สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนค่าาา
ห่างหายไม่ได้ทำรีวิวมานานมาก รอบนี้กลับมากับทริปภูกระดึง ดึ่ง ดึ๊ง กับเพื่อนๆสายโหด มัน ฮา
ทริปนี้แพลนไว้ล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน ต้องแพลนล่วงหน้านานหน่อย
เนื่องจากเพื่อน ๆ แต่ละคนมีอาชีพและหน้าที่การงานที่แตกต่างกันออกไป การจะรวมตัวกันแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
อ่ะพอรวมตัวกันก็เริ่มเดินทางได้ Let's gooooooooo >>>>
เริ่มจากจ่ายค่าเข้าอุทยาน รถยนต์คันละ 30 บาท แล้วก็หาที่จอดเหมาะๆสักที่ ในบริเวณลานจอดรถที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้
แนะนำว่าถ้าไปหลายคนให้คนนึงไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน (คนละ 30 บาท) แล้วอีกคนไปจัดการเรื่องจ้างลูกหาบ (กิโลกรัมละ 30 บาท)
เขาก็จะให้เขียนชื่อลงในตั๋วแล้วเก็บหางตั๋วไว้ รอไปรับกระเป๋าข้างบน
ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองจะแบกทุกสิ่งขึ้นไปเอง wait a minutes มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยค่ะคุ๊ณณณ ลำพังจะแบกร่างตัวเองขึ้นไปโดยไม่มีสัมภาระยังยากเลยค่ะ แต่ถ้าจะลองดูก็ไม่ว่ากันนะคะ
หลังจากจัดแจงทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มเดินทางตอนเวลาประมาณ เก้าโมงนิดๆ
หมายเหตุ: อุทยานปิดไม่ให้ขึ้นภูกระดึงหลังเวลา 14.00 นาฬิกาเป็นต้นไป เพราะฉะนั้นควรเผื่อเวลากันด้วยนะคะ
คณะเราใช้เวลาเดินทางไปถึงที่พักบนอุทยานประมาณ 5 ชั่วโมง นี่คือรวมเวลาพักเหนื่อย เวลากินข้าวเที่ยง เข้าห้องน้ำ
แอ๊วเอินผู้ชายตามรายทาง และอื่นๆแล้วนะคะ
แนะนำว่าควรจับจองที่พักล่วงหน้าที่เว็ปไซต์อุทยาน
http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1002
หรือโทรศัพท์ไปสอบถามก่อนก็ได้ โทรศัพท์ : 042-810833 จองบ้านพัก : 042-810834
ถ้าพลาดไม่ได้ที่พักจริงๆ ยังมีที่พักของเอกชนสำรองไว้ให้อีกเยอะเลย หรือะถ้าจะแบกเต้นท์ไปกางเองแล้วจ่ายแค่ค่าสถานที่ก็ได้ค่ะ
เป้าหมายที่ 1 ซำแฮก

ซำแฮกเป็นทางที่ทรหดที่สุดในการขึ้นภูกระดึงเลยก็ว่าได้ค่ะ หลายคนท้อและถอดใจที่นี่
แต่อยากให้สู้ ต้องอดทน
ถ้าไปกับเพื่อนต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะมีเรื่องดีๆรออยู่ข้างบนค่ะ เชื่อเรา
ระหว่างทางที่เดินขึ้น เรามักจะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ ไม่ก็ถูกแซงโดยพี่ ๆ ลูกหาบเสมอ
เหนือลูกหาบ ยังมีลูกของลูกหาบ จากการเลียบๆเคียงถาม พวกน้องๆเค้ามาหารายได้ช่วงปิดเทอม ได้วันละ 300 บาท
