ครั้งนึงเคยหลงกับความรักสมัย ม.6

สวัสดีครับ  วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวความรักของผมสมัย ม.6 ให้ฟังครับ ผมอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ให้น้องๆ ม.6 หลายๆคนในตอนนี้ที่เครียดกับเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย
           ก่อนอื่นตอนนี้ผมขอแนะนำตัวก่อน ผมเป็นนักศึกษามหาลัยชั้นปีที่หนึ่ง มหาวิทยาลัยแถวๆศาลายานะครับ ประสบการณ์อาจจะยังผ่านมาไม่นานสักเท่าไหร่
          จริงๆมันยังมีรายละเอียดปลีกย่อย เรื่องที่น่าตลกที่ไม่คาดคิด อีกเยอะครับ 555555 ถ้ามีโอกาสผมจะมาเล่าเพิ่มเติม
สมัยที่ยังโหยหาความรัก
ตอนที่เรียนอยู่ชั้น ม ปลาย ผมพักที่หอพัก ผมโหยหาความรักมาก แต่ไม่ใช่เพราะว่าผมขาดความอบอุ่นจากครอบครัวหรอกนะครับ เพราะผมกลับบ้านทุกอาทิตย์  มันสิ่งปกติ ที่เราอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดา ในสิ่งที่เรายังไม่ ช่วง ม.5 ผมตั้งใจเรียนมากเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ระหว่างนั้นก็แอบมองคนนู้นคนนี้ไปเรื่อย  แล้วผมก็แอบปลื้มรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งครับ พี่เขาเรียนอยู่ ม.6 แอบมองพี่เขาในโรงเรียนตลอด ตอนเข้าแถวผมก็แอบมอง  พอพี่เขาหันมาเราก็ทำเป็นเมินครับ 555 แต่เราก็ได้แค่ปลื้มเพราะพี่เขาดูดี มากกว่าผมหลายๆอย่าง ไปกดไลค์ในเฟสให้เขาตลอด
รักครั้งแรก
หลังจากนั้นพี่เขาก็เคยทักมาขอบคุณที่ไลค์ให้ตลอด พี่เขาชวนเราคุยบ้าง แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่อยากคิดไปเอง 555  จนกระทั่งผมเดินผ่านพี่เขาในโรงอาหารวันหนึ่ง ผมก็พยายามทำให้ตัวเราดูดีมากที่สุดตอนเดินผ่าน 55 เย็นวันนั้นพี่เขาก็ทักมาคุยด้วย  เราก็คุยกันไปเรื่อยๆครับ จนสุดท้ายเราก็ตกลงคบเป็นแฟนกัน ตอนแรกที่พี่เขามาจีบนั้น ผมกลัวมากๆ กลัวว่าเราจะอกหัก กลัวโดนทิ้ง แต่เพื่อนของผมบอกว่า ก็ลองดูสิ ยังไม่เคยไม่ใช่เหรอ  สุดท้ายแล้วเราก็ได้คบกัน ไม่เคยคิดเคยฝันเลยครับ ว่าจะได้คบกับคนที่เราแอบชอบ ไม่เคยคิดด้วยว่าจะมีแฟน 55
ระหว่างทาง
         ตอนที่เราคบกันนั้นชีวิตของผมดีมากครับ เคยได้ยินว่าเวลามีความรักโลกจะสีชมพู แล้วมันก็จริงครับ ทุกอย่างล้วนดูดีไปหมด เกรดผมขึ้นจนถึงขีดสุด การเรียนทุกอย่างราบรื่น แม้แต่อุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในชีวิตเราก็จะยิ้มรับแล้วสู้กันต่อไป ระหว่างคบกันเราก็ได้ทำอะไรด้วยกันหลายๆอย่าง ไปไหว้พระ เดินเล่น ได้ใช้เวลาร่วมกัน  ทุกๆวันหลังจากที่ผมเลิกเรียนที่โรงเรียนแล้ว ผมก็จะไปเรียนพิเศษต่อ ซึ่งเราก็จะนัดเจอกันหลังจากผมเลิกเรียนพิเศษ ประมาณ 2 ทุ่มครับ ไปกินข้าวด้วยกันทุกมื้อ ผลัดกันจ่ายบ้าง พี่เขาจ่ายบ้าง เราจ่ายบ้าง ผมคิดว่าคนนี้แหละที่เราจะใช้ชีวิตด้วยไปตลอดชีวิต เวลานั้นผมวาดฝันอนาคตไว้อย่างสวยงาม
