มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังค่ะ
** เหตเกิดที่ โรงพยาบาลรัฐบาลย่านอนุเสารวรีชัยสมรภูมิ **
ปล. การขอใบรับรองแพทย์ต่างด้าวต้องขอที่โรงพยาบาลรัฐเท่านั้น
เรากำลังต้องการจ้างแม่บ้านมาช่วยงานบ้าน สิ่งที่ต้องทำ
1. ขอโควตา แรงงาน
2. รอรับใบโควตา
3. ส่งแม่บ้านไปตรวจสุขภาพ ** ส่วนนี้แหละที่อยากเล่าให้ฟัง**
4. เอาเอกสารทั้งหมดไปยื่นสำนักจัดหางาน เพื่อแจ้งเข้าที่ทำงานใหม่
(ขั้นตอนต่างๆ เจ้าหน้าที่สำนักจัดหางานให้ความช่วยเหลือและอธิบายดีมากๆค่ะ)
สำหรับการตรวจสุขภาพต่างด้าว ต้องตรวจโรคต้องห้ามดังนี้
1. เท้าช้าง 2.มาลาเลีย 3.ซิฟิลิส 4.พิษสุราเรื้อรัง 5 เอดส์ 6 ยาเสพติด 7. วัณโรค
ซึ่งทางสำนักจัดหางานแจ้งว่าให้ไปโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น และ เจ้าหน้าที่ก็จะรู้ว่าต้องตรวจโรคอะไรบ้าง
นั่นไง...เหตการณ์จึงเป็นดังนี้
แม่บ้าน : พี่ๆ หมอเค้าไม่รู้ว่าจะตรวจอะไรบ้าง พี่ช่วยคุยกับพยาบาลได้มั้ย...น้องยื่นสายให้พยาบาล (น้ำเสียงน้องแม่บ้านไม่ดีเลย)
เรา : สวัสดีค่ะ รบกวนช่วยตรวจโรคสำหรับแรงงานต่างด้าวนะคะ ทางสำนักจัดหางานแจ้งว่าโรงพยาบาลจะทราบว่าต้องตรวจอะไรบ้าง 7 โรคค่ะ (เราพูดกับพยาบาลดีมาก และพยาบาลก็พูดจากับเราดีค่ะ)
พยาบาล : ตรวจเลือดมันมีหลายโรค ทางโรงพยาบาลไม่ทราบว่าโรคอะไร คุณไปเช็คมาแล้วกัน
... เราจึงรีบเอาอาจารย์กูเป็นที่พึ่ง สุดท้ายได้เบอร์ กรมจัดหางาน 1694 ซึ่งพอเราขอข้อมูลเค้าก็บอกว่าโรงพยาบาลรัฐ ทราบอยู่แล้วครับ
เราจึงอธิบายไปว่า โรงพยาบาลไม่ทราบค่ะ เค้าเลยรีบหาข้อมูลให้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าทีก็งง ว่าโรงพยาบาลรัฐแห่งนี้ไม่ทราบได้อย่างไร
เพราะต่างด้าวไปตรวจเยอะ
**ไม่เกิน 5 นาที!! ได้คำตอบว่าต้องตรวจอะไรบ้าง .. เราโทรกลับไปหาพยาบาล เพื่อแจ้งข้อมูล แต่คำตอบที่ได้คือ
พยาบาล : - “หมอ” บอกว่าไม่รับคำสั่งทางโทรศัพท์ ..???? หืมมม
เราไม่ได้สั่ง เพราะพยาบาลแจ้งว่าให้ไปหามาว่าโรคอะไรที่ต้องตรวจ เราก็ทำตามที่พยาบาลบอก !!
พยาบาล : ให้นายจ้างพามาเองนะคะ เพราะเด็กพูดไม่รู้เรื่อง (แม่บ้านอยู่เมืองไทย 6 ปีแล้ว พูดไทยสื่อสารได้ดี แค่พูดไม่ชัดสไตล์ต่างด้าว)
เรา : จริงๆ อยากพาไปเองค่ะ แต่ตอนนี้ท้องอยู่ เกือบ 39 สัปดาห์แล้ว รบกวนคุณพยาบาลช่วยคุยกับคุณหมอให้หน่อยได้มั้ยค้าา
พยาบาล : ไปคุยให้ และบอกว่า “หมอ” ให้เขียนมาเป็นลายลักษณ์อักษร เท่านั้น....???? เขียนมาให้เรียบร้อยว่าจะตรวจอะไร หรือให้คนอื่นพาแม่บ้านเรากลับไปอีกรอบ พยาบาลบอกว่าไม่สามารถสั่งอะไรหมอได้ค่ะ!!
