ผมมีอายุ 21 ปี ครับ ตาเหล่ซ้ายข้างเดียวแต่ไม่มาก ครอบครัวก็มีฐานะปานกลางครับ ตอนเด็ก ๆ เพื่อนก็ชอบล้อบางทีก็น้อยใจทำไมเพื่อน ๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย อดทนมาจนโต เราก็คิดว่าคงไม่มีใครมากล้าว่าเราหรอกน่าจะมีความเกรงใจกันมั้งแหละ แต่ดันกับกันไปทำงานกี่ที่ กี่ที่ ก็โดนแต่แบบนี้ เครียดกับชีวิต
บางครั้งก็พยายามไม่สนใจแต่ทำไงได้มันบ่อยจนต้องมีชกต่อยบ้างให้มันรู้ไปว่าตาเราถึงจะเป็นแบบนี้แต่ก็ต่อยแม่นไม่แพ้สายตาปกติและกัน
เลยกลายเป็นคนขาดความมั่นใจไปใหญ่เลย ไม่กล้าสบตาใคร แม้แต่มองเด็กก็ยังไม่กล้ามองเลย นั่งร้องไห้ก็มี เคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่มันคงไม่ใช่ทางออกที่ดีก็เลยไม่ทำ บ้างครั้งพ่อแม่เรารู้ว่าเราโดนล้อเราก็สงสารเขาเราก็เลยพูดกับพ่อแม่เราไปว่าผมภูมิใจในสิ่งพ่อแม่ให้มาครับท่านทั้งแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ผมก็พยายามคิดแต่แง่ดีหาดูความสำเร็จของคนพิการแขนขาเพื่อสร้างกำลังใจให้โลกนี้น่าอยู่และก็พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างจน หางานที่ตัวเองเป็นเจ้านายตัวเองเพื่อไม่ให้สนิทกับสังคมมากเกินไปตอนนี้ก็เพิ่งจะเปิดร้านขายเสื้อผ้าก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ พยายามทำบุญทำทานมาก ๆ และ
คิดแต่จุดเด่นของเอง ว่าสามารถด้านใดบ้าง ให้คนภายนอกดูเขาจะได้จำแต่จุดเด่นของเรา เดี๋ยวข้อเสียของเราเขาก็ลืมมันไปเอง เห็นผมอย่างนี้ผมก็มีแฟนนะครับเธอเป็นคนหน้าตาดีและน่ารัก ไม่มีปมด้อยเหมือนผม แต่เธอก็ใช้ชีวิตร่วมทางกันผมมาได้ตั้งห้าปีแนะ แต่เลิกกันแล้วเพราะเธอมีคนใหม่
เธอทิ้งไปก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรเพราะคิดว่าสวรรค์คงส่งนางฟ้าดีดีให้คนอย่างผมมาแค่นี้
แต่ตอนนี้ก็รู้สึกว่าผมมีค่าในโลกนี้เยอะมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น บางครั้งจนผมเองรู้สึกว่าผมเหมือนคนที่ไม่ได้มีปมด้อยที่เลวร้ายเลย
ผมก็อยากให้ทุก ๆ คน ที่มีปมด้อยและไม่มีปมด้อยในชีวิต ได้ลุกขึ้นสู้ในยามที่เราท้อแท้กับชีวิตเราสามารถเปลี่ยนผันชีวิตที่เลวร้ายให้ดีได้ภายในพริบตา
ยิ้มกับทุกปัญหา แล้วโลกนี้จะน่าอยู่ขึ้นเยอะครับ
ปล.พิมพ์ไม่ค่อยเก่งนะครับขออภัยด้วยครับ
ชีวิตของชายตาเหล่อย่างผม .
บางครั้งก็พยายามไม่สนใจแต่ทำไงได้มันบ่อยจนต้องมีชกต่อยบ้างให้มันรู้ไปว่าตาเราถึงจะเป็นแบบนี้แต่ก็ต่อยแม่นไม่แพ้สายตาปกติและกัน
เลยกลายเป็นคนขาดความมั่นใจไปใหญ่เลย ไม่กล้าสบตาใคร แม้แต่มองเด็กก็ยังไม่กล้ามองเลย นั่งร้องไห้ก็มี เคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่มันคงไม่ใช่ทางออกที่ดีก็เลยไม่ทำ บ้างครั้งพ่อแม่เรารู้ว่าเราโดนล้อเราก็สงสารเขาเราก็เลยพูดกับพ่อแม่เราไปว่าผมภูมิใจในสิ่งพ่อแม่ให้มาครับท่านทั้งแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ผมก็พยายามคิดแต่แง่ดีหาดูความสำเร็จของคนพิการแขนขาเพื่อสร้างกำลังใจให้โลกนี้น่าอยู่และก็พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างจน หางานที่ตัวเองเป็นเจ้านายตัวเองเพื่อไม่ให้สนิทกับสังคมมากเกินไปตอนนี้ก็เพิ่งจะเปิดร้านขายเสื้อผ้าก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ พยายามทำบุญทำทานมาก ๆ และ
คิดแต่จุดเด่นของเอง ว่าสามารถด้านใดบ้าง ให้คนภายนอกดูเขาจะได้จำแต่จุดเด่นของเรา เดี๋ยวข้อเสียของเราเขาก็ลืมมันไปเอง เห็นผมอย่างนี้ผมก็มีแฟนนะครับเธอเป็นคนหน้าตาดีและน่ารัก ไม่มีปมด้อยเหมือนผม แต่เธอก็ใช้ชีวิตร่วมทางกันผมมาได้ตั้งห้าปีแนะ แต่เลิกกันแล้วเพราะเธอมีคนใหม่
เธอทิ้งไปก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรเพราะคิดว่าสวรรค์คงส่งนางฟ้าดีดีให้คนอย่างผมมาแค่นี้
แต่ตอนนี้ก็รู้สึกว่าผมมีค่าในโลกนี้เยอะมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น บางครั้งจนผมเองรู้สึกว่าผมเหมือนคนที่ไม่ได้มีปมด้อยที่เลวร้ายเลย
ผมก็อยากให้ทุก ๆ คน ที่มีปมด้อยและไม่มีปมด้อยในชีวิต ได้ลุกขึ้นสู้ในยามที่เราท้อแท้กับชีวิตเราสามารถเปลี่ยนผันชีวิตที่เลวร้ายให้ดีได้ภายในพริบตา
ยิ้มกับทุกปัญหา แล้วโลกนี้จะน่าอยู่ขึ้นเยอะครับ
ปล.พิมพ์ไม่ค่อยเก่งนะครับขออภัยด้วยครับ