The Magnificent Seven : เจ็ดสิงห์แดนเสือ (2016)
Genre (แนว) : Action , Adventure, Western
กำกับโดย : Antoine Fuqua
เป็นเรื่องที่สามแล้วที่ผู้กำกับ Antoine Fuqua ได้ร่วมงานกันกับลุง Denzel Washington อีกครั้ง กลับมาจอยกันครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังแต่อย่างใด เพราะกลับมาครั้งนี้ Antoine Fuqua แกพาสิงห์ทั้งเจ็ดมาสาดกระสุนกันอย่างมันส์โคตรและเท่โคตร!
เรื่องย่อ
ณ เมือง Rose Cheek ภายใต้การควบคุมของนักธุรกิจมหาอำนาจ บาร์โธโลมิว โบ๊ค ชาวเมืองต่างตกอยู่ภายใต้อำนาจมืด พวกเขาต้องการการปกป้องจึงตัดสินใจจ้างอาชญากรทั้งเจ็ด ทั้งนักล่าเงินรางวัล, นักพนัน และมือปืนรับจ้าง แซม ชิสซอม, จอช ฟาร์ราเดย์, กู้ดไนท์, แจ็ค ฮอร์น, บิลลี่ ร็อคส์, วาสเควซ และ เรด ฮาร์เวสต์ ทั้ง 7 คนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเผชิญหน้ากับมหาภัยครั้งร้ายแรงที่กำลังจะมาถึง นอกจากพวกเขาจะทำเพื่อเงินรางวัลแล้ว พวกเขายังได้พบว่าตัวเองกำลังต่อสู้เพื่อบางสิ่งที่มากกว่าเงินด้วย
รีวิว
บอกก่อนเลยว่าไม่เคยดูเวอร์ชันต้นฉบับ ทั้งเวอร์ชั่น 1960 แล้วก็เวอร์ชั่น 7 เซียนซามูไร แต่เดาว่าน่าจะอารมณ์ประมาณเป็นการต่อสู้ของตัวเอกจำนวนหยิบมือแต่ต้องต่อสู้กับตัวโกงเป็นกองทัพ พอเข้าใจแบบนี้แล้วก็คิดเลยว่ามันคงจะเป็นหนังที่ออกแนวฮีโร่หน่อย คือตัวเอกมีฝีมือการต่อสู้สูง มีคำพูดเท่ๆ แล้วก็ต้องมีแอคชั่นเท่ๆ สุดท้ายฝั่งตัวเอกก็ชนะไปอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
แต่ผิดคาดนะเป็นหนังที่มีสไตล์และมีความโหดดิบพอสมควร ดึงความดิบของคาวบอยมานำเสนอได้แบบถึงใจดีมาก ไม่ได้รู้สึกว่าฝ่ายธรรมะสู้กับอธรรมจ๋า ให้ความรู้สึกถึงความบ้าในตัวละครของทั้งสองฝ่าย คนร้ายฆ่าคนดี ส่วนคนดีก็ฆ่าพวกตัวร้ายซะเหี้ยน อย่างว่าฝ่ายตัวเอกก็มีทั้ง นักล่าค่าหัว,นักพนัน,นักฆ่า แล้วก็มีอินเดียนแดง ด้วยความหลากหลายของทีมนี่แหละที่เราคิดว่าเป็นเสน่ห์ที่สำคัญอีกอย่างของหนัง
ตัวละครที่เราชอบมากๆในเรื่องเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Sam Chisolm (Denzel Washington) ไม่ได้เห็นลุงเดนเซลในมาดบอสใหญ่มาซักพักแล้วตั้งแต่ American Gangster ซึ่งเรื่องนี้ลุงแกก็ทำให้ตัวละคร Sam มันดูน่าเกรงขามมาก เก่งทั้งฝีมือการยิงปืนและเก่งทั้งฝีปาก เป็นตัวละครที่เราคิดว่ามีน้ำหนักที่สุด (ถึงเรื่องมันจะบอกว่าเจ็ดสิงห์ก็เถอะแต่เรารู้สึกว่าตัวละครนี้แหละแบกเรื่องเอาไว้)
ส่วนตัวละครอื่นๆ Josh Faraday (Chris Pratt) เป็นตัวละครที่มีความกวนได้ใจ หนังเรื่องไหนที่ตัวเอกเป็นทีมมันก็มักจะมีตัวละครอย่างโจชอยู่ในทีมคือ นักรักหน้าหล่อนิสัยทะเล้นแถมมีฝีมือ ซึ่งไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าคือเราติดภาพของ Chris Pratt ในบท Star Lord ไปแล้วเลยอาจจะไม่ได้ประทับใจเท่าไหร่ ส่วนตัวละครอื่นๆ Goodnight Robicheaux (Ethan Hawk) ในบทนักแม่นปืนมีปม กับ Billy Rocks (Byung-Hun Lee) นักฆ่าหน้าเอเชีย ก็ถือว่าเด่นอยู่เหมือนกันแต่อาจจะไม่ได้เด่นเท่าโจช แต่ก็ถือว่าเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมในเรื่องปูมหลังของแซมได้ เพราะกู๊ดไนท์กับแซมเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน จึงรู้ว่าแต่ละคนได้ผ่านศึกสงครามและมีความเจ็บปวดอะไรมา ส่วนตัวละครที่เหลือทั้ง Jack Horne (Vincent D’Onofrio) นักสะกดรอยขาโหด , Vasquez (Manuel Garcia-Rulfo) ไอ้หนุ่มปืนคู่เม็กซิกัน แล้วก็ Red Harvest (Martin Sensmeier) ชาวอินเดียนแดง ตัวละครเหล่านี้แทบไม่ได้มีการปูพื้นหลังอะไรมากมาย หนังแค่บอกเราว่าพวกนี้เก่งก็แค่นั้น อีกตัวละครหนึ่งคือ Emma Cullen (Haley Bennett) สาวชาวบ้านที่เก๊งเก่ง เก่งจนเกินชาวบ้าน เก่งจนเกินจริง แต่ก็ด้วยเสน่ห์อันแพรวพราวเราเลยเลือกที่จะช่างมัน
แต่ด้วยความสนุกและเดินเรื่องค่อนข้างเร็ว จุดเล็กจุดน้อยที่เรามองว่าผิดพลาด มันก็โดนกลบด้วยจังหวะการเดินเรื่อง ฉากแอคชั่น ดนตรีประกอบ จนทำให้เราลืมๆเรื่องพวกนั้นไปแล้วมาโฟกัสอยู่กับความมันส์ของตัวหนังแทน
สรุปแล้วเป็นหนังแอคชั่นแนวย้อนยุคที่ดูได้สนุก เพลินดี แล้วบางพาร์ทของหนังก็ย้อนให้นึกถึง Saving Private Ryan อยู่เหมือนกัน ในแง่ของการที่คนเพียงหยิบมือต้องสู้กับคนเป็นกองทัพโดยมีความหวังอยู่ในมือไม่มาก แล้วก็ยังเป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องภายใต้การกำกับของ Antoine Fuqua แล้วตัวหนังยังแอบตีแผ่เรื่องสงครามในยุคสมัยนั้นเช่นกัน ถือว่าเป็นหนังคาวบอยคุณภาพในยุค 2010s อีกเรื่องที่คุ้มค่ากับการรอคอย
หากใครที่ชอบสามารถไปติดตามเราได้ที่เพจนะครับ
https://www.facebook.com/ordinaryseats/?fref=ts
รีวิว The Magnificent Seven : เจ็ดสิงห์แดนเสือ [by ที่นั่งธรรมดา]
Genre (แนว) : Action , Adventure, Western
กำกับโดย : Antoine Fuqua
เป็นเรื่องที่สามแล้วที่ผู้กำกับ Antoine Fuqua ได้ร่วมงานกันกับลุง Denzel Washington อีกครั้ง กลับมาจอยกันครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังแต่อย่างใด เพราะกลับมาครั้งนี้ Antoine Fuqua แกพาสิงห์ทั้งเจ็ดมาสาดกระสุนกันอย่างมันส์โคตรและเท่โคตร!
เรื่องย่อ
ณ เมือง Rose Cheek ภายใต้การควบคุมของนักธุรกิจมหาอำนาจ บาร์โธโลมิว โบ๊ค ชาวเมืองต่างตกอยู่ภายใต้อำนาจมืด พวกเขาต้องการการปกป้องจึงตัดสินใจจ้างอาชญากรทั้งเจ็ด ทั้งนักล่าเงินรางวัล, นักพนัน และมือปืนรับจ้าง แซม ชิสซอม, จอช ฟาร์ราเดย์, กู้ดไนท์, แจ็ค ฮอร์น, บิลลี่ ร็อคส์, วาสเควซ และ เรด ฮาร์เวสต์ ทั้ง 7 คนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเผชิญหน้ากับมหาภัยครั้งร้ายแรงที่กำลังจะมาถึง นอกจากพวกเขาจะทำเพื่อเงินรางวัลแล้ว พวกเขายังได้พบว่าตัวเองกำลังต่อสู้เพื่อบางสิ่งที่มากกว่าเงินด้วย
รีวิว
บอกก่อนเลยว่าไม่เคยดูเวอร์ชันต้นฉบับ ทั้งเวอร์ชั่น 1960 แล้วก็เวอร์ชั่น 7 เซียนซามูไร แต่เดาว่าน่าจะอารมณ์ประมาณเป็นการต่อสู้ของตัวเอกจำนวนหยิบมือแต่ต้องต่อสู้กับตัวโกงเป็นกองทัพ พอเข้าใจแบบนี้แล้วก็คิดเลยว่ามันคงจะเป็นหนังที่ออกแนวฮีโร่หน่อย คือตัวเอกมีฝีมือการต่อสู้สูง มีคำพูดเท่ๆ แล้วก็ต้องมีแอคชั่นเท่ๆ สุดท้ายฝั่งตัวเอกก็ชนะไปอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