       ผมมองว่าเราเป็นคู่รักที่หวานกันมากครับ วันวาเลนไทน์เขาให้ดอกไม้กับรูปที่เขาวาดให้มาให้เรา ผมมีความสุขมากๆครับ ตามประสาคนเห่อแฟนเลยไปโพสต์รูปลงไอจี จนผมไปสะดุดตาไอจีคนนึงครับ อะไรมาดลใจให้ผมเข้าไปดู แล้วเจอว่าคนๆนั้นเขาก็ลงรูปที่เหมือนของเราได้เป๊ะๆ กรอบรูปสีเดียวกัน ลายเส้นเหมือนกัน คนลงชื่อเหมือนกัน ผมเลยไปถามพี่เขา ช่วงนั้นผมงี่เง่าจนถึงขีดสุด แล้วก็เริ่มกลัวครับ กลัวว่าเราจะเสียเขาไป สุดท้ายคนนั้นก็คือแฟนเก่าของพี่เขา แต่เขาก็อธิบายว่าเป็นแค่พี่น้อง สุดท้ายด้วยความรักที่ผมมีให้เลยมองข้ามเรื่องนี้ไป เราคิดว่าการรักใครคนนึงเราต้องรับในสิ่งที่เขาเป็นให้ได้
      มีคนที่รู้จักในโรงเรียนมากคอยเล่าว่าพี่เขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ผมก็ไม่สนใจกับคำพูดนั้นครับ ผมจะไม่ยอมเสียความมั่นคงกับคำพูดเหล่านั้น อาจจะเป็นเพราะความรักมันบังตามั้งครับ 555 เราคิดว่าพี่เขาดีทุกอย่าง
     พี่เขามีความสำคัญทางจิตใจกับผมมากครับ เขาอาจจะเหมือนครอบครัวของผมไปแล้ว เพราะเราอยู่ที่หอก็ไม่มีใคร ไม่มีใครจริงๆ ตอนที่ผมไปเข้าค่าย รด ผมก็คิดอย่างเดียวแค่ว่า เราต้องอดทนเพื่อที่จะได้กลับไปหาพี่เขา
ตื่นจากฝัน
และแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องตื่นจากฝัน ถึงเวลาที่พี่เขาจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ เราก็เลยต้องห่างกัน ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทำให้พี่เขาบอกเลิกเราไป เราถามว่าเขาหมดรักเราแล้วใช่ไหม พี่เขาก็ตอบว่าใช่ ซึ่งตอนที่โดนบอกเลิกนั้น ก่อนวันเกิดผมเพียงแค่ 5 วัน แล้วเรายังสัญญาว่าจะไปดูหนังด้วยกันอีก หลังจากที่โดนบอกเลิก ผมก็นอนลงกับเตียงครับ ไม่ร้องไห้อะไรทั้งนั้น จนตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนบ้า ผมไม่เคยร้องไห้ขนาดนั้นมาก่อน ร้องติดกันเป็น 10 ชั่วโมง แล้วร้องอย่างนั้นเป็นเวลา 2 อาทิตย์ติดกัน เรียกได้ว่า สุขภาพจิตและร่างกายแย่มาก จากน้ำหนัก 55 ลดเหลือ 46 55555 เรียกว่าแห้งเลยทีเดียว หลังจากนั้นโลกก็ดูแย่ไปทุกอย่าง อุปสรรค ปัญหาอะไรเล็กๆ เราก็คิดว่า ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ชีวิตเราจะไม่มีอะไรดีเลยใช่ไหม
     ในวันเกิดนั้นผมขอแม่ไม่กลับบ้านเพราะไม่อยากเจอใครทั้งนั้น หลังจากเลิกเรียนพิเศษในวันนั้น ก็เกือบจะประสบอุบติเหตุ ผมใจเสียมากๆ  น้ำตาเริ่มไหล ฝนตก โอ้ อะไรจะเป็นใจขนาดนี้  ผมเลยไปไหว้พระคนเดียวครับ ไปเซียมซี ยิ่งไปกว่านั้นผมได้ใบที่เรียกว่าโชคร้ายที่สุด เวลานั้นผมยืนร้องไห้เลยครับ ทุกอย่างมันแย่จริงๆ แย่มากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่