การเดินทางไปเที่ยวรอบโตเกียวครั้งนี้ เป็นการเดินทางครั้งที่ 4 ของเราในการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2016 เริ่มฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งเราได้วางแพลนล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน โดยแผนการเดินทางครั้งนี้ เราจะใช้ Tokyo wide pass ในการท่องเที่ยว 3 วัน ราคา 10,000 เยน บวกกับ การเดินทางด้วยรถใต้ดิน(Subway) สำหรับวันที่เหลือ พร้อมแล้วนับจำนวนผู้ร่วมทริปแล้วไปกันเลย!!!
เริ่มแรกออกเดินทางโดยสายการบิน AirAsiaX มารอ check in ประมาณ 7.30 ก่อนออกเดินทาง 10.40น. เช็คสัมภาระนน.ไม่ให้เกิน ไปแค่ 5 วันพร้อมกับช่วงฤดูกึ่งร้อนกึ่งหนาวเช่นนี้ เสื้อผ้าไม่ต้องขนไปเยอะ ซื้อนน.กระเป๋าขาไป 2 คน รวม 20 Kg. เดินทางกัน 4 ชีวิต ก็รวม นน.40 kg แล้วก็ผ่าน ตม. ขาออกรอขึ้นเครื่อง
ส่วน Pocket wifi เราเช่าจากเมืองไทยชื่อ Giant Pocket Wifi ส่งก่อนวันเดินทาง 1 วัน เช่า 5 วันแต่เค้าคิดราคา แค่ 4 วันเพราะอีกวันอยู่สนามบินซะส่วนใหญ่ ตก 4 คน คนละ 248 บาท คุ้มเว่อร์ ตอนส่งคืนมี messenger มารับกลับที่สนามบินดอนเมือง สะดวก+คุ้มราคามากๆ
ตัดมาบนเครื่องเราซื้ออาหารล่วงหน้าออนไลน์ เราสั่งข้าวไก่เทอริยากิ รสชาดจืดสนิท - -” ต้องขอแบ่งน้ำจิ้มแจ่ว ของข้าวอบไก่ย่างของพี่คนข้างๆ อิอิ นั่งๆนอนๆ 6 ชม. ก็ถึงสนามบินนาริตะ 19.15น. ผ่าน ตม. เปิด Wifi (สัญญานเนตแรงมากค่ะ)
พอเล่นเนตได้ปุ๊บ เราก็เดินลงไปชั้นใต้ดินทันที เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ keisei เข้าที่พักย่าน Ueno และ Tokyo wide pass สำหรับ 4 คน ซึ่งเคาน์เตอร์ Keisei กับ เคาน์เตอร์ JR จะอยู่ตรงข้ามกัน คนต่อคิว JR ยาวมาก ส่วนเคาน์เตอร์ Keisei โล่งมากเลย เราเลือกเข้าเมืองโดย ตั๋ว Keisei Access ประมาณคนละ 1,240 เยน(ถูกสุด) อันนี้รถค่อนข้าง Local จอดทุกสถานี แต่ราคาถูก ขากลับค่อยนั่ง Keisei Skyliner ราคาเเพงขึ้นสบายหน่อยและเร็วกว่า ส่วน Tokyo wide pass เราเริ่มใช้พรุ่งนี้ ก็เลยไม่ได้ใช้ JR นั่งขาเข้าเมือง
นั่งประมาณ 50 นาที ก็ถึงสถานี Keisei Ueno เราพักที่ Kinuya hotel เป็นโรงแรมที่ใกล้มาก ออกจากช่องเสียบตั๋ว แล้วเลี้ยวขวา จะเจอบันไดข้างร้าน Lawsan มองปั๊บเจอโรงเเรมพอดี ^^ มันจะง่ายอะไรงี้ เดินไม่ถึง 20 ก้าว (ดูจากสีหน้าผู้ร่วมทริปยังเฮฮา55)
ด้วยทำเลที่สะดุดตา ค่าพักก็สูงขึ้นเช่นกัน ห้อง Japanese Style พัก 2 คน คิดเป็นเงินไทยคนละ 1,800 บาท ต่อคืน เราพัก 2 คืน ต้องจ่ายเงินตอน Check in และเวลาออกไปข้างนอกต้องฝากกุญแจทุกครั้ง (กุญแจเป็นแบบไข) ขนาดห้องก็ทั่วไปของโรงแรมในเมือง ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำในตัว ไม่รู้สึกคับแคบเกินไป มียูกาตะให้ใส่ พนักงานถึงจะดูดุๆหน่อย แต่ก็ช่วยเหลือเต็มที่นะ
เอาสัมภาระไปเก็บบนห้องแล้ว พักผ่อน ล้างหน้าล้างตา ประมาณ 15 นาที เวลาตอนนี้ 21.45 เราก็นัดกันออกไปหาอะไรกินกันที่ ตลาด Ameyoko ร้าน Isomaru Suisan (ตามGoogle mapไป) ถึงจะดึกแค่ไหนก็มากินได้เพราะร้านเปิด 24 ชม.เป็นเมนูซีฟู้ดราคาไม่แพง เมนูบังคับที่ต้องสั่งก็คือ Kani Miso (มันปูย่างไฟในกระดอง) กินกับข้าวสวยอร่อยมาก เมนูอื่นก็มี หอยเชลล์ หอยตลับ หมึกย่าง ปลาซัมมะ ซาชิมิ กินกัน 4 คนจ่ายไปคนละ 400 กว่าบาทถือว่าไม่แพง กลับที่พัก เริ่มต้นเดินทางต่อพรุ่งนี้ค่ะ