แต่ผิดคาดนะเป็นหนังที่มีสไตล์และมีความโหดดิบพอสมควร ดึงความดิบของคาวบอยมานำเสนอได้แบบถึงใจดีมาก ไม่ได้รู้สึกว่าฝ่ายธรรมะสู้กับอธรรมจ๋า ให้ความรู้สึกถึงความบ้าในตัวละครของทั้งสองฝ่าย คนร้ายฆ่าคนดี ส่วนคนดีก็ฆ่าพวกตัวร้ายซะเหี้ยน อย่างว่าฝ่ายตัวเอกก็มีทั้ง นักล่าค่าหัว,นักพนัน,นักฆ่า แล้วก็มีอินเดียนแดง ด้วยความหลากหลายของทีมนี่แหละที่เราคิดว่าเป็นเสน่ห์ที่สำคัญอีกอย่างของหนัง
ตัวละครที่เราชอบมากๆในเรื่องเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Sam Chisolm (Denzel Washington) ไม่ได้เห็นลุงเดนเซลในมาดบอสใหญ่มาซักพักแล้วตั้งแต่ American Gangster ซึ่งเรื่องนี้ลุงแกก็ทำให้ตัวละคร Sam มันดูน่าเกรงขามมาก เก่งทั้งฝีมือการยิงปืนและเก่งทั้งฝีปาก เป็นตัวละครที่เราคิดว่ามีน้ำหนักที่สุด (ถึงเรื่องมันจะบอกว่าเจ็ดสิงห์ก็เถอะแต่เรารู้สึกว่าตัวละครนี้แหละแบกเรื่องเอาไว้)
ส่วนตัวละครอื่นๆ Josh Faraday (Chris Pratt) เป็นตัวละครที่มีความกวนได้ใจ หนังเรื่องไหนที่ตัวเอกเป็นทีมมันก็มักจะมีตัวละครอย่างโจชอยู่ในทีมคือ นักรักหน้าหล่อนิสัยทะเล้นแถมมีฝีมือ ซึ่งไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าคือเราติดภาพของ Chris Pratt ในบท Star Lord ไปแล้วเลยอาจจะไม่ได้ประทับใจเท่าไหร่ ส่วนตัวละครอื่นๆ Goodnight Robicheaux (Ethan Hawk) ในบทนักแม่นปืนมีปม กับ Billy Rocks (Byung-Hun Lee) นักฆ่าหน้าเอเชีย ก็ถือว่าเด่นอยู่เหมือนกันแต่อาจจะไม่ได้เด่นเท่าโจช แต่ก็ถือว่าเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมในเรื่องปูมหลังของแซมได้ เพราะกู๊ดไนท์กับแซมเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน จึงรู้ว่าแต่ละคนได้ผ่านศึกสงครามและมีความเจ็บปวดอะไรมา ส่วนตัวละครที่เหลือทั้ง Jack Horne (Vincent D’Onofrio) นักสะกดรอยขาโหด , Vasquez (Manuel Garcia-Rulfo) ไอ้หนุ่มปืนคู่เม็กซิกัน แล้วก็ Red Harvest (Martin Sensmeier) ชาวอินเดียนแดง ตัวละครเหล่านี้แทบไม่ได้มีการปูพื้นหลังอะไรมากมาย หนังแค่บอกเราว่าพวกนี้เก่งก็แค่นั้น อีกตัวละครหนึ่งคือ Emma Cullen (Haley Bennett) สาวชาวบ้านที่เก๊งเก่ง เก่งจนเกินชาวบ้าน เก่งจนเกินจริง แต่ก็ด้วยเสน่ห์อันแพรวพราวเราเลยเลือกที่จะช่างมัน
แต่ด้วยความสนุกและเดินเรื่องค่อนข้างเร็ว จุดเล็กจุดน้อยที่เรามองว่าผิดพลาด มันก็โดนกลบด้วยจังหวะการเดินเรื่อง ฉากแอคชั่น ดนตรีประกอบ จนทำให้เราลืมๆเรื่องพวกนั้นไปแล้วมาโฟกัสอยู่กับความมันส์ของตัวหนังแทน
สรุปแล้วเป็นหนังแอคชั่นแนวย้อนยุคที่ดูได้สนุก เพลินดี แล้วบางพาร์ทของหนังก็ย้อนให้นึกถึง Saving Private Ryan อยู่เหมือนกัน ในแง่ของการที่คนเพียงหยิบมือต้องสู้กับคนเป็นกองทัพโดยมีความหวังอยู่ในมือไม่มาก แล้วก็ยังเป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องภายใต้การกำกับของ Antoine Fuqua แล้วตัวหนังยังแอบตีแผ่เรื่องสงครามในยุคสมัยนั้นเช่นกัน ถือว่าเป็นหนังคาวบอยคุณภาพในยุค 2010s อีกเรื่องที่คุ้มค่ากับการรอคอย
หากใครที่ชอบสามารถไปติดตามเราได้ที่เพจนะครับ
https://www.facebook.com/ordinaryseats/?fref=ts