เท่าค่าแรงขั้นต่ำของพวกเราเลยนะคะคุ๊ณณณณณณณณ ชอบน้องคนนี้เพราะอินเนอร์น้องเขาแรงมากจริงๆ
เราบอกน้องว่า ขอถ่ายรูปหน่อยน้องก็ยืนยิ้มแป้นให้ถ่าย เราบอกว่าน้องคะขอแบบเหม่อๆไม่มองกล้อง มุมเหม่อน้องดีมากจริงๆค่ะ ชอบบ
ระหว่างเดินทางไปซำแฮก ต้องบอกก่อนว่าเราไปกันทั้งหมด 9 คน ชะนี 8 นาง ผู้อีก 1 นาย
แน่นอนสภาพระหว่างทางต้องทั้งฉุด ทั้งดึง เดินทันกันบ้างไม่ทันบ้าง หยุดรอกันบ้าง แต่มันคือรสชาติและสีสันของการเดินทางนะเราว่า
มักจะมีกลุ่มที่เดินนำ กลุ่มที่อยู่ตรงกลาง และกลุ่มที่รั้งท้าย แต่เราจะส่งเสียงเรียกหากันสม่ำเสมอ ไม่ได้กลัวมันเป็นอะไร แต่กลัวว่ามันจะไปทำอะไรใครมากกว่าค่ะ 55555
และในที่สุดเราก็ฝ่าฟันกันมาจนถึงซำแฮก สมาชิกอาจจะไม่ครบเพราะมีบางส่วนที่หมดสภาพและไม่ประสงค์จะทำกิจกรรมใดๆทั้งสิ้น
นอกจากหายใจ ว่าด้วยเรื่องน้ำละของกิน ไม่แนะนำให้เอาอะไรขึ้นไปเยอะแยะนะคะ เพราะระหว่างทางมีขายทุกอย่างจริงๆ แม้กระทั่งไอติม
ควรจิบน้ำเรื่อยๆ แต่ไม่ควรดื่มทีละเยอะๆ เพราะจุกแน่นอน
หลังจากพักจนหายเหนื่อยและพร้อมที่จะเหนื่อยต่อไปก็สู้ค่าาาาาาาา

คือระหว่างทางกลุ่มเราจะพกลำโพงบลูทูธ เป็นความบันเทิงเดียวที่มีอยู่นอกจากเสียงหอบและเสียงเดิน
คือเตรียมเพลย์ลิสไปเยอะๆ ชาร์จแบตไปหนัก ๆ เพราะได้ใช้แน่นอน
เปิดไปตั้งแต่เพลงสตริงที่กำลังฮิต ที่ฮิตไปแล้ว เพลงเก่ามาก เพลงลูกกรุง เพลงลูกทุ่ง เพลงสากล ไปยัน EDM
ฟังมาหมดแล้วเนาะ ณ จุด ๆ นี้
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย สำคัญมาก คือออออออ
ไม้ค้ำค่ะ ใช่ค่ะไม่ค้ำ นี่คืออุปการณ์ที่สำคัญที่พาร่างเราไปจนถึงยอดภูจริงๆนะคะ
ควรเลือกขนาดที่พอเหมาะๆไม่หนักเกินไป ไม่เบาเกินไปและพอดีกับน้ำหนักตัว
อันนี้คือประสบการณ์ของเราโดยตรงเลยนะ เบ็ดเสร็จเราเปลี่ยนไม้ทั้งหมดสี่อัน
อันแรก ลืมไว้ที่นั่งพักที่ไหนสักที่ ก็เลยอ่ะ หาใหม่ ผู้คนเดียวที่มีอยู่ในกลุ่มด้วยความหวังดี นางก็ไปหาไม้อันเล็กๆเรียวๆมาให้ถือแก้ขัด
ปรากฎพอเดินๆไปสักพักมันชักจะไม่ไหวละส่งเสียงออดแอด พร้อมจะหักตลอดเวลา
เลยเหลือบไปเห็น ไม้ที่ขนาดน่าจะพอดีกับตัวเรา แต่มันต้องเกี่ยวและเอื้อมสุดชีวิต
ด้วยความฉลาดที่โง่ ๆ ก็ใช้ไม้อันเล็กๆ ที่เราไม่พอใจเนี่ยแหละเกี่ยว ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู๋สักพักปรากฎไม้หัก จ้าาาาาา
อันใหญ่ก็ไม่ได้ อันเล็กก็หักอีก ชีวิตแทบจะพังทลายตรงนั้น ข้างๆกัน มีเพื่อนๆร่วมทางที่ไม่รู้จักยืนเป็นกำลังใจในการไขว่คว้าครั้งนี้
