สวัสดีค่า ขอออกตัวก่อนว่าอันนี้เป็นกระทู้แรกที่เขียน ถ้าผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องตรงไหนให้อภัยกันด้วยนะคะ 555 เหตุที่เราเขียนกระทู้นี้เนื่องจากว่าเราต้องเดินทางไปที่เมืองเกิ่นเทอ ทางใต้ของประเทศเวียดนาม แล้วตอนหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเดินทางไปที่นั่นส่วนมากที่เจอจะเหมารถกันไป การเหมารถไปนั้นสะดวกมากๆ แต่สำหรับนักศึกษาตาดำๆอย่างเรา ต้องประหยัดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ค่ะ
พวกเราเดินทางจากกรุงเทพไปโฮจิมนห์โดยสารการบิน Vietjet ที่เลือกสายการบินนี้ก็เพราะราคาถูกสุดแล้วค่ะ 555 (คนเวียดนามยังเรียกโฮจิมินห์ว่า Saigon อยู่นะคะ เพราะฉะนั้นเวลาเจอคำว่า Saigon ตามสถานีรถบัสก็หมายถึงโฮจิมินห์นั่นแหละค่ะ)
เดินออกมาจากตรงสแกนแล้วจะเจอร้านขายซิมเยอะมากๆ เราเลือกร้านซ้ายสุดเลยค่ะ Data อย่างเดียว 5 GB ราคา 100,000 ด่งค่ะ
จากสนามบิน Tan Son Nhat เข้าไปในเมืองเราเลือกที่จะเดินทางโดยรถเมล์ค่ะ ประหยัดอีกแล้ว อิอิ (เราเลือกที่พักแถวฟามงูเหลานะคะเพราะเห็นว่าสะดวกดี) เดินออกมามองไปทางขวาจะเจอเลยค่ะ หาง่ายมากๆ มีสาย 152 ราคาน่าจะประมาณ 5,000 ด่ง กับกระเป๋าใบละ 5,000 แต่ตอนเราไปมีแต่สาย 109 ค่ะ ราคา 20,000 ด่งรวมกระเป๋าแล้ว รถใหม่มากๆค่ะ
วันนี้เราจะเดินทางไปยังเมือง Can Tho กันค่ะ
เกิ่นเทอเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4ของประเทศเวียดนามค่ะ (อ้างอิงจาก
http://www.worldatlas.com/articles/the-biggest-cities-in-vietnam.html ) และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นเมืองนี้อาจยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่ตอนที่เราไปเราเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่เยอะพอสมควรเลยค่ะ
เนื่องจากเราพักที่ฟามงูเหลา เราจึงเดินไปที่สถานีรถบัส Ben Thanh ค่ะรอรถเมล์สาย 2 ไปที่สถานีรถบัส Mien Tay อารมณ์ประมาณสายใต้

ถ้ารอถูกป้ายมองไปทาง Bitexco ก็จะได้มุมนี้เลยค่ะ

ค่ารถคนละ 5,000 ด่งค่ะ ใครมีกระเป๋าก็ต้องจ่ายค่ากระเป๋าอีก 5,000 ด่งค่ะ นั่งไปไม่ต้องกังวลว่าจะเลยป้ายนะคะ เพราะว่ามันสุดสายที่ Mien Tay พอดี
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสถานีรถบัส Mien Tay แล้ว !!
