หลายท่านคงได้ทราบผลการแข่งขัน ฟุตบอลโลกรอบคักเลือกโซนเอเชียรอบที่สามหรือรอบสุดท้าย ระหว่างทีมฟุตบอลทีมชาติไทยกับทีมชาติซาอุดิอาระเบียกันไปแล้ว บางคนอาจได้รับชมสดๆผ่านการถ่ายทอดสด หรือบางคนรับชมย้อนหลังหรือไฮไลท์ผ่านทาง Internet ซึ่งผลการทีมชาติซาอุดิอาระเบียชนะทีมชาติไทย 1 – 0 จากลุกจุดโทษเจ้าปัญหา ที่ดูเหมือนกรรมการจากประเทศจีนเป่าเอนเอียงไปทางประเทศเจ้าภาพอย่างน่ากังขา
ทั้งนี้ ถึงแม้ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่แฟนฟุตบอลชาวไทยและทั่วโลกต่างชื่นชมรูปแบบการเล่นของผู้เล่นทีมชาติไทย ที่สามารถต่อกรกับทีมระดับ Top ของเอเชียอย่างทีมซาอุดิอาระเบีย เจ้าของฉายา “เหยี่ยวมรกต” ได้อย่างตรึงตาตรึงใจ และบางมุมมองดูดีกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าหากเป็นนัดเหย้าหรือกรรมการไม่ตัดสินเอนเอียงแบบนี้ ทีมชาติไทยมีสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้ชนะนอกบ้านด้วยซ้ำไป
เป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ที่เราไม่ได้เสพฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างมีความหวัง นับตั้งแต่ยุคดรีมทีมสมัย “บิ๊กหอย คุณธวัชชัย สัจจกุล” และโค๊ชคู่บารมี “ปีเตอร์ วิธ” ซึ่งครั้งนั้นถือเป็นยุคทองของฟุตบอลทีมชาติไทยยุคหนึ่ง เพราะครานั้นเหล่าแฟนๆ ต่างเสพสุขทางด้านฟุตบอลทั้งด้วยความสุขและความหวัง แต่เมื่อเราออกไปสู่โลกกว้างในยุคนั้น ผลการแข่งขั้นที่แพ้อย่างเละเทะกลับมา ทำให้เราทราบความจริงว่า ฟุตบอลทีมชาติไทยยุคนั้นสร้างความสุขให้เราได้เท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นสร้างความหวังได้ แต่ถึงอย่างไรก็ขอขอบคุณจากใจจริงที่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้พวกเราในครานั้น
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ฟุตบอลภายในประเทศมีการเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นมาตรฐานสากลเมื่อประมาณสิบกว่าปีมานี้ โดยการควบรวมทีมสโมสรชั้นนำของประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นทีมองค์กรจาก ก.ท.ม.ลีก และทีมสโมสรท้องถิ่นซึ่งเป็นทีมจากการจัดฟุตบอลโปรวิลเชียลลีก ก็ทำให้ฟุตบอลไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยแรกๆอาจมีบางคนสงสัยว่าทีมองค์กรหรือทีมท้องถิ่นรูปแบบใหนจะดีกว่ากัน และมีการโต้เถียงกันอย่างสนั่นหั่นแหลกในกระดานเว็บบอร์ดไทยแลนด์สู้สู้
ซึ่งผู้เขียนเคยให้ข้อคิดว่าสโมสรที่จะประสบความสำเร็จที่แท้จริง ต้องเป็นทีมองค์กรบริหารงานแบบเอกชนแต่ต้องไปฝังตัวกับท้องถิ่นโดยอาศัยท้องถิ่นนิยม ทำทีมอย่างมืออาชีพแบบนักธุรกิจและทำ CSR กับชุมชนหรือท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความผูกพันและสนับสนุนเกื้อกูลต่อกัน นักฟุตบอลเล่นฟุตบอลจริงจังเป็นอาชีพหลักเพื่อปากท้องไม่ใช่มาเล่นเพื่อการกุศล ผู้บริหารบริหารทีมโดยคาดหวังผลทางธุรกิจ ไม่ใช่มาบริหารทีมเพื่อหวังผลทางการเมืองเพราะจะไม่ทำให้เกิดความต่อเนื่อง