คือเข้าใจว่าถ้าพี่แกกดโหวตหรือส่งของให้ได้เหมือนในเกมส์คงตัดรำคาญได้การส่งไอเท็มไม้กายสิทธิ์ให้
พอเสียงไม้หัดเท่านั้นแหละ เสียงหัวเราะดังลั่นป่า ยังมีการกระซิบกันแบบให้เราได้ยินด้วยว่า เมื่อกี้ชั้นน่าจะอัดคลิปไว้ แกอัดไว้ป่ะวะ
เอาเป็นว่า ฝากผ่านลมผ่านฟ้าไปบอกพี่ ถ้าพี่อัดไว้ทัน รบกวนส่งมาให้ดูด้วยนะคะ 5555555
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ลืมเก็บภาพบรรยากาศธรรมชาติระหว่างทางมาฝาก
ไปดูกันเลยจ้าาาาา
เนื่องจากที่เราไปเป็นช่วงหน้าฝน 22-23 ตุลาคม 2559
ธรรมชาติก็จะรังสรรความงดงามในแบบฉบับของหน้าฝน
สองข้างทางที่เราเห็นก็จะเต็มไปด้วยความชื้นแฉะ มอส เฟิร์น และก็น้ำตกธารเล็กธารน้อย
ที่ดีคืออากาศไม่ร้อนเกินไปและไม่ได้หนาวจนทรมาน
ถ้าถามว่าจุดหมายปลายทางสำคัญมั๊ย เราว่าสำคัญนะ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือความงามระหว่างทางและมิตรภาพ
เราสร้างสีสันของการเดินทางด้วยการเล่าเรื่องตลก มุกทุกมุกถูกขุดออกมาเล่น พอมุกเริ่มหมดก็กลายเป็นเปลือกหอยกาบ
เล่นไปจนกลายเป็นขยะที่ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลไปโน่น แต่ทุกคนสนุก หัวเราะทั้งๆที่ก็เหนื่อย ยิ้มทั้ง ๆ ที่เหงื่อเต็มหน้า
จะช้าจะเร็ว เราก็จะไปให้ถึงพร้อมกัน
[CR] ภูกระดึงสักครั้งกับต้นไม้ของพ่อ
ห่างหายไม่ได้ทำรีวิวมานานมาก รอบนี้กลับมากับทริปภูกระดึง ดึ่ง ดึ๊ง กับเพื่อนๆสายโหด มัน ฮา
ทริปนี้แพลนไว้ล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน ต้องแพลนล่วงหน้านานหน่อย
เนื่องจากเพื่อน ๆ แต่ละคนมีอาชีพและหน้าที่การงานที่แตกต่างกันออกไป การจะรวมตัวกันแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
อ่ะพอรวมตัวกันก็เริ่มเดินทางได้ Let's gooooooooo >>>>
เริ่มจากจ่ายค่าเข้าอุทยาน รถยนต์คันละ 30 บาท แล้วก็หาที่จอดเหมาะๆสักที่ ในบริเวณลานจอดรถที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้
แนะนำว่าถ้าไปหลายคนให้คนนึงไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน (คนละ 30 บาท) แล้วอีกคนไปจัดการเรื่องจ้างลูกหาบ (กิโลกรัมละ 30 บาท)
เขาก็จะให้เขียนชื่อลงในตั๋วแล้วเก็บหางตั๋วไว้ รอไปรับกระเป๋าข้างบน
ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองจะแบกทุกสิ่งขึ้นไปเอง wait a minutes มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยค่ะคุ๊ณณณ ลำพังจะแบกร่างตัวเองขึ้นไปโดยไม่มีสัมภาระยังยากเลยค่ะ แต่ถ้าจะลองดูก็ไม่ว่ากันนะคะ
หลังจากจัดแจงทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มเดินทางตอนเวลาประมาณ เก้าโมงนิดๆ
