ฟุตบอลไทยชีวิตและความฝัน # ตอนที่ 2 ซาอุอาระเบียมันจบแล้ว มาเริ่มใหม่กับญี่ปุ่นดีกว่า

หลังจาก จบการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายโซนเอเชีย ระหว่างทีมฟุตบอลทีมชาติซาอุดิอาระเบียกับทีมฟุตบอลทีมชาติไทย และเราได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชายที่ชื่อ “สารัช อยู่เย็น” ที่เสียใจกับความทุ่มเทที่ไม่เป็นผล เพราะคิดว่าตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทีมเสียลูกจุดโทษแบบน่ากังขาให้กับประเทศเจ้าบ้าน ทำให้ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย 1 – 0

               “เกิดเป็นเสือ อย่าร้องให้” เป็นคำปลอบใจพร้อมการสวมกอดที่ดูแสนอบอุ่นและเข้าใจจากลูกพี่ นามว่า “ชิโก้” เพราะตนเองก็คงอารมณ์ไม่ต่างกันที่ต้องกล้ำกลืนฝืนน้ำตาที่คลอเบ้าคอยปลอบโยนให้กำลังใจน้องๆ ทุกคน

               เอาน่า ลืมมันไปแล้วลุกขึ้นสู้ใหม่ ไม่เป็นไร พวกเราแฟนบอลชาวไทยและแฟนบอลจากทั่วโลกเข้าใจและพร้อมให้กำลังใจยืนเคียงข้างกับขุนพลช้างศึกสู้ต่อไปในวันข้างหน้า เพราะถึงแม้ว่าพวกคุณจะพ่ายแพ้ในวันนั้น แต่ขอให้ “ชิโก้” ลูกทีมและทีมงานทุกคน รู้ไว้ว่าพวกคุณคือผู้ชนะในหัวใจของพวกเราแฟนบอลชาวไทยทุกคน

               ขุนพลช้างศึก ยังมีภารกิจหรือศึกใหญ่รออยู่ข้างหน้าในอีกสองวันโดยต้องพบกับพี่เต้ยในวงการฟุตบอลเอเชีย “ขุนพลนักรบซามูไรบลู” ทีมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งนำทัพโดยนักฟุตบอลระดับโลกจากสโมสรชั้นนำของโลก ซึ่งการเจอกับทีมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นในการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งนี้ จะเป็นดัชนีชี้วัดว่าคุณภาพฟุตบอลทีมชาติไทยอยู่ในระดับใด เมื่อต้องพบกับทีมชั้นนำระดับหัวแถวของเอเชียในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

               O.K. ถึงแม้ว่าการพบกันระหว่างพลพรรคช้างศึกกับขุนพลนักรบซามูไรบลู ในวันที่ 6 กันยายน 2559 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ประเทศไทยนั้น พลพรรคช้างศึกของเราจะขาด “สารัช อยู่เย็น” กองกลางตัวตัดเกมส์ และโฮลบอลคนสำคัญ ซึ่งติดโทษแบนจากใบเหลืองแดงเพียงแค่ต้องการสอบถามถึงเหตุผลกับกรรมการผู้ติดสินในวันนั้นว่า “ผมผิดอะไร” แต่ใช่ว่าคนอื่นจะไร้ความสามารถ พวกคุณคือทีมต้องร่วมแรงร่วมใจช่วยกัน อย่าท้อและหมดหวัง

               เอาน่า ชาติไทยยังไงก็คงไม่สิ้นคนเก่งคนดี สถานการณ์อาจสร้างดาวดวงใหม่ที่เจิดจรัสขึ้นมาประดับวงการฟุตบอลขึ้นมาอีกคนก็ได้ ยิ่งขุนพลนักรบซามูไรบลูมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ด้วยความบอบซ้ำแบกความกดดันมาด้วยเพราะการแข่งขันนัดแรกที่ดันทะลึ่งแพ้ทีมชาติอาหรับเอมิเรตส์ ในบ้าน 1 – 2 เหมือนกัน การพกศูนย์แต้มบนบ่าเอาไว้ของพี่เต้ยฟุตบอลเอเซีย นอกจากจะเสียหน้าแล้ว ยังสร้างความกดดันให้ตัวเอง

               หากค่ำคืนวันที่ 6 กันยายน 2559 บนผืนหญ้าราชมังคลากีฬาสถานขุนพลนักรบซามูไรบลู ทำอะไรพลพรรคช้างศึกไม่ได้ใน 45 นาทีแรก หรือหนำซ้ำเสียประตูจากการสวนกลับอย่างรวดเร็วของทีมชาติไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้

               การทำงานอย่างหนักต่างๆ ในค่ำคืนนั้น เราคงมอบหมายหน้าที่ให้ “ชิโก้” ลูกทีมและทีมงาน เพราะคงไม่มีใครรู้และเข้าใจพลพรรคช้างศึกโขลงนี้ได้เท่าตัวเขาอีกแล้ว ซึ่งพวกเราแฟนบอลชาวไทยหวังลึกๆว่า “ซิโก้” ลูกทีมและทีมงานคงจะสร้างปรากฏการณ์ให้สนั่นสะเทือนลั่นโลก ด้วยการหักดาบซามูไร หรือถึงแม้ไม่หักก็ให้มันปิ่นซมซานกับบ้านก็ยังดี

               เดินทางกลับถึงมาตุภูมิแล้ว ก็ขอให้พลพรรคช้างศึกลืมเรื่องราวร้ายๆ จากรังเหยี่ยวมรกต ดูแลสุขภาพ อย่าเก็บเรื่องราวไม่ดีมาคิดมาก พักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกซ้อมศึกษาแผนการเล่นต่างๆ เพื่อจะเอาไว้รับมือขุนพลนักรับซามูไรบลู ในค่ำคืนวันที่ 6 กันยายน 2559 ที่จะถึงนี้
เราจะอยู่เคียงข้างพวกนายตลอดไป “พวกเราสิบ่ถิ่มกัน” สู้ๆๆโว้ย อย่ายอมแพ้


#### บทความจาก Climberdreams # นักไต่ฝัน ####
หมายเหตุ // เนื้อหาอาจกล่าวถึงบุคคลที่สามด้วยความเคารพและศรัทธา

https://www.facebook.com/F.Titti.Forex/posts/1785630441716600
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่