เราเลือกของบริษัท Phuong Trang เพราะเห็นรีวิวมาอันนี้โอเคสุด ราคาคนละ 100,000 ค่ะ รถออกทุกๆชั่วโมง หรือใครจะไปที่ไหนก็เล็งๆไว้ได้เลยค่ะ

บริษัท Phuong Trang จะมีที่รอรถเป็นของตัวเองนะคะ อารมณ์นครชัยแอร์บ้านเรา 555 คือเข้ามาข้างในแล้วให้มองหาสีส้มๆไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะเราไปนั่งรอผิดที่ เกือบตกรถแล้ว พวกคุณป้าที่ขายของก็พยายามบอกเราแล้วว่าให้ไปตรงนู้นๆๆ แต่ป้าพูดเป็นภาษาเวียดนามหนูฟังไม่ออก T^T
อันนี้คือที่เราไปนั่งรอค่ะ อย่าเผลอตัวไปนั่งรอในนี้นะคะ รถออก 11:30 มองนาฬิกา 11:27 แล้วรถก็ยังไม่มา ที่ไหนได้ รอผิดที่ !!

ที่รอรถจริงๆถ้าจากในรูปจะอยู่ทางขวาค่ะ เดินไปให้สุดเลย จะเห็นรถสีส้มๆจอดเยอะมากๆ หาไม่ยากค่ะ
จากโฮจิมนห์เดินทางไปเกิ่นเทอใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าเกือบ 4 ชั่วโมงค่ะ แต่ก่อนเนี่ยต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงเลย แต่ว่าภายหลังได้มีการสร้างสะพานหลายแห่งทำให้สามารถช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางได้ 2 ชั่วโมงเลยค่ะ
เดินทางประมาณ 2 รถก็จะจอดให้พักกันก่อนค่ะ มีห้องน้ำ มีอาหารขาย ให้เวลาประมาณ 15 นาที แต่อย่าลืมถามคนขับอีกรอบเพื่อความชัวร์นะคะ เดี๋ยวตกรถ ฮ่าๆ
หลังจากนั้นก็เดินทางต่ออีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็จะถึงเกิ่นเทอแล้วค่ะ
พอถึงสถานีรถบัสของบริษัท Phuong Trang ก็จะมีรถตู้ไปส่งในเมืองไว้บริการค่ะ ดีมากๆ แค่ยื่นให้เค้าดูว่าเราพักที่ไหน หรือว่าจะไปไหน เค้าก็จะไปส่งเราถึงที่แบบไม่ต้องเสียตังเพิ่มแล้วค่ะ
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงเกิ่นเทอแล้วว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่หรือว่ากำลังจะเดินทางไปที่เมืองนี้นะคะ
เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมเรื่องที่เที่ยวว่าเราไปไหนมาบ้างน้าา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
กินลมชมตลาดน้ำที่เกิ่นเทอ ( Can Tho ) เมืองดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
พวกเราเดินทางจากกรุงเทพไปโฮจิมนห์โดยสารการบิน Vietjet ที่เลือกสายการบินนี้ก็เพราะราคาถูกสุดแล้วค่ะ 555 (คนเวียดนามยังเรียกโฮจิมินห์ว่า Saigon อยู่นะคะ เพราะฉะนั้นเวลาเจอคำว่า Saigon ตามสถานีรถบัสก็หมายถึงโฮจิมินห์นั่นแหละค่ะ)
เดินออกมาจากตรงสแกนแล้วจะเจอร้านขายซิมเยอะมากๆ เราเลือกร้านซ้ายสุดเลยค่ะ Data อย่างเดียว 5 GB ราคา 100,000 ด่งค่ะ
จากสนามบิน Tan Son Nhat เข้าไปในเมืองเราเลือกที่จะเดินทางโดยรถเมล์ค่ะ ประหยัดอีกแล้ว อิอิ (เราเลือกที่พักแถวฟามงูเหลานะคะเพราะเห็นว่าสะดวกดี) เดินออกมามองไปทางขวาจะเจอเลยค่ะ หาง่ายมากๆ มีสาย 152 ราคาน่าจะประมาณ 5,000 ด่ง กับกระเป๋าใบละ 5,000 แต่ตอนเราไปมีแต่สาย 109 ค่ะ ราคา 20,000 ด่งรวมกระเป๋าแล้ว รถใหม่มากๆค่ะ
วันนี้เราจะเดินทางไปยังเมือง Can Tho กันค่ะ
เกิ่นเทอเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4ของประเทศเวียดนามค่ะ (อ้างอิงจาก http://www.worldatlas.com/articles/the-biggest-cities-in-vietnam.html ) และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นเมืองนี้อาจยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่ตอนที่เราไปเราเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่เยอะพอสมควรเลยค่ะ
เนื่องจากเราพักที่ฟามงูเหลา เราจึงเดินไปที่สถานีรถบัส Ben Thanh ค่ะรอรถเมล์สาย 2 ไปที่สถานีรถบัส Mien Tay อารมณ์ประมาณสายใต้
ถ้ารอถูกป้ายมองไปทาง Bitexco ก็จะได้มุมนี้เลยค่ะ
ค่ารถคนละ 5,000 ด่งค่ะ ใครมีกระเป๋าก็ต้องจ่ายค่ากระเป๋าอีก 5,000 ด่งค่ะ นั่งไปไม่ต้องกังวลว่าจะเลยป้ายนะคะ เพราะว่ามันสุดสายที่ Mien Tay พอดี
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสถานีรถบัส Mien Tay แล้ว !!