วงการฟุตบอลของไทย นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการแข่งขันยุคใหม่ที่ถือว่าบูมและจุดกระแสจริงๆในช่วงต้นๆคือการได้แชมป์ลีกสูงสุดระดับประเทศของสโมสรฟุตบอลชลบุรี ทำให้ทุกคนที่เริ่มหันมาสนใจวงการฟุตบอลรู้จักศูนย์หน้าข้าวหลามใหญ่ “พิภพ อ่อนโม้” มากยิ่งขึ้น และถือเป็นต้นฉบับการเปลี่ยนแปลงทีมสโมสรฟุตบอลในจากทีมองค์กรหรือทีมราชการ มาเป็นทีมที่ต้องปูรากฐานท้องถิ่นนิยมอย่างจริงจัง
แต่ที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดกระตุ้นกระแสฟุตบอลไทยยุคใหม่นอกเหนือจากภาคส่วนอื่นๆแล้ว เว็บบอร์ด “ไทยแลนด์สู้สู้” ก็ถือเป็นสังคมหนึ่งที่เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารหรือนัดพบปะสังสรรค์กันของมวลหมู่มหาประชาชนที่ชื่นชอบและหลงใหลในฟุตบอลไทย ไม่ว่าจะเป็น อาจารย์หนุ่ย , Figo Pro Ubon Fc Av , Japen_Xi , ลูฟี่ , The Sun , บระเจ้าโจ๊ค โซคลู , F.titti และคนอื่นๆมากมายที่เข้ามาในสังคมแห่งนี้
เชื่อว่า แฟนฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเฉพาะคนกลุ่มนี้ที่กล่าวมาคงมีความสุขไม่น้อย ที่มีส่วนจุดกระแสให้วงการฟุตบอลไทยฮิตติดลมบนอย่างทุกวันนี้ เพราะนอกจากภาคภูมิใจในการเข้ามาพัฒนาวงการฟุตบอลไทยจากส่วนอื่น จนเกิดธุรกิจและการจ้างงานอย่างจริงๆจังๆ และยังส่งผลต่อยอดไปสู่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ให้มีรูปแบบการเล่นที่ตรึงตาตรึงใจอย่างทุกวันนี้แล้ว อีกอย่างหนึ่งของความภูมิใจคือ การลบคำปรามาสจากเพื่อนๆและสังคมในยุคฟุตบอลนอกเฟื่องฟูว่าความคิดของพวกเขาเหล่านี้เป็นไปไม่ได้ในประเทศไทย และมองพวกเขาคือ “คนบ้า”
#### บทความจาก Climberdreams # นักไต่ฝัน ####
หมายเหตุ // เนื้อหาอาจกล่าวถึงบุคคลที่สามด้วยความเคารพและศรัทธา
https://www.facebook.com/F.Titti.Forex/posts/1785490365063941
ฟุตบอลไทยชีวิตและความฝัน # ตอนที่ 1 ความสุขที่ได้จากฟุตบอลไทย
ทั้งนี้ ถึงแม้ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่แฟนฟุตบอลชาวไทยและทั่วโลกต่างชื่นชมรูปแบบการเล่นของผู้เล่นทีมชาติไทย ที่สามารถต่อกรกับทีมระดับ Top ของเอเชียอย่างทีมซาอุดิอาระเบีย เจ้าของฉายา “เหยี่ยวมรกต” ได้อย่างตรึงตาตรึงใจ และบางมุมมองดูดีกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าหากเป็นนัดเหย้าหรือกรรมการไม่ตัดสินเอนเอียงแบบนี้ ทีมชาติไทยมีสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้ชนะนอกบ้านด้วยซ้ำไป
เป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ที่เราไม่ได้เสพฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างมีความหวัง นับตั้งแต่ยุคดรีมทีมสมัย “บิ๊กหอย คุณธวัชชัย สัจจกุล” และโค๊ชคู่บารมี “ปีเตอร์ วิธ” ซึ่งครั้งนั้นถือเป็นยุคทองของฟุตบอลทีมชาติไทยยุคหนึ่ง เพราะครานั้นเหล่าแฟนๆ ต่างเสพสุขทางด้านฟุตบอลทั้งด้วยความสุขและความหวัง แต่เมื่อเราออกไปสู่โลกกว้างในยุคนั้น ผลการแข่งขั้นที่แพ้อย่างเละเทะกลับมา ทำให้เราทราบความจริงว่า ฟุตบอลทีมชาติไทยยุคนั้นสร้างความสุขให้เราได้เท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นสร้างความหวังได้ แต่ถึงอย่างไรก็ขอขอบคุณจากใจจริงที่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้พวกเราในครานั้น