หมายเหตุ: อุทยานปิดไม่ให้ขึ้นภูกระดึงหลังเวลา 14.00 นาฬิกาเป็นต้นไป เพราะฉะนั้นควรเผื่อเวลากันด้วยนะคะ
คณะเราใช้เวลาเดินทางไปถึงที่พักบนอุทยานประมาณ 5 ชั่วโมง นี่คือรวมเวลาพักเหนื่อย เวลากินข้าวเที่ยง เข้าห้องน้ำ
แอ๊วเอินผู้ชายตามรายทาง และอื่นๆแล้วนะคะ
แนะนำว่าควรจับจองที่พักล่วงหน้าที่เว็ปไซต์อุทยาน http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1002
หรือโทรศัพท์ไปสอบถามก่อนก็ได้ โทรศัพท์ : 042-810833 จองบ้านพัก : 042-810834
ถ้าพลาดไม่ได้ที่พักจริงๆ ยังมีที่พักของเอกชนสำรองไว้ให้อีกเยอะเลย หรือะถ้าจะแบกเต้นท์ไปกางเองแล้วจ่ายแค่ค่าสถานที่ก็ได้ค่ะ
เป้าหมายที่ 1 ซำแฮก
ซำแฮกเป็นทางที่ทรหดที่สุดในการขึ้นภูกระดึงเลยก็ว่าได้ค่ะ หลายคนท้อและถอดใจที่นี่ แต่อยากให้สู้ ต้องอดทน
ถ้าไปกับเพื่อนต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะมีเรื่องดีๆรออยู่ข้างบนค่ะ เชื่อเรา
ระหว่างทางที่เดินขึ้น เรามักจะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ ไม่ก็ถูกแซงโดยพี่ ๆ ลูกหาบเสมอ
เหนือลูกหาบ ยังมีลูกของลูกหาบ จากการเลียบๆเคียงถาม พวกน้องๆเค้ามาหารายได้ช่วงปิดเทอม ได้วันละ 300 บาท
เท่าค่าแรงขั้นต่ำของพวกเราเลยนะคะคุ๊ณณณณณณณณ ชอบน้องคนนี้เพราะอินเนอร์น้องเขาแรงมากจริงๆ
เราบอกน้องว่า ขอถ่ายรูปหน่อยน้องก็ยืนยิ้มแป้นให้ถ่าย เราบอกว่าน้องคะขอแบบเหม่อๆไม่มองกล้อง มุมเหม่อน้องดีมากจริงๆค่ะ ชอบบ
ระหว่างเดินทางไปซำแฮก ต้องบอกก่อนว่าเราไปกันทั้งหมด 9 คน ชะนี 8 นาง ผู้อีก 1 นาย
แน่นอนสภาพระหว่างทางต้องทั้งฉุด ทั้งดึง เดินทันกันบ้างไม่ทันบ้าง หยุดรอกันบ้าง แต่มันคือรสชาติและสีสันของการเดินทางนะเราว่า
มักจะมีกลุ่มที่เดินนำ กลุ่มที่อยู่ตรงกลาง และกลุ่มที่รั้งท้าย แต่เราจะส่งเสียงเรียกหากันสม่ำเสมอ ไม่ได้กลัวมันเป็นอะไร แต่กลัวว่ามันจะไปทำอะไรใครมากกว่าค่ะ 55555
และในที่สุดเราก็ฝ่าฟันกันมาจนถึงซำแฮก สมาชิกอาจจะไม่ครบเพราะมีบางส่วนที่หมดสภาพและไม่ประสงค์จะทำกิจกรรมใดๆทั้งสิ้น
นอกจากหายใจ ว่าด้วยเรื่องน้ำละของกิน ไม่แนะนำให้เอาอะไรขึ้นไปเยอะแยะนะคะ เพราะระหว่างทางมีขายทุกอย่างจริงๆ แม้กระทั่งไอติม
ควรจิบน้ำเรื่อยๆ แต่ไม่ควรดื่มทีละเยอะๆ เพราะจุกแน่นอน
หลังจากพักจนหายเหนื่อยและพร้อมที่จะเหนื่อยต่อไปก็สู้ค่าาาาาาาา
คือระหว่างทางกลุ่มเราจะพกลำโพงบลูทูธ เป็นความบันเทิงเดียวที่มีอยู่นอกจากเสียงหอบและเสียงเดิน
คือเตรียมเพลย์ลิสไปเยอะๆ ชาร์จแบตไปหนัก ๆ เพราะได้ใช้แน่นอน
