ข้อคำปรึกษาปัญหาครอบครัวครับ

กระทู้คำถาม
สวัสดีครับทุกคน ที่ผมตั้งกระทู้ในวันนี้เพราะต้องการระบายเรื่องในใจให้ทุกคนฟัง และต้องการทางออกของปัญหาที่ผมกำลังเจออยู่ครับ อาจจะยาวสักหน่อยหนึ่งแต่อยากให้ทุกคนอื่นให้จบก่อนนะครับ ถ้าอ่านจบแล้วผมอาจจะถูกบางคนวิจารณ์หนักๆ ก็ได้
เข้าเรื่องเลยนะครับ เริ่มจากเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว วันหนึ่งพ่อของผมจู่ๆ ก็ออกจากบ้านไปแล้วก็ไม่ได้ลับมาอีกเป็นเดือนๆ แม่ของผมก็บอกว่าพ่อเป็นหนีเจ้าหนี้อยู่ ผมก็พยายามหายอดหนี้มาก็พบว่าหลายแสนอยู่ น่าจะเกินครึ่งล้าน ซึ่งพ่อผมเป็นคนที่ติดการพนันซึ่งทุกคนในบ้านก็รู้ ช่วงแรกๆ ที่เค้าหายไปก็มีคนเข้ามาข่มขู่ที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้ครอบครัวของป้าผมเดือดร้อนไปด้วย(ลืมบอกนะครับ ครอบครัวของผม พ่อ แม่ น้อง กับผมอาศัยอยู่กับครอบครัวของป้าผม) ส่วนพ่อผมนั้นก็ยังติดต่อเข้ามาบ้าง และเราก็มีเอกันบ้างนานๆ ครั้ง
หลังจากนั้นตอนน้องผมก็ขึ้น ม.ปลาย เค้าก็เริ่มเกเร เริ่มโกหกที่บ้านเพื่อที่จากออกไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อน พอนานๆ เข้าที่บ้านก็จับได้ว่าโกหก แล้วก็เริ่มไม่ค่อยไว้ใจน้องผม สุดท้ายมีอยู่วันหนึ่งน้องผมก็ไปคบกับคนติดยาคนหนึ่ง ที่บ้านก็ถึงขั้นแตกหัก จึงให้แม่ผมพาน้องกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด
สองปีจากนั้นน้องผมก็กลับมาที่บ้านพร้อมแม่ เพราะทุกคนอยากให้ได้เรียนมหาวิทยาลัยในเมือง เรียนไปได้ปีกว่าๆ ก็ถูกรีไทร์ พี่ของผมก็โกรธมาก(ลูกของป้าอายุเยอะกว่าผมประมาณ 20 ปี) ก็เลยบอกให้น้องช่วยงานที่บ้านแทน แต่น้องของผมก็ไม่ได้ช่วยงานที่บ้านเลย จนถึงวันหนึ่งเค้าก็เริ่มทนไม่ได้ เลยพูดว่าถ้าไม่ช่วยอะไรที่บ้านออกไปหาที่อื่นอยู่ หรือไปหางานทำซะ เค้าจะไม่ยุ่งอะไรด้วยแล้ว น้องผมสุดท้ายก็ออกไปหางานทำ
แม่ผมรู้สึกอึดอัดใจ จึงพยายามบอกให้ผมเก็บเงินซื้อบ้านของตัวเอง เพื่อย้ายออกไปอยู่เอง ซึ่งผมก็บอกว่ายังไม่ได้ ยังเรียนไม่จบเลย แล้วถ้ารีบซื้อก็มีหนี้โกนโตอยู่แล้วจะจ่ายยังไง
หลังจากน้องทำงานไปสักพักหนึ่ง น้องผมก็จะย้ายออกไปอยู่หอข้างนอก ซึ่งผมก็ค้าน เพราะน้องจะไปอยู่ไกลมาก แต่ยังทำงานอยู่แถวบ้าน แล้วก็เริ่มมีพวกบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต หลายเจ้าส่งมาที่บ้านผม 4-5 ใบ ซึ่งเป็นชื่อน้องผมทั้งหมด บางสัปดาห์น้องผมก็กลับมาเอาจดหมาย ผมก็บอกกับน้องตลอดว่าอย่าใช้บัตรพวกนั้น ถ้าไปจำเป็นอย่าใช้นะ บอกทุกวัน
