คืองี้ จขกท มีเพื่อนหลายคน เคยมาชวนขายแบบนี้แหละ ทั้ง A , S , U มาครบเลย
บางคน สมัยก่อน ราวๆ 10 ปีที่แล้ว ก็ชวนไปห้องเลย บอกว่าจะอธิบายให้ฟัง ไอ้เราก็ถามว่า ยี่ห้อ A หรือเปล่า ก็บอกว่าไม่ใช่ขายตรง ฯลฯ แต่เมื่อถึงห้อง ก็เขียนๆ passive income , active income และก็ตอบเฉลยมาว่า ก็ A นั่นแหละ ตอนนี้เค้ามีลูกมีผัวแล้ว ก็ไม่ได้ทำแล้ว (จขกท เข้าใจเอาเองว่า ตอนนั้นเค้าเพิ่งบรรจุเข้ารับราชการ C3 และยุคนั้นยังไม่ปรับเงินเดือน และยังไม่มีแฟน เงินเลยตึงตัว ต้องมาหาเพิ่มทางนี้ แต่ตอนนี้คงสบายขึ้นเยอะแล้ว)
อีกคู่นึง เป็นแฟนกัน ชวนกันมาทำด้วยกัน (U) เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เค้าก็มาหาถึงบ้าน ถามว่า จขกท มีเป้าหมายชีวิตอย่างไร ยังไง และเช่นเคย passive/active income โดยที่ฝ่ายหญิงเค้าบอกว่า อีกไม่เกิน 5 ปีเค้าจะเกษียณละ ไม่ต้องทำงานละ
มาตอนนี้ 5 ปีผ่านไป เลิกกันแล้ว และทั้งคู่กลับมาทำงานเดิมที่ไม่ใช่แนะนำสินค้าแล้ว (สรุปคือ ยังไม่เกษียณ)
คนนี้ล่าสุด จริงๆรู้จักกันมา 4-5 ปี ก็เป็นเฟรนด์ในเฟส เค้ามีไลน์ จขกท ด้วย ไม่ว่ากัน
วันนึงโทรมาถามว่า ถ้าหนูมีข้อเสนอให้โดยประกันรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละแสน พี่จะตกลงมั้ยคะ จขกท ก็ไม่สนอะนะ ไม่ใช่ทาง ก็ไม่อยากเสียเพื่อน ก็อ้อมๆไม่เอา ฯลฯ
โทรมาถามแบบนี้ 3 ครั้งแล้วหายไป
มาตอนนี้ ส่งไลน์มาทักทาย ทุกๆ 7 โมงเช้า +- ที่ จขกท ยังไม่ตื่น ต้องสะดุ้งทุกที ตอนนี้ก็ปิดเสียงไลน์คนนี้เอา ไม่บล๊อกอะไรหรอกนะ แต่ก็ไม่รู้เค้ามีเจตนาอะไรหรือเปล่า หรือแค่ทักทาย
เลยอยากบอกจริงๆว่า คนที่เคยอยู่วงการนี้ และชักชวนเพื่อนด้วยสารพัดวิธี ....
ถ้าตอนนี้ คุณเลิกทำแล้ว ไม่ได้อยู่ในวงการขายตรง MLM อะไรแล้ว คุณคงต้องใข้เวลาพอสมควร กว่าที่เพื่อนๆที่คุณพยายามหว่านล้อมทุกวิธีการ ให้มาเจอคุณ ฟังคุณ หรือซื้อของๆคุณด้วยคำว่าเพื่อน ช่วยเพื่อน (ด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม)
แต่เชื่อเถอะ เพื่อนๆของคุณ สูญเสียความไว้ใจไปแล้ว หากคุณติดต่อไป เค้าจะคิดแล้วว่า คุณจะมาไม้ไหน จะขายอะไรหรือเปล่า ควรเจอคุณมั้ย ฯลฯ
บางคนก็สามารถทำให้เพื่อนกลับมาเชื่อใจได้ แต่ต้องใช้เวลา แต่บางคน อาจจะเสียเพื่อนไปเลยจริงๆ เพราะเพื่อนไม่เชื่อใจอีกแล้ว
ใครที่กำลังจะเข้าวงการ ถ้สจะขายอะไรแบบนี้ให้เพื่อน คิดดีๆว่า อนาคต เราจะต้องการเพื่อนคนนี้มั้ย เราจะเสียเพื่อนหรือเปล่า ฯลฯ แล้วใช้วิธีให้ถูกต้องเหมาะสมตามจรรยาบรรณนักขาย
ตอนนี้ จขกท ยังไม่ไว้ใจเพื่อน ทั้ง 3 เคสที่ว่าเลยเนี่ย
คนสุดท้ายนี่หนักสุด