เปิดไปตั้งแต่เพลงสตริงที่กำลังฮิต ที่ฮิตไปแล้ว เพลงเก่ามาก เพลงลูกกรุง เพลงลูกทุ่ง เพลงสากล ไปยัน EDM
ฟังมาหมดแล้วเนาะ ณ จุด ๆ นี้
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย สำคัญมาก คือออออออ
ไม้ค้ำค่ะ ใช่ค่ะไม่ค้ำ นี่คืออุปการณ์ที่สำคัญที่พาร่างเราไปจนถึงยอดภูจริงๆนะคะ
ควรเลือกขนาดที่พอเหมาะๆไม่หนักเกินไป ไม่เบาเกินไปและพอดีกับน้ำหนักตัว
อันนี้คือประสบการณ์ของเราโดยตรงเลยนะ เบ็ดเสร็จเราเปลี่ยนไม้ทั้งหมดสี่อัน
อันแรก ลืมไว้ที่นั่งพักที่ไหนสักที่ ก็เลยอ่ะ หาใหม่ ผู้คนเดียวที่มีอยู่ในกลุ่มด้วยความหวังดี นางก็ไปหาไม้อันเล็กๆเรียวๆมาให้ถือแก้ขัด
ปรากฎพอเดินๆไปสักพักมันชักจะไม่ไหวละส่งเสียงออดแอด พร้อมจะหักตลอดเวลา
เลยเหลือบไปเห็น ไม้ที่ขนาดน่าจะพอดีกับตัวเรา แต่มันต้องเกี่ยวและเอื้อมสุดชีวิต
ด้วยความฉลาดที่โง่ ๆ ก็ใช้ไม้อันเล็กๆ ที่เราไม่พอใจเนี่ยแหละเกี่ยว ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู๋สักพักปรากฎไม้หัก จ้าาาาาา
อันใหญ่ก็ไม่ได้ อันเล็กก็หักอีก ชีวิตแทบจะพังทลายตรงนั้น ข้างๆกัน มีเพื่อนๆร่วมทางที่ไม่รู้จักยืนเป็นกำลังใจในการไขว่คว้าครั้งนี้
คือเข้าใจว่าถ้าพี่แกกดโหวตหรือส่งของให้ได้เหมือนในเกมส์คงตัดรำคาญได้การส่งไอเท็มไม้กายสิทธิ์ให้
พอเสียงไม้หัดเท่านั้นแหละ เสียงหัวเราะดังลั่นป่า ยังมีการกระซิบกันแบบให้เราได้ยินด้วยว่า เมื่อกี้ชั้นน่าจะอัดคลิปไว้ แกอัดไว้ป่ะวะ
เอาเป็นว่า ฝากผ่านลมผ่านฟ้าไปบอกพี่ ถ้าพี่อัดไว้ทัน รบกวนส่งมาให้ดูด้วยนะคะ 5555555
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ลืมเก็บภาพบรรยากาศธรรมชาติระหว่างทางมาฝาก
ไปดูกันเลยจ้าาาาา
เนื่องจากที่เราไปเป็นช่วงหน้าฝน 22-23 ตุลาคม 2559
ธรรมชาติก็จะรังสรรความงดงามในแบบฉบับของหน้าฝน
สองข้างทางที่เราเห็นก็จะเต็มไปด้วยความชื้นแฉะ มอส เฟิร์น และก็น้ำตกธารเล็กธารน้อย
ที่ดีคืออากาศไม่ร้อนเกินไปและไม่ได้หนาวจนทรมาน
ถ้าถามว่าจุดหมายปลายทางสำคัญมั๊ย เราว่าสำคัญนะ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือความงามระหว่างทางและมิตรภาพ
เราสร้างสีสันของการเดินทางด้วยการเล่าเรื่องตลก มุกทุกมุกถูกขุดออกมาเล่น พอมุกเริ่มหมดก็กลายเป็นเปลือกหอยกาบ
เล่นไปจนกลายเป็นขยะที่ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลไปโน่น แต่ทุกคนสนุก หัวเราะทั้งๆที่ก็เหนื่อย ยิ้มทั้ง ๆ ที่เหงื่อเต็มหน้า
จะช้าจะเร็ว เราก็จะไปให้ถึงพร้อมกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น