนิดหน่อยก็เป็น shinjuku, ginza สนุกดี
ห้าแยกยอดฮิต shibuya crossing
ถึงเวลาช้อปปิ้งงง สนุกมากๆเลย เดินเข้าเดินออกร้านนู้นร้านนี้ เข้า drug store เจอยี่ห้อนี้กรี๊ดเลย เพิ่งเอาเข้ามาขายเมืองไทยชื่อว่า curel (คิวเรล) แต่พอเห็นราคาแล้ว โอ้ บางตัวนี่เมืองไทยคุ้มกว่าอีกอะเวลามีโปรโมชั่น ถือว่าเป็นไอเทมที่อยู่ใน drug store ที่ราคาสูงอยู่ แต่ว่าใช้ดีมากๆๆๆ เลยจัดไป ><
ราเมนเจ้านี้ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้ แต่เพื่อนเจ้าถิ่นแนะนำบอกว่าอร่อยมาก อร่อยจริง เป็นโตเกียวสไตล์นะ น้ำจะไม่ใช่ clear soup คืออร่อยเข้มข้น
เดินเมื่อยๆ อากาศเย็นๆ หาอะไรดื่มหน่อย เพื่อนชวนนั่งดื่มเบียร์กันข้างทาง ดูผู้คนเดินไปมา ชิลดีค่ะ
จริงๆเพื่อนบอกว่าแต่ก่อนเค้าห้ามไม่ให้คนนั่งดื่มข้างทางแบบนี้นะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เป็นไรแล้ว ส่วนของเราเบาๆค่ะ หน้ากระป๋องนี้แปลเป็นญี่ปุ่นว่า เมาแบบเบาๆ ฮ่าๆ
ซื้อของกันต่อ อันนี้ก็กำลังฮิตนะ ตอนนี้มี limited packaging ด้วย
หนึ่งสิ่งที่เราชอบมากเวลามาญี่ปุ่น คือการกดๆๆๆๆๆน้ำตู้ วันหนึ่งเรากินหลายแบบมาก น้ำเปล่านี่แทบไม่ได้กินเลย ><
อันนี้เป็นอีกอันที่ชอบค่ะ ยี่ห้อ ito en กลิ่นพีซ หอม สดชื่น ไซส์เล็กด้วย
นั่งรถไฟจาก Shibuya มาอีกไม่ไกล ลงที่สถาที Jiyougaoka เป็นโซนเล็กๆ เหมือนเมืองน่ารักๆ ร้านค้าเก๋ๆเยอะเลย มีคนพาน้องหมามาเดินเล่น อากาศก็ดีมากๆค่ะ
ร้านเค้กนี้อยู่ใกล้สถานีรถไฟ ออกมาจากสถานี้หันขวามือ ร้านอยู่ทางซ้าย ชีสเค้กอร่อย นั่งกินหน้าร้านจนหมดเลย จัดว่าดีย์
เป็นทริปสั้นๆที่จัดเอง ไม่ได้วางแผนอะไรมาก แต่ก็ชอบและประทับใจมากๆค่ะ เราเป็นแนวเที่ยวสายชิล เดินเรื่อยๆ อยากไปไหนก็ไป ไม่ได้มีวางแผนเวลาเป๊ะๆ อาจจะไม่ได้มีข้อมูลอัดแน่นอะไรมาก เรื่องท่องเที่ยวนี่ปล่อยตามอารมณ์อย่างเดียวเลย
ได้เวลากลับบ้าน ตื่นตีสี่ (อันนี้ต้องวางแผนตื่น ไม่งั้นพลาด 555) ออกมาเรียกแท๊กซี่ฝั่งตรงข้าม รร ไปสถานีอุเอะโนะ แล้วขึ้นสาย Keisei (ด่วน)
บรรยากาศยามเช้า เวลาเกือบหกโมง ไม่มีคนเลย
ถึง Terminal 2 ขึ้นบันไดเลื่อนเจอเคาวน์เตอร์เช็คอินเลย สะดวกมาก ชอบทีสุด ชอบไปหมด ^^
ปิดท้ายด้วยไฟสวยๆบนเครื่องบินค่ะ
ทริคนิดนึงเวลาขากลับ ถ้าใครเลือกที่นั่งฝั่งขวา จะเห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจนอีกด้วยนะ
จบแล้วค่ะ รีวิวสั้นๆชิลๆ เที่ยวแป๊บเดียว แต่ก็คุ้มมากๆ ได้ประสบการณ์และความประทับใจล้นกระเป๋า (20 กิโล) ไปเพียบเลย ^^
ส่วนใครที่มีประสบการณ์อย่างไร ก็มาแชร์กันได้นะคะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่า