[CR] รีวิวเที่ยวรอบๆโตเกียว ตุลาคม 2016 ตอนที่ 1 : นอน Kinuya hotel ,ปั่นจักรยานที่ Karuizawa ,ทานบุฟเฟ่ปูที่ Tokyo station
เริ่มแรกออกเดินทางโดยสายการบิน AirAsiaX มารอ check in ประมาณ 7.30 ก่อนออกเดินทาง 10.40น. เช็คสัมภาระนน.ไม่ให้เกิน ไปแค่ 5 วันพร้อมกับช่วงฤดูกึ่งร้อนกึ่งหนาวเช่นนี้ เสื้อผ้าไม่ต้องขนไปเยอะ ซื้อนน.กระเป๋าขาไป 2 คน รวม 20 Kg. เดินทางกัน 4 ชีวิต ก็รวม นน.40 kg แล้วก็ผ่าน ตม. ขาออกรอขึ้นเครื่อง
ส่วน Pocket wifi เราเช่าจากเมืองไทยชื่อ Giant Pocket Wifi ส่งก่อนวันเดินทาง 1 วัน เช่า 5 วันแต่เค้าคิดราคา แค่ 4 วันเพราะอีกวันอยู่สนามบินซะส่วนใหญ่ ตก 4 คน คนละ 248 บาท คุ้มเว่อร์ ตอนส่งคืนมี messenger มารับกลับที่สนามบินดอนเมือง สะดวก+คุ้มราคามากๆ
ตัดมาบนเครื่องเราซื้ออาหารล่วงหน้าออนไลน์ เราสั่งข้าวไก่เทอริยากิ รสชาดจืดสนิท - -” ต้องขอแบ่งน้ำจิ้มแจ่ว ของข้าวอบไก่ย่างของพี่คนข้างๆ อิอิ นั่งๆนอนๆ 6 ชม. ก็ถึงสนามบินนาริตะ 19.15น. ผ่าน ตม. เปิด Wifi (สัญญานเนตแรงมากค่ะ)
พอเล่นเนตได้ปุ๊บ เราก็เดินลงไปชั้นใต้ดินทันที เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ keisei เข้าที่พักย่าน Ueno และ Tokyo wide pass สำหรับ 4 คน ซึ่งเคาน์เตอร์ Keisei กับ เคาน์เตอร์ JR จะอยู่ตรงข้ามกัน คนต่อคิว JR ยาวมาก ส่วนเคาน์เตอร์ Keisei โล่งมากเลย เราเลือกเข้าเมืองโดย ตั๋ว Keisei Access ประมาณคนละ 1,240 เยน(ถูกสุด) อันนี้รถค่อนข้าง Local จอดทุกสถานี แต่ราคาถูก ขากลับค่อยนั่ง Keisei Skyliner ราคาเเพงขึ้นสบายหน่อยและเร็วกว่า ส่วน Tokyo wide pass เราเริ่มใช้พรุ่งนี้ ก็เลยไม่ได้ใช้ JR นั่งขาเข้าเมือง
นั่งประมาณ 50 นาที ก็ถึงสถานี Keisei Ueno เราพักที่ Kinuya hotel เป็นโรงแรมที่ใกล้มาก ออกจากช่องเสียบตั๋ว แล้วเลี้ยวขวา จะเจอบันไดข้างร้าน Lawsan มองปั๊บเจอโรงเเรมพอดี ^^ มันจะง่ายอะไรงี้ เดินไม่ถึง 20 ก้าว (ดูจากสีหน้าผู้ร่วมทริปยังเฮฮา55)
ด้วยทำเลที่สะดุดตา ค่าพักก็สูงขึ้นเช่นกัน ห้อง Japanese Style พัก 2 คน คิดเป็นเงินไทยคนละ 1,800 บาท ต่อคืน เราพัก 2 คืน ต้องจ่ายเงินตอน Check in และเวลาออกไปข้างนอกต้องฝากกุญแจทุกครั้ง (กุญแจเป็นแบบไข) ขนาดห้องก็ทั่วไปของโรงแรมในเมือง ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำในตัว ไม่รู้สึกคับแคบเกินไป มียูกาตะให้ใส่ พนักงานถึงจะดูดุๆหน่อย แต่ก็ช่วยเหลือเต็มที่นะ
เอาสัมภาระไปเก็บบนห้องแล้ว พักผ่อน ล้างหน้าล้างตา ประมาณ 15 นาที เวลาตอนนี้ 21.45 เราก็นัดกันออกไปหาอะไรกินกันที่ ตลาด Ameyoko ร้าน Isomaru Suisan (ตามGoogle mapไป) ถึงจะดึกแค่ไหนก็มากินได้เพราะร้านเปิด 24 ชม.เป็นเมนูซีฟู้ดราคาไม่แพง เมนูบังคับที่ต้องสั่งก็คือ Kani Miso (มันปูย่างไฟในกระดอง) กินกับข้าวสวยอร่อยมาก เมนูอื่นก็มี หอยเชลล์ หอยตลับ หมึกย่าง ปลาซัมมะ ซาชิมิ กินกัน 4 คนจ่ายไปคนละ 400 กว่าบาทถือว่าไม่แพง กลับที่พัก เริ่มต้นเดินทางต่อพรุ่งนี้ค่ะ