**เพื่อนที่จ้างแม่บ้านต่างด้าวเช่นกัน ก็ให้แม่บ้านไปตรวจสุขภาพเอง แต่เป็นโรงพยาบาลแถวสมุทรปราการซึ่งเค้ารู้ว่าต้องตรวจอะไรบ้าง เราจึงปล่อยให้แม่บ้านเราไปคนเดียวค่ะ**
สรุปคือวันนี้เด็กไม่ได้ตรวจโรค ทั้งๆที่เรามีข้อมูลให้แล้วว่าต้องตรวจอะไร เพราะหมอไม่รับคำสั่งทางโทรศัพท์ …หมอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ เราแค่จะแจ้งข้อมูลไม่ได้สั่งอะไรคุณหมอเลยนะค้า คุณพยาบาลเป็นคนบอกให้ไปหาข้อมูล น่าจะเคลียร์กันหน่อยระหว่างหมอกับพยาบาลนะ เราก็ไม่ทราบว่าพยาบาลแจ้งหมอว่าอย่างไรเช่นกัน..เห้อ
สรุปจบวัน กลับบ้านด้วยการไม่ได้ตรวจค่ะ (แม่บ้านไปรอคิวถึงสีโมงเย็น)
ทั้งนี้เราเข้าใจค่ะ ว่าเราผิดทีไม่ได้หาข้อมูลไปให้พร้อม เนื่องจากเราถามเจ้าหน้าที่สำนักจัดหางาน ซึ่งได้รับคำตอบว่า โรงพยาบาลรัฐทราบอยู่แล้วว่าต้องตรวจอะไร บ้าง เพราะแรงงานต่างด้าวไปตรวจที่โรงพยาบาลนี้เยอะ ทำให้เราไม่เตรียมข้อมูลให้แม่บ้าน
และเข้าใจค่ะว่าอาจจะเป็นระเบียบหรือนโยบายอะไร หรือเปล่าที่ถ้านายจ้างไม่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรทำให้ “หมอ” ไม่สามารถตรวจโรคให้แม่บ้านได้ (ถ้ามีนโยบายแบบนี้นะคะ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ)
เรารู้สึกเสียใจมาก ที่ต้องทำให้เค้าไปรอเสียเวลา และ สงสารเค้าด้วย ตอนโทรคุยกันเสียงเค้าเศร้ามาก
พอแม่บ้านกลับมาบ้าน ถึงได้รู้ว่าเค้าเจออะไรบ้าง เค้าเล่าให้เราฟังว่าพยาบาลยิ่งใหญ่มาก (เค้าใช้คำนี้จริงๆ) ถ้าถามอะไรแล้วตอบไม่ได้ พยาบาลก็ตะคอกด่าเลย..แบบนี้ก็ได้เหรอ? พยาบาลบอกว่า โรงพยาบาลเอาไว้ตรวจรักษาโรค ตรวจร่างกายแบบนี้ไร้สาระ
แล้วจะมีกฎระเบียบให้ตรวจโรงพยาบาลของรัฐ เท่านั้นทำไมคะ! แต่ละหน่วยงานน่าจะประสานงานกันให้ดีๆนะคะ
ไม่เป็นไรค่ะ รอไปหาหมอใหม่ วันจันทร์ เพราะพยาบาลแจ้งว่าพรุ่งนี้หมอไม่อยู่ เราก็ต้องทำตามเค้าค่ะ
เราไม่ได้ถามหาความมีน้ำใจว่าเรื่องแค่นี้ทำไมไม่ช่วยเหลือกันเข้าใจเรื่องกฎระเบียบค่ะ (ถ้ามีกฎแบบนี้ว่าต้องเขียนชื่อโรคไปให้หมอถึงตรวจนะคะ ใครทราบช่วยบอกทีค่ะ).. แต่แค่อยากจะบอกว่า แรงงานต่างด้าว ก็เป็นมนุษย์นะคะ แค่อยากขอให้เกียรติกันในฐานะมนุษย์ที่อยู่ในสังคมเดียวกับเรา เราว่าไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะกับบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีจิตใจเอื้ออารีย์ และอยู่สถานภาพทางสังคมที่สูงกว่าแรงงานต่างด้าวอยู่แล้ว เอื้อเฟื้อแรงงานต่างด้าวเถอะคะ ไม่จำเป็นต้องทรีทให้เค้าเป็นคนชั้นสอง ชั้นสาม เค้ามาทำงานแลกเงิน และมาขอตรวจสุขภาพเพื่อทำงานอย่างถูกกฎหมาย อย่าทำร้ายจิตใจแรงงานต่างด้าวเลยค่ะ
จ้างแม่บ้านต่างด้าวไม่ยากอย่างที่คิด แต่ขอใบรับรองแพทย์ตรวจสุขภาพต่างด้าว ยากกว่า!!!
