(Review) FROM THE LAND OF THE MOON (2016) - จากนิยายคลาสสิคสู่ภาพยนตร์เมืองคานส์ & รักสามเส้าอันปวดใจของมาริยง

[SR] (Review) FROM THE LAND OF THE MOON (2016) - จากนิยายคลาสสิคสู่ภาพยนตร์เมืองคานส์ & รักสามเส้าอันปวดใจของมาริยง

กระทู้รีวิว

From the Land of the Moon (ภาพยนตร์) ภาพยนตร์ชีวิต เทศกาลหนัง ภาพยนตร์รัก ภาพยนตร์ต่างประเทศ

FROM THE LAND OF THE MOON : Mal De Pierres (FRANCE)

" สุดท้ายแล้วคนที่ห่วงใยที่สุด ก็คือ คนที่อยู่ข้างๆเสมอมา "

From the land of the moon ภาพยนตร์ฝรั่งเศสที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับรักสามเส้าของกาบริแอล โจเซ่และซาเวจ เมื่อกาบริแอล ลูกสาวเจ้าของฟาร์มดอกไม้ ถูกคลุมถุงชนจับแต่งงานกับโจเซ่ หนุ่มก่อสร้าง ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ท่ามกลางความเบื่อหน่ายในชีวิตคู่ กาบริแอลก็ได้พบกับซาเวจ ชายหนุ่มทหารผ่านศึกที่ป่วยหนัก กาบริแอลรู้สึกหลงรักในตัวซาเวจ ทั้งคู่ได้พัฒนาความสัมพันธ์และกาบริแอลเองก็ต้องการที่จะไปอยู่กับซาเวจ ทั้งๆที่ตัวกาบริแอลได้แต่งงานกับโจเซ่แล้วและโจเซ่เองก็แอบหลงรักกาบริแอลอยู่ลึกๆเช่นกัน

เข้มข้น ตึงเครียดแต่ทรงพลัง

From the land of the moon ได้รับการการันตีคุณภาพ Cannes Film Festival 2016 ตัวหนังถือว่าเป็นหนังที่ดูยากพอสมควร เพราะว่า ในหนังมีการใช้ Symbolic แฝงอยู่ในเรื่องเยอะ แล้วหนังก็มีกลิ่นอายสไตล์หนังรางวัลแบบยุโรปแฝงอยู่ ทำให้เป็นหนังที่มีนามธรรมแฝง Real เนื้อเรื่องไม่หวือหวาแบบสไตล์หนังฟากฮอลลีวูด หนังมีชั้นเชิงในการเล่าที่อาจจะเข้าใจยาก สไตล์กล้องค่อยๆแพนอย่างช้าๆ เพื่อให้ผู้ชมได้ซึมซับกับบรรยากาศเสมือนอยู่ในสถานที่จริง ประเทศฝรั่งเศสในช่วงต้นสงครามเย็น ทุ่งนา ท้องไร่และทิวทัศน์เมืองลียง (Lyonnais) อันงดงาม
ส่วนเนื้อหาของหนังนั้น หนักหน่วง ตึงเครียด เข้มข้นตลอดทั้งเรื่อง เพราะ เป็นการเล่นที่อารมณ์โดยตรงของชายหญิงทั้งสามที่มีสายสัมพันธ์แบบรักสามเส้า ทำให้คนดูสะเทือนใจ เจ็บปวดและหดหู่ไปพร้อมกับความทุกข์ทรมาณที่ตัวละครทั้งสามได้รับ

นักแสดงชั้นเยี่ยม วัตถุดิบชั้นเลิศ

ส่วนของนักแสดง ต้องขอบอกว่า Marion Cotillard (Gabrielle) และ Àlex Brendemühl (José) แสดงได้อย่างดีเยี่ยมทั้งแววตา อารมณ์ ท่าทาง ทำให้คนดูต้องสะเทือนความรู้สึกไปตามอารมณ์ของนักแสดง