อยากบอกคนที่เคยชวนเพื่อนขายตรง แม้ตอนนี้บางคนเลิกแล้ว แค่เพื่อนๆก็คงไม่ไว้ใจ 100% ล่ะนะ
บางคน สมัยก่อน ราวๆ 10 ปีที่แล้ว ก็ชวนไปห้องเลย บอกว่าจะอธิบายให้ฟัง ไอ้เราก็ถามว่า ยี่ห้อ A หรือเปล่า ก็บอกว่าไม่ใช่ขายตรง ฯลฯ แต่เมื่อถึงห้อง ก็เขียนๆ passive income , active income และก็ตอบเฉลยมาว่า ก็ A นั่นแหละ ตอนนี้เค้ามีลูกมีผัวแล้ว ก็ไม่ได้ทำแล้ว (จขกท เข้าใจเอาเองว่า ตอนนั้นเค้าเพิ่งบรรจุเข้ารับราชการ C3 และยุคนั้นยังไม่ปรับเงินเดือน และยังไม่มีแฟน เงินเลยตึงตัว ต้องมาหาเพิ่มทางนี้ แต่ตอนนี้คงสบายขึ้นเยอะแล้ว)
อีกคู่นึง เป็นแฟนกัน ชวนกันมาทำด้วยกัน (U) เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เค้าก็มาหาถึงบ้าน ถามว่า จขกท มีเป้าหมายชีวิตอย่างไร ยังไง และเช่นเคย passive/active income โดยที่ฝ่ายหญิงเค้าบอกว่า อีกไม่เกิน 5 ปีเค้าจะเกษียณละ ไม่ต้องทำงานละ
มาตอนนี้ 5 ปีผ่านไป เลิกกันแล้ว และทั้งคู่กลับมาทำงานเดิมที่ไม่ใช่แนะนำสินค้าแล้ว (สรุปคือ ยังไม่เกษียณ)
คนนี้ล่าสุด จริงๆรู้จักกันมา 4-5 ปี ก็เป็นเฟรนด์ในเฟส เค้ามีไลน์ จขกท ด้วย ไม่ว่ากัน
วันนึงโทรมาถามว่า ถ้าหนูมีข้อเสนอให้โดยประกันรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละแสน พี่จะตกลงมั้ยคะ จขกท ก็ไม่สนอะนะ ไม่ใช่ทาง ก็ไม่อยากเสียเพื่อน ก็อ้อมๆไม่เอา ฯลฯ
โทรมาถามแบบนี้ 3 ครั้งแล้วหายไป
มาตอนนี้ ส่งไลน์มาทักทาย ทุกๆ 7 โมงเช้า +- ที่ จขกท ยังไม่ตื่น ต้องสะดุ้งทุกที ตอนนี้ก็ปิดเสียงไลน์คนนี้เอา ไม่บล๊อกอะไรหรอกนะ แต่ก็ไม่รู้เค้ามีเจตนาอะไรหรือเปล่า หรือแค่ทักทาย
เลยอยากบอกจริงๆว่า คนที่เคยอยู่วงการนี้ และชักชวนเพื่อนด้วยสารพัดวิธี ....
ถ้าตอนนี้ คุณเลิกทำแล้ว ไม่ได้อยู่ในวงการขายตรง MLM อะไรแล้ว คุณคงต้องใข้เวลาพอสมควร กว่าที่เพื่อนๆที่คุณพยายามหว่านล้อมทุกวิธีการ ให้มาเจอคุณ ฟังคุณ หรือซื้อของๆคุณด้วยคำว่าเพื่อน ช่วยเพื่อน (ด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม)
แต่เชื่อเถอะ เพื่อนๆของคุณ สูญเสียความไว้ใจไปแล้ว หากคุณติดต่อไป เค้าจะคิดแล้วว่า คุณจะมาไม้ไหน จะขายอะไรหรือเปล่า ควรเจอคุณมั้ย ฯลฯ
บางคนก็สามารถทำให้เพื่อนกลับมาเชื่อใจได้ แต่ต้องใช้เวลา แต่บางคน อาจจะเสียเพื่อนไปเลยจริงๆ เพราะเพื่อนไม่เชื่อใจอีกแล้ว
ใครที่กำลังจะเข้าวงการ ถ้สจะขายอะไรแบบนี้ให้เพื่อน คิดดีๆว่า อนาคต เราจะต้องการเพื่อนคนนี้มั้ย เราจะเสียเพื่อนหรือเปล่า ฯลฯ แล้วใช้วิธีให้ถูกต้องเหมาะสมตามจรรยาบรรณนักขาย
ตอนนี้ จขกท ยังไม่ไว้ใจเพื่อน ทั้ง 3 เคสที่ว่าเลยเนี่ย
คนสุดท้ายนี่หนักสุด