ข่าวดีของคนรักรถไฟฟรี และเหล่า Backpacker ผู้คุม Budget การท่องเที่ยว

รถไฟฟรี ต่อขยายการให้บริการ ข้ามปีไปจนถึง 30 เมษายน 2560

นี่คือ Q&A ของรถไฟฟรีที่รวบรวมมาตั้งแต่เปิดเพจ มาไล่ตอบกันเลยครับ

#รถไฟฟรีมีเยอะแค่ไหน
เยอะมากกกกกกกก ประมาณ 170 ขบวน มีทั้งวิ่งใกล้ และวิ่งไกล

#ใช้อะไรเป็นหลักฐานการรับสิทธิ์
ใช้เพียงบัตรประชาชน หรือบัตรที่ราชการออกให้ ยื่นรับตั๋ว 1 บัตร ต่อ 1 สิทธิ์

#รู้ได้อย่างไรว่าขบวนนั้นคือรถไฟฟรี
รถไฟทุกขบวนจะมีรหัสประจำขบวนอยู่ วิธีดูนะครับ ให้ดูขบวนที่เลขรหัสอยู่ที่ 200 ขึ้นไป (2xx / 3xx / 4xx) และจะยกเว้นขบวนรถเร็ว (จอดไม่ทุกสถานี) จำนวน 8 ขบวน ก็ฟรี ดังนี้
- ขบวนรถเร็วที่ 109/102 กรุงเทพ - เชียงใหม่ - กรุงเทพ
- ขบวนรถเร็วที่ 133/134 กรุงเทพ - หนองคาย - กรุงเทพ
- ขบวนรถเร็วที่ 145/146 กรุงเทพ - อุบลราชธานี - กรุงเทพ
- ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ - สุไหงโก-ลก - กรุงเทพ
โดย 8 ขบวนนี้ "ต้องนั่งตามหมายเลขที่นั่ง"

#รถไฟฟรีนั่งตรงไหนก็ได้ใช่ไหม
สำหรับขบวนที่ไม่ใช่รถเร็ว 8 ขบวนที่กล่าวไว้ด้านบน จะนั่งตรงไหนก็ได้ครับ

#ใครได้รับสิทธิ์รถไฟฟรี
ผู้มี "สัญชาติไทย" เท่านั้น ถึงแม้จะมีเชื้อชาติไทย แต่ไม่ใช่สัญชาติไทยก็ไม่ได้รับสิทธิ์ครับ

#เวลาไปขึ้นรถไฟรู้ได้ไงว่านั่นคือรถไฟฟรี
รถไฟฟรีจะมีป้ายข้างรถสีขาว ตัวหนังสือสีน้ำเงินครับ (แบบในรูปเลย)

#นั่งรถไฟฟรีสบายไหม
ขึ้นอยู่กับก้นและทักษะการบำเพ็ญทุกรกิริยาของท่าน เพราะมันจะมีเฉพาะรถชั้น 3 ซึ่งนั่งใกล้ๆ คงไม่เท่าไหร่ แต่นั่งไกลๆ ต้องคำนึงถึงสุขภาพ และร่างกายของท่านด้วย

#รถไฟฟรีคนเยอะไหม
ต้องยอมรับให้ได้ว่า "ของฟรี มันดึงดูดคน" ฉะนั้นคนจะเยอะอยู่แล้ว และจะมีผู้โดยสารหลากหลายมาก ยังไงแล้วควรดูแลตัวเองและคนรอบข้างด้วย (รักกันๆ)

#รถไฟฟรีต้องจองไหม
ไม่ต้องครับ รับตั๋วก่อนรถมาประมาณ 30-60 นาที ส่วนรถเร็วขบวน 109/102 133/134 145/146 และ 171/172 ต้องจองนะ แต่จะจองได้แค่วันเดินทางเท่านั้น เริ่ม 05.30 น. ของวันเดินทางเป็นต้นไป

นี่คือคำถามที่พีคสุดที่เคยเจอ
#รถไฟฟรีราคาเท่าไหร่ (เคยมีคนถามฉันด้วยแกร๊)

ขอให้มีความสุขกับการเดินทางด้วยรถไฟฟรีครับ ขอบคุณข้อมูลจาก https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=976589055802673&substory_index=0&id=617685891692993