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ฟุตบอลภายในประเทศมีการเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นมาตรฐานสากลเมื่อประมาณสิบกว่าปีมานี้ โดยการควบรวมทีมสโมสรชั้นนำของประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นทีมองค์กรจาก ก.ท.ม.ลีก และทีมสโมสรท้องถิ่นซึ่งเป็นทีมจากการจัดฟุตบอลโปรวิลเชียลลีก ก็ทำให้ฟุตบอลไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยแรกๆอาจมีบางคนสงสัยว่าทีมองค์กรหรือทีมท้องถิ่นรูปแบบใหนจะดีกว่ากัน และมีการโต้เถียงกันอย่างสนั่นหั่นแหลกในกระดานเว็บบอร์ดไทยแลนด์สู้สู้
ซึ่งผู้เขียนเคยให้ข้อคิดว่าสโมสรที่จะประสบความสำเร็จที่แท้จริง ต้องเป็นทีมองค์กรบริหารงานแบบเอกชนแต่ต้องไปฝังตัวกับท้องถิ่นโดยอาศัยท้องถิ่นนิยม ทำทีมอย่างมืออาชีพแบบนักธุรกิจและทำ CSR กับชุมชนหรือท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความผูกพันและสนับสนุนเกื้อกูลต่อกัน นักฟุตบอลเล่นฟุตบอลจริงจังเป็นอาชีพหลักเพื่อปากท้องไม่ใช่มาเล่นเพื่อการกุศล ผู้บริหารบริหารทีมโดยคาดหวังผลทางธุรกิจ ไม่ใช่มาบริหารทีมเพื่อหวังผลทางการเมืองเพราะจะไม่ทำให้เกิดความต่อเนื่อง
วงการฟุตบอลของไทย นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการแข่งขันยุคใหม่ที่ถือว่าบูมและจุดกระแสจริงๆในช่วงต้นๆคือการได้แชมป์ลีกสูงสุดระดับประเทศของสโมสรฟุตบอลชลบุรี ทำให้ทุกคนที่เริ่มหันมาสนใจวงการฟุตบอลรู้จักศูนย์หน้าข้าวหลามใหญ่ “พิภพ อ่อนโม้” มากยิ่งขึ้น และถือเป็นต้นฉบับการเปลี่ยนแปลงทีมสโมสรฟุตบอลในจากทีมองค์กรหรือทีมราชการ มาเป็นทีมที่ต้องปูรากฐานท้องถิ่นนิยมอย่างจริงจัง
แต่ที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดกระตุ้นกระแสฟุตบอลไทยยุคใหม่นอกเหนือจากภาคส่วนอื่นๆแล้ว เว็บบอร์ด “ไทยแลนด์สู้สู้” ก็ถือเป็นสังคมหนึ่งที่เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารหรือนัดพบปะสังสรรค์กันของมวลหมู่มหาประชาชนที่ชื่นชอบและหลงใหลในฟุตบอลไทย ไม่ว่าจะเป็น อาจารย์หนุ่ย , Figo Pro Ubon Fc Av , Japen_Xi , ลูฟี่ , The Sun , บระเจ้าโจ๊ค โซคลู , F.titti และคนอื่นๆมากมายที่เข้ามาในสังคมแห่งนี้
เชื่อว่า แฟนฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเฉพาะคนกลุ่มนี้ที่กล่าวมาคงมีความสุขไม่น้อย ที่มีส่วนจุดกระแสให้วงการฟุตบอลไทยฮิตติดลมบนอย่างทุกวันนี้ เพราะนอกจากภาคภูมิใจในการเข้ามาพัฒนาวงการฟุตบอลไทยจากส่วนอื่น จนเกิดธุรกิจและการจ้างงานอย่างจริงๆจังๆ และยังส่งผลต่อยอดไปสู่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ให้มีรูปแบบการเล่นที่ตรึงตาตรึงใจอย่างทุกวันนี้แล้ว อีกอย่างหนึ่งของความภูมิใจคือ การลบคำปรามาสจากเพื่อนๆและสังคมในยุคฟุตบอลนอกเฟื่องฟูว่าความคิดของพวกเขาเหล่านี้เป็นไปไม่ได้ในประเทศไทย และมองพวกเขาคือ “คนบ้า”
#### บทความจาก Climberdreams # นักไต่ฝัน ####
หมายเหตุ // เนื้อหาอาจกล่าวถึงบุคคลที่สามด้วยความเคารพและศรัทธา
https://www.facebook.com/F.Titti.Forex/posts/1785490365063941