"เธอ.. อาชวนไปน้ำตกทีลอซู ไปไหม?"....."ไปดิๆๆ"

"น้ำตกทีลอซูนี่อยู่ที่ไหนอะ?"
"เออ..... ไม่รู้เหมือนกันว่ะ"

.....................

สวัสดีชาวพันทิปทุกคน ทั้งที่ตั้งใจเข้ามาอ่านและที่พลัดหลงเข้ามา 555
กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้รีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ที่พักแต่อย่างใด เราแค่อยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์ความเหวอ ความสนุก ความสวยงามของธรรมชาติ และความเมารถ (ข้อนี้เยอะสุด) ตลอดการเดินทางที่ได้พบเจอมา

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะจ้ะ 🙂
21 ตุลาคม
•เราออกอยุธยาตอนประมาณ 19.30 น. พร้อมเพื่อนร่วมเดินทางอีก 2 คันรถ
•เดินทางตอนกลางคืนถนนค่อนข้างโล่ง พี่คนขับที่นอนเอาแรงมาทั้งวัน ฟิตปั๋งมากในตอนกลางคืน เหยียบคันเร่งแบบไม่ยั้ง ตอนนั้นเราได้แต่หลับตาแล้วท่องนะโมไปตลอดทาง (มารู้ตอนหลังว่าพี่แกเป็นคนขับรถโรงพยาบาล) ถึงว่าพริ้วเชียวว
•การเดินทางไป เราหลับเกือบตลอดทาง จนมาถึง 1,219 โค้งในตำนาน เรานึกใจในว่ายังไงก็ต้องอ้วกแน่ๆ... แต่เห้ยย จริงๆ ไม่ว่ะ ... ไม่อ้วก? ... ไม่เหลือ!!! - -" คือทางยิ้มวกวนเหลือเกิน จังหวะนั้นไม่ไหวจริงๆ ค่ะ

22 ตุลาคม
•เราถึงที่พักตอนประมาณ 07.30 น. แต่เราไม่ได้พักที่นี่ คืนนี้เราจะไปพักบนอุทยาน

•09.15 เราเริ่มล่องเรือยางไปตามแม่น้ำ สัมภาระถูกส่งไปบนรถกระบะแล้ว มีน้องบังคับเรือหัวท้าย 2 คน อายุประมาณไม่เกิน 15 ปี แต่ฝีมือการพายเรือใช่ย่อย เรือเราไม่ชนกับอะไรเลย ในขณะที่เรือลำอื่นติดไม้ ชนก้อนหินกันมั่วซั่ว เราตอบแทนความเก่งของน้องด้วย M150 คนละขวด (แหม ยังมีหน้ามาอวด) เราใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงอยู่บนเรือ เมื่อยตูดมาก เราแวะกินข้าวกลางวันที่ผาเลือด แล้วเราก็ต้องนั่งรถต่อขึ้นไปเพื่อพักข้างบนอุทยาน

•เรานั่งรถขึ้นไปบนอุทยาน 10 กิโล แต่เป็น 10 กิโลที่ทรมานสุดๆ ทางโหดสัส รัสเซีย อินเดีย ตุรกี เกาหลี อุรุกวัยมากกกกก เป็นทางเลนส์เดียว รถสวนกันต้องหาที่หลบเอาเอง ทางเป็นดินโคลน ลื่นและบางช่วงก็ชันมาก ตลอดทางต้องหาที่ยึดเหนี่ยว ตัวโยกเยกอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็ต้องภาวนาให้ตัวเองไม่เมารถแล้วไปอ้วกใส่คนข้างๆ ด้วย โชคดีได้ลมโกรกหน้า แม้ทางจะวิบัติ แต่เรารอดมาได้ เราใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง

•พอเราถึงอุทาน เต็นท์ถูกกางไว้ให้หมดแล้ว อากาศเย็นกำลังดี แต่น้ำในห้องน้ำย็นยิ้ม!!!! อาบน้ำทีสั่นสะท้านไปทั้งทรวง ความสะอาดของน้ำไม่ต้องพูดถึง สีเข้มเขียวว อย่างกะชาอู่หลงอิชิตัน แต่เราไม่มีทางเลือก นอกจากอาบหรือไม่อาบ ... ใช่ค่ะ.. เราเลือกไม่อาบ ยิ้มยย! อาบสิ เรารักสะอาดจะตาย (สาบาน?)
•บนอุทยานมีร้านขายขนม 1 ร้าน ร้านก๋วยเตี๋ยว 1 ร้าน และร้านขายเสื้อ 1 ร้านถ้วน ระหว่างเรานั่งเล่นที่ร้านขายขนมก็มีผู้คนทยอยมาซื้อไม่ขาดสาย
•เวลาเปิดปิดไฟ จะเปิดไฟตั้งแต่ 18.00 น.และปิดตอน 21.00 น. แต่คนปิดไฟก็เมาเละไม่ต่างจากเรา เลยปิดเรทไปเป็น 21.30 น. ไปๆ รีบนอน พรุ่งนี้ไปทีลอซูกัน!

23 ตุลาคม
•เวลา 08.30 น. เราออกเดินทางไปน้ำตกทีลอซู ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้า 30 นาที น้ำตกสูงและสวยมากกก สมคำร่ำลือ ลมพัดแรง มีละอองน้ำกระทบหน้าอยู่ตลอดเวลา อากาศเย็นใช้ได้ คนเยอะประมาณนึง ตอนแรกเรากะจะไม่เล่นน้ำ เพราะแค่เพียงเท้าสัมผัสก็สะท้านไปถึงทรวง แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ยังไงก็ต้องเล่น! ปะ... เล่นน้ำกัน! สุดท้ายเราโดนตะคริว-ตั้งแต่ยังลงน้ำไปได้ไม่ถึงไหน (โถ่วว)

•10.45 น. เราออกจากอุทานเพื่อนั่งรถไปที่พัก ด้วยทางเดิม (สะอื้นไห้) แต่ตอนกลับโหดสัสกว่าเดิม เพราะมีรถสวนตลอดเวลา ต้องหาจังหวะไปก่อน หรือไม่ก็ต้องรอให้รถอีกฝั่งมาก่อน ถ้าขับไปป๊ะกัน ก็ต้องมีอีกคันนึงถอย โชคดีที่ไม่ได้กินอะไรไป ไม่งั้นคงได้อ้วกอีกรอบ
•ก่อนกลับที่พัก ไกด์พาแวะเที่ยว 3 ที่ มีวัดที่มีโบสถ์ไม้สัก(จำชื่อไม่ได้) ถ้ำตะโค๊ะบิ และถนนคนเดินอุ้งผาง ชอบถนนคนเดินที่สุด มีของขายเยอะที่สำคัญมีเซเว่น

24 ตุลาคม
•ตี 5.30 น. รถออกพาเราไปดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยหัวหมด ใช้เวลาในการเดินทาง 30 นาที ไปถึงเราต้องเดินเท้าขึ้นไปอีก พอขึ้นไปถึง เราถึงกับต้องร้องอุทานเบาๆว่า โอ้ว คน-เยอะ-ยิ้มย ดอยนี่อาจจะมีชื่อเต็มๆ ว่าดอยหัว(คนเยอะแยะเต็มไป)หมด ก็เป็นได้ เราแทรกตัวเบียดเสียดผู้คน เพื่อจะได้ภาพที่สวยงาม แต่ภาพสวยๆ ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะตกดอย สุดท้ายเรายอมจำนน ยอมถ่ายติดหัวคนก็ได้วะ

•กล้องทุกกล้องเล็งไปที่พระอาทิตย์ยามเช้า หวังจะได้เก็บภาพแสงแรงของวันนี้ เราก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ดูเหมือนเมฆจะไม่ค่อยเต็มใจ มีมากเหลือเกินนน เห็นพระอาทิตย์อีกทีคือตอน 7 โมงเช้า ไม่ได้ค่อยๆขึ้นมา แต่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาเลย ผู้คนเริ่มทยอยกลับ