** เหตเกิดที่ โรงพยาบาลรัฐบาลย่านอนุเสารวรีชัยสมรภูมิ **
ปล. การขอใบรับรองแพทย์ต่างด้าวต้องขอที่โรงพยาบาลรัฐเท่านั้น
เรากำลังต้องการจ้างแม่บ้านมาช่วยงานบ้าน สิ่งที่ต้องทำ
1. ขอโควตา แรงงาน
2. รอรับใบโควตา
3. ส่งแม่บ้านไปตรวจสุขภาพ ** ส่วนนี้แหละที่อยากเล่าให้ฟัง**
4. เอาเอกสารทั้งหมดไปยื่นสำนักจัดหางาน เพื่อแจ้งเข้าที่ทำงานใหม่
(ขั้นตอนต่างๆ เจ้าหน้าที่สำนักจัดหางานให้ความช่วยเหลือและอธิบายดีมากๆค่ะ)
สำหรับการตรวจสุขภาพต่างด้าว ต้องตรวจโรคต้องห้ามดังนี้
1. เท้าช้าง 2.มาลาเลีย 3.ซิฟิลิส 4.พิษสุราเรื้อรัง 5 เอดส์ 6 ยาเสพติด 7. วัณโรค
ซึ่งทางสำนักจัดหางานแจ้งว่าให้ไปโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น และ เจ้าหน้าที่ก็จะรู้ว่าต้องตรวจโรคอะไรบ้าง
นั่นไง...เหตการณ์จึงเป็นดังนี้
แม่บ้าน : พี่ๆ หมอเค้าไม่รู้ว่าจะตรวจอะไรบ้าง พี่ช่วยคุยกับพยาบาลได้มั้ย...น้องยื่นสายให้พยาบาล (น้ำเสียงน้องแม่บ้านไม่ดีเลย)
เรา : สวัสดีค่ะ รบกวนช่วยตรวจโรคสำหรับแรงงานต่างด้าวนะคะ ทางสำนักจัดหางานแจ้งว่าโรงพยาบาลจะทราบว่าต้องตรวจอะไรบ้าง 7 โรคค่ะ (เราพูดกับพยาบาลดีมาก และพยาบาลก็พูดจากับเราดีค่ะ)
พยาบาล : ตรวจเลือดมันมีหลายโรค ทางโรงพยาบาลไม่ทราบว่าโรคอะไร คุณไปเช็คมาแล้วกัน
... เราจึงรีบเอาอาจารย์กูเป็นที่พึ่ง สุดท้ายได้เบอร์ กรมจัดหางาน 1694 ซึ่งพอเราขอข้อมูลเค้าก็บอกว่าโรงพยาบาลรัฐ ทราบอยู่แล้วครับ
เราจึงอธิบายไปว่า โรงพยาบาลไม่ทราบค่ะ เค้าเลยรีบหาข้อมูลให้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าทีก็งง ว่าโรงพยาบาลรัฐแห่งนี้ไม่ทราบได้อย่างไร
เพราะต่างด้าวไปตรวจเยอะ
**ไม่เกิน 5 นาที!! ได้คำตอบว่าต้องตรวจอะไรบ้าง .. เราโทรกลับไปหาพยาบาล เพื่อแจ้งข้อมูล แต่คำตอบที่ได้คือ
พยาบาล : - “หมอ” บอกว่าไม่รับคำสั่งทางโทรศัพท์ ..???? หืมมม
เราไม่ได้สั่ง เพราะพยาบาลแจ้งว่าให้ไปหามาว่าโรคอะไรที่ต้องตรวจ เราก็ทำตามที่พยาบาลบอก !!
พยาบาล : ให้นายจ้างพามาเองนะคะ เพราะเด็กพูดไม่รู้เรื่อง (แม่บ้านอยู่เมืองไทย 6 ปีแล้ว พูดไทยสื่อสารได้ดี แค่พูดไม่ชัดสไตล์ต่างด้าว)
เรา : จริงๆ อยากพาไปเองค่ะ แต่ตอนนี้ท้องอยู่ เกือบ 39 สัปดาห์แล้ว รบกวนคุณพยาบาลช่วยคุยกับคุณหมอให้หน่อยได้มั้ยค้าา
พยาบาล : ไปคุยให้ และบอกว่า “หมอ” ให้เขียนมาเป็นลายลักษณ์อักษร เท่านั้น....???? เขียนมาให้เรียบร้อยว่าจะตรวจอะไร หรือให้คนอื่นพาแม่บ้านเรากลับไปอีกรอบ พยาบาลบอกว่าไม่สามารถสั่งอะไรหมอได้ค่ะ!!