ตัดกลับมาที่เรื่องของผมบ้าง วันหนึ่งมีคนเข้ามาที่บ้านตอนกลางคืน ประมาณ 3 ทุ่ม เขาเข้ามาพูดว่าพ่อผมเอาเงินของเค้าไปเพราะให้ช่วยทำบัตรอะไรสักอย่างให้ แล้วหลายเดือนแล้วก็ยังไม่ได้บัตรเลย เค้ายื่นสำเนาบัตรปชช.ของพ่อผมมา ผมเองก็สับสนเพราะ งงว่า นี่มันเรื่องอะไรกัน วิน มอเตอร์ไซต์ที่ขับรถผ่านมาก็บอกกับชายคนนั้นว่านี่แหละบ้านที่พี่หา นั่นลูกชายเค้า ทีนี้ชายคนนั้นก็พยายามเค้นถามว่าผมติดต่อพ่อผมอยู่รึเปล่า อะไรยังไง ตอนแรกผมก็เอะใจเพราะว่าเมื่อตนเช้า พ่อผมก็ใช้เบอร์เหมือนเบอร์ตู้โทรมา สุดท้ายเบอร์พ่อผมก็ติดต่อไม่ได้(เค้าปิดเครื่อง) ชายคนนั้นก็เลยพยายามเอาเบอร์ผมไป แล้วก็เช็คว่าผมให้เบอร์คนอื่นรึเปล่า
ผมพยายามติดต่อพ่ออีกครั้งแล้วก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อผมก็บอกว่าไม่ให้ผมยุ่งกับเรื่องนี้ ซึ่งผมเองก็ไม่อยากยุ่งแต่คนที่มาเมื่อคืนก็โทรเข้ามาตลอด ทั้งให้คนอื่นแอดไลน์เข้ามาแล้วก็ถาม จนผมอยากจะเปลี่ยนเบอร์ทิ้งแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะว่าเบอร์ผม ผมใช้งานเยอะ ทั้งติดต่องาน ทั้งรหัสแอคเคาท์ต่างๆ จนแล้วจนรอด เรื่องก็เงียบไปเป็นเดือน พ่อผมก็ติดต่อกลับมาบอกว่าเค้าจัดการปัญหาไปแล้ว ผมก็บอกว่าอย่าไปทำแบบนี้อีก เพราะคนที่บ้านเดือดร้อน ผมกับแม่ และป้าผม พยายามปิดเรื่องนี้ไม่ให้พี่ผมรู้ เพราะเวลาเค้าโกรธก็เหมือนขาดสติมาก
เมื่อปลายปีที่แล้วผมก็เปลี่ยนงาน มาทำงานกับคนรู้จักที่ต่างจังหวัด มาได้แค่เดือนเดียวแม่ก็บอกว่าน้องผมท้อง... คุยไปคุยมา แม่ของผมก็วกเข้ามาเรื่องซื้อบ้านอีก ส่วนน้องผม ผมก็บอกว่าให้แต่งงานซะ เพราะฝ่ายชายก็ไม่ได้หนีหายไปไหน เป็นคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับที่บ้านแม่ในตจว. น้องผมก็ต้องออกจากงาน แต่ช่วงแรกก็ยังไม่ได้กลับบ้าน น้องผมไปเปิดห้องเช้าห้องใหม่เพื่อที่จะให้พ่อผมอยู่ แล้วน้องก็อยู่ด้วยบ้าง จนท้องแก่ก็กลับไปตจว. เพราะจะไปแต่งงาน สุดท้ายน้องผมคลอดก็อยู่ที่ต่างจังหวัด คลอดมาเดือนนึงแล้ว
แต่เรื่องยังไม่จบ เมื่อตอนเดือน 3 พ่อผมไม่ได้จ่ายค่าเช่าห้องทำให้ถูกล็อคห้อง ผมก็พยายามให้พ่อให้แล้วก็บอกให้เค้าปิดห้องแล้วย้ายไปห้องที่ถูกกว่านี้ ห้องที่เค้าอยู่ตกเดือนละ 6000 พัน แพงกว่าห้องผม 2 เท่า เค้าก็สัญญาว่าจะห้องที่พักใหม่ ตอนแรกก็คิดว่าจะให้พ่อมาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่สะดวกจริงๆ เพราะผมนอนที่ห้องบ้าง นอนที่บ้านรุ่นพี่ที่ชวนมาทำงานบ้าง (เหตุผลที่มาทำงานด้วยเพราะ เค้าต้องการรันธุรกิจให้ใหม่ แล้วผมเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะมาศึกษาการทำธุรกิจจึงมา) จึงทำงานต่อที่บ้านเค้า จะไปๆ มาๆ บางสัปดาห์ก็แทบไม่ได้อยู่ห้องเลย และผมจะกลับ กทม. ทุก 2 อาทิตย์ครั้ง
จนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา น้องผมก็โทรมาบอกว่าพ่อผมโดนล็อคห้องอีกแล้ว แล้วตอนนี้ก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ผมก็โทรคุยกัน เค้าก็ว่าไม่ต้องห่วงเรื่องของเค้า และวันศุกร์เค้าก็โทรมาขอเงินใช้ เหมือนปกติ ตอนเที่ยงบอกว่าแบตมือถือจะหมดแล้วเดี๋ยวต้องหาที่ชาร์ตแบตก่อน ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนเย็นผมกำลังจะกินข้าว ญาติผมโทรมาบอกว่ามีคนโทรเข้ามาหาเค้าหลายสายมาก บอกว่าพ่อผมเอาเงินพวกเขาไป บอกว่าจะเอาไปทำเรื่องเอกสารให้ ผมปวดหัวมาก โทรไปคุยกับป้าผมก็ให้บอกปัดไป แต่ผมคิดว่ามันผิด เหมือนกับว่าพ่อผมก็ทำให้เค้าเดือดร้อน แต่ผมก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง พอคุยกับแม่ แม่ก็โกรธมาก คุยไปคุยมาก็วกเข้าเรื่องบ้าน บอกให้ผมซ้อบ้านแล้วย้ายออกไปอยู่หนีปัญหาไป ผมเครียดหนักขึ้นอีก สุดท้ายพอญาติผมโทรกลับมาเค้าถามว่าจะทำยังไงดี ถ้าคนโน้นโทรกลับมาจะบอกว่าลูกชายเค้ากำลังตามเรื่องให้อยู่นะ สรุปก็คือเอาเข้ามาผมอีกแล้ว ญาติผมพูดว่าพ่อผมมาขอให้เค้าหางานให้ เพราะบอกว่าจะเอาไปให้น้อง แต่น้องผมก็เล่าว่าเค้าไม่ได้เอาเงินมาจากพ่อเลย มีแต่พ่อมาขอไปตลอด ตอนนี้ผมมืดแปดด้านมากไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดี
พอเครียดหนักๆ ผมก็คุยกับเพื่อนผม เล่าเรื่องให้ฟัง แล้วก็ผมก็พูด เหมือนที่พูดกับแม่หลายครั้ง คือถ้ามีเงินก้อน จะเอาเงินไปทำธุรกิจก่อน คิดโมเดลธุรกิจเอาไว้แล้ว จากนั้นก็เอาเงินมาขยายธุรกิจ แล้วค่อยซื้อรถซื้อบ้านตามมา แต่ตอนนี้ยังไม่มีทุนก็พยายามเก็บเงินอยู่ แต่เก็บไม่ได้ เพราะมีเรื่องต้องเข้ามาแก้ตลอด เงินก็หายออกหมด
สุดท้ายเช้านี้ผมมาทำงานก่อนมาก็พยายามโทรหาพ่อ จะถามว่าเรื่องราวเป็นยังไง เอาเงินเค้ามาจริงมั้ย ก็ติดต่อไม่ได้ จนญาติโทรมาสองสามที่ยวเมื่อเช้า พูดว่าผมต้องติดต่อพ่อให้ได้ ทำเอาตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ทำงานแล้วครับ ผมไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาข้างหน้านี้ยังไง ใครมีคำแนะนำอะไรดีๆ ช่วยบอกผมด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่