เราเลือกของบริษัท Phuong Trang เพราะเห็นรีวิวมาอันนี้โอเคสุด ราคาคนละ 100,000 ค่ะ รถออกทุกๆชั่วโมง หรือใครจะไปที่ไหนก็เล็งๆไว้ได้เลยค่ะ
บริษัท Phuong Trang จะมีที่รอรถเป็นของตัวเองนะคะ อารมณ์นครชัยแอร์บ้านเรา 555 คือเข้ามาข้างในแล้วให้มองหาสีส้มๆไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะเราไปนั่งรอผิดที่ เกือบตกรถแล้ว พวกคุณป้าที่ขายของก็พยายามบอกเราแล้วว่าให้ไปตรงนู้นๆๆ แต่ป้าพูดเป็นภาษาเวียดนามหนูฟังไม่ออก T^T
อันนี้คือที่เราไปนั่งรอค่ะ อย่าเผลอตัวไปนั่งรอในนี้นะคะ รถออก 11:30 มองนาฬิกา 11:27 แล้วรถก็ยังไม่มา ที่ไหนได้ รอผิดที่ !!
ที่รอรถจริงๆถ้าจากในรูปจะอยู่ทางขวาค่ะ เดินไปให้สุดเลย จะเห็นรถสีส้มๆจอดเยอะมากๆ หาไม่ยากค่ะ
จากโฮจิมนห์เดินทางไปเกิ่นเทอใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าเกือบ 4 ชั่วโมงค่ะ แต่ก่อนเนี่ยต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงเลย แต่ว่าภายหลังได้มีการสร้างสะพานหลายแห่งทำให้สามารถช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางได้ 2 ชั่วโมงเลยค่ะ
เดินทางประมาณ 2 รถก็จะจอดให้พักกันก่อนค่ะ มีห้องน้ำ มีอาหารขาย ให้เวลาประมาณ 15 นาที แต่อย่าลืมถามคนขับอีกรอบเพื่อความชัวร์นะคะ เดี๋ยวตกรถ ฮ่าๆ
หลังจากนั้นก็เดินทางต่ออีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็จะถึงเกิ่นเทอแล้วค่ะ
พอถึงสถานีรถบัสของบริษัท Phuong Trang ก็จะมีรถตู้ไปส่งในเมืองไว้บริการค่ะ ดีมากๆ แค่ยื่นให้เค้าดูว่าเราพักที่ไหน หรือว่าจะไปไหน เค้าก็จะไปส่งเราถึงที่แบบไม่ต้องเสียตังเพิ่มแล้วค่ะ
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงเกิ่นเทอแล้วว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่หรือว่ากำลังจะเดินทางไปที่เมืองนี้นะคะ
เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมเรื่องที่เที่ยวว่าเราไปไหนมาบ้างน้าา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