Marion Cotillard (Gabrielle) แสดงออกมาในมาดของหญิงสาวผู้โหยหาความรัก แต่ขณะเดียวกันเธอก็เป็นโรคประสาทอยู่ด้วย คาแรคเตอร์ของเธอจึงออกมาในรูปของผู้หญิงที่สวยแต่ไม่เต็มและต้องพบเจอกับเรื่องน่าสะเทือนใจ บทแบบนี้ไม่ใช่บทที่นักแสดงจะแสดงออกมาได้ง่ายๆแต่มาริยงก็แสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เธอยังคงความสวยแม้จะอายุมากแล้ว รวมถึงเธอยังลงทุนเปลือยกายแสดงฉากเลิฟซีนจัดเต็ม (ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง อิอิ)

ที่เซอร์ไพร์สมากกว่า คือ การแสดงของ Àlex Brendemühl (José) ที่รับบทของหนุ่มก่อสร้าง ผู้เงียบขรึม แต่ลึกๆแล้วก็หลงรักในตัวของกาบริแอลเสมอ ในการแสดงของ Àlex นั้น ต้องชมว่าแสดงได้เฉียบขาดมาก เพราะ José เป็นตัวละครที่มีบุคคลิกโลกส่วนตัวสูง เก็บอารมณ์ไว้ภายในใจ ทำให้โจเซ่เป็นคนที่พูดน้อยและไม่แสดงสีหน้า ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ใด แต่ Àlex ก็สามารถแสดงอารมณ์แฝงที่อยู่ภายในตัวละครออกมาได้อย่างดีเยี่ยมน่าตกใจและทำให้ผู้ชมคล้อยตามได้ แววตาที่โกรธ เศร้าสร้อย น่าเห็นใจ แต่ไม่แสดงสีหน้าใดๆและเป็นชายที่ไม่เคยได้รับการสนใจจากหญิงที่ตัวเองหลงรักอยู่ลึกๆ ทำให้ Àlex เอาคนดูอยู่หมัด

ในส่วนของ Louis Garrel (André Sauvage) ทหารหนุ่มป่วยหนักก็แสดงได้ดี ดูแล้วก็เหมือนคนขี้โรค ป่วยหนัก มาอยู่บนหน้าจอให้เราดูจริงๆ เพียงแต่ตัวบทไม่ได้ส่งให้ได้ถ่ายทอดอารมณ์มากมายเท่ากับ Marion และ Àlex แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนคุณภาพการแสดงของ Louis Garrel เลย

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ : เรียบ นิ่ง หดหู่ แต่งดงาม

ดนตรีในเรื่องนี้ ทำออกมาได้อย่างดี เพราะ ตัวหนังอยู่ในลักษณะบทที่นิ่งเรียบ แต่แฝงด้วยนามธรรมและความรู้สึก ดนตรีจึงออกมาในโทนเคร่งขรึม บางเวลาก็ออกโทนซับซ้อนและขัดแย้ง เร่งเร้าให้คนดูรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อถึงฉากที่เครียดที่สุด ดนตรีก็สามารถพาให้ผู้ชมดิ่งจมไปพร้อมกับทะเลแห่งความสับสน จมไปพร้อมกับอารมณ์ของนักแสดง

ไฮไลต์ดนตรีของหนังเรื่องนี้ที่ขาดไปไม่ได้ คือ การที่ตัวหนังมีการนำเพลง Juin -- Barcarolle (Les Saisons : 1875-1876) ของ Tchaikovsky มาใส่เอาไว้ในเรื่อง ซึ่งในหนังจะมีหลายฉากที่นำเพลงนี้มาบรรเลง โดยเพลงนี้มีทำนองที่เศร้าสร้อย โดดเดี่ยวและโหยหวนอยู่ลึกๆ ประกอบกับตัวหนังที่เป็นหนังโทนเงียบ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยอารมณ์ อึมครึม เพลงนี้จึงสามารถกระชากอารมณ์คนดูให้สะเทือนใจไปกับตัวละครและยังตรึงอารมณ์ของหนังให้สมบูรณ์ ต่อยคนดูได้เต็มหมัดและยังทำให้คนดูอินไปกับเนื้อเรื่องได้อย่างแนบแน่นยิ่งขึ้น