**เพื่อนที่จ้างแม่บ้านต่างด้าวเช่นกัน ก็ให้แม่บ้านไปตรวจสุขภาพเอง แต่เป็นโรงพยาบาลแถวสมุทรปราการซึ่งเค้ารู้ว่าต้องตรวจอะไรบ้าง เราจึงปล่อยให้แม่บ้านเราไปคนเดียวค่ะ**
สรุปคือวันนี้เด็กไม่ได้ตรวจโรค ทั้งๆที่เรามีข้อมูลให้แล้วว่าต้องตรวจอะไร เพราะหมอไม่รับคำสั่งทางโทรศัพท์ …หมอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ เราแค่จะแจ้งข้อมูลไม่ได้สั่งอะไรคุณหมอเลยนะค้า คุณพยาบาลเป็นคนบอกให้ไปหาข้อมูล น่าจะเคลียร์กันหน่อยระหว่างหมอกับพยาบาลนะ เราก็ไม่ทราบว่าพยาบาลแจ้งหมอว่าอย่างไรเช่นกัน..เห้อ
สรุปจบวัน กลับบ้านด้วยการไม่ได้ตรวจค่ะ (แม่บ้านไปรอคิวถึงสีโมงเย็น)
ทั้งนี้เราเข้าใจค่ะ ว่าเราผิดทีไม่ได้หาข้อมูลไปให้พร้อม เนื่องจากเราถามเจ้าหน้าที่สำนักจัดหางาน ซึ่งได้รับคำตอบว่า โรงพยาบาลรัฐทราบอยู่แล้วว่าต้องตรวจอะไร บ้าง เพราะแรงงานต่างด้าวไปตรวจที่โรงพยาบาลนี้เยอะ ทำให้เราไม่เตรียมข้อมูลให้แม่บ้าน
และเข้าใจค่ะว่าอาจจะเป็นระเบียบหรือนโยบายอะไร หรือเปล่าที่ถ้านายจ้างไม่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรทำให้ “หมอ” ไม่สามารถตรวจโรคให้แม่บ้านได้ (ถ้ามีนโยบายแบบนี้นะคะ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ)
เรารู้สึกเสียใจมาก ที่ต้องทำให้เค้าไปรอเสียเวลา และ สงสารเค้าด้วย ตอนโทรคุยกันเสียงเค้าเศร้ามาก
พอแม่บ้านกลับมาบ้าน ถึงได้รู้ว่าเค้าเจออะไรบ้าง เค้าเล่าให้เราฟังว่าพยาบาลยิ่งใหญ่มาก (เค้าใช้คำนี้จริงๆ) ถ้าถามอะไรแล้วตอบไม่ได้ พยาบาลก็ตะคอกด่าเลย..แบบนี้ก็ได้เหรอ? พยาบาลบอกว่า โรงพยาบาลเอาไว้ตรวจรักษาโรค ตรวจร่างกายแบบนี้ไร้สาระ
แล้วจะมีกฎระเบียบให้ตรวจโรงพยาบาลของรัฐ เท่านั้นทำไมคะ! แต่ละหน่วยงานน่าจะประสานงานกันให้ดีๆนะคะ
ไม่เป็นไรค่ะ รอไปหาหมอใหม่ วันจันทร์ เพราะพยาบาลแจ้งว่าพรุ่งนี้หมอไม่อยู่ เราก็ต้องทำตามเค้าค่ะ
เราไม่ได้ถามหาความมีน้ำใจว่าเรื่องแค่นี้ทำไมไม่ช่วยเหลือกันเข้าใจเรื่องกฎระเบียบค่ะ (ถ้ามีกฎแบบนี้ว่าต้องเขียนชื่อโรคไปให้หมอถึงตรวจนะคะ ใครทราบช่วยบอกทีค่ะ).. แต่แค่อยากจะบอกว่า แรงงานต่างด้าว ก็เป็นมนุษย์นะคะ แค่อยากขอให้เกียรติกันในฐานะมนุษย์ที่อยู่ในสังคมเดียวกับเรา เราว่าไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะกับบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีจิตใจเอื้ออารีย์ และอยู่สถานภาพทางสังคมที่สูงกว่าแรงงานต่างด้าวอยู่แล้ว เอื้อเฟื้อแรงงานต่างด้าวเถอะคะ ไม่จำเป็นต้องทรีทให้เค้าเป็นคนชั้นสอง ชั้นสาม เค้ามาทำงานแลกเงิน และมาขอตรวจสุขภาพเพื่อทำงานอย่างถูกกฎหมาย อย่าทำร้ายจิตใจแรงงานต่างด้าวเลยค่ะ