•08.30 น. เมื่อร่ำลาเจ้าของที่พักเสร็จเราก็เดินทางต่อ (เดี๋ยวๆ ได้ข่าวว่าเดินขึ้นรถเลยนะ) เป้าหมายต่อไปคือตลาดริมเมย แม่สอด โดยทางที่จะไปแม่สอด คือทางที่เรามานั่นเอง ผ่านโค้งมหาโหดนั่นแหละ(สะอื้นไห้) ไม่เหลือค่ะ พอเริ่มโค้ง ยาเมารถก็เริ่มหมดฤทธิ์ เราก็ออกอาการเมารถ พะอืดพะอม จะนอนก็นอนไม่ได้ ลืมตามาก็เมาอยู่ดี สุดท้ายไม่ไหว ถุงที่เตรียมไว้ได้ใช้ซะจริงๆ ข้าวเช้าที่กินมาออกมาจนหมดสิ้น... ยัง ยังไม่พอ พอนั่งไปได้สักพัก เอาอีก!! ก็โค้งยิ้มเยอะมากก!! เราอ้วกรอบที่ 2 ทุกคนในรถมารู้ที่หลัง ชมเรากันใหญ่ "เอออ อ้วกเงียบดีเนอะ" "เอออ อ้วกแล้วไม่เพลียเลย ดีจัง" จังหวะนั้นเราค่อนข้างภูมิใจในสกิลการอ้วกของเราอยู่เหมือนกัน 555
•เราแวะกินข้าวกันที่ร้านส้มตำ...(จำชื่อไม่ได้ - -") แต่รสชาติอร่อยมากกกกก เรากินอย่างเจียมสังขาร เพราะไม่รู้ว่าไม่นานส้มตำที่กินมามันอาจจะได้ออกมาเริงร่าอยู่ในถุงพลาสติกก็เป็นได้

•เราถึงตลาดริมเมยตอน 13.50 น. มีเวลาให้เดินประมาณ 1 ชั่วโมง ที่นั่นก็มีของขายราคาถูก อาหาร เครื่องดื่ม เหล้า เบียร์ บุหรี่ เฟอร์นิเจอร์ เราได้สปอนเซอร์มา 1 ขวด ตอนนั้นร่างกายอ่อนล้าจากการอ้วกเหลือเกินน
•โชคดีทางกลับไม่ได้โหดมาก เราแวะกินข้าวอีก 1 มื้อ หลังจากกินเสร็จ เราหลับตลอดทาง ตื่นมาก็ถึงอยุธยาแล้ว ไวมากกก เราถึงอยุธยาตอน 5 ทุ่มกว่า โอ้วววว โคตรเพลีย

--------------------------
ขอขอบคุณ
•อาแป้น สปอนเซอร์ที่แสนใจดี ผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เราตลอดทริปนี้ เย้!!~
•พี่คนขับ สำหรับการเดินทางไปและกลับอย่างปลอดภัย พี่แกเก่งมากจริงๆ ทางโคตรไกลและน่ากลัว แต่เราก็รอดมาได้ ฟู่ววว ~
•น้าวรรณ-น้าโชติ ผู้จัดทริปนี้ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เราแทบไม่ต้องเหนื่อยอะไรเลย อาหารอร่อยทุกมื้อ แถมแวะปั๊มให้ตลอดทาง
•ตาว สำหรับความรักดีๆ ที่มอบให้ เอ้ยยยยย สำหรับความน่ารักทุกอย่างตลอดทริปนี้นะจ้ะ <3
•สุดท้ายขอบคุณทุกๆ คนที่อ่านจนจบ น่ารักจังง ว่างใช่ไหม 5555 ใครอ่าบจบยังไงเม้นบอกด้วยนะ จะมอบโล่ให้

มีวิดีโอให้ชมเพิ่มเติมเผื่อว่ายังไม่จุใจ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่