P.Tchaikovsky - "The Seasons" - No 6 Juin "Barcarolle"

เวลา 120 นาที เราจะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้

ในชีวิตของคนๆหนึ่ง บางเวลาเรามักจะมองไปข้างหน้าอยู่เสมอ โหยหาในสิ่งที่ดีกว่า โดยไม่เคยนึกถึงสิ่งที่อยู่กับเราตลอดมา แม้ว่าสิ่งนั้นอาจจะไม่ดีเท่า อาจดูไม่เข้ากับเรา แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดได้เช่นกัน จนถึงวันที่เราทุกข์ที่สุดและสูญเสียโอกาสที่จะไขว้คว้าสิ่งที่ดีกว่าแล้ว เราถึงมีเวลาย้อนกลับมามองตัวเองอย่างเป็นกลาง

เมื่อนั้นแล้ว เราจะพบว่า

" สิ่งล้ำค่าบางอย่างอยู่ข้างเราเสมอมาตลอด แต่เราไม่เคยเหลียวแล
และบางทีคนที่รักเรา ห่วงใยเราที่สุด ก็คือ คนที่คอยอยู่ข้างๆเราเสมอ "

สรุป

ผมยกให้หนังเรื่องนี้เอาไปเลย 8.5/10 (ตามมาตรฐานผมให้ 8/10 ขึ้นไปก็คือ หนังชั้นดีแล้ว ดังนั้น From the land of the moon คือหนังชั้นเยี่ยมครับ) หนังทำได้อย่างยอดเยี่ยม ผมเทใจให้กับหนังเรื่องนี้หมดใจเลย แต่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์หนังแบบฮอลลีวูดที่จะมีการดำเนินเรื่องฉับไว เนื้อเรื่องหวือหวา กระชับ น่าสนใจ เพราะ FROM THE LAND OF THE MOON เป็นหนังกลิ่นอายยุโรปสไตล์หนังรางวัลนอกกระแส ที่ Real เงียบ ไม่หวือหวา แฝงด้วยความลึกซึ้ง สะท้อนภาพเหมือนชีวิตคนจริงๆที่อยู่บนหน้าจอ เนื้อเรื่องไม่ซ้ำแนวกับเรื่องอื่น สนุกเข้มข้น การันตีคุณภาพจาก Cannes Film Festival 2016 พร้อมด้วยนักแสดงคุณภาพคับกล้องที่จะทำให้คนดูต้องสะเทือนอารมณ์ตาม รวมถึงข้อคิดแฝงในหนังที่จะทำให้เราต้องกลับมาย้อนมองตัวเอง

FROM THE LAND OF THE MOON ควรค่าแก่การดูโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยากจะสัมผัสรักสามเส้ากลิ่นอายฝรั่งเศส อันเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ หนังเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

8.5/10

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
From the land of the moon (Mal De Pierres)
Director: Nicole Garcia
Writers: Milena Agus (based on the novel by), Natalie Carter (collaboration) | 6 more credits »
Stars: Marion Cotillard, Louis Garrel, Alex Brendemühl, Louis Garrel

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของผมนะครับ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ
ป.ล.การรีวิวนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่อยากจะแชร์ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนแนวคิดกันครับ
ป.ล.2 ผมเป็นคนที่ชอบดูหนังชื่นชอบนอกกระแส (มุมมองอาจจะต่างกับบางท่านไปบ้าง ต้องขออภัย)

ป.ล.3.อีกหนึ่งช่องทาง หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุยกันนะครับ

https://www.facebook.com/BENJIREVIEW/